ตอนที่แล้วตอนที่ 190 ให้ความช่วยเหลือ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 192 คำขอของหลี่เหวิน

ตอนที่ 191 กฏจักรวาล (ฟรี)


ตอนที่ 191 กฏจักรวาล

สำหรับราคา สิบเท่าสำหรับเผ่าอมนุษย์ ราคาปกติสำหรับเผ่ามนุษย์

แล้วจะมีคนในเผ่ามนุษย์ที่ซื้อของจากเขาแล้วขายทรัพยากรต่อหรือไม่?

สิ่งนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก่อนหน้านี้ก็มีคนเช่นนี้ในเผ่าอมนุษย์เช่นเดียวกัน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ซูหยางจะเข้มงวดขึ้นอีกเล็กน้อย แต่เขาจะไม่เข้มงวดกับเรื่องนี้มากเกินไป

จำกัดปริมาณทรัพยากรที่ซื้อได้

ผู้ฝึกฝนหนึ่งคนสามารถซื้อได้เท่าไร?

ผู้ที่เป็นตัวแทนของเมืองจะซื้อได้เท่าไร

ใส่ขีดจำกัดลงไป

ด้วยวิธีนี้ ถึงแม้จะมีคนขายต่อก็จะไม่ส่งผลกระทบอะไรมากนัก

ซูหยางไม่สนใจเรื่องนี้มากเท่าไร

ไม่มีกฏเกณฑ์ใดที่สมบูรณ์แบบ หากมีช่องโหว่ใดๆ ในภายหลังเขาจะค่อยๆ แก้ไข

ท้ายที่สุดเขาเป็นคนสร้างกฎ

แนวคิดพร้อมแล้ว และขั้นตอนต่อไปคือ การนำไปปฏิบัติ

กู่ซิ่วสามารถจัดหาคนมาดูแลหอการค้าต้าเซี่ยได้

พวกเขาไม่ได้ขายของหลายอย่างอยู่แล้ว

พวกเขาขายเพียงไม่กี่อย่างที่เป็นทรัพยากรบ่มเพาะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ จะไม่มีอะไรซับซ้อนเกินไปในการจัดการดูแล

เดี๋ยว ดูเหมือนว่าเขายังสินสงครามมากมายกองอยู่ในพื้นที่มิติของเจตจำนงดาบ?

กู่ซิ่วก็ต้องจัดการกับสิ่งเหล่านี้ด้วย

เก็บสิ่งที่ต้องใช้เอาไว้ ขายสิ่งที่ไม่ได้ใช้ออกไป

ท้ายที่สุดแล้วสิ่งเหล่านี้เป็นทรัพยากร และไม่ควรปล่อยให้จมฝุ่น

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ซูหยางก็หยิบทรัพยากรจำนวนมากที่สะสมอยู่ในพื้นที่มิติของเขาออกมา

ในเวลาเดียวกัน เขาก็สร้างโกดังเก็บของในเมืองต้าเซี่ย

เดิมที ซูหยางคิดว่าแค่โกดังเดียวก็พอแล้ว

แต่เขาก็ต้องตกตะลึงเล็กน้อยหลังจากได้เห็นสิ่งต่างๆ ในพื้นที่มิติของเขา

“มันเยอะขนาดนี้เลยเหรอ?”

"จากเมืองอมนุษย์หลายสิบแห่ง และอมตะเที่ยงแท้มากกว่าร้อยคน ดูเหมือนมันจะเยอะกว่าที่ข้าคาดเอาไว้”

ซูหยางไม่เคยสนใจสินสงครามเหล่านี้มาก่อน และเขาก็ไม่ได้ตรวจดูมันมากนัก

หากได้รับอะไร เขาจะโยนมันลงไปในพื้นที่มิติโดยตรง

ท้ายที่สุดแล้ว ของเหล่านี้ไม่มีประโยชน์อะไรกับเขา ดังนั้นเขาจึงไม่คิดที่จะจัดระเบียบพวกมันให้เรียบร้อยโดยธรรมชาติ

เมื่อทำเช่นนี้หลายๆ ครั้งเข้า มันก็สะสมจนเพิ่มพูนเป็นกองใหญ่

มีมากเท่าไร?

ยกเว้นบางส่วนที่อยู่ในแหวนมิติ ทั้งเมืองต้าเซี่ยไม่สามารถรองรับได้

ท้ายที่สุด ของเหล่านี้มาจากเมืองอมนุษย์หลายสิบแห่ง เป็นไปไม่ได้ที่จะเก็บทุกอย่างไว้ในแหวนมิติ

บางสิ่งก็กองรวมกันอย่างไร้ระเบียบ

หากเขาต้องการนำทุกอย่างออกมา มันต้องการพื้นที่ที่ใหญ่กว่านี้

พื้นที่ๆ มีอยู่ในเมืองต้าเซี่ย ไม่เพียงพอโดยสิ้นเชิง

หลังจากรับรู้ถึงเรื่องนี้แล้ว ซูหยางก็จัดการแก้ไขปัญหาในทันที

เขาใช้ผลึกกาแล็กซี่เพื่อขยายเมืองต้าเซี่ย

ในหนึ่งความคิด ผลึกกาแล็กซี่นับพันปรากฏขึ้นในทันที โดยลอยอยู่ตรงหน้าซูหยาง

จากนั้นพวกมันก็ถูกซูหยางโยนเข้าไปในเมืองต้าเซี่ย

หลังจากการดูดซับพลังของผลึกกาแล็กซี่นับพัน เมืองต้าเซี่ยก็เริ่มขยายตัวอย่างรวดเร็ว

ความผันผวนของพลังงานที่รุนแรงจะถูกปล่อยออกมาในระหว่างกระบวนการนี้

แต่คราวนี้จะไม่มีใครเข้ามาตรวจสอบสถานการณ์

เผ่าต่างๆ ที่อยู่รอบๆ ที่เป็นศัตรูกับเผ่ามนุษย์ถูกซูหยางกวาดล้างไปแล้ว

แม้ว่าจะมีบางเผ่าเหลืออยู่ แต่พวกเขาก็รู้ดีว่านี่คือเมืองที่สร้างขึ้นโดยอมตะเที่ยงแท้ของเผ่ามนุษย์

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาจะกล้าก่อปัญหาได้อย่างไร?

หลังจากรอสักพักหนึ่ง เมืองต้าเซี่ยก็ขยายตัวอย่างสมบูรณ์

เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ มันขยายตัวเพิ่มกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า

ถึงมาตรฐานของเมืองขนาดกลางแล้ว

สำหรับซากปรักหักพังในอดีตของเมืองจันทร์เงิน

เมืองต้าเซี่ยได้เข้าแทนที่แล้ว

ตอนนี้ มันเป็นเรื่องง่ายที่จะนำสิ่งของต่างๆ ในพื้นที่มิติของเขาออกมา

หลังจากจัดวาง และจัดพื้นที่ให้เรียบร้อย

ซูหยางก็ปล่อยสิ่งของมากมายออกจากพื้นที่มิติของเจตจำนงดาบ

ทันใดนั้น มันก็ครอบครองพื้นที่ส่วนเล็กๆ ในเมืองต้าเซี่ย

แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดึวามวุ่นวายใดๆ เพราะตอนนี้ไม่มีผู้ฝึกฝนคนอื่นๆ ในเมือง

ซูหยางไม่ได้ตั้งใจที่จะให้ศิษย์ของนิกายอมตะต้าเซี่ยมาที่แดนหงซิง

แดนหงซิงไม่เหมาะสำหรับศิษย์ในนิกายของเขา

แดนหงซิงเป็นดินแดนสำหรับการรวบรวมทรัพยากร

อย่างไรก็ตาม สำหรับศิษย์ของนิกายอมตะต้าเซี่ย แต้มบุญมีค่ามากกว่า มันสามารถใช้แลกเป็นทรัพยากรได้มากมาย ดีกว่าที่ต้องออกสำรวจในแดนหงซิงด้วยตัวเอง

แม้ว่าศิษย์เหล่านั้นจะได้รับอนุญาตให้เข้ามา และสัมผัสกับความแปลกใหม่ แต่พวกเขาก็ยังคงเลือกที่จะต่อสู้ในจักรวาล

การเข่นฆ่าศัตรูคือ สิ่งที่พวกเขาควรทำ

พวกเขาสามารถใช้สิ่งนี้เพื่อรับแต้มบุญจำนวนมาก ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการฝึกฝนได้

ซูหยางก็จะได้รับเจตจำนงแห่งสรรพชีวิตอย่างที่เขาต้องการ

นี่คือ ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การพิชิตแดนหงซิง เขาคนเดียวก็เพียงพอแล้ว!

"เหล่ากู่ ช่วยข้าจัดการกับทรัพยากรเหล่านี้ด้วย"

“ถ้ามันยากลำบากเกินไป เจ้าสามารถขอให้ศิษย์บางคนมาช่วยได้”

ซูหยางเรียกกู่ซิ่วเหมือนดั่งเคย

อย่างไรก็ตาม หลังจากดูทรัพยากรที่กองอยู่บนพื้นแล้ว เขาก็รู้สึกว่าคงยากเกินไปสำหรับกู่ซิ่ว ที่จะทำคนเดียว

กู่ซิ่วก็ไม่ได้คัดค้านใดๆ นี่คือการแสดงคุณค่าของเขา

นอกจากนี้เขายังคุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้มานานแล้ว

“ไม่ต้องกังวลนายท่าน ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง”

“ยังมีกึ่งสมบัติวิญญาณ 10 ชิ้นอยู่ที่นี่ ซึ่งน่าจะมีประโยชน์อยู่บ้าง เจ้าสามารถนำพวกมันไปใช้ หรือให้กับศิษย์บางคนที่แข็งแกร่งเพื่อที่พวกเขาจะได้มีไพ่ตายมากยิ่งขึ้น”

“เอ่อ กึ่งสมบัติวิญญาณเหล่านี้มีค่ามากแค่ไหนกัน? จะเป็นอย่างไรหากมันหายไป? และศิษย์ของนิกายเราจะตกเป็นเป้าหมายหรือไม่หากพวกเขาถือมันเอาไว้” กู่ซิ่วถามอย่างกังวลเล็กน้อย

“ไม่ต้องกังวลไป มันเป็นแค่ของเล็กๆ น้อยๆ ไม่มีค่าอะไร หากหายก็แค่ต้องหา ถ้ามีใครกล้าขโมยก็มาบอกข้า เดี๋ยวข้าจะจัดการเอง”

“ขอรับ” กู่ซิ่วเข้าใจ และรู้สึกโล่งใจที่ได้ยินว่าของเหล่านี้ไม่มีค่ามากนัก

ยิ่งไปกว่านั้น นิกายอมตะต้าเซี่ยไม่ขโมยสิ่งของของผู้อื่น นั่นเป็นเพราะพวกเขานั้นรักสงบ ไม่ใช่เพราะว่าไม่มีความแข็งแกร่งมากพอ

แต่ถ้าใครกล้าแย่งสิ่งของจากนิกายอมตะต้าเซี่ย พวกเขาก็จะไม่ยอมเช่นเดียวกัน

พวกเขารักความสงบ แต่ก็ไม่ได้กลัวการต่อสู้

ซูหยางพยักหน้า เขายังคงโล่งใจที่กู่ซิ่วยังทำสิ่งต่างๆ แทนเขาได้เหมือนเคย

การรับกู่ซิ่วมาเป็นพวกเป็นการตัดสินใจที่ดีอย่างเห็นได้ชัด

จากนั้น เขาก็ฝากเรื่องนี้ให้กู๋ซิ่วจัดการต่อ

ถึงเวลาก่อตั้งหอการค้าต้าเซี่ย และสร้างแกนกลางของเครือข่ายดาบ

การสร้างแกนกลางของเครือข่ายดาบนั้นไม่ใช่เรื่องยาก

ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ เขาสามารถสร้างถึงสองร้อยแกนได้ในเวลาเพียงประมาณเพียงหนึ่งก้านธูป

เขาทำการกองพวกมันเอาไว้ด้วยกัน และกู่ซิ่วก็จัดการแจกจ่ายพวกมันต่อในภายหลัง

หลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ซูหยางก็ให้ความสนใจกับการก่อตั้งหอการค้า

เขาต้องการตราของเมืองหมื่นดาราหลายๆ เมือง

หากรวบรวมได้มากพอ เขาจะสามารถสร้างหอการค้าต้าเซี่ยที่สามารถเผยแพร่ไปได้ทุกที่

แต่การจะทำเช่นนี้ได้นั้น หากไม่แข็งแกร่งพอต้องรวบรวมตราของเมืองหมื่นดาราทีละเมืองอย่างช้าๆ

ต้องเสียเวลามากมาย

นี่เป็นวิถีการเติบโตตามปกติของหอการค้า

ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีความสำเร็จใดเกิดขึ้นได้ในทันที

แต่นี่คือ สิ่งที่คนอื่นต้องทำ แต่ก็มีข้อยกเว้น

ด้วยความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวของซูหยาง ไม่มีปัญหาในการหาตราของเมืองหมื่นดาราจำนวนมากพร้อมๆ กัน

เจตจำนงดาบแพร่กระจายไปทั่วความว่างเปล่าในความคิดเดียว

กฎที่ซ่อนอยู่ลึกลงไปในความว่างเปล่านั้นแจ่มชัดในสายตาของซูหยาง

กฎมีความเกี่ยวพัน และผสมผสานเข้าด้วยกัน และคนทั่วไปไม่สามารถแยกแยะหน้าที่ของกฎเหล่านี้ได้แม้ว่าจะมองเห็นก็ตาม

อย่างมากที่สุด คนๆ นั้นก็จะได้รับความรู้แจ้งหลังมองดูกฎเหล่านั้น และพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเอง

นี่คือ ทางเลือกของคนส่วนใหญ่

แต่ซูหยางนั้นแตกต่างออกไป วิชาดาบกรรมเริ่มเคลื่อนไหว

เขาค่อยๆ คลี่กฎที่เกี่ยวพันกันทีละน้อย และมองหากฎที่เขาต้องการ

หลังจากนั้นไม่นาน กฎข้อหนึ่งก็ถูกล็อค

“เจอแล้ว”

ทุกสิ่งในโลกนี้ย่อมมีกฎที่สอดคล้องกัน

สิ่งต่างๆ ในจักรวาลไม่สามารถดำรงอยู่ได้หากไม่มีกฎที่เกี่ยวข้อง

แค่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถสัมผัสถึง หรือมองเห็นได้ก็เท่านั้นเอง

นั่นเป็นเรื่องของความแข็งแกร่ง ไม่ใช่ว่าไม่มีกฎเช่นนั้นอยู่

ถ้ามีกฎก็จะมีร่องรอยหลงเหลืออยู่

ตอนนี้ซูหยางสามารถค้นหาเมืองหมื่นดาราทั้งหมดตามร่องรอยเหล่านี้ได้

นี่คือพลังของอมตะทองคำ!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด