ตอนที่แล้วท่านบรรพบุรุษจะรีบไปไหน กับ ระบบที่พึ่งพาไม่ค่อยจะได้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปไม่เสี่ยงก็ไม่สำเร็จ หญิงคนนั้นกำลังจะตาย!

ยาวิเศษ คิดว่าฉันโง่รึไง มันก็แค่น้ำประปาผสมคลอรีนต้ม !


“เอาวะ ลองต้มดูก่อน” ชายหนุ่มกล่าวออกมาก่อนจะเดินไปในครัวข้างหลังร้าน เขาจัดการเอาหม้อขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เขาจะหาได้ ซึ่งมันก็เป็นหม้อสแตนเลสขนาด 12L มาใส่น้ำก่อนจะยกขึ้นไปบนเตาแก๊สแล้วจุดไฟ

พรึ่บ ปุด ปุด

ผ่านไปประมาณสิบนาทีน้ำก็เริ่มเดือด ชายหนุ่มไม่คิดอะไรมากโยนแผ่นหยกลงไปทันที แต่เมื่อมาคิดดูก็พบว่าเขาลืมอะไรบางอย่าง

[“ระบบ! หยกแผ่นนี้มันต้มกับน้ำได้กี่ลิตร ? แล้วใช้เวลาต้มนานขนาดไหน”] ชายหนุ่มลองถามระบบในใจดู จะให้เขาพูดนเดียวตลอดถ้าคนอื่นมาเห็นเข้าคงจะโดนหาว่าบ้าเอาได้

[“ไม่ควรใช้น้ำเกิน 20 ลิตร ต้มครั้งละหนึ่งชั่วโมง”] เสียงไร้อารมณ์ตอบกลับมา

[“แล้วถ้าใช้น้ำเกิน หรือต้มเร็วไปหรือต้มนานกว่านั้นล่ะ”] ชายหนุ่มยังคงถามต่อ เขาค่อนข้างเป็นคนขี้สงสัยอยู่แล้ว

[“ถ้าใช้น้ำมากเกินไป การจะทานยาเพื่อให้เห็นผลก็ต้องกินน้ำต้มให้มากกว่าปกติ ยกตัวอย่างถ้าต้มกับน้ำ 20 ลิตร การจะกินน้ำต้มเพื่อรักษาโรคภายในร่างกาย เพียงแค่กินน้ำต้มให้ครบหนึ่งลิตรภายในหนึ่งวันก็หายดีแล้ว”]

[“ส่วนที่ผู้ใช้งานต้มด้วยน้ำ 12 ลิตร เพียงกินน้ำต้ม 600 มิลลิลิตรก็จะได้ผลลัพธ์เดียวกัน ส่วนการต้มนานเกินไปไม่มีผลเสียอะไร แต่ถ้าต้มเร็วกว่าหนึ่งชั่วโมง น้ำต้มจะยังไม่ได้ฤทธิ์ยาจากแผ่นหยกไป”]

หลังจากระบบอธิบายจบชายหนุ่มก็พอจะเข้าใจวิธีการต้มยาจากแผ่นหยกคร่าว ๆ แล้ว แต่เขาก็ยังคงสงสัยอยู่ดีว่ามันจะได้ผลจริงไหม ตอนนี้ก็ได้แต่เก็บความสงสัยไปก่อนแล้วเอาน้ำต้มนี้ไปขายที่ร้านขายยาดู

“โอ๊ยย ร้อน” ชายหนุ่มกำลังจะทดลองตักน้ำต้มขึ้นมากินก็ถึงกับสะบัดช้อนทิ้งเพราะมันร้อน!

“แบ่งใส่ขวดน้ำดื่มขวดเล็ก ขวดละ 650ml. เอาไปสักสิบขวดก่อนก็แล้วกัน” ว่าแล้วเขาก็เดินหาขวดใส่น้ำมือหนึ่งที่ยังไม่ผ่านการใช้งาน มาแบ่งกรอกน้ำต้มแผ่นหยกสิบขวด ก่อนจะยัดขวดเหล่านั้นเข้าไปในกระเป๋าเป้สีดำ

ด้วยความยากจนทำให้ชายหนุ่มไม่มีแม้แต่รถจักรยานยนต์ แต่ก็ยังดีที่เขามีรถจักรยานระบบตีนถีบ ด้วยความที่ต้องปั่นจักรยานทุกวันทำให้ร่างกายของเขาไม่อ้วนและไม่ผอม อยู่ในสมส่วนเหมือนคนทั่วไป เขามุ่งหน้าไปยังร้านยาที่ใกล้ที่สุดทันที

“ไปให้พ้น! ที่นี่ไม่ต้อนรับขอทานอย่างแก ยาที่แกมีก็คงไปเก็บจากถังขยะแล้วเอามาแอบขายล่ะสิ” นี่คือเสียงตอบรับหลังจากที่ชายหนุ่มเข้าไปเสนอยาต้มของเขาให้กับร้านแห่งแรก

แต่จนแล้วจนรอด เข้าไปสอบถามมาห้าร้านแล้วก็ไม่มีสักที่จะสนใจซื้อน้ำต้มยาของเขา ทุกที่ล้วนขับไล่เขาออกมาทั้งหมด โดยไม่แม่แต่จะขอดูน้ำต้มยาด้วยซ้ำ ทำให้ชายหนุ่มตัดสินใจไปยังร้านที่ใหญ่ที่สุดในถนนเส้นนี้แทน

ร้านถงเล่อ เป็นร้านขายยาที่มีชื่อเสียงที่สุดในถนนเหอเป่ย ในแต่ละวันมีผู้คนเข้าออกร้านนี้ไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันคน ร้านแห่งนี้ขายเฉพาะยาจีนโบราณ ยาสมุนไพร ยาต้ม ไม่ขายยาสามัญของโรงพยาบาล ทำให้เป็นที่นิยมของคนในพื้นที่แห่งนี้เป็นอย่างมาก

“สวัสดีครับ ต้องการซื้อยาตัวไหน บอกอาการกับผมคร่าวๆได้เลยนะครับ” พนักงานกล่าวทักทายทันทีเมื่อเห็นว่ามีคนเดินเข้าร้านมา

“เอ่อ.. ผมไม่ได้มาซื้อยาหรอกครับ แต่มียามาขาย” ชายหนุ่มกล่าวออกมาด้วยท่าทางไม่มั่นใจ เพราะเขาค่อยจะเข้าร้านยามากเท่าไหร่นัก

“อ๋ออ ถ้าอย่างนั้นรบกวนนำออกมาให้ผมดูได้ไหมครับ” ดูเหมือนพนักงานร้านนี้จะถูกอบรมมาเป็นอย่างดี เพราะถึงแม้ชายตรงหน้าของเขาจะใส่แค่เสื้อยืด กางเกงยีนเก่า ๆ ก็ไม่ได้แสดงท่าทางรังเกลียดอะไรออกมา

“ได้ครับ ๆ นี่เป็นยาน้ำต้มสูตรลับของบ้านผมเอง มันรักษาโรคภายในร่างกายได้เกือบทุกโรคเลยนะครับ” ชายหนุ่มรีบเอาขวดน้ำออกมาหนึ่งขวดทันที ความจริงเขาก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสรรพคุณมันจริงเท็จแค่ไหน การทีเขามาวันนี้ก็เพื่อจะให้ร้านขายยาช่วยตรวจสอบให้ด้วยนั่นแหละ

ครึ่งหลัง

“อืม ในกรณียาน้ำแบบนี้ทางร้านเราต้องมีการตรวจสอบและยืนยันสรรพคุณก่อนว่ามันจะได้ผลจริง ๆ ถึงจะรับซื้อนะครับ ไม่ทราบว่าคุณสะดวกให้ทางร้านนำตัวอย่างไปตรวจสอบไหม” พนักงานกล่าวถามออกมา หลังจากลองเปิดขวดน้ำดมดู เขาพบว่ามันไม่มีกลิ่นสมุนไพรอะไรเลย ส่วนการชิมนั้นเขาไม่ได้ทำ เพราะไม่กล้าเสี่ยง

“มันใช้เวลานานไหมครับ แล้วผมต้องทำอะไรบ้าง มีค่าใช้จ่ายไหม” ชายหนุ่มถามไป ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาเหลืออยู่แค่ห้าพันกว่าหยวน

“ในร้านเรามีแลปวิเคราะห์อยู่ครับ ใช้เวลาแค่หนึ่งชั่วโมงผลก็ออกมาแล้วค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 500 หยวนต่อหนึ่งเทสครับ” หนักงานชายยังคงแนะนำด้วยความสุภาพ

“งั้นผมรบกวนหน่อยนะครับ นี่เงิน 500 หยวน” ชายหนุ่มหยิบเงินยื่นให้กับพนักงานไป พนักงานก็ส่งกระดาษให้กรอกรายละเอียดต่างๆเช่นชื่อผู้นำส่ง เบอร์โทร ชนิดยา สรรพคุณ รายละเอียดการตรวจ เวลารับผล

“เชิญคุณลูกค้านั่งรอที่ด้านข้างได้เลยนะครับ อีกหนึ่งชั่วโมงหลังผลออกมาแล้วผมจะแจ้งให้ทราบเอง” พนักงานกล่าวออกมาพลางผายมือไปยังผนังด้านหนึ่งซึ่งมีโซฟาและเก้าอี้ท่าทางสบายเตรียมไว้

‘ของมีราคามันดีอย่างนี้นี่เอง ถ้าเรามีเงินก็อยากจะหาไว้ที่ร้านบ้างจัง’ ชายหนุ่มเดินไปนั่งที่เก้าอี้สีโซไฟครีมซึ่งไม่มีคนนั่งอยู่ แล้วนั่งลงไป ตัวของเขาเหมือนจมลงไปในฟองน้ำ ให้ความรู้สึกนุ่มสบายไปทั้งตัว

ช่างแตกต่างจากเก้าอี้ที่ร้านของเขาเหลือเกิน เป็นแค่เก้าอี้ไม้ถูกๆ แข็งก็แข็ง แถมพังจนซ่อมไปหลายรอบแล้วด้วย

ร้ายขายยาแห่งนี้จัดได้ว่ามีขนาดใหญ่มาก เป็นอาคารร่วมสมัยสูงถึง5ชั้น ทุกชั้นติดตั้งผนังกระจกไว้ทำให้มองเห็นภายในร้านที่ถูกจัดวางไว้อย่างสวยงาน ชวนมอง ถึงแม้จะไม่ได้ขายยาแผนปัจจุบัน ก็มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาตลอดเวลา ซึ่งบริเวณที่เย่เซวียนไปติดต่อขอให้ตรวจสอบเรื่องยาก็เป็นเพียงช่องบริการเล็กๆที่อยู่ด้านในสุดเท่านั้น

หลังเวลาผ่านไปจนครบหนึ่งชั่วโมง ก็ได้มีเสียงโวยวายดังขึ้นมาจากด้านในร้านขายยาขนาดใหญ่แห่งนี้ เสียงนั้นเต็มไปด้วยความหงุดหงิด ปนรำคาญใจ

“ใครกัน! ใครมันส่งน้ำประปามาตรวจวะ ว่างหรือมีเงินเหลือมากนักรึไง!” ด้วยเสียงที่ดังเป็นอย่างมาก ถึงแม้ร้านแห่งนี้จะมีผู้คนมากมายเลยทำให้มีเสียงพูดคุยอยู่ตลอดเวลา เสียงนี้ก็ยังทำให้ทุกคนได้ยินได้ไม่ยาก รวมถึงเนื้อความที่ถูกกล่าวออกมายิ่งทำให้ทุกคนหันไปให้ความสนใจ

“ไหน! เย่เซวียน ส่งยารักษาภายใน เย่เซียน! อยู่ไหน มานี่หน่อย” หลังจากที่อ่านรายละเอียดเรียบร้อยแล้วชายกลางคนที่หวีผมเรียบแปล้ ใส่แหว่นทรงสี่เหลี่ยมก็ส่งเสียงขึ้นมาอีกที

“ผมเองครับ เอ่อ ไม่ทราบว่ามันมีปัญหาอะไรไหมครับ” ชายหนุ่มแม้จะอับอายอยู่บ้างที่โดนผู้คนจ้องมอง แต่เขาก็เดินเข้าไปถามอยูดี อย่าบอกนะว่าสรรพคุณยาที่ระบบบอกมาจะผิดพลาด หรือบรรพบุรุษของเขาจะเป็นของเก๊กัน ??

ปั้ง!

“คุณคิดจะขายน้ำประปานี่ให้ร้านเราเนี่ยนะ ? คุณดูผลตรวจนี่สิ นอกจากส่วนผสมหลักที่เป็นน้ำเปล่า มีแร่ธาตุนิดเดียวจนแทบไม่นับ ก็มีแค่คลอรีนเท่านั้นแหละ มันจะช่วยรักษาอะไรได้ ??” ชายคนนั้นกระแทกเอกสารลงบนโต๊ะอย่างแรงก่อนจะตวาดออกมาเสียงดัง ทำเอาชายหนุ่มหน้าเสียไปนิดหน่อย

“มันไม่ได้เป็นแค่น้ำเปล่านะ ไม่อย่างนั้นผมจะเสียเงินตั้ง 500 หยวนเพื่อตรวจสอบทำไม!” ชายหนุ่มเถียงกลับไป ทำให้ผู้คนรอบ ๆ พากันซุบซิบถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น

“ดูสิ ถึงจะยากจนแต่ก็ไม่คิดว่าจะเอาน้ำประปามาหลอกขายเป็นยาแบบนี้”

“เหมือนจะสติไม่ค่อยดีนะ หน้าตาก็ดีทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้”

“น่ารังเกียจจริงๆ”

“จะอะไรก็ช่าง! แกออกไปเถอะ ขอทานแบบแกไม่เหมาะจะเหยียบเข้ามาในร้านนี้ด้วยซ้ำ” ชายคนนั้นทำท่าดันแว่นขึ้นแล้วกล่าวขับไล่ออกมา แต่ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะเถียงกลับไปก็มีคนเปิดประตูร้านเข้ามาด้วยความรีบร้อน

“ปั้ง! ที่นี่คือร้านยาที่ใหญ่ที่สุดในถนนเหอเป่ยใช่ไหม ช่วยรักษาคุณยายให้ฉันที” หญิงสาวผมสีชมพู หน้าตาน่ารัก เธอสูงราวๆ 150 ซม. แต่ทรวดทรงของเธอกลับไม่เล็กเหมือนขนาดร่างกายเอาซะเลย เธอเดินเข้ามาในร้านด้วยความเร่งรีบ ด้านหลังมีชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ในชุดสูท สวมแว่นสีดำนับสิบคนเข็นรถเข็นที่มีหญิงชราคนหนึ่งนั่งอยู่เข้ามา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด