ตอนที่แล้วChapter 1442 มีคนมาหาเรื่อง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1444 พี่ชาย ข้าเอง

Chapter 1443 เจ้านี่ค่อนข้างแข็งแกร่ง


“ฟิ้ว!”

“ฟิ้ว!”

ภายในนิกาย ปีกแสงเจ็ดสีที่บินออกมาร่อนลงที่ด้านหน้า เข้าล้อมกรอบกู่เจ้าซีทันที แววตาที่เผยความโกรธเกรี้ยวและตื่นตะลึง.

แววตาที่โกรธเกรี้ยวเพราะอีกฝ่ายกล้ามาหาเรื่องถึงนิกายของพวกเขา ที่ตื่นตะลึงเพราะฝ่ายตรงข้ามนั้นเหมือนกับเด็กอายุ 12-13 ปี อายุที่เหมือนกับศิษย์น้องเล็กซุนมู่เซิ่งด้วย.

หากเป็นในอดีต ลี่ซ่างเทียนไม่สามารถเอาชนะได้ ก็เป็นเรื่องธรรมดา ตอนนี้อีกฝ่ายก้าวสู่ระดับสะบั้นมิติแล้ว ทำไมถึงได้ถูกโจมตีกระเด็นอัดกำแพงอีก?

“เจ้าหนู!”

ซูเซียวโม่แค่นเสียงเย็นชา“กล้ามาหาเรื่องนิกายนิรันดร สมองเจ้ามีปัญหาอย่างงั้นรึ?”

“ฟิ้ว!”

พริบตานั้น กู่เจ้าซีที่พุ่งหายเข้าไปด้านข้าง หมัดที่ง้าง ต่อยออกไป “จำเอาไว้ เรียกข้าว่าต้าเหริน!”

“ตูมมม -----”

ซูเซียวโม่ที่ตื่นตะลึง ถูกต่อยกระเด็นลอยอัดกำแพงกลายเป็นหลุมบุบเข้าไปเหมือนกับลี่ซ่างเทียน.

“ศิษย์น้อง!”

หลี่ชิงหยางใบหน้าเปลี่ยนสี.

เจ้าเด็กนี้แข็งแกร่ง น่าเกรงขามมาก เกรงว่าพลังบ่มเพาะ....

“ตูมมมม!”

ขณะครุ่นคิด หมัดของอีกฝ่ายที่ต่อยตัดอากาศพุ่งมาอีกครั้ง.

“ระวัง!”

เซียวจุ้ยจื่อที่พุ่งออกไป ยกโล่ขึ้นป้องกันที่ด้านหน้าศิษย์พี่รอง ม่านพลังที่รวมตัวกันขึ้นที่ด้านหน้า.

“ตูมมมม! ตูมมมม!”

หมัดที่มีพลังนับหมื่นจิน ไม่เพียงทะลวงม่านพลังป้องกัน ยังกระแทกหลี่ชิงหยางและเซียวจุ้ยจื่อกระเด็นออกไปพร้อมกัน.

“ชิ.”

กู่เจ้าซีที่ยืนอยู่กับที่ กล่าวด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน “หมัดเดียวของบิดาก็ทนไม่ได้ พวกเจ้าอ่อนแอไปแล้ว.”

เย่ซิงเฉินที่ได้ยินว่ามีคนหาเรื่องก็เร่งรีบออกมา ก่อนที่จะเห็นศิษย์พี่สองคนลอยกระเด็น เขาที่เข้าสู่โหมดเทพสงคราม โกรธเกรี้ยวทะยานสวรรค์ หอกทะลวงนภาพพุ่งออกไป.

“ขยะ!”

“ตายซะ!”

“ฟู่ ฟู่!”

กลิ่นอายที่ทรงพลังน่าพรั่นพรึงโถมทับลงมา เห็นชัดเจนว่าอาหนิวนั้นโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก.

ก่อนหน้านี้เขา เขาอยู่เพื่อแข็งแกร่ง ตอนนี้เขาอยู่เพื่อปกป้องนิกาย.

กล่าวได้ว่าในกลุ่มคนที่ออกไปเก็บประสบการณ์ก่อนหน้า

คนที่เปลี่ยนไปไม่ใช่แค่ลู่เชียนเชียน ยังมีเย่ซิงฉินด้วย เขาที่รู้สึกที่นี่เป็นดั่งครอบครัวของเขาไปแล้ว.

“ตูมมมม!”

อย่างไรก็พลังโจมตีเย่ซิงเฉินก็ไร้ผล ก่อนถูกต่อยกระเด็นอัดกำแพง ล่วงไปข้าง ๆ หลี่ชิงหยางและเซียวจุ้ยจื่อ กล่าวได้ว่ากองเป็นพวกเดียวกันอย่างสามัคคีซะแล้ว.

“......”

เหออู๋ตี้ที่เตรียมลงมือ กลายเป็นลังเล.

การต่อสู้ในเวลาสั้น ๆ เขาก็บอกได้ว่าผู้เยาว์ผู้นี้แข็งแกร่งมาก ลำพังเขานั้นไม่มีทางรับมือได้.

ทว่าตอนนี้มันไม่สามารถควบคุมอะไรได้แล้ว!

ขณะเหออู๋ตี้กระโดดออกไป ราชาสัตว์จื่อหลินก็ลงมือเช่นกัน อีกฝ่ายที่กระโดดออกไปเสื้อผ้าที่ถูกถอดลอยออกมา มันลอยมาปิดใบหน้าของเหออู๋ตี้ จนทำให้เขาเสียหลักสะดุดกลิ้งหลุน ๆ ไถไปกับพื้นน้ำลายฟูมปากสลบเหมือดไปในทันที.

แม้นว่าจะเพียงแค่เสื้อผ้าเท่านั้น ทว่ากลิ่นมันสุดทนเหลือเกิน เกรงว่าคงไม่ได้ซักเลยตั้งแต่ได้มา กลิ่นเหม็นสาบที่ราวกับอาวุธเชื้อโรคทำให้เหออู๋ตี้หมดสภาพทั้งที่ยังไม่ได้สู้ด้วยซ้ำ.

“ฟู่ ฟู่!”

ราชาสัตว์จื่อหลินที่ถอดเสื้อผ้าสวมกางเกงในสีแดง สวมนวมสีชมพู ปลดปล่อยพลังปราณอสูรที่รุนแรงออกมาพร้อมกับโจมตีออกไป!

“เอ๊ะ?”

กู่เจ้าซีที่เผยท่าทางประหลาดใจ “ราชาสัตว์อย่างงั้นรึ?”

ระหว่างกล่าว ร่างกายของเขาที่ขยับหลบหมัดของอีกฝ่าย พร้อมกับเอ่ยออกมาว่า“มีความสามารถอยู่เล็กน้อย.”

“ซูมมมมม!”

หมัดของราชาสัตว์จื่อหลินที่จั่วลมเข้าไปเต็ม ๆ.

พลังของเขาที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเมื่อครั้งเหตุการณ์ถ้ำราชาอสูรมาก.

ด้วยวิชาแยกร่างพันเงา ดูเหมือนว่าจะไม่เสียเปล่า.

“ปัง!”

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมากู่เจ้าซีเพียงแค่สะบัดฝ่ามือตบไปที่ศีรษะของอีกฝ่าย กล่าวด้วยท่าทางอหังการ“ทว่าต่อหน้าต้าเหริน มันยังไม่พอ.”

“ฟู่ ฟู่!”

ร่างของราชาสัตว์จื่อหลินลอยกระเด็นออกไปอัดกำแพงเป็นรูป ‘太’ บุบเข้าไปด้านใน.

ถางจู่.

และศิษย์หลักอีกหลายคน.

โดยจัดการเพียงแค่กระบวนท่าเดียวโดยกู่เจ้าซี!

“ตั้งค่ายกล!”ติงซิงหวังที่มาถึง ตะโกนเสียงดัง.

“ฟิ้ว!”

“ฟิ้ว!”

หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อที่แกะตัวเองออกมาจากกำแพง ตอนนี้พุ่งออกไปล้อมรอบกู่เจ้าซีจากทุกทิศทาง เตรียมใช้งานค่ายกลฟ้าดินสีลักษณ์.

“หวึ่ง หวึ่ง!”

ในเวลานั้น ร่างกายของทุกคนที่เปล่งแสงเชื่อมต่อกัน.

ค่ายกลฟ้าดินสี่ลักษณ์ เป็นค่ายกลต่อสู้ของนิกายนิรันดร สามารถรวมพลังต่อสู้กับคนอื่น ๆ เพิ่มพลังให้แข็งแกร่งขึ้น ในเวลานี้พวกเขารวมพลังกันถึง 500 คน.

“ชิ.”

กู่เจ้าซีที่แค่นเสียง จ้องมองด้วยแววตาเหยียดหยัน.

“บุก!”

หลี่ชิงหยางตะโกนเสียงดัง

“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”

ศิษย์ห้าร้อยคนที่ผนึกกำลัง รวมพลังกันพร้อมกับใช้ทักษะโจมตีเห็นเหมือนกัน โจมตีรัวมาจากด้านบน.

ด้วยผสานพลังจากค่ายกลสี่ลักษณ์และใช้ฝ่ามือข้ามสวรรค์พร้อม ๆ กันโจมตีออกมา กลายเป็นภาพที่น่าหวั่นเกรงมาก!

ฝ่ามือมากมายที่ปรากฏเต็มท้องฟ้าโจมตีลงมายังกู่เจ้าซี่ กระนั้นอีกฝ่ายไม่เพียงไม่ตกใจ ยังยกมุมปากดูแคลนอีกด้วย.

“กึก!”

เขาที่ก้าวไปด้านหน้า ระเบิดพลังออกมา ตะโกนออกไปว่า.“หัตถ์จุติชางหมิง!”

ร่างกายของกู่เจ้าซีที่เหมือนกับจะขยายใหญ่ ก่อนที่จะปรากฏฝ่ามือขนาดใหญ่พุ่งจากล่างขึ้นบน!

ฝ่ามือนับหมื่นที่กดลง.

อีกฝ่ายที่ใช้ฝ่ามือยักษ์ตวัดตบพุ่งขึ้นไป.

เกิดเป็นภาพที่ยิ่งใหญ่น่าเกรงขามมาก!

“ตูมมม! ตูมมม!ตูมมมม!”

เวลาต่อมา เสียงระเบิดดังกึกก้อง บนท้องฟ้าที่ส่องแสงเจิดจ้าระเบิดแตกกระจายราวกับดอกไม้ไฟ.

“ตูมมม! ตูมมม!ตูมมมม!”

หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อตลอดจนศิษย์คนอื่น ๆ ถูกพลังตีกลับกระเด็นลอยออกไปทุกทิศทาง อยู่ในสภาพไม่สู้ดีนัก.

“ศิษย์พี่รอง....”ซูเซียวโม่ถึงกับกระอักโลหิต เอ่ยอย่างเหนื่อยล้า“เจ้านี่แข็งแกร่งเกินไป!”

เกินกว่าคำว่าแข็งแกร่ง.

ทว่ากับจัดการพวกเขาได้อย่างง่ายดาย.

กู่เจ้าซีที่เก็บพลังคืนมา ส่ายหน้าไปมา “ข้าคิดว่าค่ายกลเมื่อกี้ก็ไม่เลวเลย ใครจะคิดว่าข้าต้องใช้พลังถึง 20% .”

“......”

ได้ยินคำพูดที่กดข่ม ทำให้ศิษย์นิกายนิรันดรโกรธเกรี้ยวขึ้นมาในทันที.

“ฟิ้ว!”

“ฟิ้ว!”

ในเวลานั้น ยักษขาวและยักษ์ดำที่ปรากฏขึ้น ร่อนลงที่เชิงเขา แววตาเผยท่าทางจริงจัง “ผู้ยอดเยี่ยมเป็นใคร?”

“ผู้ฝึกยุทธ์เร่รอนที่ผ่านทางมา.”กู่เจ้าซีเอ่ย.

เขาที่ปกปิดตัวเอง แน่นอนว่าย่อมต้องปิดบังสถานะ แม้แต่ชื่อก็ไม่อาจเผยออกมาได้.

“นิกายนิรันดรเคยล่วงเกินเจ้าอย่างงั้นรึ?”

“ไม่.”

กู่เจ้าซีที่โบกมือกล่าวด้วยน้ำเสียงอหังการ “ข้าเพียงแค่ต้องการเข้าร่วมนิกายเจ้า แต่ถูกปฏิเสธ ต้าเหรินเลยไม่ค่อยพอใจเท่าใดนัก.”

“......”

ยักษ์ดำและยักษ์ขาวที่เผยท่าทางเหรอหราเล็กน้อย.

ไม่เห็นว่าจะต้องการเข้าร่วมตรงใหน นี่ต้องการมาหาเรื่องชัด ๆ.

“สหาย.”

ในเวลานั้น เสียงที่ดังก้องไปทั่วเทือกเขา “จะเข้าร่วมนิกายนิรันดรของข้า จำเป็นต้องผ่านการทดสอบก่อน.”

กู่เจ้าซีเงยหน้าขึ้น เห็นผู้เยาว์ที่หล่อเหลายืนอยู่หน้าประตู น้ำเสียงของอีกฝ่ายรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงถามออกไปตามสันชาติญาณ “เจ้าเป็นใคร?”

“เจ้านิกายนิรันดร.”

แม้นว่าจะเห็นอีกฝ่ายยังยิ้มได้ ทว่าภายในใจนั้นโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก.

มารดามันเถอะ!

มาหาเรื่องถึงนิกายข้า ทำร้ายศิษย์ของข้า บิดาไม่จัดการเจ้าวันนี้ อย่ามาเรียกบิดาว่าเจ้านิกาย!

“.”

กู่เจ้าซีเอ่ย “แท้จริงแล้วเจ้าคือศิษย์สายตรงเจิ้นเหรินตงกู่นี่เอง.”

“ก็เอาสิ.”

“ต้าเหรินพร้อมจะเข้าทดสอบแล้ว!”

“ครืนนนน!”

ในเวลานั้นหอคอยสะกดวิญญาณเสวียนหยวนก็ถูกนำมาวางที่เชิงเขา จุนซ่างเซียวเอ่ยอย่างจริงจัง “หอคอยนี้อาจารย์ของข้ามอบให้เป็นของขวัญ ด้านในมีแบบทดสอบมากมาย หากเจ้าสามารถผ่านได้ในเวลาหนึ่งชั่วยาม ก็มีคุณสมบัติเป็นศิษย์นิกายนิรันดร!”

“จริง ๆ ด้วย!”

ยักษ์ดำและยักษ์ขาวลอบคิดในใจ”หอคอยนี้เจิ้นเหรินตงกู่มอบให้.

เหออู๋ตี้ที่ฟื้นคืนสติคิดแตกต่างจากทั้งสอง กล่าวแย้งในใจ“มีกลิ่นอายของปิศาจหยิน และยังมีพลังชีวิตเป็นของตัวเอง ต้องเป็นสุดยอดของวิเศษของปราชญ์จ้าวเจ็ดแน่ ๆ!”

“หากข้าผ่านได้ก็จะเข้าร่วมนิกายเจ้าได้ใช่ใหม?”

“ไม่ผิด.”

“ตกลง!”

กู่เจ้าซีส่ายหน้าไปมา กล่าวด้วยความอหังการ “ต้าเหรินจะผ่านให้ดู!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด