ตอนที่แล้วตอนที่ 162 ความผันผวนครั้งใหญ่ กึ่งอมตะรวมตัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 164 ข่าวใหญ่

ตอนที่ 163 พริบตาเดียวกึ่งอมตะล้มลง! (ฟรี)


ตอนที่ 163 พริบตาเดียวกึ่งอมตะล้มลง!

ในเวลาไม่นาน กึ่งอมตะจากเผ่าต่างๆ จำนวน 20 คนก็มาถึงที่ๆ ซูหยางกำลังสร้างเมือง

คนเหล่านี้กำลังคุยกันอย่างสบายใจ

พวกเขาไม่ได้จริงจังกับซูหยางเลย ตราบใดที่พวกเขาลงมือ พวกเขาก็สามารถทำให้ผลึกกาแล็กซี่ระเบิดได้อย่างง่ายดาย

ในระหว่างการสนทนา ไม่มีความกังวลใดๆ ต่อกึ่งอมตะเผ่ามนุษย์ทั้งสองที่อยู่ในที่แห่งนี้

ความหมายนั้นชัดเจน

พวกข้าต้องการโจมตีเผ่ามนุษย์ของเจ้าอย่างเห็นได้ชัดล่ะ?

แล้วเจ้าสองคนจะหยุดพวกข้าได้ไหม?

กล้าหยุดพวกข้าหรือเปล่า?

ถานซ่าง และเฉิงฮุยต่างรู้สึกเศร้า และมีความคับแค้นใจอย่างยิ่ง

เมื่อไหร่ที่สถานการณ์ของเผ่ามนุษย์ตกต่ำมาถึงจุดนี้!

ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่กล้าลงมือ

แต่เมื่อมองไปรอบๆ มีกึ่งอมตะต่างเผ่ารวมตัวกันอยู่ที่นี่ถึง 20 คนจะสู้ยังไง?

พวกเขาคิดจะสู้สิบต่อหนึ่งจริงๆ หรือ?

นั้นคงจะทำไม่ได้

“เอาล่ะ ทุกคน ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาอีก มาทำผลึกกาแล็กซี่นี้ และเก็บเกี่ยวต้นกำเนิดกาแล็กซี่กันเถอะ”

"ใช่ ลงมือกันเลย!"

หลังจากทำความเข้าใจสถานการณ์แล้ว คนๆ หนึ่งก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา

กึ่งอมตะคนหนึ่งที่ได้รับครึ่งผลึกกาแล็กซี่จากกวงเทียนก็พยักหน้าเห็นด้วย

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่ากึ่งอมตะทั้ง 20 คนเต็มใจที่จะลงมือพร้อมกัน

แม้ว่าเผ่ามนุษย์จะสร้างเมืองอยู่ด้านล่าง แต่บางคนก็ไม่พร้อมที่จะลงมือ

ในบรรดากึ่งอมตะทั้ง 20 คนที่อยู่ที่นี่ ไม่นับรวมกึ่งอมตะเผ่ามนุษย์ สามส่วนมีเจตนาฆ่าต่อเผ่ามนุษย์ และต้องการปล้นชิงทรัพยากร

แต่อีกเจ็ดส่วนมาเพื่อรับผลประโยชน์ แต่ไม่อยากต่อสู้เสี่ยงชีวิต

ในเวลานี้ กึ่งอมตะหกคนจากยี่สิบคนมุ่งหน้าไปหาซูหยางเพื่อต้องการฆ่าเขา

ทักษะอันทรงพลังต่างๆ ถูกปลดปล่อยออกมาด้วยการโบกมือ

มันปกคลุมตัวซูหยาง และเมืองที่อยู่ด้านล่าง

เมื่อเห็นเช่นนั้น ซูหยางหรี่ตาลงเล็กน้อย

ในที่สุดก็ลงมือแล้วเรอะ?

เขาทอดตามองกึ่งอมตะหกคนที่กำลังเข้ามาใกล้ จากนั้นก็ปลดปล่อยเจตจำนงดาบที่ถูกยับยั้งเอาไว้ออกไป

ในเวลาเพียงชั่วพริบตา เจตจำนงดาบก็ฉีกทะลวงท้องฟ้า

พื้นที่ๆ ซูหยางอยู่สั่นสะเทือน และมวลอากาศแห่งความว่างเปล่าก็รั่วไหลออกมา แต่ก็ไม่มีผลใดๆ กับเขา

เจตจำนงดาบนี้บดขยี้การโจมตีจากกึ่งอมตะทั้งหกคนในทันที

ทักษะของกึ่งอมตะที่ทรงพลังอย่างท่วมท้นนั้นไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่ลมหายใจเดียวต่อหน้าเจตจำนงดาบของซูหยาง

เจตจำนงดาบอันกว้างใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากการปะทะเข้ากับทักษะเหล่านั้น และมุ่งหน้าต่อไป

ดาบอาบเลือด

หัวของทั้งหกคนกระเด็นขึ้นกลางอากาศ

อย่างไรก็ตาม จู่ๆ หัวหนึ่งก็หายไป พร้อมกับศพที่ไม่มีหัว มันสลายหายไปเมื่อไม่เคยอยู่ที่ตรงนี้มาก่อน

ซูหยางหรี่ตาลงเล็กน้อย ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะมีไพ่ตายช่วยชีวิตบางอย่าง

อย่างไรก็ตาม กึ่งอมตะอีก 5 คนที่มาพร้อมกันนั้นกลับไม่โชคดีเช่นนั้น

เจตจำนงดาบโหมกระหน่ำไปทั่ว และความว่างเปล่าในแดนหงซิงก็ถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ

เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น กึ่งอมตะอีก 14 คนที่มารวมตัวกันเพื่อดูการแสดงก็รีบหนีไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ

ดูเหมือนจะมีถ้อยคำหนึ่งที่สะท้อนอยู่ในความว่างเปล่า และสะท้อนในใจของทุกคน

“อมตะสวรรค์!”

ในพริบตาเดียว เหล่ากึ่งอมตะที่มารวมตัวอยู่ที่นี่ก็รีบพุ่งทะยานออกไปเพื่อหลบหนี

มีเพียงถานซ่าง และเฉิงฮุยเท่านั้นที่ยังคงอยู่

ในเวลานี้พวกเขาทั้งสองต่างตกตะลึง

เผ่ามนุษย์ของพวกเขา มีอมตะสวรรค์ที่น่าสะพรึงกลัวขนาดนี้เลยหรือ?

ไม่เปิดโอกาสใด เมื่อมีใครมาสร้างปัญหาก็ฆ่าในทันที?

แต่บอกได้เลยว่ามันรู้สึกดีจริงๆ!

เมื่อมองดูศพทั้งห้าที่ตกลงมา ทั้งสองก็รู้สึกสบายใจมากขึ้นกว่าเดิม

ส่วนจะมีปัญหาอะไรตามมาหรือไม่ พวกเขาไม่กลัว แม้จะรวบรวมผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก แต่ก็ยังยากที่จะสร้างปัญหาให้กับอมตะสวรรค์ได้

[ เจตจำนงแห่งสรรพชีวิต +3,220,000 ]

นี่คือ ผลการเก็บเกี่ยวที่ได้จากการสังหารกึ่งอมตะทั้งห้า

ซูหยางถอนเจตจำนงดาบที่กำลังทำลายล้างความว่างเปล่า และมองดูกล่มคนที่กำลังวิ่งหนีไป

"หนีเร็วจริงๆ"

เมื่อคิด แหวนมิติจากนิ้วของศพทั้งห้าก็มาถึงมือของซูหยาง

“ครึ่งผลึกกาแล็กซี่?”

ใช่ แค่การเปิดแหวนมิติวงแรก มันก็ทำให้ซูหยางประหลาดใจแล้ว

นอกจากนี้ยังทำให้ซูหยางรู้สึกยินดีที่ได้ค้นศพอีกครั้ง ซึ่งเขาไม่ได้รู้สึกเช่นนี้มานานแล้ว

เนื่องจากความแข็งแกร่งของเขาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลายสิ่งหลายอย่างจึงไม่มีประโยชน์อะไรกับตัวเขามากนัก

ดังนั้น โดยพื้นฐานแล้วเขาไม่เคยค้นศพเองเลย และมอบสิ่งเหล่านี้ให้เป็นหน้าที่ของกู่ซิ่ว

ด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย ซูหยางเปิดแหวนมิติเหล่านี้ทีละวง

สิ่งของต่างๆ ที่อยู่ข้างในก็ถูกแสดงต่อหน้าซูหยางทีละอย่าง

เขาได้รับต้นกำเนิดกาแล็กซี่ทั้งหมด 300,000 แต้ม ครึ่งผลึกต้นกำเนิด และของอื่นๆ

ยังมีแผนที่อยู่ในนั้นด้วย โดยมันได้บันทึกแหล่งทรัพยากรหลายแห่งที่ซ่อนอยู่ในเขตอันตราย

[ แหล่งทรัพยากรลับของเมืองซีหลิว ]

[ แหล่งทรัพยากรลับของเมืองอี่หวง ]

[ แหล่งทรัพยากรลับของเมืองลิ่วถุ่ย ]

[ แหล่งทรัพยากรลับของเมืองเถี่ยเจี่ย ]

[ แหล่งทรัพยากรลับของเมืองไป่หยุน ]

มีเมืองที่มีชื่อทั้งหมดห้าเมือง เมื่อซูหยางมองดูดีๆ เขาก็พบว่าทั้งห้าเมืองนี้ล้วนเป็นเมืองของเผ่าพันธุ์อื่น

จากสิ่งนี้ มันสามารถช่วยให้เขามีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับเมืองขนาดกลางทั้งห้าแห่งนี้

นี่ย่อมเป็นของดีอย่างแน่นอน

ตามที่คาดไว้ พันธมิตรของอีกฝ่ายไม่ได้รวมเป็นหนึ่งอย่างแท้จริง

ดูเผินๆ พวกเขาเป็นมิตรต่อกัน แต่จริงๆ แล้วพวกเขาต้องการเฉือนเนื้อของกันและกันออกมา

ซูหยางไม่รู้ว่ากึ่งอมตะเหล่านั้นชื่ออะไร แต่ชื่อของคนตายไม่ได้สำคัญอีกต่อไปแล้ว

เขาจึงแอบพูดกับตัวเองว่า ไม่ต้องกังวล ข้าจะช่วยพวกเจ้าทำในสิ่งที่พวกเจ้ายังทำไม่สำเร็จ

หลังจากคัดแยกสิ่งของต่างๆ ในแหวนมิติแล้ว

ซูหยางก็พอใจเป็นอย่างมาก

การเก็บเกี่ยวครั้งนี้ ทำให้เขาได้รับเจตจำนงแห่งสรรพชีวิตมากกว่าที่ต้องไปวิ่งเต้นในถ้ำสถิตมารเกือบทั้งวันเสียอีก

ตอนนี้ ถ้าเขาต้องการสร้างเมืองเพิ่ม เขาสามารถสร้างอีกสองเมืองได้อย่างง่ายดาย

แต่โดยธรรมชาติแล้ว เขาจะไม่เรื่องที่ไม่มีประโยชน์อะไรแบบนั้น

เขายังไม่รู้ว่าผลึกกาแล็กซี่นี้สามารถใช้ทำอะไรได้อีก แต่การเก็บไว้ก่อนก็ไม่เสียหายอะไร

ซูหยางเงยหน้าขึ้นมอง และสังเกตเห็นอีกสองคนที่ยังอยู่ที่นี่

เพียงแค่ถามพวกเขา เขาก็จะได้สิ่งที่ต้องการ

จากนั้น มีเสียงหนึ่งดังก้องอยู่ในหูของถานซ่าง และเฉิงฮุย

“สหายทั้งสอง มาคุยกันหน่อยดีหรือไม่”

เมื่อได้ยิน ทั้งสองมองหน้ากัน และรีบลงมาหาซูหยาง

“ถานซ่างคารวะผู้อาวุโส”

“เฉิงฮุ่ยคาวระผู้อาวุโส”

“ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น พวกเจ้าเรียกข้าว่าซูหยางก็ได้”

“ข้าอยากได้ข้อมูลบางอย่างจากพวกเจ้าทั้งสอง หวังว่าพวกเจ้าจะสามารถช่วยไขข้อสงสัยของข้าได้”

“ผู้อาวุโสซูเชิญกล่าว”

โดยธรรมชาติแล้ว พวกเขาทั้งสองคงไม่มีเจตนาที่จะปฏิเสธคำขอนี้

ซูหยางจึงถามถึงข้อสงสัยในใจของเขา

คำถามแรก ประโยชน์ของผลึกกาแล็กซี่

นอกจากการสร้างเมืองแล้ว สิ่งนี้ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีกมากมาย

ต้องใช้สิ่งนี้หากต้องการยกระดับจากโลกใบเล็กเป็นโลกใบใหญ่

มันยังถูกใช้เมื่อหลอมอาวุธ และต้องใช้ในค่ายกลระดับสูงอย่างบางด้วย

เมืองที่สร้างขึ้นในแดนหงซิง หากต้องการขยายก็ต้องใช้ผลึกกาแล็กซี่

สามารถใช้งานได้หลายอย่าง นั้นทำให้ผลึกกาแล็กซี่เป็นหนึ่งในทรัพยากรที่ใช้กันทั่วไปสำหรับกึ่งอมตะ หรือสูงกว่านั้น

คำถามที่สอง วิธีสร้างเมืองหมื่นดารา

สิ่งนี้จำเป็นต้องใช้หินมิติเป็นแกนหลัก จากนั้นจึงใช้ผลึกกาแล็กซี่เป็นตัวช่วยในการสร้างเมือง

คำถามที่สาม หากเขาทำลายเมืองของเผ่าพันธุ์อื่น มันจะกระตุ้นให้เกิดการโต้ตอบอย่างบ้าคลั่งจากอีกฝ่าย และเขาจะตกเป็นเป้าหมายของทุกเผ่าในพันธมิตรหรือไม่

นี่คือ สิ่งที่ซูหยางกังวลมากที่สุด

ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขาสามารถกวาดล้างเมืองขนาดเล็กได้ และแม้แต่เมืองขนาดกลางก็ไม่ได้เป็นปัญหา

แต่เนื่องจากเขาต้องพิจารณาถึงความเสี่ยงที่อีกฝ่ายอาจรวมตัวกันสู้กลับ เขาจึงยังไม่ได้ทำอะไร

“ผู้อาวุโสซู แม้ว่าเผ่าต่างๆ จะลงนามในสนธิสัญญาพันธมิตร แต่ผลกระทบก็อาจจะไม่มากนัก”

“แม้พวกเขาจะถือเป็นพันธมิตรกัน แต่การที่เรายังคงยืนหยัดอยู่ได้แสดงให้เห็นว่าเผ่าต่างๆ เหล่านี้ไม่สามารถรวมกันเป็นหนึ่งได้อย่างสมบูรณ์”

“อย่างมากที่สุด มันจะทำให้บางเผ่าซึ่งแต่เดิมเป็นศัตรูกับเผ่ามนุษย์เรามีปฏิกิริยาโต้ตอบรุนแรงมากยิ่งขึ้น”

“ส่วนบางเผ่าที่เป็นกลางก็จะต้องการใช้โอกาสนี้ดูดเลือดจากเผ่ามนุษย์เพื่อหาผลประโยชน์”

“ตราบใดที่ท่านแน่ใจว่าจะสามารถเผชิญหน้ากับการตอบโต้อันรุนแรงได้ ก็จะไม่มีปัญหาอะไร”

เมื่อได้ยิน ซูหยางก็จับประเด็นสำคัญได้ในทันที

“กล่าวก็คือ เผ่าที่เป็นศัตรูก็ยังมีเท่าเดิม แต่อาจมีซักสองสามเผ่าที่ละโมบใช้ข้ออ้างนี้เพื่อหาทางกอบโกยผลประโยชน์ และโจมตีเมืองมนุษย์ของเรา”

“ถูกต้อง แต่ท่านต้องจำไว้ว่าอย่าให้เกิดความเสียหายต่อหลายเผ่าพร้อมๆ กัน มิฉะนั้นพวกเขาอาจรวมตัวกันเพื่อทำการโต้ตอบ”

“อีกอย่างหนึ่งผู้อาวุโสเป็นอมตะสวรรค์ การปรากฏตัวของท่านย่อมดึงดูดความสนใจเป็นอย่างมาก”

ถานซ่างเปิดปากเพื่อเตือนซูหยาง

เขารู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นจากน้ำเสียงของซูหยาง

นี่คือ ความรู้สึกที่อยากจะลงมือกับเมืองของเผ่าศัตรู

ด้วยความแข็งแกร่งของซูหยางจะไม่มีปัญหาในการทำลายเมืองบางแห่ง

แต่ก็ปัญหาคือ หลายเผ่าก็มีอมตะสวรรค์อยู่ด้วย หากปัญหาลุกลามใหญ่โต ผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นก็จะออกมาเช่นกัน

พูดง่ายๆ ก็คือ ทำได้ แต่อย่ามากจนเกินไป

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด