ตอนที่แล้วChapter 1480 ยกระดับดาบหนานโชว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1482 พัฒนาจูซานหมายเลข 1

Chapter 1481 ใส่ร้ายรึ?


ที่ป่าเถี่ยมู่นั้นเขาไม่ได้สังหารจินเห่า ทำให้จุนซ่างเซียวหงุดหงิดเล็กน้อย ต้องไม่ลืมว่าอีกฝ่ายรู้สถานะของกู่เจ้าซี หากโถงพิภพรู้ จะต้องสร้างปัญหาอย่างแน่นอน.

อย่างไรก็ตาม.

ใครก็ไม่รู้ส่งกล่องผ้ามา ด้านในกับมีศีรษะของเจ้านั่นอย่างคาดไม่ถึง!

ใครสังหาร?

ทำไมถึงได้ส่งมาที่นี่?

จินเห่าตาย ไม่ได้ทำให้จุนซ่างเซียวดีใจ หนำซ้ำยังทำให้เขาตกใจด้วยซ้ำ เพราะได้กลิ่นถึงแผนการร้ายขึ้นมาแล้ว.

“สามี.”

หัวเหม่ยกุ้ยเอ่ย “ท่านรู้จักคนผู้นี้อย่างงั้นรึ?”

จุนซ่างเซียวพยักหน้า.

“สหาย?”

“ศัตรู.”

ใบหน้าหัวเหม่ยกุ้ยที่เผยความตกใจเอ่ยออกมาว่า“มีคนส่งศีรษะศัตรูมายังนิกายของพวกเรา หรือว่าเป็นสหายของท่านส่งมาอย่างงั้นรึ?”

“เกรงว่าจะมีใครกำลังวางแผนเล่นงานพวกเราอยู่นะสิ.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

จินเห่าเป็นคนของโถงพิภพ หากมีคนอื่นรู้เรื่องนี้เป็นปัญหาแน่ ต้องการให้ข้ากลายเป็นฆาตกร แล้วลงมือจัดการนิกายอย่างงั้นรึ?

“กล่องผ้านี้ใครส่งมา?”

“ครึ่งเดือนที่แล้ว ถูหนานลงเขาไปพบกล่องดังกล่าวที่เชิงเขาด้านล่าง.”

“ครึ่งเดือนที่แล้วรึ?”

จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา “คำนวณจากเวลา จินเห่าที่ต่อสู้กับข้าอยู่ เป็นไปได้ว่า...เจ้านั่นหนีไปแล้วถูกสังหารเลยอย่างงั้นรึ?”

“ซุนปู่กง!”

เขาที่ตะโกนออกไปเสียงดัง “นำศีรษะนี้ไปชันสูตร!”

ถึงคนตายจะพูดไม่ได้ แต่ฆาตกรควรจะทิ้งร่องรอยอะไรไว้.

“เจ้านิกาย!”

หลังจากตรวจสอบอย่างระเอียด ซุนปู่กงเอ่ยออกมาอย่างจริงจัง “ศีรษะนี้ถูกตัดด้วยอาวุธมีคม.”

“......”

เดี๋ยวลุกขึ้นไปถีบเลย.

ตรวจสอบตั้งนาน กับสรุปได้แค่นี้ หลายปีมานี้เรียนอะไรมากัน?”

“...”ซุนปู่กงที่เอ่ยต่อ“แต่สาเหตุการณ์ตายไม่ใช่เพราะว่าถูกตัดศีรษะ แต่ตายไปก่อนหน้านี้แล้ว.”

“เอ่ยต่อ.”

ซุนปู่กงเอ่ย “กล้ามเนื้อใบหน้าที่แข็งตัว ท่าทางเผยความไม่อยากเชื่อออกมา ศิษย์ขอคาดเดาว่ามือสังหารจะต้องเป็นคนที่รู้จักคุ้นเคยกันดี.”

นี่สิถึงจะเรียกว่าร่องรอย.

“คนคุ้ยเคย?”

จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา เอ่ยออกไปว่า“คงจะเป็นคนของโถงพิภพ?”

เกี่ยวกับข่าวของจินเห่านั้น เขาไม่รู้มากมายนัก รู้เพียงแค่อีกฝ่ายเป็นคนของโถงพิภพ หากมีคนคุ้นเคยสังหาร ก็ยากที่จะบอกหรือคาดเดาได้ว่าเป็นใคร.

“ถางจู่ลี่.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เก็บรวบรวมข้อมูลของคนผู้นี้ให้เร็วที่สุด.”

โกวเซิ่งต้องการสืบสวนเรื่องนี้ ไม่ใช่เพื่อทวงความยุติธรรมอะไรให้กับจินเห่า ทว่าต้องการรับรู้ตัวตนของมือสังหาร ว่ากำลังวางแผนเล่นงานนิกายนิรันดรของเขาหรือไม่?

......

ยอดเขากระดูกมังกร.

หลังจากที่เย่ซิงเฉินอาบน้ำเสร็จ ขณะกำลังเช็ดผมที่เปียกอยู่ เขาก็ฮัมเพลงเดินไปมาในห้อง.

ราชันย์รัตติการ เปลี่ยนไปแล้ว!

คาดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าฮัมเพลง.

“หืม?”

ทว่าขณะอยู่ในห้อง ใบหน้าของเขากลายเป็นแข็งค้าง เพราะว่าบนโต๊ะน้ำชามีกล่องผ้าที่งดงามวางอยู่.

มีกล่องมาวางเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

เขาที่ก้าวเดินเข้าไป เปิดกล่องดังกล่าวออก.

“ฟิ้ว!”

พริบตานั้น แสงสีทองที่เจิดจ้าส่องสว่างแสบตากระจายไปทั่วห้องทันที จนอาหนิวตาพล่าไปหมด.

......

จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่ในห้องหนังสือ กำลังครุ่นคิดถึงเรื่องศีรษะของจินเห่า หัวเหม่ยกุ้ยที่นั่งคิดอยู่ด้านข้าง ทั้งสองที่กลายเป็นเงียบ ดูเหมือนกับครอบครัวเดียวกันมากขึ้น.

“สามีกังวลว่า คนที่ส่งศีรษะมา กำลังวางแผนเล่นงานนิกายนิรันดรของพวกเราอย่างงั้นรึ?”

“ไม่ผิด.”

“หากเป็นเช่นนั้น ทำไมถึงใส่กล่อง? นำศพมาวางที่เชิงเขาจะไม่ดีกว่ารึ?”

ในความเห็นของหัวเหม่ยกุ้ย ไม่คิดว่าฝ่ายต้องข้ามีเจตนาร้าย เพราะอีกฝ่ายลอบส่งมา หากต้องการใส่ร้ายจริง ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว โถงพิภพควรที่จะตอบสนองอะไรแล้วไม่ใช่รึ?

“ใช่.”

จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางสงสัย “แปลกมาก.”

หัวเหม่ยกุ้ยเอ่ย “ในความเห็นของข้า ฝ่ายตรงข้ามส่งศีรษะของศัตรูมา ไม่ได้ต้องการใส่ร้าย แต่ว่า....”

“เจ้านิกาย!”

ในเวลานั้น หลี่ชิงหยางบนเทือกเขากระดูกมังกรส่งเสียงผ่านวิญญาณมา“ท่านมาดูนี่เร็วเข้า!”

“หืม?”

จุนซ่างเซียวที่เร่งรีบมายังที่พักของเย่ซิงเฉิน เวลานี้มีสีทองส่องสว่างเจิดจรัส เขาพบว่าบนโต๊ะน้ำชานั้นมีกล่องวางอยู่ ในนั้นมีเกราะรบทองคำบรรจุอยู่.

“นี่มัน....”

กู่เจ้าซีที่ตามมา เอ่ยด้วยความตกใจเช่นกัน.“เกราะรบจินเหยา!”

จุนซ่างเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา.

สิ่งนี้มันดูคล้ายเกราะรบของจินเห่าเป็นอย่างมาก.

ทำไมมาปรากฏในห้องศิษย์ของเขา กล่องผ้าที่ใส่ก็เหมือนกับกล่องที่ใส่ศีรษะของอีกฝ่ายมากด้วย!

“อาหนิว เกิดอะไรขึ้นอย่างงั้นรึ?”

“......”

อาหนิวที่งงงวยไปเลย ที่เจ้านิกายถามแบบนั้น ก่อนหน้านี้เขาคาดเดาว่า เป็นเจ้านิกายส่งเกราะมาให้เขาหรือไม่?

“เป็นคน ๆ เดียวที่ส่งศีรษะนั่นมาหรือไม่?”

หัวเหม่ยกุ้ยที่รู้สึกว่ากล่องผ้านั้นเหมือนกันเป็นอย่างมาก.

ด้วยคำพูดดังกล่าว จุนซ่างเซียวต้องขมวดคิ้วไปมา มีบางคนลอบเข้ามาภายในนิกาย โดยที่ผ่านค่ายกลคุ้มนิกายของเขาได้อย่างงั้นรึ?!

“สามี.”

หัวเหม่ยกุ้ยเอ่ย “ก่อนหน้าก็ส่งศีรษะของศัตรูมา ตอนนี้ยังส่งเกราะรบคุณภาพไม่ธรรมดามา เป็นไปได้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้คิดจะใส่ร้ายพวกเราหรอก.”

“มันก็ไม่แน่.”

จุนซ่างเซียวที่กล่าวอย่างระมัดระวัง “เกราะรบจินเหยาเป็นของเจ้าหัวทองนั่น ตอนนี้ส่งหัวและเกราะมาที่นี่ ไม่ใช่ต้องการบอกว่านิกายนิรันดรของพวกเราเกี่ยวข้องกับมือสังหารหรอกรึ?”

“ก็ใช่.”

หัวเหม่ยกุ้ยที่จมอยู่ในความคิด.

......

ศีรษะของจินเห่าและเกราะรบอีกฝ่ายมาอยู่ในนิกายนิรันดร ทำให้จุนซ่างเซียวไม่ค่อยสบอารมณ์นัก เพราะกังวลว่าจะมีคนจงใจใส่ความเขา เพื่อให้โถงพิภพเล็งเป้ามายังเขา.

อีกอย่าง

ค่ายกลคุ้มนิกายที่เขามั่นใจนักหนา กับไม่สามารถป้องกันศัตรูได้.

ในความเป็นจริง โถงพิภพที่รู้สึกห่อเหี่ยวเป็นอย่างมาก เพราะคนที่รับผิดชอบกู่เจ้าซีนั้นไม่มีข่าวคราวเลย ราวกับว่าอีกฝ่ายหายไปในอากาศ.

“ทุกท่าน.”

ในขณะที่กำลังประชุมอย่างเคร่งเครียด จักรพรรดินิหลิงเหยาก็ก้าวเข้ามาด้านใน เอ่ยออกไปว่า“ข้ามีเรื่องรายงาน.”

“เรื่องอะไร?”

เหล่าคนระดับสูงเอ่ยออกมาเล็กน้อย.

แม้นว่านางจะเป็นเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของโถงพิภพ ทว่าก็ไม่มีใครให้ค่านางเท่าใดนัก.

จักรพรรดินิหลิงเหยางเอ่ย “เกี่ยวกับการสืบสวน ราชาหมอกปิศาจที่ถูกปลดผนึกออกมานั้น ความจริงแล้วเป็นฝีมือของจินเห่าที่ลอบลงมืออย่างลับ ๆ.”

“อะไรนะ?”

เหล่าคนระดับสูงหลายคนที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

เกี่ยวกับป่าหมอกปิศาจ พวกเขาได้ยินมาเหมือนกัน เพราะว่านิกายนิรันดรเป็นคนทำลายไป ดังนั้นพวกเขาจึงไม่คิดจะสอบสวนแต่อย่างใด.

“เมื่อไม่นานมานี้.”

จักรพรรดินิหลิงเหยางเอ่ย “ราชาอสูรที่ป่าเถี่ยมู่ ก็ถูกปลดผนึกออกมาโดยเขาเช่นกัน.”

“......”

เหล่าชายชราหลายคนที่กลายเป็นเงียบ แววตาที่เผยความโกรธออกมา.

เหล่าเขตแดนต้องห้ามหลายแห่งเป็นโถงพิภพได้ผนึกราชาอสูรเอาไว้ เป้าหมายก็เพื่อไว้เป็นสถานที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ของผู้ฝึกยุทธ์ระดับต่ำ ท้ายที่สุดคนของเขากับไปปลดผนึกสะเอง เรื่องนี้เป็นการทำผิดอย่างร้ายแรง.

จักรพรรดินิหลิงเหยางเอ่ย “ทุกแห่งที่จินเห่าปลดผนึกราชาอสูรออกมา ล้วนแต่เป็นสถานที่เจ้านิกายและศิษย์นิกายนิรันดรออกไปเก็บประสบการณ์.”

“เห็นชัดเจน.”

“เขาต้องการใช้แผนการยืมมีดฆ่าคน.”

“......”

ทุกคนที่กลายเป็นเงียบไปในทันที.

จินเห่าที่บาดเจ็บต้องฟื้นฟูถึงสองปี เพราะจุนซ่างเซียว เรื่องความแค้นของทั้งสอง พวกเขารู้ดี แต่ถึงกับทำลายกฎหมายเลยอย่างงั้นรึ?

“หากเรื่องราชาอสูรที่ถูกผนึกถูกปลดโดยคนของโถงพิภพ คนทั่วโลกจะคิดอย่างไร? หากเจ้านิกายนิรันดรเกิดได้รับอันตราย แล้วเจิ้นเหรินตงกู่ตงกู่จะอยู่เฉยได้รึ?”จักรพรรดินิหลิงเหยาเอ่ย.

“......”

เหล่าคนระดับสูงที่ขมวดคิ้วแน่น.

“สมองของจินเห่าถูกลาดีดรึไงกัน ถึงได้กล้าปลดค่ายกลผนึกราชาอสูรโดยไม่ได้รับอนุญาต!”

“รีบเรียกเขากลับมา แล้วลงโทษตามกฎ!”

“เจ้าเด็กนั่นไม่ได้ข่าวเลย บางทีคงรู้ว่าเรื่องนี้ถูกเผยแล้ว เลยฉวยโอกาสซ่อนตัวหรือไม่?”

ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน จักรพรรดินิหลิงเหยาที่เสนอความคิดขึ้นมา“ในความเห็นของข้า บางทีจินเห่าอาจจะไม่ได้เล็งไปที่จุนซ่างเซียวก็ได้ อาจจะเล็งไปยังโถงพิภพและเจิ้นเหรินตงกู่ให้เกิดความขัดแย้งกัน.”

จุนซ่างเซียวที่กังวลว่ามีคนกำลังใส่ร้ายเขาหรือไม่เพราะศีรษะของจินเห่าถูกส่งมายังนิกายนิรันดร เขาที่เป็นกังวลว่าศัตรูจะมีเป้าหมายบางอย่าง ทว่าหากจินเห่าพูดได้อีกครั้ง คงบอกว่า“ใส่ร้ายเจ้าที่ใหนใส่ร้ายข้าต่างหาก ตอนนี้ข้าพูดไม่ได้เลยกลายเป็นแพะไปไง.”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด