ตอนที่แล้วตอนที่ 14: ซื้อเมล็ดพันธุ์สมุนไพร ลองทำน้ำยาล้างไขกระดูกกับขัดกระดูกครั้งแรก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 16: ขายสมุนไพร ล่าแกะและกวางบนเขาหยางลู่ [ฟรี 16 เม.ย. 2567]

ตอนที่ 15: แช่ในน้ำยาสมุนไพร ทานทนความเจ็บปวดสุดแสนจากการขัดไขกระดูก


ตอนที่ 15: แช่ในน้ำยาสมุนไพร ทานทนความเจ็บปวดสุดแสนจากการขัดไขกระดูก

“หลังจากแช่ในน้ำยาสมุนไพรแล้วก็ต้องหายใจเข้าออกเพื่อกระตุ้นพลังโอสถ”

หลังจากปรับอุณหภูมิของน้ำยาแล้ว สวี่ไท่ผิงก็เริ่มหายใจเข้าออกตามที่ศึกษาใน <<ศาสตร์แสงอัสดงคงเคียง>> ผ่านไปสักพัก เขาก็สัมผัสได้ว่าตันเถียนในช่องท้องส่วนล่างเริ่มร้อนขึ้นมา

ขั้นตอนของการหายใจเข้าออกต่างได้รับการสอนสั่งโดยปรมาจารย์จื่อหยางในระหว่างการบรรยาย ซึ่งสวี่ไท่ผิงพยายามอยู่หลายครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แม้จะไม่สามารถหลอมปราณวิญญาณเข้าสู่ร่างกายได้ แต่เขาก็คุ้นเคยกับขั้นตอนดังกล่าวแล้ว

"ฟู่…"

ขณะสวี่ไท่ผิงกำลังสงสัยว่าเหตุใดพลังโอสถถึงยังไม่ออกฤทธิ์ เขาพลันสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดสุดแสนบริเวณด้านหลังหัวใจราวกับตะปูถูกตอกเข้ามาทีละน้อย

“ถ้ามันเจ็บปวดแค่นี้ก็ยังพอ... อึ่ก!”

สวี่ไท่ผิงกำลังจะบอกว่าพอทนไหว แต่คาดไม่ถึงว่าความเจ็บปวดแบบเดียวกันก็เกิดขึ้นบริเวณหน้าอก ทำให้เขาพูดอะไรไม่ออก

สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือมันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น

หลังจากเกิดความเจ็บปวดสองแห่งแล้ว ความเจ็บปวดที่รุนแรงยิ่งกว่าก็เริ่มปรากฏตามจุดฝังเข็มทั้งหลายของร่างกาย ทำให้ไม่มีโอกาสได้พักหายใจ

โดยปกติแล้ว ผู้คนจะหมดสติภายใต้ความเจ็บปวดเช่นนี้ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง สวี่ไท่ผิงผู้แช่อยู่ในน้ำยาสมุนไพรนี้ ไม่ว่าจะรู้สึกเจ็บปวดแค่ไหนก็ตามกลับไม่หมดสติ เขาทำได้เพียงกล้ำกลืนฝืนทนเท่านั้น

ความเจ็บปวดกินเวลานานถึงหนึ่งชั่วโมงเต็ม

ในช่วงกลางวัน สวี่ไท่ผิงอยากปีนออกจากอ่างอาบน้ำนับครั้งไม่ถ้วน แต่ทุกครั้งที่เกิดความคิดเช่นนี้ ฉากปู่กำลังสิ้นลมหายใจบนเตียงก็ปรากฏขึ้นในใจ เขาเห็นอีกฝ่ายมองมาด้วยสายตาเบิกกว้างแล้วเอ่ยคำ

"สู้เพื่อเกียรติ ไท่ผิง เจ้าต้องสู้เพื่อเกียรติ สู้เพื่อตัวเอง สู้เพื่อเกียรติแก่กระดูกมนุษย์ในใต้หล้า!"

“ฟู่ ฟู่ ฟู่...”

ขณะหอบหายใจ สวี่ไท่ผิงเอนกายกับอ่างอาบน้ำด้วยสภาพเหนื่อยล้ายิ่ง หลังจากลมหายใจสม่ำเสมอแล้ว มุมปากของเขาก็ยกยิ้มเล็กน้อยขณะเอ่ยถามอย่างภาคภูมิ

“ท่านปู่ ข้าไม่ทำให้ท่านอับอายใช่หรือไม่?”

แม้ตอนนี้จะไม่มีความเจ็บปวดสาหัสตามร่างกายแล้ว แต่ความเจ็บปวดเล็กน้อยยังคงมีอยู่

ตอนนี้ร่างกายให้ความรู้สึกเหมือนกับมีช่องว่างนับไม่ถ้วน ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงน้อยนิดย่อมสามารถฉีกบาดแผลเหล่านี้ให้เปิดออกจนทำให้เกิดความเจ็บปวดแสนสาหัสได้

“ภายในเจ็ดวันนี้จะต้องแช่น้ำยาล้างไขกระดูกกับขัดกระดูกอีกหกครั้ง ไม่สามารถว่างเว้นได้แม้แต่วันเดียว ไม่อย่างนั้นความพยายามทั้งหมดจะสูญเปล่า”

เมื่อคิดว่าจะต้องทานทนต่อความเจ็บปวดระดับนี้อีกหกครั้งติดต่อกัน แม้แต่คนที่มีจิตใจแน่วแน่เช่นเขาก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มสงสัยว่าตนเองจะสามารถอดทนไปจนถึงท้ายที่สุดได้หรือไม่

หกวันต่อมา

"ครั้งสุดท้ายแล้ว"

ขณะมองน้ำยาสมุนไพรที่อยู่ตรงหน้า สวี่ไท่ผิงก็พลันรู้สึกเหมือนกับอยู่ในโลกอีกใบ

หกวันที่ผ่านมายาวนานยิ่งกว่าสิบปีที่เขาเคยใช้ไป

หลังจากแช่น้ำยาล้างไขกระดูกกับขัดกระดูกมาหกวันติดต่อกัน เขาก็ไปถึงขีดจำกัดทั้งทางจิตใจและร่างกาย

เขาผู้เปี่ยมด้วยความมั่นใจไม่เอื้อนเอ่ยอะไรในวันแรกที่แช่อยู่ในน้ำยาสมุนไพร แต่คาดไม่ถึงว่าในอีกไม่กี่วันต่อมากลับต้องแผดเสียงคำรามและเสียงร่ำไห้ด้วยความเจ็บปวดขณะเรียกหาพ่อแม่และปู่ไม่หยุดปาก

สวี่ไท่ผิงไม่คาดคิดว่าเขาจะอ่อนแอขนาดนี้

เห็นได้ชัดว่าความเจ็บปวดที่เกิดจากน้ำยาล้างไขกระดูกกับขัดกระดูกรุนแรงมากแค่ไหน

แต่ถึงอย่างนั้น หลังจากร่ำไห้เสร็จแล้ว ในที่สุดสวี่ไท่ผิงก็สามารถอดทนจนมาถึงวันที่เจ็ดได้

แม้กระทั่งในช่วงเจ็ดวันมานี้ เขาก็ทำการปรับหน้าดินในทุ่งโอสถสามหมู่เพื่อปลูกเมล็ดงาเก้าใบทั้งหมดลงไป

"สู้เพื่อเกียรติ ไท่ผิง จงต้องสู้เพื่อเกียรติ!"

สวี่ไท่ผิงผู้ลังเลอยู่หน้าอ่างอาบน้ำมาพักใหญ่ยังคงย้ำเตือนตัวเอง

ในตอนนี้ ใบหน้าของเขาซีดเผือดไร้เลือดฝาด ร่างกายยิ่งผอมแห้ง น้ำหนักลดไปยี่สิบจินแม้เวลาผ่านไปเพียงหกวัน ทั่วร่างใกล้จะพังทลายเต็มที

“ซ่า!”

ในที่สุด สวี่ไท่ผิงก็ก้าวเข้าไปในอ่างอาบน้ำ แล้วร่างของเขาก็ถูกของเหลวสีขาวกลืนกินอย่างรวดเร็ว

“อะอึ่ก!...”

แม้อยากกล้ำกลืนฝืนทน แต่ความเจ็บปวดสุดแสนยังคงทำให้เขากรีดร้องออกมา หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ไม่มีใครอยู่ภายในรัศมีหนึ่งร้อยลี้ เกรงว่าอาจเป็นการดึงดูดคนไม่ดีก็เป็นได้

แน่นอนว่าเสียงกรีดร้องนี้ใช่ว่าจะไม่มีใครได้ยิน

ยกตัวอย่างเช่น เทพธิดาหลิงเยวี่ยซึ่งกลายเป็นควันสีเขียวลอยอยู่นอกหน้าต่างของสวี่ไท่ผิง

“เสี่ยวไท่ผิง วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว อดทนไว้ หลังจากนี้เจ้าจะเริ่มต้นบนเส้นทางสู่สวรรค์หรือใช้ชีวิตที่เหลืออย่างเคว้งคว้างไม่ต่างจากแหนที่ลอยไปมา ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับเจ้า”

เทพธิดาหลิงเยวี่ยฟังเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดที่ดังมาจากภายในห้อง แล้วในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำกับตัวเอง

“เวลาพูดมักง่ายเสมอ ความเจ็บปวดของน้ำยาล้างไขกระดูกกับขัดกระดูกจะเพิ่มขึ้นทุกวัน พอถึงวันที่เจ็ด ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นก็จะเป็นเจ็ดเท่าของวันแรก หากไม่มีสูตรยาอีกอัน ใครเล่าจะสามารถทานทนได้?”

แต่ทันทีที่เอ่ยคำเช่นนี้ นางก็เผยรอยยิ้มขมขื่นขณะหัวเราะกับตัวเอง ในเวลาเดียวกัน นางก็รู้สึกผิดที่รีบมอบสูตรยาให้สวี่ไท่ผิง

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

“เจ้าถึงกับ… ผ่านมันได้งั้นหรือ?”

เมื่อเห็นกลุ่มปราณวิญญาณฟ้าดินกำลังรวมตัวมาทางลานบ้านขนาดเล็กประหนึ่งคลื่น เทพธิดาหลิงเยวี่ยก็เผยสีหน้าไม่อยากเชื่อออกมา

นี่เป็นการบ่งบอกว่าอีกฝ่ายประสบความสำเร็จในการใช้น้ำยาล้างไขกระดูกกับขัดกระดูก

แม้ก่อนหน้านี้จะไม่กล้ามองเข้าไปในห้อง แต่ตอนนี้นางอดไม่ได้ที่จะมองผ่านช่องว่างในหน้าต่าง

ภายในห้องนอน สวี่ไท่ผิงผู้หมดสติอยู่ในสภาพกึ่งนอนในอ่างอาบน้ำ น้ำยาสมุนไพรที่เขาแช่ได้เปลี่ยนจากสีขาวหยกกลายเป็นสีดำสนิท ซึ่งสิ่งที่ยอมให้กลายเป็นสีดำคือความสกปรกที่ไหลออกมาจากร่างกายอย่างไม่ต้องสงสัย

ในเวลาเดียวกัน ธาราปราณวิญญาณฟ้าดินที่มีเพียงหลิงเยวี่ยมองเห็นคล้ายกับมือที่ลูบไล้ไปทั่วร่างของสวี่ไท่ผิงอย่างอ่อนโยน จากนั้นมันจึงทะลวงเข้าสู่ข้างใน

เทพธิดาหลิงเยวี่ยมองสวี่ไท่ผิงผู้อยู่ในบ้าน จากนั้นมองไปทางสวนโอสถที่อยู่หลังบ้าน แล้วรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของนาง

“เดิมทีข้าแค่อยากเดิมพันก่อนที่เวลาจะหมดเท่านั้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าข้าจะไม่ได้มองผิดไป”

หลังจากเอ่ยคำเช่นนี้ ร่างของนางก็หายไปทันที เหลือไว้เพียงประโยคเดียวที่ดังก้องในลานขนาดเล็กอย่างแผ่วเบา

“สหายตัวน้อย ข้าคนนี้จะไปหลอมผลึกวิญญาณเพื่อยืดอายุขัยไปอีกสองสามปีได้อย่างวางใจแล้ว แล้วไว้พบกันใหม่ในอนาคตอันใกล้”

เช้าวันรุ่งขึ้น

เมื่อแสงแรกในตอนเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่าง สวี่ไท่ผิงผู้ยังแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำก็ลืมตาขึ้น

เขานอนเต็มอิ่มที่สุดเท่าที่เคยมีมาในชีวิต

“ข้าทำสำเร็จ... แล้วงั้นหรือ?”

หลังจากสังเกตเห็นของเหลวสีดำที่มีกลิ่นคาวรุนแรงในอ่างอาบน้ำ สวี่ไท่ผิงกลับไม่หวาดกลัว แต่เผยสีหน้ายินดีออกมา

เพราะตามคำอธิบายของน้ำยาขัดไขกระดูก มันเป็นการบ่งบอกถึงการประสบความสำเร็จในการชะล้างแก่นแท้และขัดไขกระดูก หมายความว่าสิ่งสกปรกในร่างของผู้บำเพ็ญมนุษย์ได้ถูกขับออกมาแล้ว ทำให้เขามีคุณสมบัติในการบำเพ็ญอย่างแท้จริง

"ซ่า..."

สวี่ไท่ผิงลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำขณะวิ่งเปลือยกายไปยังบ่อน้ำในสวนหลังบ้านโดยไม่สวมเสื้อผ้าด้วยสีหน้าตื่นเต้น

เขาเริ่มจากหยิบถังน้ำมาชะล้างสิ่งสกปรกตามร่างกาย จากนั้นนั่งขัดสมาธิอยู่กับที่แล้วเริ่มใช้เคล็ดกลั่นลมปราณ <<ศาสตร์แสงอัสดงคงเคียง>> ทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด