ตอนที่แล้วใครแพ้ต้องเป็นสุนัข! การแข่งขันความร่ำรวย (อ่านฟรี 16/04/2567)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปผมเป็นเจ้าของร้านขายของเก่าครับ (อ่านฟรี 24/04/2567)

ไอที่ซื้อเมื่อกี้ไม่นับ ผมขอเหมาร้านเลยก็แล้วกัน (อ่านฟรี 20/04/2567)


“ชำระเรียบร้อยค่ะ” พนักงานสาวกล่าวออกมาก่อนจะยื่นถุงใส่ชุดสูทและบัตรธนาคารคืนให้กลับเหอจุน

“ตอนนี้ยอดของฉัน 55,000 หยวน ส่วนของแก 12,500 หยวน ต่อไปก็ตาแกแล้ว” เขารับถุงใส่ชุดกับบัตรธนาคารกลับมาก่อนจะหันไปกล่าวกับชายหนุ่มอีกคน

“ก็แค่ยอดนิดหน่อย นี่หวู่หลิง ช่วยฉันเลือกชุดหน่อยสิ เอาแบบที่เหมาะสำหรับฉันนะ จะเอาไว้ใส่เองน่ะ” ชายหนุ่มที่ถูกแซะหาได้สนใจไม่ เขาหันไปกล่าวกับหญิงตัวเล็กข้างกายแทน

“แล้วที่นายซื้อไปแล้วอ่ะ ?” หญิงสาวถามกลับมา

“อันนี้ฉันไม่ได้ซื้อให้ตัวเองน่ะ ไม่ต้องใส่ใจหรอก” ชายหนุ่มตอบกลับไป หญิงสาวก็พยักหน้าให้อย่างงง ๆ

เขายังไม่ลืมว่ามาที่นี่เพราะต้องการซื้อเสื้อผ้าให้ตัวเองด้วย ดังนั้นจึงตั้งใจว่าจะแยกการซื้อเป็นสองแบบ หนึ่งคือซื้อด้วยบัตรจากระบบเพื่อนำไปแจก สองคือซื้อด้วยบัตรจากหญิงชราเพื่อซื้อใส่เอง เขาจึงได้ขอให้หญิงสาวเลือกชุดที่จะใส่เองให้ เพราะเธอน่าจะรู้วงเงินในบัตรนั้นเป็นอย่างดี คงไม่เลือกจนเกินจำนวนวงเงินหรอกนะ ?

“ก็ได้ อืมมม ดู ๆ ไปแล้วรูปร่างนายก็พอใช้ได้นะ” หญิงสาวรับคำก่อนจะมองสำรวจร่างกายของชายตรงหน้า ถึงแม้เขาจะไม่ได้มีกล้ามเนื้อแบบนักกีฬาหรือคนที่ออกกำลังเป็นประจำ แต่ก็จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีสำหรับคนทั่วไป

คงจะเป็นเพราะต้องทำงานยกของ ส่งของอยู่เป็นประจำ ทำให้ชายหนุ่มมีร่างกายที่ค่อนข้างดี แต่ด้วยขาดสารอาหารและการออกกำลังกายที่เหมาะสม หุ่นของเขาจึงไม่ได้สวยงามและน่าดึงดูดมากนัก

“เธอพูดอะไรเนี่ย !” ชายหนุ่มที่ถูกจ้องมองไปทั่วก็รู้สึกเขินอายอย่างบอกไม่ถูก

“ชิ! ทำเป็นอายไปได้ เดี๋ยวฉันไปเลือกให้ก็แล้วกัน” หญิงสาวกล่าวจบก็เดินไปเลือกชุดให้ชายหนุ่ม

“มัวแต่ลีลาอยู่ได้ รีบ ๆ ซื้อสักที !” เหอจุนที่เห็นผู้หญิงซึ่งเขาหมายตาไว้ยอมทำตามอีกฝ่ายแต่โดยดีก็รู้สึกไม่พอใจจึงส่งเสียงดังออกมา

“เราเปลี่ยนกติกากันนิดหน่อยดีกว่าจะได้ไม่เสียเวลา นายมีปัญญาซื้อได้เท่าไหร่ ก็ซื้อก่อนได้เลย แล้วฉันจะซื้อให้มากกว่านายเอง ถ้าทำไม่ได้ก็ถือว่าฉันแพ้ไป แล้วฉันจะจ่ายเงินให้นายสองเท่าของที่นายซื้อไปด้วยถ้าฉันแพ้ ดีไหม ?” เย่เซวียนกล่าวข้อเสนอที่เขาเพิ่งคิดได้ออกมา เพราะเขาว่าจะรอให้หวู่หลิงเลือกเสื้อผ้าให้เสร็จเสียก่อนค่อยลงมือ

“นายคิดว่า นายจะมีปัญญาสู้พี่เหอจุนได้จริง ๆ เหรอ ? ตลกสิ้นดี !” หญิงสาวแต่งชุดเซ็กซี่กล่าวออกมา เธอพยายามเอาใจเหอจุนอย่างถึงที่สุด

“แกแน่ใจ ? อย่างนั้นก็ได้ หวังว่าแกจะมีปัญญาจ่ายก็แล้วกัน !” เหอจุนแค่นเสียงกล่าวออกมาก่อนจะเดินไปหยิบชุดให้ได้มากที่สุด

เขาเหลือเงินไว้ใช้จ่ายโดยไม่ติดขัดประมาณ ห้าแสนหยวน ซึ่งก็นับว่าเป็นเงินที่มากพอตัว ตามจริงเขาแค่จะมาซื้อกระเป๋าให้ผู้หญิงด้านข้างสักใบ ไม่เกินแสนหยวนก็เท่านั้น แต่ในเมื่อยังไงถ้าเขาชนะก็จะได้เงินคืนถึงสองเท่า ก็เล่นมันไปเถอะ ถ้าอีกฝ่ายแพ้แล้วไม่ทำตามคำพูด จะได้เห็นดีกัน !

โดยไม่มีใครรู้ตัว ตลอดการแข่งขันตั้งแต่เริ่มพูดข้อตกลงกัน ได้มีพนักงานหญิงคนหนึ่งตั้งกล้องบันทึกวิดีโอเอาไว้รออยู่แล้ว พนักงานหญิงคนนั้นก็คือคนที่ฮวาหวู่หลิงเรียกไปคุยด้วยนั่นเอง

งานนี้ดิ้นไม่หลุดแน่ !

ผ่านไปสิบนาที

เหอจุนก็กลับมาพร้อมกับสินค้าหลายชิ้น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า นาฬิกา เขาคำนวณเงินไว้คร่าว ๆ แล้วว่าน่าจะประมาณหกแสนหยวน

ครึ่งหลัง

“631,500 หยวนค่ะ ชำระเป็นเงินสดหรือบัตรดีคะ ?” พนักงานสาวกล่าวถามออกมาพร้อมรอยยิ้ม วันนี้เธอมีความสุขมากที่สองคนนี้มาแข่งกัน เพราะมันทำให้พวกเธอได้ค่าคอมเยอะเลย

“รูดบัตรครับ” เหอจุนกล่าวจบก็ส่งบัตรให้ไป

ติ๊ด!

“เรียบร้อยค่ะ เดี๋ยวทางร้านจะแพ็คสินค้าให้คุณลูกค้าสักครู่นะคะ” พนักงานกล่าวจบก็ส่งบัตรคืนให้ แล้วเรียกเพื่อน ๆ มาช่วยกันแพคของสิบกว่าชิ้นให้เหอจุน

“ฉันซื้อเสร็จแล้ว ทีนี้ก็ตาแกได้แล้วมั้ง ?” เหอจุนหันไปกล่าวกับเย่เซวียนที่นั่งเหม่อลอยอยู่กับที่

การรอหญิงสาวซื้อของนี่มันช่างนานเสียจริง ! เพราะจนป่านนี้ฮวาหวู่หลิงก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเลือกเสร็จ

“เฮ้อ รออีกหน่อยนะ เพื่อนฉันยังเลือกไม่เสร็จเลย” เขาถอนหายใจแล้วกล่าวออกมา

“ไม่ใช่ว่าแกแค่แกล้งวางมาดไปงั้นหรอกนะ ? ก็ได้! ฉันจะรอ” ว่าแล้วเขาก็นั่งเก้าอี้ที่ทางร้านจัดเตรียมไว้เพื่อรอชม

30 นาทีผ่านไป

“มาแล้ว ๆ พนักงานช่วยไปขนมาหน่อย พวกที่ฉันวางกอง ๆ ไว้นั่นอ่ะ” หญิงสาวได้กลับมาพร้อมกับเสื้อผ้าเต็มสองแขนของเธอ แล้วยังเรียกให้พนักงานไปช่วยขนอีก

หลังจากวุ่นวายในการขนของอยู่สักพัก ก็ถึงเวลาจ่ายเงิน สิ่งที่หญิงสาวเลือกมามีชุด+กางเกง สิบชุด ชุดสูทห้าชุด รองเท้าห้าคู่ เข็มขัดสองเส้น สร้อยห้าเส้น นาฬิกาสองเรือน แต่ละอันก็ราคาแพงจนน่าตกใจ

“ดูเพื่อนแกสิ เลือกมาแต่ละอย่าง หน้าอย่างแกจะมีปัญญาจ่ายรึไง ฮ่าฮ่า ฉันชนะแล้ว!” เหอจุนที่เห็นภาพตรงหน้าก็หัวเราะออกมาดังลั่น

“นี่... บัตรนี้มันพอจ่ายแน่ใช่ไหม ?” เย่เซวียนเดินไปกระซิบกับฮวาหวู่หลิงด้วยความไม่แน่ใจ

“เออออ นายอย่าขี้งกไปหน่อยเลยน่า ก็แค่เงินเล็กน้อยเอง” เธอตอบกลับไปด้วยความเบื่อหน่าย ชายคนนี้ทำไมขี้กังวลจัง

“ทั้งหมด 2,415,000 หยวนค่ะ ราคานี้รวมส่วนลดให้เรียบร้อยแล้วนะคะ” พนักงงานสาวสวยกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มสดใส ค่าคอม ค่าคอม ค่าคอม ดังอยู่ในใจของเธอตลอดเวลา

“เอ้า เอาบัตรรูดสักทีสิ รหัสมันก็คือ XX-X-XXX-XXXX” เธอกล่าวออกมา แต่ตอบบอกรหัสเธอเลือกที่จะกระซิบบอกชายหนุ่มเอา

“นี่ครับบัตรของผม” ชายหนุ่มได้แต่จำใจยื่นบัตรให้ไป ก่อนจะกดรหัสบัตรเพื่อชำระเงิน

“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกนายนี่แสดงเก่งจริง ๆ นะ ฉันจะรอดูตอนบัตรมันรูดไม่....” เหอจุนที่เฝ้ารอดูอยู่ตลอดหัวเราะลั่น ยอดสองล้านกว่า หน้าอย่างไอ้เย่เซวียนเนี่ยนะมันจะไปมีปัญญาจ่ายได้ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบก็ได้มีเสียงบางอย่างดังขึ้น

ติ๊ด! ทำรายการสำเร็จ

“เรียบร้อยค่ะ ขอเชิญคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายนั่งรอที่ด้านนี้สักครู่นะคะ พวกเราจะรีบแพ็คสินค้าให้เดี๋ยวนี้ค่ะ” พนักงานหญิงกล่าวจบก็ให้เพื่อนพนักงานหาน้ำ ขนม ของกินเล่นไปให้กับเย่เซวียนและฮวาหวู่หลิงยกใหญ่

“....” ทั้งเหอจุนและผู้หญิงที่มาด้วยต่างพากันนิ่งเงียบ ในเวลานี้พวกเขารู้แล้วว่าได้เหยียบตอเข้าให้ ไอ้บ้านนอกที่ทั้งสองคนพากันดูถูก ความจริงมันคือผ้าขี้ริ้วห่อเพชร !

“เอ๊ะ! เมื่อกี้มีเสียงสุนัขเห่ารึเปล่านะ ทำไมมันเงียบไปแล้วล่ะ ?” ฮวาหวู่หลิงแกล้งเอามือป้องหูแล้วกล่าวออกมา ยิ่งทีให้ทั้งสองคนอับอายมากขึ้นไปอีก

“เอาล่ะ ซื้อของส่วนตัวเสร็จแล้ว ไอ้พวกนี้ไม่นับนะ เพราะว่ามันไม่ใช่เงินของฉันเอง พวกนายสบายใจได้” ชายหนุ่มกล่าวออกมา เพราะบัตรอันนี้เขาได้มาจากยายของฮวาหวู่หลิงอีกที จะเรียกว่าเงินเขาทั้งหมดก็กระดากปากอยู่บ้าง อีกอย่างเขาก็ไม่คิดว่ายอดเงินในบัตรจะมากขนาดจ่ายค่าสินค้าสองล้านกว่าหยวนได้สบาย

“อะ.. ใช่! ไม่นับ ๆ อย่างนี้นายก็ยังแพ้ฉันอยู่ !!” เหอจุนได้ยินดังนั้นรีบตอบทันที เขาต้องคว้าโอกาสเอาไว้ก่อนอีกฝ่ายจะเปลี่ยนใจ

“ใช่ ตามนั้นแหละ พนักงานครับ ช่วยคำนวณค่าสินค้าทั้งหมดในร้านที่มีตอนนี้ให้ผมหน่อยได้ไหม นับพวกสต็อคหลังร้านด้วยนะ เอาแค่ที่มีในร้านพร้อมขายเลย ผมซื้อทั้งหมด !” ชายหนุ่มกล่าวออกมาด้วยเสียงอันดัง

“....” ฮวาหวู่หลิง เหอจุน พนักงานทุกคน และลูกค้าที่ยืนรอดูเรื่องสนุกอีกสองคน ล้วนตกตะลึงในคำพูดของชายหนุ่มจนนิ่งเงียบกันหมด

นี่เขาล้อเล่นใช่ไหม ? เอาจริงเหรอ ??

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด