ตอนที่แล้วChapter 1454 แดนโม่หยวนปรากฏ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1456 สร้างสถานการณ์เพื่อปล้น

Chapter 1455 พี่ชายของข้าช่างใจดีนัก


ทำไมเหล่าชายร่างใหญ่ถึงได้มาขวางทาง?

เพราะว่า พวกเขากำลังต่อสู้กับอีกกลุ่ม เพื่อไม่ให้คนอื่นรบกวน จึงได้ปิดถนนเอาไว้นั่นเอง.

จุนซ่างเซียวนั้นไม่ต้องการเป็นจุดเด่น จึงไม่ต้องการสร้างปัญหา เขาที่เลือกจะหลีกทางเช่นกัน ทว่ากู่เจ้าซีกับไม่ยอม.

ต่อหน้าพี่ชายข้า กล้าพูดหยาบคาย มันต้องทุบ!

ด้วยเหตุนี้ เหล่าชายร่างใหญ่ที่ขวางทางเอาไว้ จึงกระเด็นลอยออกไป จากนั้นก็มีพวกที่สู้กันอยู่หลายสิบคนวิ่งกรูกันเข้ามา จากนั้นถูกทุบหมดสภาพไปเหมือนกัน นอกจากนี้เขายังไปนั่งบนกองคนเหล่านั้น พร้อมนำบุหรี่ออกมาสูบพ่นควันโขมง เอ่ยออกมาว่า“พี่ชาย ผ่านไปได้แล้ว.”

“......”

มุมปากจุนซ่างเซียวที่กระตุก.

น้องชายข้าสมกับเป็นกบฏ ที่ต้องปะทะกับโถงพิภพ เพราะอารมณ์ร้อนเช่นนี้นะเอง!

กลุ่มคนที่ปิดถนนเพื่อสู้กันเอง ตอนนี้ถูกกู่เจ้าซีทุบหมดสภาพทั้งสองกลุ่ม เหล่าชาวยุทธ์รอบ ๆ ที่จ้องมองด้วยแววตาหวาดกลัวขึ้นมาทันที.

“เจ้านั่นเป็นใครกัน?”

“เพียงไม่กี่หมัด ก็จัดการคนจำนวนมากหมดสภาพแล้ว!”

“คนของนิกายฮุ่นซือเสวียนและนิกายจี่หยวนเสวียนถูกทำร้ายแบบนี้ พวกเขาไม่ยอมอย่างแน่นอน.”

“ดูเหมือนว่ากำลังจะมีเรื่องสนุกแล้ว!”

เขตแดนโม่หยวนยังต้องใช้เวลาสักพักถึงจะเปิด ดังนั้นในเมืองโม่หยวนจึงมีผู้ฝึกยุทธ์มากมาย แน่นอนว่าช่วงรอย่อมมีคนต้องการชมเรื่องสนุก ๆ แก้เบื่อ.

จากนั้นไม่นาน การแสดงดี ๆ กำลังจะปรากฏขึ้นแล้ว!

กองกำลังของนิกายฮุ่นซือเสวียนและนิกายจี่หยวนเสวียนปรากฏขึ้นที่ถนนหลัก ด้วยใบหน้าเคร่งขรึมหยุดที่ด้านหน้าโรงแรมที่พัก.

สองนิกายมาร ที่เป็นศัตรูคู่แค้นกันมาก่อน กับมาร่วมมือกัน.

เหมือนกับนิกายอี้เจี้ยนเสวียนและหลิงเต้าเสวียนที่เป็นดั่งน้ำกับไฟ.

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้พวกเขาได้วางความแค้นไว้ก่อน เพราะมีเป้าหมายร่วมกัน.

ดังนั้น.

นิกายที่ไม่เป็นมิตร จึงจับมือชั่วคราวเพื่อจัดการกับนิกายนิรันดร.

“ใครมันกล้าทำร้ายคนนิกายข้าเมื่อครู่ ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี่!”ชายวัยกลางคนของนิกายฮุ่นซือเสวียนที่ตะโกนเสียงดังสนั่นออกไป.

“ระดับหมุนแกน!”

“ปัญหาเริ่มใหญ่แล้ว พวกเรารีบถอยออกมาให้ห่างเร็วเข้า!”

เหล่าคนที่ผ่านไปมาต้องการมาชมความสนุก ต้องเร่งรีบถอยออกมาให้ไกล ใกล้ ๆ ถนนเส้นทางดังไม่มีใครเหลืออยู่ บรรยากาศที่กลายเป็นอึมครึมทันที.

“กึก ซี่!”

ในเวลานั้น ประตูด้านหน้าของโรงแรมที่ปิดสนิท ก็ถูกเปิดออกมา.

“กึก!”

“กึก!”

หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อพวกห้าคนที่สวมชุดสีดำก้าวออกมา.

“ซูมมมมมมม!”

กลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรงแผ่ออกมาปกคลุมทั่วถนน ใบหน้าและฝุ่นที่โบกพัดเหมือนกับพายุหมุนปรากฏขึ้น.

ถนนที่เปิดออก ห้าคนต่อฝ่ายตรงข้ามนับร้อย น่าเสียดาย ลี่ซ่างเทียนไม่อยู่ ไม่เช่นนั้นคงมีคนเก็บภาพเอาไว้ใส่กรอบไปวางที่โถงรูปภาพแน่.

“ชิ.”

ผู้ฝึกยุทธ์ทั้งสองนิกายแค่นเสียงดูแคลนออกมาทันที.

“อาวุโส!”

ผู้ฝีกยุทธ์คนหนึ่งเอ่ย “คนที่ทำร้ายพวกเราไม่ใช่เขา แต่เป็นเด็กหนุ่ม 12-13 ปี!”

ชายวัยกลางคนเอ่ยออกมาเล็กน้อย “รีบส่งผู้ทำความผิดมาซะ ไม่เช่นนั้น....”แวววตาของพวกเขาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร “พวกเจ้าจะต้องตายที่นี่ทั้งหมด!”

“.”

บนชั้นสองเสียงของจุนซ่างเซียวที่ดังขึ้น“วาจาใหญ่โตจริง ๆ.”

กู่เจ้าซี่เป็นตัวสร้างปัญหาแน่นอน ทว่าอย่าลืมว่าโกวเซิ่งเองก็เป็นอีกหนึ่งตัวสร้างปัญหาเช่นกัน ในเมื่อมีปัญหากับสองนิกายแล้ว เขาย่อมไม่คิดที่จะเก็บเนื้อเก็บตัวอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงเอ่ยกล่าวอย่างเกียจคร้าน “รีบจัดการแมงหวี่แมงวันไปให้หมดซะ.”

“รับทราบ!”

พวกหลี่ชิงหยางที่กล่าวตอบรับ จากนั้นก็สลัดผ้าคลุมออกมา เผยให้เห็นชัดฟอร์มนิกายที่มีอักขระ“นิรันดร”ปักอยู่.

นิรันดร?

ใครบางคนที่อุทานออกมา “นิกายนิรันดร!”

“เจ้านิกายนิรันดรที่เป็นลูกศิษย์สายตรงของเจิ้นเหรินตงกู่นะรึ?”

“ไม่ผิด!”

“เย็ดเข้ คนใหญ่คนโตนี่หนา!”

เมื่อหนึ่งคนบรรลุเซียน หมูหมากาไก่รอบตัวต่างขึ้นสวรรค์ไปด้วย โกวเซิ่งมีอาจารย์ที่ร้ายกาจมาก ทำให้สถานะของเขานั้นสูงขึ้นไปด้วย.

เมื่อคนของนิกายฮุ่นซือเสวียนและนิกายจี่หยวนเสวียน รู้สถานะของคนทั้งห้า แววตาที่เผยความหวาดหวั่นขึ้นมาทันที พร้อมกับร้องโอดครวญ “จบกัน เตะเข้ากับแผ่นเหล็กแล้ว!”

แม้แต่นิกายหลิงเหว่ยเจิ้นยังไม่กล้ายั่วยุเจิ้นเหรินตงกู่ พวกเขาเพียงแค่นิกายมารขั้นเสวียน เมื่อเห็นชุดของอีกฝ่าย พวกเขาถึงกับชะงักงัน กลายเป็นขาดเขลาขึ้นมาทันที.

ทำอย่างไร?

“ฟู่ ฟู่!”

ในขณะกำลังครุ่นคิด เย่ซิงเฉินก็พุ่งออกไปแล้ว พลังหนึ่งแกนหมุนที่ระเบิดออกมา เข้าโจมตีสองอาวุโสที่นำมาทันที.

“ตูมมม!”

“ตูมมม!”

“ตูมมม!”

การต่อสู้ในเมืองที่เริ่มขึ้นแล้ว.

......

หลังจากผ่านไปสิบนาที.

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ปิศาจนับร้อยที่นอนกุมท้องร้องโอดโอย กลิ้งไปมาบนพื้นแม้แต่มีบางคนแกล้งตายไปด้วย.

หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อ คนทั้งห้าที่ราวกับอสุรกายจากขุมนรก.

“ดุร้าย!”

“อมหิตนัก!”

เหล่าผู้ชมที่ซ่อนอยู่ไกล ๆ หัวใจสั่นไหวหวาดกลัว.

เหล่าประจักพยาน ที่สามารถบรรยาย การต่อสู้ครั้งนี้ได้ คือ การไล่ทุบฝ่ายตรงข้ามเพียงฝ่ายเดียว!

“กึก.”

จุนซ่างเซียวที่ก้าวออกมาจากโรงแรม ไปนั่งบนเก้าอี้ ซึ่งเซียวจุ้ยจื่อได้เตรียมเอาไว้ก่อนแล้ว เอ่ยออกมาว่า“จับเอาไว้ให้หมด แล้วให้นิกายทั้งสองหาเงินมาไถ่ตัว.”

“รับทราบ!”

พวกหลี่ชิงหยางที่จับคน 110 คนมัดเอาไว้ และเอาไปขังไว้ในคอกม้า เก็บแหวนมิติทุกคนไว้ก่อนแล้ว การกระทำของพวกเขาดูเป็นมืออาชีพเป็นอย่างมาก!

“พี่ชาย.”

กู่เจ้าซีเอ่ย “หากเปลี่ยนเป็นข้า จะต้องสังหารพวกมันให้หมดแน่.”

จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา “ทุก ๆ คนต่างก็มีญาติพี่น้อง เพื่อที่จะไม่สร้างความอาฆาตโดยไม่จำเป็น บางครั้งก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องสังหาร.”

“ทราบแล้ว.”

กู่เจ้าซีที่เอ่ยในใจ “พี่ชายของข้าช่างใจดีนัก.”

......

เพราะว่าต่อสู้กันบนถนนสร้างความเดือนร้อน ก่อนที่คนของนิกายฮุ่นซือเสวียนและนิกายจี่หยวนเสวียนจะถูกเด็กทุบตี จากนั้นก็ถูกศิษย์ห้าคนนิกายนิรันดรทำร้ายอีก กลายเป็นที่พูดคุยกันไปทั้งเมืองทันที.

“ฮ่าฮ่าฮ่า สองนิกายมารนั่นเตะเข้าไปยังแผ่นเหล็กแล้ว!”

“ข้าได้ยินว่าชายหนุ่มที่นั่งบนเก้าอี้คือเจ้านิกายนิรันดรจุนซ่างเซียว!”

“นี่ยังหนุ่มขนาดนี้เลย!”

“ศิษย์สายตรงอาวุโสตงกู่ แม้แต่โถงพิภพยังไม่กล้าหาเรื่อง!”

“บอกคนของพวกเราด้วย ให้ระวังตัว อย่าได้ไปเรื่องคนที่สวมชุดสีดำที่ไม่รู้สถานะ เดี๋ยวเตะเข้ากับแผ่นเหล็กอีก!”

ขณะผู้คนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น คนของนิกายฮุ่นซือเสวียนและนิกายจี่หยวนเสวียนก็มาถึงโรงแรม เตรียมทรัพยากรมาไถ่ตัวคนของพวกเขา.

“ทุกท่าน.”

“จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่หน้าโรงแรม เอ่ยออกมาว่า”คนล่ะหนึ่งแสนศิลาเสวียน.”

“หะ?”

คนระดับสูงทั้งสองนิกายถึงกับผวาไปเลย.

กู่เจ้าซีที่ยืนขึ้นตื่นตะลึงขึ้นมาเช่นกัน.

คนล่ะหนึ่งแสน ร้อยคนไม่ใช่สิบล้านหรอกรึ?

โอ้วสวรรค์ พี่ชายของข้าอมหิตจริง ๆ!

“แน่นอน.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เงินเหล่านี้อาจจะดูเหมือนมาก แต่ก็ดูเหมือนน้อยเช่นกัน เขตแดนโม่หยวนกำลังจะเปิดแล้ว คนของพวกเจ้าแต่ละคนย่อมมีโอกาสที่จะได้รับสมบัติกลับมามากมาย.”

“.....”

คนระดับสูงของสองนิกายที่ใบหน้าบิดเบี้ยว.

จุนซ่างเซียวเอ่ย “หากพลาดเวลานี้แล้ว จะต้องรออีกหนึ่งร้อยปี.”

“เจ้านิกายจุน.”

คนระดับสูงของนิกายฮุ่นซือเสวียนกล่าว“ลดหน่อยได้ใหม? นิกายของพวกเราไม่ได้มีเงินขนาดนั้น.”

“ตกลง.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เห็นแก่หน้านิกายของพวกเจ้า เปิ่นจั้วจะลดให้ 10% หากไม่มีจ่ายสามารถเขียนสัญญากู้ยืมได้.”

“ลด10%  อย่างงั้นรึ?”

เหล่าผู้ชมที่เหลือกตามองบน ลอบคิดในใจ“ก็ยังแพงอยู่ดี!”

ดินแดนโม่หยวนใกล้จะเปิดแล้ว กองกำลังส่วนมากของพวกเขาถูกนิกายนิรันดรจับเอาไว้หมด นิกายฮุ่นซือเสวียนและนิกายจี่หยวนเสวียนไม่มีทางเลือก ต้องจ่ายออกไปสามล้านศิลาเสวียน ส่วนที่เหลือยอมจ่ายด้วยสัญญากู้เงิน.

หลังจากที่จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จุนซ่างเซียวก็ยกมือประสานไปด้านหน้า “ยินดีที่ได้ร่วมมือ.”

“......”

คนระดับสูงของทั้งสองนิกายแทบกระอักโลหิตออกมา.

กู่เจ้าซีที่เห็นพี่ชายได้เงินมากถึงหกล้าน ดวงตาของเขาเป็นประกาย ลอบคิดในใจ“เรียนรู้! ต้องเรียนรู้เอาไว้แล้ว!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด