บทที่ 6 ผู้มีความสามารถทุกอย่าง
กาลเวลาช่างโหดร้าย ไหลผ่านไปอย่างเงียบงัน ไม่สามารถคว้ามันไว้ได้
พริบตาเดียวก็ผ่านไปสิบวันแล้ว
เกาเถิงได้รับความสามารถ [ต้านทานความเจ็บปวด], [ต้านทานไฟ], [ต้านทานพิษ], [รักษาตัวเอง], [การรับรู้อันตราย], [เพิ่มการป้องกัน], [เพิ่มสติปัญญา], [ธาตุน้ำ], [เพิ่มความเร็ว] , [ร่างกายสองเท่า] ความสามารถทั้งสิบ
เขาทดสอบความสามารถแต่ละอย่าง ความสามารถทั้งสี่ [ต้านทานความเจ็บปวด],
[ต้านทานไฟ], [ต้านทานพิษ] และ [การรับรู้อันตราย] เป็นทักษะติดตัว ซึ่งสามารถทำงานโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้ความสามารถด้วยตัวเอง
【ต้านทานความเจ็บปวด】ตามชื่อของมันเลย มันสามารถบรรเทาอาการปวดจำนวนหนึ่งหลังจากได้รับบาดเจ็บได้
เกาเถิงมีความคิดผุดขึ้นมา เขาอยากลองโดยการเสียบไม้จิ้มฟันไปในเล็บหัวแม่เท้าและเตะกำแพงเข้าอย่างแรง
หลังจากทำไปแล้ว ไม่เพียงแต่เขาไม่รู้สึกอะไรเลย เขายังอยากจะหัวเราะอีกด้วย
【ต้านทานความเจ็บปวด】มันทำให้ร่างกายของเขากลายเป็นเพียงชิ้นเนื้อที่ไร้ความรู้สึก
【ต้านทานไฟ】เป็นคำอธิบายตรงตัวเลย มีภูมิคุ้มกันต่อความเสียหายจากไฟบางประเภท
ในตอนเช้าของวันที่เขาได้รับความสามารถ เกาเถิงก็โรยยี่หร่าหนึ่งกำมือบนมือของเขาแล้วเผามันบนเตาแก๊สเป็นเวลาสิบนาที แต่ร่างกายของเขาไม่ได้รับบาดเจ็บเลย
【ต้านทานพิษ】ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะทำอะไร เขาไปที่ตลาดเพื่อซื้อยาฆ่าแมลง ดื่มยาฆ่าแมลงไป 2 ขวดในที่สาธารณะ พ่นฟองอากาศออกแล้วเดินออกไป ทำให้ผู้เห็นเหตุการณ์ตกตะลึงมากและเดินถอยออกไป 3 เมตรจากชายที่ดื่มยาฆ่าแมลงคนนี้
【การรับรู้อันตราย】ความสามารถนี้พิเศษมาก สามารถรับรู้ถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามา และอาจพัฒนารูปแบบใหม่ๆ ได้ในอนาคต แต่เกาเถิงยังไม่มีความคิดที่ดีในปัจจุบัน
ทักษะเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องใช้พลังงาน เช่นเดียวกับ [ความแข็งแกร่ง] ที่ทำให้ร่างกายแข็งแรงโดยตรงและเพิ่มหลักประกันบางอย่างให้กับชีวิต
หลังจากพูดถึงทักษะที่เป็นความสามารถติดตัวแล้ว ต่อไปคือทักษะที่ใช้โดยตัวเอง
【รักษาตนเอง】เป็นความสามารถที่สำคัญที่สุดของเกาเถิง การใช้พลังงานจะทำให้บาดแผลหายเร็ว ยิ่งได้รับบาดเจ็บหนักเท่าไรก็ยิ่งต้องใช้พลังงานมากขึ้นเท่านั้น
เกาเถิงคิดอย่างกล้าหาญว่าในอนาคตเมื่อเขาเผชิญหน้ากับศัตรูที่เท่าเทียมกัน เขาจะไม่มีวันกลัวหัวหด และด้วย [เพิ่มการป้องกัน], [เพิ่มความเร็ว], [ร่างกายเพิ่มขึ้นสองเท่า] สู้แบบไม่กลัวตาย แลกกับบาดแผลเพื่อเอาชนะ ใครจะกลัวคู่ต่อสู้ที่ไร้ชีวิตชีวาและมีความกลัว?
ความสามารถเหล่านี้สามารถสร้างระบบทักษะที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาได้หลายระดับ
ต่อไป เรามาพูดถึง 【เพิ่มสติปัญญา】
เกาเถิงรู้สึกว่า [เพิ่มสติปัญญา] เป็นเหมือนน่องไก่ทอดที่ไม่มีรสชาติ ในกองน่องไก่ทอดเผ็ด
เขาคิดว่าไอคิว ของเขาสูงเกินกว่า 99% ของคนทั่วไปแล้ว และอีก 1% ที่เหลือก็เนื่องมาจากความถ่อมตัวของเขา
【เพิ่มสติปัญญา】ไม่มีประโยชน์ต่อเขาที่มีสิ่งนี้อยู่แล้ว
หากความสามารถนี้สามารถมอบให้คนอื่นได้ได้ เขาจะมอบให้โดยไม่ลังเลเลย
เขาเหนื่อยมามากพอแล้วจากการเป็นคนฉลาดเพียงคนเดียวในโลก
สุดท้ายคือ [ธาตุน้ำ] ความสามารถสัมพันธ์ของความสามารถนี้ก็อยู่ที่ 100% เช่นกัน
เหตุผลที่เกาเถิงมั่นใจมากก็คือเมื่อใช้ความสามารถนี้ พลังมันแข็งแกร่งมาก ซึ่งเทียบเท่ากับพลังจิต
[ธาตุน้ำ] ทำให้วิธีการต่อสู้ของเขาสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และเกาเถิงก็รู้สึกว่าในอนาคตเขาจะกลายเป็นผู้มีความสามารถที่เป็นผู้มีพลังทุกอย่างโดยไม่มีจุดอ่อนใดๆ
หลังจากพูดถึงความสามารถที่เพิ่มขึ้นแล้ว เรามาพูดถึงผลลัพธ์ของการฝึกพิเศษสิบวันกันดีกว่า
ในสายตาของทุกคน เกาเถิงมีความก้าวหน้าไปมาก ใช้เวลาวิ่งน้อยลงเรื่อย ๆใน 20 รอบ ไม่เจ็บปวดเหมือนเมื่อก่อน สมรรถภาพทางกายดีขึ้นมาก
สิ่งนี้กระตุ้นความกระตือรือร้นของพวกเขา และพวกเขาเพิ่มน้ำหนักได้เรื่อย ๆ 100กิโลกรัม 200กิโลกรัม และ 300กิโลกรัม ทีละขั้น
นอกจากนี้ยังเป็นการฝึกพิเศษสิบวันอีกด้วย จุดแข็งของบางคนพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะฟางเหมินเธอสามารถสัมผัสเสื้อผ้าของซู่ตงได้แล้ว แบกน้ำหนัก 350กิโลกรัม สูงที่สุดในบรรดาผู้เข้าฝึก และกลายเป็นผู้ที่ทรงพลังที่สุดในการฝึกนี้
"ฉันดีใจที่ได้ใช้เวลาสิบวันนี้กับทุกคน" บนสนามฝึกซ้อม ซู่ตงแสดงความคิดของเขาขณะถือกล่องกระดาษแข็ง "ฉันแน่ใจว่าเมื่ออายุมากขึ้น พวกเธอจะรู้สึกว่านี่เป็นสิบวันที่มีความหมายที่สุดสำหรับพวกเธอ"
ชีวิตในอนาคตของพวกเธอ มักจะคิดว่า "ถ้าฉันมีเวลามากขึ้นในการฝึกพิเศษ และฟังคำสอนจากอาจารย์ซู่ได้มากขึ้นกว่านี้ ชีวิตของฉันจะไม่ซีดเซียวและอ่อนแอ่ขนาดนี้"
"ดังนั้น ฉันเสียใจจริงๆ สำหรับพวกเธอ ที่จะไม่มีวันพบคนที่สุดยอดเท่าฉันอีกในอนาคต และฉันรู้สึกน่าสงสารมากเมื่อคิดถึงเรื่องนี้"
ทุกคน "…"
ซู่ตงถอนหายใจลึก ๆ มองทุกคนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสาร
แน่นอนว่าเกาเถิงเป็นข้อยกเว้น
หากมีคนฉลาดสองคนในโลกนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเขาและเกาเถิง
ดังนั้นเมื่อมองไปที่เกาเถิง เขาก็พยักหน้าและแสดงรอยยิ้มที่มีหัวใจเดียวกัน
"นอกจากนี้ ขอปรบมือให้กับเกาเถิงด้วย ในเวลาเพียงสิบวัน สมรรถภาพทางร่างกายของเขาดีขึ้นมาก และศักยภาพของระดับ S นั้นยอดเยี่ยมและน่ากลัวมาก"
แปะ แปะ แปะ…
ทุกคนปรบมือ
"เอาล่ะ เรามาหยุดเรื่องไร้สาระเพียงเท่านี้และพูดเรื่องจริงจังกันดีกว่า"
ซู่ตงถอนสายตาและส่ายกล่องกระดาษแข็งในมือเพื่อดึงดูดความสนใจของทุกคน
"พวกเธอได้ยินเสียงไหม?"
"ได้ยิน"
"มีบัตรอยู่ในกล่อง
แล้วจะมีคนถามว่าบัตรใช้ทำอะไร?
เป็นคำถามที่ดี
คำตอบคือโควต้า"
ซู่ตงหยุดชั่วคราวแล้วพูดว่า "และก็ต้องมีคนถามว่าโควต้าคืออะไร? เป็นคำถามที่ดี
มีผู้ฝึกหัด 130 คนที่เข้าร่วมการฝึกอบรมพิเศษในครั้งนี้ และมีเพียง 10 คนเท่านั้นที่สามารถเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบได้
ในกล่องมีบัตรจำนวนหนึ่งร้อยสามสิบบัตร มีเพียงสิบบัตรเท่านั้นที่เขียนตัวเลขไว้ ที่เหลือว่างเปล่า
บัตรที่มีหมายเลขเขียนอยู่นั้นเป็นโควต้า ใครก็ตามที่ได้รับโควต้าโดยโชคดีก็จะเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของสำนักงานความมั่นคง "
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมาก็เกิดความโกลาหล
"มันไม่ง่ายเกินไปหรอ?"
"มันควรจะขึ้นอยู่กับความสามารถไม่ใช่หรอ?"
“ดูสิ เจ้าพวกนี้โง่สิ้นดี”
"ฉันยังพูดไม่จบ จะมากังวลอะไร? "
ทุกคนเงียบปากและรอฟัง
ซู่ตงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า จากนั้นมองลงไปที่พื้น สอดมือเข้าไปในกางเกงตัวใหญ่แล้วเกามัน
เกาเถิงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า: "CPU ของคุณเครืองร้อนงั้นเหรอ?"
ซู่ตงระเบิดเสียงหัวเราะออกมาด้วยความดีใจและยกนิ้วให้เถาเถิงท้ายที่สุดแล้ว เขาเป็นพี่ชายที่ดีของเขา และเขาก็เป็นคนพูดอย่างชัดเจนว่าให้ทำตัวสบายๆกับเขา
"เอาล่ะ มาต่อเถอะ ตอนนี้ CPU ของฉันเริ่มหายร้อนแล้ว" ซู่ตงระงับรอยยิ้มไว้และพูดต่อ "ผู้ที่ได้รับโควต้าจะต้องยอมรับการท้าทายห้าครั้ง หากแพ้ คงไม่จำเป็นต้องให้ฉันอธิบายใช่ไหม?"
ทุกคนพยักหน้าทีละคน มันยุติธรรมหากได้รับตำแหน่งตามความสามารถ
"อีกประการหนึ่ง หากล้มเหลวในการท้าทาย ก็จะถูกตัดสิทธิ์โดยสิ้นเชิง ดังนั้นต้องระมัดระวังก่อนที่จะท้าทาย"
"เกาเถิง นายมาสุ่มบัตรก่อน"
ซู่ตงพูด ความหมายนั้นเรียบง่ายมาก เขาต้องการให้เกาเถิงสุ่มบัตรที่ไม่มีหมายเลข เพื่อที่เขาจะได้มีโอกาสได้บัตรที่ไร้หมายเลข
หากนายบัตรที่มีหมายเลข นายจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงผู้ท้าทายที่แข็งแกร่งได้
ในความเห็นของเขา แม้จะมีพลังจิตและความสัมพันธ์หนึ่งร้อยเปอร์เซ็น แต่ร่างกายของเขาอ่อนแอและพลังงานของเขาไม่เพียงพอที่จะต่อสู้กับหลายคนในระยะยาวได้
น่าเสียดายที่เกาเถิงได้รับบัตรที่มีตัวเลข "6" ติดอยู่
จู่ๆ ใบหน้าของซู่ตงก็เศร้าใจ "มีบัตรตั้งมากมายขนาดนี้ ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าจะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้าย"
