ตอนที่แล้วบทที่ 2 ตัวเอกคนแรกปรากฏตัว เขาก็เกิดใหม่เหมือนกัน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 4 นางเอกตกหลุมรักฉันเข้าให้แล้ว!

บทที่ 3 พระเอกที่น่าสงสาร!


บทที่ 3 พระเอกที่น่าสงสาร!

“ฉันขอพรให้มีผู้หญิงหนัก 100 ปอนด์ ... ไม่สิ ซัก 120 ปอนด์ล้มทับตัวเอง!” หลินเป่ยฝานขอพรอย่างมุ่งมั่นแน่วแน่

[ติ๊ง! คำขอของท่านได้รับการอนุมัติ]

และในตอนนั้นเอง ซ่งหยูฉิงเผยยิ้มเล็กน้อย เอ่ยปากว่า “ขอโทษที ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่”

“เชิญตามสบาย” หลินเป่ยฝานเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ

ซ่งหยูฉิงลุกขึ้นยืน แต่ก้าวไปได้ไม่ถึงสองก้าว ส้นสูงใต้รองเท้าก็หักลงอย่างกะทันหัน ร่างเธอเอนไปทางหลินเป่ยฝานอย่างพอเหมาะพอเจาะ

“ระวัง!!”

แต่หลินเป่ยฝานรู้สึกตัวช้าไปนิด จึงเข้าประคองเธอไม่ทัน ทั้งสองล้มลงกับพื้นไปด้วยกัน

หลินเป่ยฝานรู้สึกถึงอุณหภูมิอุ่นๆในมือตัวเอง มองใบหน้าอันงดงามที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม กล่าวอย่างงุนงงว่า “นี่คุณหนัก 120 ปอนด์หรอ?”

ซ่งหยูฉิงหน้าแดงก่ำ “พอดีว่าตอนเที่ยง ... ฉันกินเยอะไปหน่อย!”

หลินเป่ยฝานปลอบใจ “คุณสูง 1.72 เมตร หนักแค่ 120 ปอนด์ (ราวๆ 45 กก.) ไม่ถือว่าอ้วนหรอก”

ซ่งหยูฉิงยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกเขินอาย “หยุดพูดได้แล้ว ช่วยพยุงฉันขึ้นไปเร็ว!”

“โอเคๆ ได้เลย!”

ไม่ไกลนัก ตัวเอกเซียวเฉินที่เห็นภาพนี้โกรธจนแทบบ้า!

พล็อตเรื่องเพิ่งเริ่มต้น เขายังไม่ทันลงมือ ว่าที่ภรรยาตัวเองก็ถูกคนอื่นเอารัดเอาเปรียบแล้ว! ตอนนี้สองตาของเขาราวกับมีแสงจ้าสาดออกมา เป็นแสงที่เปี่ยมล้นไปด้วยความโกรธ!

ฝีเท้าที่เดินค่อยๆเร็วขึ้น แต่ผลลัพธ์ของมันกลับทำให้เท้าไปสะดุดเข้ากับคนที่เดินสัญจรไปมาอย่างเหมาะเหม็ง!

และคนที่เขาไปขัดขา เป็นสาวอ้วนน้ำหนัก 240 ปอนด์!

ด้วยน้ำหนักตัวที่มาก ทำให้แค่รักษาสมดุลตัวเองไม่ให้ล้มก็ยากมากแล้ว เมื่อถูกขัดขา ศูนย์ถ่วงก็ยิ่งไม่สมดุล ล้มลงไปอย่างง่ายดาย

“ไอ้หยาาาา!!”

ได้ยินเสียงดังโครม! พื้นสั่นสะเทือนไปทั้งภัตตาคาร อีกทั้งยังคล้ายได้ยินเสียงกระดูกหัก

เสียงที่ดังมากทำให้ทุกคนตกใจกลัวและพากันลุกขึ้นมาดู

สาวอ้วนส่ายหัว เอ่ยด้วยความสับสน “เอ๊ะ? แปลกจัง ทำไมฉันไม่รู้สึกเจ็บเลย ...”

อย่างไรก็ตาม เสียงที่ฟังดูรวดร้าวดังมาจากข้างใต้เธอ “คุณไม่เจ็บหรอก แต่ ... ผมเจ็บ!”

สาวอ้วนรีบยันตัวขึ้นมามองเขา กล่าวอย่างร้อนใจ  “ขอโทษที คุณเป็นอะไรไหม? เจ็บมากรึเปล่า?”

“โอ้ย..อย่าขยับทั้งๆที่ยังทับอยู่สิ!” ใบหน้าของเซียวเฉินเปลี่ยนเป็นสีเขียวอมม่วง “ซี่โครงผม ... หักแล้ว!”

“อ้อ โอเคๆ งั้นฉันจะถอยออกไปก่อนนะ ..”

สาวอ้วนลุกขึ้นอย่างรีบร้อน ผลลัพธ์คือจุดศูนย์ถ่วงเธอยังไม่มั่นคง สุดท้ายพลาดล้มลงอีกครั้ง เซียวเฉินรู้สึกราวกับขุนเขาไท่ซานกดทับลงมาอีกที

กร๊อบ!

ตัวเอกเซียวเฉิน  “...”

สาวอ้วนยกสองมือขึ้นปิดปาก “ขอโทษจริงๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจ!”

“หยุดพูดได้แล้ว รีบเรียกรถพยาบาล!!”

ไม่ไกลนัก หลินเป่ยฝานตกใจมากที่เห็นภาพนี้ ซี่โครงหักเพราะถูกสาวอ้วนหนัก 240 ปอนด์ล้มทับ ... ช่างน่าสงสารจริงๆ

ในชีวิตที่ผ่านๆมา ครั้งแรกที่พวกเราพบกัน อีกฝ่ายไม่ได้มีสภาพน่าสังเวชขนาดนี้!

หลังจากนั้น ทุกคนก็เริ่มเข้ามาช่วยเหลือ

ในบรรดาคนที่เข้ามาช่วยเหลือ หลินเป่ยฝานกระตือรือร้นที่สุด เขาวิ่งมาถึงหน้าตัวเอกเซียวเฉิน มองอีกฝ่ายที่มีใบหน้าเขียวสลับม่วง กล่าวอย่างห่วงใยว่า “พี่ชาย คุณเป็นไงบ้าง ยังทนไหวใช่ไหม?”

ดวงตาของตัวเอกเซียวเฉินลุกเป็นไฟ เห็นศัตรูอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่ตนเองไม่สามารถทำอะไร ได้แต่กัดฟันแล้วพูดว่า “ฉัน... ไม่เป็นไร!”

หลินเป่ยฝานตำหนิเขาและพูดว่า “พี่ชาย เลิกทำตัวเข้มแข็งเถอะ แบบนี้ซี่โครงหักชัดๆยังบอกว่าไม่เป็นไร? ผิวหนังหรือกล้ามเนื้อบาดเจ็บไม่เกินเดือนก็เริ่มฟื้นตัว แต่กระดูกน่ะไม่ใช่ ถ้าคุณไม่ได้นอนนิ่งๆซักสองเดือน อาการคงไม่ดีขึ้นแน่ๆ!”

“แต่พี่ชายสบายใจได้ ฉันเรียกรถพยาบาลให้แล้ว”

“เออขอบใจ ... แต่คราวหน้าไม่ต้อง!”

“อย่าว่าอย่างนั้นสิพี่ชาย! มันคือสิ่งที่ฉันควรทำ!”

หลังจากนั้นไม่นาน รถพยาบาลก็มาถึง และเริ่มดำเนินการแบกผู้ป่วยเซียวเฉินขึ้นรถ

ข้างในรถพยาบาล หลินเป่ยฝานกล่าวคำขอโทษ “หยูฉิง ขอโทษที อาหารค่ำมื้อนี้คงได้เท่านี้”

ซ่งหยูฉิงส่ายหัวของเธอ กล่าวอย่างไม่คิดมาก “ไม่เป็นไร การช่วยชีวิตคนสำคัญกว่า อันที่จริงแล้ว ฉันพบว่าคุณเป็นคนดีมาก ห้าวหาญชอบธรรม ยินดีช่วยเหลือผู้อื่น มีคนไม่มากนักที่มีคุณสมบัติแบบนี้!”

หลินเป่ยฝานพูดอย่างจนใจว่า “ไม่ใช่แบบนั้นหรอก ฉันก็แค่นิสัยเสียชอบยุ่งเรื่องคนอื่น!”

“นี่ไม่ใช่นิสัยเสีย แต่คือข้อดี!”

“ในเมื่อมื้อนี้พวกเรายังกินไม่เสร็จ งั้นวันหน้าฉันจะขอเป็นคนเลี้ยงเธอเอง”

“ตกลง สัญญาแล้วนะ!”

บุคคลที่สามอย่างเซียวเฉินที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย รับชมฉากนี้ด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟ

ไอ้คู่สุนัขคู่นี้!

ฉันมีสภาพอย่างนี้ แล้วยังมาพลอดรักกันอีก!

ระหว่างทาง รถพยาบาลขับผ่านหลุม ข้างในรถเกิดแรงกระแทก สั่นสะเทือนมาถึงเซียวเฉิน สร้างความเจ็บปวดแก่เขาจนหน้าซีด!

ประมาณ 15 นาที ทุกคนมาถึงโรงพยาบาล หลินเป่ยฝานเดินวุ่นไปทั่วตั้งแต่ก้าวเท้าลงมา ช่วยเหลืออีกฝ่ายทุกขั้นตอนในการรักษา อีกทั้งยังจ่ายค่าพยาบาลล่วงหน้าให้ด้วย

และทุกฉากทุกตอนตกอยู่ในสายตาของนางเอกซ่งหยูฉิง

“ช่างเป็นชายที่มีความรับผิดชอบ!”

หลังจากการเอกซเรย์และวินิจฉัยโดยแพทย์ สรุปว่าตัวเอกเซียวเฉินซี่โครงหักสามซี่ แต่อาการบาดเจ็บไม่ถือว่ารุนแรงอะไร

สามารถรักษาได้ตามวิธีทั่วๆไปอย่างการตรึงสายรัดหน้าอกเอาไว้ เพื่อรอให้กระดูกซี่โครงเชื่อมเข้าหากัน แต่ระหว่างนี้ต้องนอนนิ่งๆอยู่บนเตียงและกินยารักษากระดูก

ต้องใช้เวลาราวๆสองเดือน ถึงจะกลับมาเป็นปกติ

เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้น แพทย์ที่รับเคสการรักษาของเขาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “รู้สึกยังไงบ้าง?”

ใบหน้าของตัวเอกเซียวเฉินซีดเซียว เหงื่อไหลไม่หยุด “มันเจ็บ ... คุณช่วยฉีดยาชาให้ผมได้ไหม?”

“โอเค จัดให้ตามคำขอ”

หลินเป่ยฝานก้มมองเวลา และพบว่ามันล่วงเลยพ้นเที่ยงคืนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

แต่นี่หมายความว่า เขาสามารถขอพรได้อีกครั้ง!

หลินเป่ยฝานมองตัวเอกเซียวเฉินที่นอนอยู่บนเตียงอย่างเจ็บปวด ขอพรอย่างเงียบๆ

‘ฉันขอพร ได้โปรดช่วยให้ฉันมีผิวหนังที่หนาไม่ด้อยไปกว่าเหล็ก!’

[ติ๊ง! คำขอของท่านได้รับการอนุมัติ]

ในพริบตา หลินเป่ยฝานรู้สึกได้ทันทีว่าผิวของตัวเองหนังหนาเหมือนมนุษย์เหล็กไหล คงกระพันมีดปีนฟันแทงไม่เข้า

อีกด้านหนึ่ง คุณหมอได้เดินเข้ามาพร้อมเข็มฉีดยาชา

“มาแล้วๆ รับรองว่าคุณจะรู้สึกดีขึ้นหลังจากฉีดมัน”

กระนั้น หลังจากเอาเข็มทิ่มลงไปบนผิวหนังของเซียวเฉินหลายครั้ง กลับแทงไม่เข้า

ตัวเอกเซียวเฉินเจ็บจนจะเป็นลม “นี่หมอ จะฉีดได้รึยัง? ฉันเจ็บแทบตายแล้ว!”

หมอยิ้มอย่างขมขื่น “ยังฉีดไม่ได้เลย ผิวหนังของคุณหนาไป เจาะเข็มไม่เข้า! ฉันรักษาคนไข้มาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เจอคนหนังหนาขนาดนี้ ...”

“งั้นก็ไม่ต้องฉีด เปลี่ยนเป็นยากินแทน”

“ขอโทษจริงๆ ยาชาเป็นยาสำหรับเส้นประสาท ถ้ากินมันลงไปในกระเพาะก็จะไม่มีประโยชน์ เนื่องจากในกระเพาะมีกรด มันจะละลายสรรพคุณทางยา มีวิธีเดียวคือฉีดเท่านั้น”

“หมอ ฉันมีใบสั่งยา บอกคนที่มีความรู้เรื่องสมุนไพร .. นำสมุนไพรพวกนี้ไปต้มใส่หม้อ!”

“แบบนั้นไม่ได้หรอก ฉันรับใบสั่งยาหรือทำตามนั้นไม่ได้ คุณต้องเข้าใจ โรงพยาบาลของพวกเรามีกฏระเบียบ จะจ่ายยามั่วซั่วไม่ได้ เกิดคนไข้อาการแย่ขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ!”

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ช่วยคิดหาวิธีหน่อยเถอะ!”

“ได้ๆ รอก่อน ขอคิดแปปนึง”

ทั้งหมดก็ประมาณนี้ แพทย์ที่รักษาเซียวเฉินใช้เวลาคิดนานกว่าหนึ่งชั่วโมง ก็ยังหาทางออกไม่เจอ

ส่วนตัวเอกเซียวเฉิน เขาเจ็บปวดมากจนหมดสติไปแล้ว

มองเซียวเฉินที่เป็นลมด้วยความเจ็บปวด ซ่งหยูฉิงกล่าวอย่างเห็นอกเห็นใจ “เขาน่าสงสารจัง”

หลินเป่ยฝานเห็นด้วยอย่างยิ่ง “ใช่ ... น่าสงสารจริงๆ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด