ตอนที่แล้วระบบปรับแต่งกาลเวลาสะท้านภพ ตอนที่ 144 หยดเลือดมังกร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบปรับแต่งกาลเวลาสะท้านภพ ตอนที่ 146 เตรียมพร้อมสงครามร้อยแคว้น

ระบบปรับแต่งกาลเวลาสะท้านภพ ตอนที่ 145 กลับมาหลอมกระบี่


ระบบปรับแต่งกาลเวลาสะท้านภพ ตอนที่ 145 กลับมาหลอมกระบี่

บนเวทีการประมูล

ผู้ดูแลเต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างมาก

“ท่านทั้งหลาย ต่อไปนี้จะเป็นสิ่งของชิ้นสุดท้ายของการประมูลในครั้งนี้”

“สิ่งนี้มีค่ายิ่งนัก ข้าเชื่อว่าหลายท่านที่นี่อาจมีความสนใจไม่น้อย”

ผู้ดูแลพูดอย่างมีชีวิตชีวา

หลังจากชมเชยสักพัก

เขาจึงเปิดกล่องหยกที่บรรจุโอสถทะลวงขอบเขตออกมา

“โอสถทะลวงขอบเขต 5”

“ขั้นสมบูรณ์แบบ”

“ข้าเชื่อว่าท่านทั้งหลายต่างรู้ดีว่าโอสถทะลวงขอบเขต 5 ขั้นสมบูรณ์แบบมีค่าเพียงใด”

“ราคาเริ่มต้นที่ 25,000 หินวิญญาณระดับกลาง”

“การเสนอราคาทุกครั้งไม่ควรต่ำกว่า 2,000 หินวิญญาณระดับกลาง”

“การประมูล เริ่มตอนนี้”

ผู้ดูแลไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก

อย่างไรก็ตาม โอสถทะลวงขอบเขตขั้นสมบูรณ์แบบ สำหรับนิกายนั้นมีความสำคัญมาก

เมื่อผู้ดูแลบอกว่าเป็นโอสถทะลวงขอบเขตระดับ 5 ขั้นสมบูรณ์แบบ

ทั้งเวทีการประมูลก็เริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือด

“แม่เจ้า ข้าไม่ได้ยินผิดใช่หรือไม่”

“โอสถทะลวงขอบเขต แถมยังเป็นขั้นสมบูรณ์แบบอีก”

“นี่เป็นผลงานของยอดฝีมือวิถีโอสถที่ร้อนเงินหรือไม่”

“โอสถทะลวงขอบเขตขั้นสมบูรณ์แบบ นั่นหมายความว่าต้องเป็นนักปรุงโอสถ 6 หรือ 7 ริ้วเท่านั้นที่สามารถสร้างได้”

หลายคนก็แสดงความตื่นตะลึง

อย่างไรก็ตามพวกเขาล้วนเป็นผู้ที่มีพลังอำนาจอ่อนด้อย

ดังนั้นโอสถทะลวงขอบเขตนี้จึงไม่มีประโยชน์มากนักสำหรับพวกเขา

โอสถทะลวงขอบเขตนั้นดึงดูดความสนใจจริง ๆ

คือผู้ที่อายุมากในขอบเขตผสานแท้

พวกเขาอาจเป็นผู้สูงศักดิ์ในสำนัก พกหินวิญญาณที่สำนักให้มาเพื่อการประมูล

โอสถทะลวงขอบเขตสำหรับพวกเขาแล้วไม่มีประโยชน์ แต่สำหรับสำนักแล้วมีค่ามาก

การมีโอสถทะลวงขอบเขตเท่ากับมียอดฝีมือขอบเขตเขตหลอมรวมเพิ่มขึ้น

หรือบางครั้งต้องการซื้อให้รุ่นเยาว์ในตระกูล

ไม่ว่าจะอย่างไร

การประมูลโอสถเริ่มต้นขึ้น

ราคาจึงพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

40,000

45,000

50,000…

เพียงไม่กี่นาที

ราคาถูกเพิ่มขึ้นถึง 80,000 หินวิญญาณระดับกลาง

ที่ห้องพิเศษชั้น 2

กู่หยางก็ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

เหลือเชื่อ

เขารู้ว่าโอสถทะลวงขอบเขตนั้นได้รับความนิยม

ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นโอสถทะลวงขอบเขตขั้นสมบูรณ์แบบ

เขาไม่คาดคิดว่าโอสถทะลวงขอบเขต 5 เช่นนี้จะสามารถประมูลได้ถึง 80,000 หินวิญญาณระดับกลาง

และราคานี้ยังคงเพิ่มขึ้นอยู่

เขาสามารถเห็นได้ว่าผู้ที่ประมูลล้วนเป็นชายขรา

บนร่างกายพวกเขาคงมีหินวิญญาณมากมาย

มีลักษณะเหมือนไม่ขาดแคลนหินวิญญาณเลย

เห็นแบบนี้ กู่หยางก็ไม่อาจข่มความรู้สึกได้

ดูเหมือนว่า

เขาอาจจะประเมินค่าของโอสถทะลวงขอบเขตต่ำไปหน่อย

ราคาโอสถทะลวงขอบเขตก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

บรรยากาศในเวทีการประมูลก็ร้อนแรงยิ่งขึ้น

“100,000”

ชายขราคนหนึ่งมีท่าทีมั่นใจ เหมือนมีชัยชนะอยู่ในกำมือ

เมื่อได้ยิน

ก็ทั้งเวทีก็พลุกพล่าน

100,000 แล้ว

โอสถทะลวงขอบเขตมีค่าถึง 100,000 หินวิญญาณระดับกลาง

นั่นยังทำให้เป็นสินค้าที่มีราคาสูงที่สุดในงานประมูลนี้

นี่ทำให้คนจำนวนมากประหลาดใจ

ชัดเจนว่าพวกเขาไม่คาดคิดว่าจะเห็นฉากอลังการนี้

อย่างไรก็ตาม ก็เป็นเรื่องปกติ

นี่คือโอสถทะลวงขอบเขตขั้นสมบูรณ์แบบ

แม้แต่ยอดฝีมือวิถีโอสถก็ไม่สามารถรับประกันว่าจะปรุงได้ทุกครั้ง และไม่มีความจำเป็นต้องลำบากตัวเองเพื่อสร้างโอสถทะลวงขอบเขตขั้นสมบูรณ์แบบ

อย่างที่สองคือ

หากสามารถมีโอสถทะลวงขอบเขตเพียงหนึ่งเม็ด ก็เท่ากับว่าสามารถสร้างยอดฝีมือเขตหลอมรวมได้อย่างไม่มีผลข้างเคียง

สำหรับสำนักแล้ว ก็เหมือนกับการได้สายเลือดใหม่

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทะลวงขอบเขตหลอมรวม แม้กระทั่งสำหรับอัจฉริยะ ก็ต้องใช้เวลานาน

แต่ถ้ามีโอสถทะลวงขอบเขตหนึ่งเม็ด ก็สามารถลดระยะเวลาการทะลวงผ่านลงได้อย่างมาก

สำหรับสำนัก

นั่นเป็นสมบัติที่มีค่ามาก

ในที่สุดโอสถทะลวงขอบเขตถูกประมูลไปที่ราคาสูงถึง 123,000 หินวิญญาณระดับกลาง

โดยผู้อาวุโสจากสำนักหนึ่ง

ส่วนชายขราอีกคนที่แข่งขันนั้นเพราะมีหินวิญญาณไม่เพียงพอจึงล้มเหลวในการประมูล

ด้วยเหตุนี้

การประมูลจึงสิ้นสุดลง

ชายขราที่ไม่สามารถประมูลได้นั้นก็โกรธเกรี้ยว

ชัดเจนว่าเขากำลังจับตาดูผู้อาวุโสของสำนักนั้น

สำหรับเรื่องนี้ กู่หยางก็ไม่แปลกใจ

ไม่เกี่ยวข้องกับเขาเลย

แต่เมื่อนึกถึงกระบวนการประมูลที่ดุเดือด

กู่หยางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื้นตันใจ

เขาไม่คิดว่าโอสถทะลวงขอบเขต 5 ขั้นสมบูรณ์แบบจะสามารถประมูลได้ถึงราคาสูงขนาดนี้

การประมูลสิ้นสุดลง

กู่หยางก็ไม่ลังเล

เดินไปที่หลังเวทีเพื่อรับผลไม้เทพผสาน เหล็กวิญญาณระดับสูง และผลึกวิญญาณที่เขาประมูลได้

ส่วนเรื่องหินวิญญาณ

ไม่เพียงแต่ไม่ได้จ่าย แต่ยังมีรายได้เพิ่มเข้ามาอีก

หลังจากได้รับสิ่งของและหินวิญญาณมา

กู่หยางก็ไม่มีความตั้งใจที่จะหยุดพัก

จึงเดินออกจากเมืองลมหนาว

และตัวตนของกู่หยางก็เป็นที่รู้จักของทุกคนอยู่แล้ว

เมื่อเห็นฉากกู่หยางใช้หมัดเดียวปราบยอดฝีมือขอบเขตห้วงสมุทรแก่นแท้ระดับ 9

พวกเขาจะมีความกล้าหาญที่จะตามล่ากู่หยางได้อย่างไร

ส่วนผู้อาวุโสของสำนักที่ประมูลโอสถทะลวงขอบเขตได้สำเร็จนั้น ก็ไม่ได้โชคดีนัก

เขาออกจากไปอย่างรวดเร็ว

แต่ก็มียอดฝีมือจำนวนมากตามหลังเขา

“โหดร้ายเสียจริง”

เห็นแบบนี้ กู่หยางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื้นตัน

เขาส่ายหัว แต่ไม่คิดมาก

จากนั้นก็ออกจากเมือง

หลังจากคิดในใจ

ไม่นานนัก อินทรีเพลิงก็พุ่งตรงมาจากป่าไม่ไกลออกไป

จากนั้นก็ลงจอดตรงหน้ากู่หยาง

ต่อมาพุ่งขึ้นสู่อากาศ มุ่งหน้าไปยังพระราชวัง

ขณะที่ในเมืองลมหนาว

จ้าวเมืองก็ยืนอยู่บนยอดเมือง

มองไปที่ภาพลักษณ์ของกู่หยางที่ขี่อินทรีเพลิงจากไป พลางถอนหายใจเบา ๆ

“เดิมทีข้าคิดจะเชิญกู่หยางไปร่วมมื้ออาหาร…”

เขาไม่คิดว่ากู่หยางจะรีบกลับไปเร็วเช่นนี้

และสายตาของเขาก็ตกลงไปที่อินทรีเพลิง

“อินทรีเพลิงที่มีพลังเทียบเท่ากับผู้ที่อยู่ในขอบเขตห้วงสมุทรแก่นแท้ระดับ 8 กู่หยางผู้นี้… เป็นสัตว์ประหลาด!”

หลังจากไตร่ตรองสักพัก เขาก็ส่ายหัว

กู่หยางก็มาถึงสหพันธุ์นักหลอมอุวธ

หลังเอ่ยวาจากับเถี่ยปี้ซาน เขาก็เข้าไปในห้องตีเหล็ก

เริ่มต้นการหลอมกระบี่เหล็กระดับสูง

และในขณะที่กู่หยางเพิ่งเข้าไปในห้องตีเหล็ก

เงาที่เปี่ยมด้วยความองอาจก็ปรากฏขึ้นที่สมาคมการหลอมเหล็ก

“ผู้นำเถี่ย กู่หยางอยู่หรือไม่”

ผู้มาเยือนคือจักรพรรดิฉู่

“คาราวะฝ่าบาท” เถี่ยปี้ซานตกใจ จึงรีบโค้งเคารพ

จากนั้นจึงยกหัวขึ้นมาพูดว่า “กู่หยางกำลังอยู่ในห้องตีเหล็กเพื่อหลอมกระบี่ระดับสูง ฝ่าบาทมีธุระกับเขาหรือขอรับ”

“เขาเพิ่งเข้าไป อาจต้องใช้เวลานานกว่าจะออกมา ฝ่าบาทต้องการให้ข้าไปบอกเขาตอนนี้เลยหรือไม่”

หลังจากได้ยินคำพูดของเถี่ยปี้ซาน ฉู่มู่ก็ส่ายหัว

“ไม่เป็นไร ข้าจะรอเขาออกมา”

พูดจบ ฉู่มู่ก็นั่งลง หลับตา รออย่างเงียบ ๆ

เห็นแบบนี้ เถี่ยปี้ซานก็รู้สึกตกใจไม่น้อย

กู่หยางช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน

แม้แต่จักรพรรดิก็ต้องรอ

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

5 1 โหวต
Article Rating
2 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด