ตอนที่แล้วChapter 1440 เขตแดนลับขั้นสามถูกลบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1442 มีคนมาหาเรื่อง

Chapter 1441 นิกายตกเป็นเป้าหมายของผู้มีเจตนาร้าย


“ติ๊ง! ศิษย์ลู่เชียนเชียน และเซียวจุ้ยจื่อรวมห้าคนสำเร็จภารกิจนิกายได้รับแต้ม 100 คะแนนความสำเร็จ 10 คะแนนชื่อเสียง.”

เมื่อจุนซ่างเซียวนำศิษย์กลับนกาย เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นทันที.

เฮ้ย!

คาดไม่ถึงว่าจะได้คะแนนชื่อเสียงด้วย!

โกวเซิ่งที่เผยยิ้มออกมาทันที.

แม้นว่าจะเพียง 10 แต้มชื่อเสียง ทว่าหากทำภารกิจระดับสูงสำเร็จ ก็จะได้รับอีก และยังมาเรื่อย ๆ ด้วย.

“ข้าว่าแล้ว.”

ระบบเอ่ย “ภารกิจนิกายไม่เลวเลย อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นรายได้ที่มั่นคงของโฮสน์.”

“ไม่เลว.”

จุนซ่างเซียวที่พยักหน้ารับ.

“เจ้านิกาย.”

ในเวลานั้น ราชาสัตว์จื่อหลินที่ก้าวเข้ามาในห้องโถง เอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม“การที่ศิษย์ไปพบกับราชามารหมอกทมิฬนั้นเป็นเรื่องที่ผิดปรกติ.”

“หมายความว่าอย่างไร?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

ถางจู่จื่อเอ่ย “ก่อนที่ข้าจะลงไปยังพิภพเบื้องล่าง เจ้านั่นถูกผนึกไปแล้ว ไม่ควรจะมาปรากฏตัว.”

ราชาอสูรเช่นเขา แน่นอนว่าย่อมได้ยินเรื่องราวของราชามารหมอกทมิฬ นอกจากนี้ยังรู้ว่า มันได้ถูกเผ่าพันธุ์มนุษย์ไล่ล่าและถูกผนึกไปก่อนเขาจากไปนั่นเอง.

“หืม?”

จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิดอยู่เล็กน้อย “เจ้านั่นหลุดออกจากผนึกเพราะว่ามีคนมากมายเข้าไปรบกวนอย่างงั้นรึ?”

“เป็นไปไม่ได้.”

ราชาสัตว์จื่อหลินเอ่ย “ราชามารหมอกทมิฬนั้นถูกผนึกด้วยยอดฝีมือค่ายกล จะหลุดออกมาง่าย ๆได้อย่างไร เว้นแต่....”เขาหยุดและเอ่ยต่อ“มีใครบางคนจงใจทำลายผนึก!”

จุนซ่างเซียวที่เคาะนิ้วสิบนิ้วไปมา แววตาค่อย ๆ กลายเป็นเย็นชา.

เป็นความจริง หากว่าราชามารหมอกทมิฬหลุดออกมาจากผนึกเพราะมีคนไปรบกวน ไม่ใช่ว่ามันจะต้องออกมาจากป่าหมอกทมิฬสร้างความเสียหายด้านนอกแล้วไม่ใช่รึ?

“ง่าย ๆ.”

ระบบเอ่ย “หากค่ายกลคลายเองยังไงก็ควรจะเหลือกลิ่นอาย.”

“เช่นนั้น....”

แววตาของจุนซ่างเซียวที่ค่อย ๆ กลายเป็นเย็นชามากขึ้นและก็มากขึ้น“การที่พวกชิงหยางไปพบกับราชามารนั่น มีคนจงใจกระทำสินะ!”

ระบบเอ่ย “ภารกิจนิกายใหม่นั้น แม้นว่าจะมีมากมายแตกต่างกันไป ทว่าก็มีการคำนวณเอาไว้อย่างดีแล้ว ไม่มีทางที่จะพบอันตรายร้ายแรงได้ เว้นแต่มีอุบัติเหตุพิเศษเข้ามาสอดแทรก.”

นี่ไม่ใช่พลังปากนมพิษ เป็นความจริง หากไม่มีราชามารขวางทาง พวกลู่เชียนเชียนก็ควรจะหนีออกมาได้แล้ว ไม่ควรจะได้รับอันตรายเลยแม้แต่น้อย.

อย่างไรก็ตาม.

ตัวแปรที่ควบคุมไม่ได้ แน่นอนว่าไม่สามารถนำมาคำนวณล่วงหน้าได้.

“เจ้านิกาย.”

ยักษ์ดำที่เงียบอยู่เอ่ยออกมาว่า“เท่าที่ข้ารู้ ราชามารหมอกทมิฬนั้นถูกยอดฝีมือของโถงพิภพผนึกเอาไว้.”

“ข้าก็ได้ยินเช่นกัน.”

ยักษ์ขาวเอ่ย“ดูเหมือนว่าจะเป็นจวีซีแผนกค่ายกล พลังบ่มเพาะไม่สูง ทว่าความเข้าใจเรื่องค่ายกลนั้นสูงมาก โดยเฉพาะค่ายกลผนึกของเขานั้นมีชื่อเสียงไปทั่วพิภพ.”

“โถงพิภพอย่างงั้นรึ?”

จุนซ่างเซียวที่ใบหน้ากลายเป็นมืดครึ้ม.

รู้ว่าข้ามีเจิ้นเหรินตงกู่อยู่เบื้องหลัง ไม่กล้าเล่นงานข้าในที่โล่งแจ้ง เลยลอบเล่นงานลับหลังอย่างงั้นรึ?

“ย่ามันเถอะ!”จุนซ่างเซียวที่โกรธเกรี้ยว “บิดาต้องการพัฒนานิกายเงียบ ๆ ไม่อยากสร้างปัญหา คิดว่านิกายนิรันดรของข้าจะรังแกได้รึ?”

ยักษ์ดำสีคางไปมา “โถงพิภพผนึกราชามารหมอกทมิฬเอาไว้ ทั้งโลกต่างรู้ดี หากพวกเขาลอบปลดผนึก พวกเขาย่อมกลายเป็นผู้ร้ายเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะทำเรื่องที่โง่เง่าเช่นนั้นไป?”

ยักษ์ขาวเอ่ย “ค่ายกลที่จวีซีเตรียมไว้ ไม่ง่ายที่จะทำลาย หากไม่ใช่พวกเขาปลดผนึกเองแล้วจะเป็นใครล่ะ?”

“เรื่องนี้ก็พูดยาก.”ยักษ์ดำเอ่ย “พิภพเบื้องบนก็มีหลายคนที่ศึกษาค่ายกล ยกตัวอย่างไท่เสวียนซานเหริน แม้นว่าจะเก็บตัวมาหลายปี ทว่าความเข้าใจค่ายกลของเขาก็ไม่ได้ด้อยกว่าปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงเลย.”

“เรื่องนี้....”

ยักษ์ขาวที่กลายเป็นเงียบไปในทันที.

“ผู้พิทักษ์ดำหมายความว่า เรื่องค่ายกลถูกคลาย เป็นคนจงใจป้ายสีให้กับโถงพิภพอย่างงั้นรึ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

ยักษ์ดำ.“ก็มีความเป็นไปได้.”

“ไม่ผิด.”

จุนซ่างเซียวที่เหมือนจะเห็นด้วย “จากหลักฐานที่มี เหมือนว่ามีคนจงใจทำเช่นนั้นจริง ๆ.”

เป็นความจริงหลังจากได้ยินคำพูดของยักษ์ดำทำให้เขาสงบใจ ลอบคิดในใจ“ใครกัน ใครกันที่อยู่เบื้องหลัง แต่ไม่ว่าเป็นใครก็ต้องระมัดระวังตัว.”

กล่าวได้ว่า ศัตรูในที่แจ้งนั้นจุนซ่างเซียวไม่หวาดกลัวอย่างแน่นอน แต่ศัตรูในที่มืดนั้นยากจะป้องกันได้.

......

ป่าหมอกมารที่เวลานี้กลายเป็นพื้นที่ดำเมี่ยมเปี่ยมไปด้วยเขม่า จักรพรรดิหลิงหยาที่ปรากฏขึ้น เพราะว่าร่างของนางมีหมอกปกคลุมอยู่ จึงยากจะมองเห็นท่าทางของนางได้.

“ซี่ ซี่.”

ในเวลานั้นบนท้องฟ้าปรากฏเสียง ๆ หนึ่งขึ้น “เจ้าไม่ไปจับกู่เจ้าซี ทำไมถึงมาปรากฏขึ้นที่นี่?”

“วูซซซ!”

ราชรถสีทองที่ปรากฏขึ้นช้า ๆ จินเห่าที่นั่งอยู่อย่างเชื่องช้า ใบหน้าที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย ด้วยท่าทางที่อหังการเหมือนกับเมื่อครั้งเจอกับจุนซ่างเซียว.

“โถงพิภพส่งพวกเราสองคน ให้มาร่วมมือกันจับกุม ไม่ใช่ให้เจ้ามาตามจับผิดข้า.”จักรพรรดินิหลิงเหยาเอ่ย.

“คิดไปเอง.”

จินเห่าที่ยักไหล่ “ข้าไม่ได้จับผิดเจ้า ข้าแค่สงสัย ทำไมเจ้าสนใจนิกายนิรันดรมากมายขนาดนั้นกัน?”

“มีอะไรเกี่ยวกับเจ้า?”

“ข้าก็แค่สงสัยเท่านั้น.”

“เพราะว่าเจ้าสงสัย จึงทำให้เจ้าต้องใช้เวลาสองปีในบ่อน้ำฟื้นฟู.”

ในเวลานั้นแววตาของอีกฝ่ายที่แดงซ่านขึ้นมาในทันที.

แม้นว่าใบหน้าของจินเห่ายังคงเผยยิ้มเล็กน้อย ทว่าแววตานั้นเปี่ยมล้นด้วยความเกลียดชัง เขาเอ่ยออกมาว่า“ความแค้นนี้ข้าต้องเอาคืนแน่!”

“ข้าขอแนะนำอย่างสุภาพ.”

จักรพรรดินิหลิงเหยาเอ่ย “หากว่าต้องการมีชีวิต ทางที่ดีอย่าไปหาเรื่องเขาดีกว่า.”

“เพราะเจิ้นตงกู่อย่างงั้นรึ?”

“คงงั้น.”

“หากเขาไม่มีเบื้องหลัง ก็ไม่ต่างจากมดปลวก.”

หากจุนซ่างเซียวได้ยิน คงเอ่ยออกมาด้วยความไม่พอใจแน่ “ใช่แล้ว หากข้าไม่มีเบื้องหลังคงไม่รอดอยู่ในพิภพเบื้องบน ทว่าปัญหาคือข้ามีไง แล้วมีปัญหารึ?”

......

นิกายนิรันดร.

หลังจากฟื้นฟู่สองสามวัน ลู่เชียนเชียนก็กลับมาหายดี.

อย่างไรก็ตาม ขณะที่เตรียมตัวไปยังเขตแดนลับเก้าสวรรค์ จุนซ่างเซียวก็ปรากฏขึ้นเอ่ยออกมาว่า“หากเปิ่นจั้วไปไม่ทัน เจ้าจะพบเจอกับอะไร?”

เรื่องที่ป่าหมอกมารนั้น เขาได้สอบถามจากหลี่ชิงหยางแล้ว โดยเฉพาะการที่พวกเขาจัดการกับราชา สตรีนางนี้ยังปกป้องทุกคนด้วยทักษะพิเศษเอาไว้ ผลาญพลังของตัวเองเป็นอย่างมาก.

ผลาญพลังอย่างงั้นรึ?

ผลาญแก่นพลังชีวิตตัวเองนั่นเอง.

ทว่าเพราะเขาไปถึงเร็วเข้า เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย

“เพียงแค่ได้รับบาดเจ็บหนัก.”ลู่เชียนเชียนเอ่ย.

จุนซ่างเซียวที่ไม่อยากเชื่อเป็นอย่างมาก จึงเอ่ยออกมาว่า“หลังจากนี้หากพบเจอกับอันตราย เรื่องแรกจะต้องแจ้งกลับมายังนิกายก่อน.”

“ทราบแล้ว.”

ลู่เชียนเชียนเอ่ย “หากไม่มีอะไรแล้ว ศิษย์ขอไปฝึกฝนก่อน.”

เขาที่จ้องมองนางก้าวเข้าไปในเขตแดนลับเก้าสวรรค์ ยกมือขึ้นถูจมูก เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “นับตังแต่ข้ากลับมาจากถ้ำสวรรค์จื่อเต๋า ศิษย์หญิงใหญ่ของข้าดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนไปมากจริง ๆ.”

“เฮ้อ.”

ระบบที่ถอนหายใจ“หากไม่ติดเชื้อจากโฮสน์ก็ถือว่าเป็นศิษย์ปรกติดีอยู่หรอก.”

“อ่า ใช่แล้ว.”

จุนซ่างเซียวที่ตบหน้าผาก“ต้องให้ถางจู่เหมียวหลอมเม็ดยาถอนพิษไว้มาก ๆ แล้ว ในเมื่อมันได้ผล หากนำไปขาย จะต้องได้กำไรมากมายแน่.”

ด้วยเหตุนี้เขาจึงไปเยือนโถงพิษด้วยตัวเอง.

กล่าวตามจริง จุนซ่างเซียวไม่ค่อยอยากมายอดเขาพิษเท่าใดนัก ที่นี่เต็มไปด้วยแมลงพิษมากมายนับไม่ถ้วน การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษทำให้เขาไม่สบายใจเลยแม้แต่น้อย.

“เจ้านิกายมาเยือน มีเรื่องอันใดอย่างงั้นรึ?”

ภายในห้องโถง เหมียวไซเฟิงที่เสิร์ฟน้ำชาหนึ่งถ้วย.

นางถูกบังคับเข้าร่วมนิกายนิรันดร ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะพึงพอใจไม่น้อย.

สตรีนางนี้ก็เหมือนกับลี่ลั่วฉิว เป็นสตรีที่งดงามสมบูรณ์ แต่เพราะว่าต้องคลุกคลีอยู่กับพิษ ทำให้ร่างกายของนางแผ่กลิ่นอายที่มืดมนน่าหวาดกลัวออกมา.

“น้ำชานี้ไม่ใช่ว่ามีพิษร้ายหรอกนะ?”

“ถึงจะมีพิษร้ายแต่ก็คงทำอะไรเจ้านิกายไม่ได้หรอก.”

“ก็คงใช่.”

จุนซ่างเซียวที่ยกน้ำชาขึ้นดื่มและบอกกล่าวเกี่ยวกับเรื่องหลอมเม็ดยาแก้พิษ.

ด้วยเหตุนี้นางจึงต้องรับหน้าที่ในการหลอมเม็ดยาแก้พิษเพื่อหารายได้ให้กับนิกายอย่างเป็นทางการ.

“พรึด!”

ในห้องพัก.

จุนซ่างเซียวที่วิงเวียนแข็งขาอ่อนยันกำแพงไว้ ก้าวเดินเข้าไปด้านในแม้แต่ด่าว่าในใจ“สตรีนางนี้วางยาในน้ำชาจริง ๆ ด้วย!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด