ตอนที่แล้วตอนที่ 148 ลงมือ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 150 แก้ไข ไฉฮุย กรุ๊ป

ตอนที่ 149 พลังที่แข็งแกร่ง


เป็นจังหวะเดียวกับที่ ซูเหวิน กำลังกำจัดชายคนนี้

คนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ ถัดจากชายคนนี้ก็ตอบสนองทันทีเช่นกัน

พวกเขาพากันหยิบขวดเหล้าขึ้นมา เตรียมจะดูแล ซูเหวิน อย่างดี

แต่น่าเสียดาย

ซูเหวิน เขาไม่เพียงแต่มีร่างกายที่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่เขายังมีทักษะหย่งชุน(มวยหวิงชุน, 咏春拳) ด้วย

แน่นอนว่าการต่อสู้ในระยะประชิดเขาเกือบเรียกได้ว่าอยู่ยงคงกระพันแล้ว

คนเหล่านี้ไหนเลยจะเป็นคู่ต่อสู้ของ ซูเหวิน ได้?

และเป็นไปอย่างรวดเร็ว และง่ายดาย ซูเหวิน เข้าจัดการไปได้แล้วหลายสิบคน

“ไอ้เวรเอ้ย จับเขวี้ยงใส่มันเลย”

ทันใดนั้นมีคนตะโกนขึ้นอีกครั้ง

เพราะในขณะที่ ซูเหวิน กำลังจัดการกับคนเหล่านี้อยู่

ที่เหลืออีกสิบกว่าคน มีเวลาพอที่จะตอบสนอง

ในที่สุดพวกเขาก็คว้าโอกาสนี้ไว้

ดังนั้นพวกเขาจึงคว้านหาของใกล้มือที่สุดแล้วเขวี้ยงขว้างปาใส่ ซูเหวิน ทีละคนๆ

ชั่วขณะหนึ่ง ขวดเหล้า เบียร์ และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ได้บินวอนเต็มทั่วท้องฟ้าเข้าหา ซูเหวิน ซึ่งมันยากที่จะหลีกเลี่ยงได้

ซูเหวิน กลับแสยะยิ้มออกมา

ก่อนจะคว้าตัวคนในมือให้ลุกขึ้นมาใช้เป็นโล่เนื้อกำบัง พร้อมกับใช้เท้าเกี่ยวดึงอีกคนหนึ่งบนพื้นให้ลุกขึ้นก่อนจะทำซ้ำแบบเดิม

ทันใดนั้น การโจมตีทั้งหมดจากท้องฟ้าก็ตกลงมาที่สองบุคคลนั้น

“ปัง เพล้ง โครม เพล้ง”

เสียงขวดเหล้าแตกกระจาย พร้อมกับเสียงกรีดร้องดังขึ้น

สภาพของชายผู้น่าสงสารทั้งสองคน..

ศีรษะแตกทันทีจากการถูกของแข็งขว้างปาใส่ ร่ายกายของพวกเขาถูกอาบไปด้วยเลือด

“เห็นได้ว่าพวกคุณสู้กับคนของตัวเองได้ดี โอ้.. ใช่ คุณรู้วิธีเอาชนะพวกเขานี่”

ซูเหวิน มองไปที่โล่เนื้อที่กำลังปกป้องตัวเองจากภัยพิบัติ และอดไม่ได้ที่จะยกยิ้มขึ้นอย่างเฉยเมย โดยจงใจเยาะเย้ยอีกฝ่าย

“คxยเอ้ย แมร่ง พวกเราเข้าไปพร้อมกัน ฆ่ามัน”

พอเห็นว่าการขว้างปาขวดไม่ได้ช่วยอะไร จึงมีคนเสนอแนะขึ้นมา

คนกลุ่มนี้ตาแดงก่ำไปหมดแล้ว

พวกเขาที่เห็นพี่น้องของตนเองถูกรังแก

จนขาดสติ.. ไม่แม้แต่จะคํานึงถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ มันมีเพียงแต่ความโกรธ และความบ้าคลั่งเท่านั้น

ซึ่งผลลัพธ์นั้นคุณเองก็สามารถจินตนาการได้…

“ผวัะ ผลัวะ ปัง ปัง”

“ปัง เพล้ง”

ได้ยินแต่เพียงเสียงแก้วเหล้า ขวดแก้วโดยรอบๆ และเสียงโต๊ะ เก้าอี้ชนกระแทกกันดังขึ้นเป็นระยะเท่านั้น

พร้อมกับกระดูกแตกหัก และเสียงกรีดร้องต่างๆ ที่ดังตามขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย

แม้แต่กระทั่งมวลชนรอบนอกก็ยังได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใหญ่นี้ ..ได้อย่างชัดเจน

ซูเหวิน ที่อยู่ข้างในนั้น แข็งแกร่งประดุจหินผา(มั่นคงไม่หวั่นไหว)

เมื่อเผชิญกับการโจมตีจากทั่วทุกทิศทุกทางเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด การลงมือของเขายิ่งมาก็ยิ่งหนักขึ้น

ทุกย่างก้าวการเคลื่อนไหวล้วนเต็มไปด้วยพลังที่แข็งแกร่ง

และจุดประสงค์ของเขา ก็ย่อมเพื่อให้คนกลุ่มนี้ได้เข้าใจว่าการกดขี่บาร์ของเขานั้น ..มันเป็นเรื่องที่โง่เขลาแค่ไหน

ซึ่งเขาก็ต้องการให้อีกฝ่ายชดใช้

โดยทำให้พวกเขาไม่กล้าที่จะเหยียบย่างเข้ามาที่นี่อีก

ไม่กี่นาทีต่อมา

ในที่สุด ทุกอย่างก็พลันเงียบสงบ..

พวกอันธพาลที่แต่เดิมเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจที่ไม่มีที่สิ้นสุด

ตอนนี้ พวกเขานอนร้องครวญครางเหมือนลูกไก่ที่นอนหงายอยู่กับพื้นไม่สามารถขยับไปไหนได้ทีละตัวๆ ไม่เหลือความเย่อหยิ่งอย่างในก่อนหน้านี้อีกแล้ว

ซูเหวิน เดินดุ่มๆ เข้ามาหาชายร่างใหญ่คนหนึ่งที่กำลังนอนอยู่บนพื้น และเหยียบลงไปที่ข้อมือของอีกฝ่าย

ชายร่างใหญ่คนนั้นแยกเขี้ยวยิงฟันอีกครั้ง แต่แล้วก็กลับร้องโหยหวนออกมาด้วยความเจ็บปวด

“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่.. เมตตาด้วยๆ พี่ใหญ่ ไว้ชีวิตฉันด้วยเถอะ”

“ฉันผิดไปแล้ว ฉันมีตาหามีแววไม่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่ใหญ่มีความสามารถ ขอพี่ใหญ่ปล่อยน้องชายคนนี้ไปสักครั้งเถอะ น้องชายคนนี้ไม่กล้า ไม่กล้าอีกแล้ว”

ชายร่างใหญ่รีบร้องขอความเมตตาด้วยความเจ็บปวด

เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส และตอนนี้ยังจะมาถูกอีกฝ่ายเหยียบข้อมือ ซึ่งแค่เห็นก็รู้แล้ว

“ตอนแรกฉันก็บอกไปแล้วว่า ให้พวกคุณชดใช้ค่าเสียหายของบาร์แล้วจากไป.. แต่พวกคุณไม่ยินยอม ตอนนี้ไม่รู้สึกว่า ..มันสายเกินไปหน่อยเหรอที่จะมาร้องขอความเมตตา?”

ซูเหวิน พูดเบาๆ ด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยอีกฝ่าย

“ไม่สาย.. มันยังไม่สาย และเรายินดีชดใช้ เรายินดีจะชดใช้”

“พี่ใหญ่ ตราบเท่าที่คุณปล่อยเราไปได้ เราเองยินดีที่จะจ่ายชดใช้ให้คุณสิบเท่า... ไม่สิ ร้อยเท่า เพื่อชดเชยความสูญเสียของคุณ”

“ในความเป็นจริง.. เราเองก็ไม่สามารถทําอะไรได้ มีคนสั่งให้เรามาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา และนี่มันไม่ใช่ความผิดของเรา!”

ทันใดนั้น นอกจากชายร่างใหญ่คนนี้จะร้องขอความเมตตาแล้ว เขากลับพูดสิ่งที่ไม่คาดคิดบางอย่าง ซึ่งทําให้ ซูเหวิน ประหลาดใจไม่น้อยจริงๆ

“ใครหลอกใช้คุณ?”

“และใครส่งคุณมาที่นี่?”

ซูเหวิน ขมวดคิ้วแล้ว

“เป็น.. ประธานหวัง ประธานหวัง ของไฉฮุย กรุ๊ป”

“ประธานหวัง มีความขัดแย้งเล็กน้อยกับอดีตเจ้าของบาร์นี้ ..เมื่อปีที่แล้ว ดังนั้น ประธานหวัง จึงแอบส่งคนมาทำร้ายเขา”

“และเราเป็นคนที่เขาจ้างวานมา เรามาที่นี่โดยทำตามคําสั่งของเขาที่ให้จงใจมาทําลายธุรกิจบาร์”

ชายร่างใหญ่รีบพูด เขาไม่กล้าโกหกแม้แต่น้อยเลย

โดยเกรงว่าจะไปทำให้ ซูเหวิน ไม่พอใจ..

ดวงตาของ ซูเหวิน มืดลงเล็กน้อย และในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

มีคนอื่นต้องการแก้แค้นอดีตเจ้าของบาร์แห่งนี้ โดยจงใจนำความโกรธแค้นนี้มาลงที่เขา ..หรือไม่?

ไฉฮุย กรุ๊ป นี้เขาจะจดจำมันไว้

หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซูเหวิน ก็ได้ปล่อยชายร่างใหญ่คนนั้นไป

“ตอนนี้ในเมื่อพวกคุณเต็มใจชดใช้ค่าเสียหายแล้ว ฉันจะให้คนมาเคลียร์รายการทั้งหมดที่คุณทําลายรวมถึงการบริโภคของคุณในคืนนี้”

“และจริงสิ เพราะการปรากฏตัวของพวกคุณในคืนนี้ทําให้ลูกค้าหลายคนในบาร์ของฉันกลัว ฉันในฐานะเจ้าของมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”

“ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจว่าลูกค้าทั้งหมดที่มาใช้จ่ายในคืนนี้จะได้รับการยกเว้นค่าใช้จ่าย และการสูญเสียที่เกิดจากค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะถูกจ่ายโดยพวกคุณ”

“ข้อเสนอนี้พวกคุณคงไม่มีความเห็นใดๆ หรอกใช่ไหม?”

ซูเหวิน ก้มหน้าลงมองไปที่ ชายร่างใหญ่ แล้วพูดอย่างช้าๆ ออกไป

ด้วยน้ำเสียงปกติที่ไม่สามารถปกติได้ไปกว่านี้อีกแล้ว

แต่ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อชายร่างใหญ่คนนี้ได้ยินเขากลับรู้สึกหนาวสะท้านจับขั้วหัวใจ

“ตกลง ตกลง เราจะชดใช้ เราจะชดใช้”

ชายร่างใหญ่ พยักหน้าอย่างต่อเนื่อง และรีบตอบรับคําขอของ ซูเหวิน

ขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกขมขื่นในใจ

ค่าชดใช้สำหรับสิ่งของทั้งหมดที่ถูกทำลายในบาร์ บวกกับการบริโภคของคนมากกว่า 20 คนนั้นไม่ได้เป็นอะไรเลย อย่างมากก็แค่ไม่กี่พันหยวนเท่านั้น

แต่ถ้าบวกการบริโภคของทุกคนในคืนนี้โดยยกเว้นค่าใช้จ่ายแล้ว

นั่นมันไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ เลย

ค่าชดใช้ บวกกับค่าเสียหายที่ต้องจ่ายไปอาจ 7-8 หมื่น หรือแม้กระทั่งหลักแสนหยวนมันก็เป็นไปได้

เงินจํานวนมากขนาดนี้ แม้ว่าพี่น้องในกลุ่มของพวกเขาจะสามารถรวบรวมมาได้

แต่หลังจากชดใช้ไปแล้วคาดว่า คงไม่มีอะไรจะกิน…

พวกเขาจะใช้ชีวิตอย่างไรก็เป็นเรื่องของพวกเขาเอง มันเกี่ยวข้องอะไรกับ ซูเหวิน?

เมื่อเห็นอีกฝ่ายยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของเขาแล้ว

เขาก็หันกลับทันที เตรียมให้ผู้จัดการจ้าวจัดคนมาเคลียร์ค่าความเสียหายทั้งหมด

แต่สิ่งหนึ่งที่ ซูเหวิน ไม่รู้ ..จนกระทั่งเขาหันกลับมา

คือเขาไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ที่ล็อบบี้ทั้งหมดพลันเงียบลงอย่างสมบูรณ์

รอบๆ ตัวของเขาเงียบสงบ ไม่มีเสียงใครพูดอะไรเลย

ดวงตาของ ผู้จัดการจ้าว เบิกกว้าง สีหน้าของเขาเฉื่อยชา ดูเหมือนคนโง่เขลา

ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น แม้แต่ลูกค้าเป็นร้อยเป็นพันที่อยู่รอบๆ ก็ต่างอดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าตกตะลึง

พวกเขามองไปที่ ซูเหวิน ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจ และไม่อยากจะเชื่อ

มันราวกับว่าเห็น ซูเหวิน ที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่คน แต่เป็นสัตว์ประหลาด

“นี่... เกิดอะไรขึ้นกับผู้ชายคนนี้ เขาตัวคนเดียว แล้วคนคนเดียวจัดการกับคนกว่ายี่สิบกว่าคน มันเป็นไปได้ยังไง?”

“เชี้ย.. แมร่งโคตรเชี้ยเลย ให้ตายสิว้อย ถามจริงนี่ฉัน.. นี่ฉันตาฝาดไปหรือเปล่า? ฉันป่วยมีไข้จนเห็นภาพหลอนแล้ว หรือผู้ชายคนนี้เป็นมนุษย์กลายพันธุ์? ไม่งั้นเขาจะสู้เก่งขนาดนี้ไปได้ยังไง?”

“เขา… เขามีความเร็ว และความแข็งแกร่งนี้ได้ยังไง?”

“ผู้ชายคนนี้เขาเป็นสัตว์ประหลาดรึเปล่า มันเป็นไปได้ยังไงที่คนเราจะมีพลังมากขนาดนี้?”

“เจ๋ง.. โคตรเจ๋งสุดยอด ผู้ชายคนนี้ไม่รู้ว่าเป็นมนุษย์หรือปีศาจ แต่เขาทุบตีคนไปมากกว่า 20 คน เขาทำมันได้ยังไง? หรือว่าเขา.. เป็นซูเปอร์แมนกลับชาติมาเกิดใหม่?”

สักพัก..

ผู้คนต่างพูดคุยกันอย่างรวดเร็ว และเต็มไปด้วยความตกใจไม่น้อย

รู้สึกราวกับโลกทัศน์กําลังจะพังทลายลง

คนๆ หนึ่ง และเป็นคนที่ยังมีชีวิต

เขาทำอย่างนั้นได้ยังไง จัดการกับคน 20 กว่าคนด้วยพลังของตัวเอง?

ทุกคนถึงกับสงสัยว่าฉากตรงหน้าพวกเขามันเป็นเรื่องจริง หรือเป็นภาพลวงตากันแน่..

ท้ายที่สุดแล้ว คนๆ หนึ่งจะไปมีความเร็ว และความแข็งแกร่งเช่นนี้ไปได้อย่างไร?

นี่มันเหนือเกินขอบเขตของสามัญสํานึกที่ทุกคนจะเข้าใจได้จริงๆ

แม้แต่ เซี่ย ซินเหยา ที่เตรียมพร้อมไว้แล้ว เมื่อเห็นการแสดงของ ซูเหวิน เมื่อครู่นี้ เธอเองก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าตกตะลึง

เห็นได้ชัดว่าเธอเองก็ตกใจกับความแข็งแกร่งนี้ของ ซูเหวิน เช่นกัน…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด