ตอนที่แล้วChapter 1464 เหตุการณ์สำคัญ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1466 พลังแห่งวิทยาศาสตร์

Chapter 1465 จุนซ่างเซียว เจียนตาย


เหยาเมิ่งหยิงที่นั่งบนบัลลังก์ ปราณมารที่หนาแน่นทำให้พลังของนางพุ่งทะยานไปถึงแปดแกนหมุนเหมือนกับกู่เจ้าซี เป็นพลังที่หลั่งไหลเข้ามาเองโดยที่ไม่สามารถต้านได้.

จุนซ่างเซียวที่แหวกปราณมารที่มากล้นเข้าไปทันทีโดยที่ปราณมารไม่สามารถทำอะไรเขาได้.

อย่างไรก็ตาม ที่เขายังคงอยู่รอดได้ เพราะว่าภายในร่างกายมีเสี่ยวเซี่ยและเสี่ยวฮั่วคอยหลอมกลั่น ทำให้พลังดังกล่าวบริสุทธ์.

กล่าวให้ถูกต้อง ขณะที่เหยาเมิ่งหยิงนั่งอยู่บนบัลลังก์นางที่เป็นตัวกระตุ้นให้บรรพชนมารคืนชีพ โกวเซิ่งก็พุ่งเข้าไปโดยไม่คิดอะไรทั้งนั้น ความคิดแรกคือดึงเธอออกมา.

ถือว่าประสบความสำเร็จ!

ดึงนางออกมาจากบัลลังก์กอดนางไว้ในอ้อมกอด.

ทว่า...ขณะจะพานางหนีออกมา พลังดูดที่รุนแรง ก็ดึงเขาให้นั่งลง.

“ฟู่ ฟู่!”

บอลโลหิต ที่มีโลหิตของมารที่กำลังส่งเสียงร้องโหยหวน กำลังไหลอาบไล้ไปทั่วร่างของจุนซ่างเซียวและเหยาเมิ่งหยิง บอลโลหิตมารที่ไม่มีใครสามารถสัมผัสได้.

จบ จบสิ้นแล้ว!

กู้เจ้าซีและศิษย์ของเขาตื่นตะลึงตกใจเป็นอย่างมาก.

แม้นว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทว่าบอลโลหิตที่มีปราณมารหนาแน่นนั่น ทรงพลังน่าพรั่นพรึงมาก เจ้านิกายไม่ใช่ผู้ฝึกตนมาร ยากที่จะทนได้ และอาจตกตายก็ได้.

“อ๊ากกก!”

“อ๊ากกก!”

เสียงร้องเจ็บปวดทรมานดังก้องไปทั้งตำหนัก เสียงที่ทำให้ทุกคนขนลุกตาม.

“เจ้านิกาย!”

หลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆ ที่ถูกกักกันจากปราณมาร ไม่สามารถเข้าใกล้ได้ ทำได้แค่มองอย่างช่วยไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ร้องโอดครวญในใจ.

“พี่ชาย!”

กู่เจ้าซีที่กำหมัดแน่น ตะโกนเสียงดัง “ข้าจะดูแลศิษย์และนิกายนิรันดรของท่านเป็นอย่างดี ข้าจะสืบทอดเจตนารมณ์ของท่านอย่างแน่นอน!”

เหล่าศิษย์แทบกระอักโลหิต.

เจ้านิกายกำลังแย่แล้ว ซิซูกับเตรียมจัดงานศพให้แล้ว?

กล่าวไปแล้วก็ถือว่าแปลก.

จุนซ่างเซียวในบอลโลหิตร้องโอดโอยเจ็บปวดทรมาน ด้านข้างเหยาเมิ่งหยิงกับไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมาเลย แม้แต่ใบหน้าเผยท่าทางผ่อนคลายสบายอีกด้วย.

จากสถานการณ์ดังกล่าว.

บัลลังก์นี้มีเพื่อคืนชีพบรรพชนมาร ร่างสถิตนั้นจะถูกหล่อเลี้ยงด้วยโลหิตและวิญญาณฉีดเข้าไป.

เหยาเมิ่งหยิงที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ตรงเงื่อนไขทำให้ร่างกายของนางเหมือนกับถูกบำรุง.

แตกต่างจากจุนซ่างเซียวที่เข้าไป กำลังถูกต่อต้านอย่างหนัก.

กล่าวได้ว่าโกวเซิ่งนั้นถูกปราณมารที่ที่อัดฉีดเข้าร่างกาย กำลังได้รับความเสียหาย.

เจ้านิกายที่ได้รับความเสียหาย.

เพื่อให้ศิษย์ได้รับประโยชน์.

เป็นการกระทำที่น่าซาบซึ้งอย่างแท้จริง!

“อ๊ากกก!”

“อ๊ากกก!”

ปราณมารที่ทะลักเข้าไปในร่าง หลอมเข้ากับภูตเพลิงและภูตปิศาจ สร้างความเจ็บปวดให้กับจุนซ่างเซียวเป็นอย่างมาก.

ปราณมารอันบ้าคลั่งนั้น ทำให้เส้นโลหิตทั่วร่างโป่งพอง.

เสี่ยวเซี่ยและเสี่ยวฮั่วไม่ได้ว่างเว้นเช่นกัน พวกเขาที่คอยปกป้องส่วนสำคัญเอาไว้ไม่หยุด เพราะปริมาณปราณมารมากมายเกินไป ไม่สามารถที่จะกลั่นกรองได้ทั้งหมด.

ฝั่งเหยาเมิ่งหยิง ปราณมารที่บำรุงทุกส่วน ร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้นทว่าจิตสำนึกของนางก็ค่อย ๆ หายไป.

“ถึงจะทำให้ข้าตกใจเล็กน้อย.”

“ทว่าเมื่อผู้ฝึกยุทธ์นอกคอกนี้ตกตายไป ข้าก็สามารถใช้ร่างเด็กสาวผู้นี้ คืนชีพกลับมาเหมือนกาลก่อนได้.”

เสียงที่ดังก้องไปทั่วห้อง เปื้อนไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้นดีใจ.

ที่เรียกว่าคืนชีพ เขาได้รวบรวมโลหิตและวิญญาณผู้ฝึกยุทธ์มารมากมายมา เพื่อที่จะค้นหาร่างกายที่เหมาะที่สุด การที่จุนซ่างเซียวปรากฏขึ้น แม้นว่าจะผิดแผนสักเล็กน้อย ทว่าก็ไม่มีอะไรต้องห่วง หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ.

“เจ้านิกาย!”

หลี่ชิงหยางและพวกเซี่ยจุ้ยจื่อเอ่ยด้วยความเจ็บปวด.

พวกเขาสามารถมองผ่านบอลโลหิตเข้าไปได้ เห็นใบหน้าของจุนซ่างเซียวที่เจ็บปวดทรมานเป็นอย่างมาก!

“100,000 ปี.”

“เมื่อข้าจุติกลับมา ข้าจะทำให้ทั้งโลกสั่นสะเทือนอีกครั้ง!”

เสียงของบรรพชนมารที่ก้องทั้งตำหนัก ราวกับบ่งบอกว่านี่คือตัวร้ายที่มักจะตายตอนจบ.

กล่าวตามจริง.

เหล่าตัวร้าย มักจะพล่ามอะไรมากมาย แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาทุกครั้งก็มักจะแตกต่างออกไปทุกที.

......

“วูซซซซ!”

“วูซซซซ!”

ที่ด้านนอกโลก ประตูโลหะขนาดใหญ่ ขณะที่จุนซ่างเซียวกำลังอดทนต่อปราณมาร ริ้วแสงลวดลายบนประตูส่องแสงมากขึ้นเรื่อย ๆ เหล่ากลุ่มยอดฝีมือต่างก็เผยท่าทางจริงจังมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน.

“ศิษย์!”

เจิ้นเหรินตงกู่ทีเผยท่าทางกังวล“เจ้าจะต้องรอด ไม่เช่นนั้นใครจะไปประลองในสัญญาสิบปีข้าล่ะ!”

“เฮ้อ.”

เจิ้นเหรินฉีเยว่ส่ายหน้าไปมา “บรรพชนมารคืนชีพ ไม่ว่าใครที่เข้าไป คงมีแต่ต้องสังเวยร่างและวิญญาณเท่านั้น.”

“เจ้าจะไม่พูดอะไร ก็ไม่มีใครว่า!”เจิ้นเหรินตงกู่เอ่ยด้วยความหงุดหงิด.

“ฟู่ ฟู่!”

“ฟู่ ฟู่ ซูมมมม!”

ในเวลานั้น ประตูมารที่ทวีปราณมารที่แข็งแกร่งออกมา ทำให้เหล่ายอดฝีมือตระหนักได้ว่าบรรพชนมารใกล้จะคืนชีพแล้ว ทั่วทั้งพิภพเบื้องบนเกรงว่าจะพบเข้ากับหายนะแล้ว!

“อ๊ากกก!”

“อ๊ากกก!”

ภายในตำหนัก จุนซ่างเซียวยังคงร้องเจ็บปวดทรมาน.

วิญญาณ ชีพจร เลือดเนื้อกำลังถูกปราณมารกัดกร่อน แม้นว่าจะเป็นการกลั่นร่างอย่างหนึ่ง ทว่าก็พร้อมที่จะทำให้จิตใจของอีกเขาพังทลายลงได้เช่นกัน!

“ท่านพ่อ!”

“ทนเอาไว้!”

เสี่ยวเซี่ยและเสี่ยวฮัวที่ตะโกนอยู่ด้านใน.

ปราณมารที่มากมายบ้าคลั่ง เมื่อไหร่ที่จิตใจจุนซ่างเซียวพังทลาย เกรงว่าจะต้องตกตายอย่างแน่นอน.

.

โกวเซิ่งที่ราวกับพบเข้ากับภาพหลอน จ้องมองไปกลุ่มคนที่เหมือนเทพยาดายืนเรียงแถวรออยู่ พร้อมกับเผยยิ้มให้ “น้องชาย พวกเราพบกันแล้ว.”

“ไม่ตาย!”

“ข้าต้องไม่ตาย!”

“ข้ายังต้องพัฒนานิกาย ข้าจะต้องกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด!”

“อ๊ากกกกก!”

ปราณมารที่หนาแน่นขึ้นอีกขั้น จุนซ่างเซียวที่ร้องตะโกนลั่น ดวงตาที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ราวกับว่ากำลังตกอยู่ในความบ้าคลั่งไร้สติแล้ว.

“ฟิ้ว!”

ในเวลานั้น ห้วงมิติที่สั่นไหว รูปปั้นในแหวนมิติของเขาได้ปรากฏออกมาเอง พร้อมกับเปลี่ยนเป็นผงฝุ่นอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็รวมเข้ามาชโลมผสานเข้าไปในร่างกายของโกวเซิ่งอย่างรวดเร็ว.

“ซูมมมมมม!”

พริบตานั้น จุนซ่างเซียวที่ราวกับจะเปลี่ยนร่างไปเป็นเหมือนกับอสุรกายคล้ายกับรูปปั้น ปีกที่ปรากฏขึ้นด้วยหลังยกขึ้นปกคลุมตัวเขาและเหยาเมิ่งหยิงเอาไว้.

“เย็ดเข้!”

กู่เจ้าซีที่จ้องมองแล้วตื่นตกใจ“พี่ชายมีสายโลหิตเผ่าศิลาอย่างงั้นรึ?”

“อ๊ากกกกก!”

จุนซ่างเซียวยังคงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดทรมาน ดวงตาที่กลายเป็นสีแดงโลหิต ฟันของเขาที่ค่อย ๆ งอก แหลมขึ้น เริ่มเหมือนกับอสุรกายรูปปั้นขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะพลังมารที่แผ่ปกคลุมร่างกาย ที่เริ่มไม่เหมือนกับมนุษย์ไปแล้ว!

“บางทีเพราะว่าปราณมารกัดกร่อน เลยกระตุ้นสายโลหิตเผ่าศิลาของพี่ชายให้ตื่นขึ้นมาอย่างงั้นรึ?”กู่เจ้าซีเอ่ยด้วยความตกใจ.”

สามเผ่าของกลุ่มชาติพันธ์ที่แข็งแกร่งที่สุด เผ่าศิลานั้นลึกลับเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหลังจากสายโลหิตตื่นขึ้นมาแล้ว ทุกส่วนของร่างกายนั้นจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างบ้าคลั่งสามารถใช้แทนอาวุธต่อสู้ได้เลย.

“แท้จริงแล้วเป็นลูกหลานเผ่าศิลานี่เอง ไม่แปลกใจเลยว่าทนได้นานขนาดนี้ แต่ว่า.....ปราณมารของเผ่าโม่หวังของข้า สามารถปลุกสายโลหิตของกลุ่มชาติพันธ์ได้ด้วยรึ?”บรรพชนมารที่เผยท่าทางสงสัยเช่นกัน.

“เฮ้อ.”

ในเวลานั้น เสียงถอนหายใจที่ดังก้องไปทั่วตำหนัก.

“ใคร?!”

บรรพชนมารที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

กู่เจ้าซี และพวกหลี่ชิงหยางก็ได้ยินเช่นกัน ทว่าก็ไม่พบว่าในตำหนักจะมีใครอีกแล้ว ได้แต่ลอบคิดในใจ“ยังมีใครอยู่อีกงั้นรึ?”

“ฟู่ ฟู่!”

“ฟู่ ฟู่ ซูมมมมม!”

ในเวลานั้น กลิ่นอายที่ไร้สิ้นสุดปรากฏขึ้นในอากาศ พร้อมกับปกคลุมร่างของจุนซ่างเซียวในทันที.

ในเวลานั้น ในบอลโลหิตชั้นแรกเป็นปราณมาร ชั้นสองเป็นรูปลักษณ์ของรูปปั้นศิลา ชั้นที่สามมีพลังที่พิเศษอีกอย่างที่ปกคลุมร่างโกวเซิ่งเอาไว้.

ภายใต้พลังที่แปลกประหลาดอย่างที่สามที่ปรากฏขึ้น ปราณมารและพลังรูปปั้นศิลาก็ถูกสะกดเอาไว้ทันที ก่อนที่จะได้ยินเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น“ผลาญแต้มสนับสนุนทั้งหมด ผลาญแต้มความสำเร็จทั้งหมด ผลาญแต้มชื่อเสียงทั้งหมด เพื่อคลายวิกฤติ.”

“ใช่.”

คนที่ตอบรับไม่ใช่จุนซ่างเซียว แต่เป็นระบบผู้ช่วย!

“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุน: 0.”

“ติ๊ง! คะแนนความสำเร็จ: 0.”

“ติ๊ง! คะแนนชื่อเสียง : 0.”

แต้มทั้งหมดที่เคยได้รับ หายเกลี้ยงในบัดดล.

“ติ๊ง! โหมดคลายวิกฤติเปิดใช้งาน!”

“ฟู่ ฟู่!”

พริบตานั้น ภายในร่างของจุนซ่างเซียวที่มีพลังคุณสมบัติที่ไร้เทียมทานปรากฏขึ้นมา มันกลืนกินปราณมารและปราณรูปปั้นศิลาอย่างบ้าคลั่ง ทำให้เสี่ยวฮั่วและเสี่ยวเซี่ยดวงตาเบิกกว้างกลมโต “นี่มันพลังอะไรกันนี่!”

ระบบที่กล่าวอย่างภาคภูมิกับตัวเอง “พลังวิทยาศาสตร์ไงล่ะ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด