ตอนที่แล้วบทที่ 651: พลิกหน้าและโหดเหี้ยม!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 653: ข้อตกลงและความโง่เขลา!

บทที่ 652: บ้าและโล่งใจ!


ร่างวิญญาณนั้นเป็นการดำรงอยู่ในรูปแบบที่พิเศษมาก ๆ พวกมันเคยเป็นสิ่งมีชีวิตก่อนที่จะตาย  จากนั้นหลังจากที่ตายไปแล้วก็ก่อเกิดกลายเป็นร่างวิญญาณ  ต่อมาร่างนี้จะค่อย ๆ กลายเป็นการดำรงอยู่ในรูปแบบที่ใกล้เคียงกับร่างพลังงาน

ซึ่งการเปลี่ยนสภาพเป็นพลังงานนั้นเป็นขั้นตอนหนึ่งที่นักรบระดับราชาต้องผ่าน  และเอาแค่ตามคำของมันก็บ่งบอกได้แล้วว่าไม่ใช่เรื่องง่าย  เพราะมันคือกระบวนการในการเลื่อนระดับจากตัวตนระดับต่ำขึ้นไปเป็นตัวตนระดับสูง

แต่ร่างวิญญาณนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นระดับราชาก่อนและสามารถเข้าสู่กระบวนการนี้ได้เลย  แม้ว่าหลัก ๆ แล้วจะไม่ได้เหมือนกันไปซะทั้งหมดและยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้างก็ตาม  แต่โดยทั่วไปแล้วก็ยังคล้ายคลึงกันมาก

ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ที่หลังจากตายไปแล้วจะกลับมาปรากฏตัวในรูปแบบของร่างพลังงาน

สาเหตุที่สิ่งมีชีวิตกลายเป็นร่างวิญญาณหลังจากตายไปแล้วก็เพราะพวกมันมีความยึดติดอย่างแรงกล้าในใจ  ซึ่งเหมือนกันกับนักรบต่างเผ่าที่นอนติดอยู่กับพื้นตรงหน้านี่

มันต้องเห็นคนรักถูกทรมานจนตาย  ต้องเจ็บปวดไปทั้งกายและใจ  อีกทั้งยังมาถูกไอ้ลูกชายเจ้าเมืองทำให้อับอายในทุก ๆ วิถีทางที่เป็นไปได้อีก  ดังนั้นพลังความแค้นของมันที่อัดแน่นมาโดยตลอดจากเดิมที่เป็นเพียงนามธรรมก็แทบจะควบแน่นขึ้นเป็นสสารได้เลยทีเดียว

ต่อมาด้วยการกระทำของตนยังเป็นการลากครอบครัวให้เข้ามาพัวพันด้วยจนนำมาสู่วิกฤติการณ์การถูกฆ่าล้างโคตร!

ตอนนั้นเองที่ความแค้นในใจของมันได้ระเบิดออกจนหมด  ไม่มีการยับยั้งชั่งใจอะไรใด ๆ อีกต่อไปและลงมือจุดระเบิดทำลายดวงดาวของชาวโทรโบที่ถังเจิ้นมอบให้

เนื่องจากอยู่ในศูนย์กลางการระเบิดประกอบกับมีความยึดติดอย่างแรงกล้า  ผลคือมันได้กลายเป็นผู้รับผลประโยชน์สูงสุด

คือหลังจากที่กลายเป็นร่างวิญญาณแล้วมันก็ได้กลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาผีมือใหม่  ไม่มีร่างวิญญาณตนใดที่สามารถต่อกรกับมันได้เลย!

เมื่อมันรู้ตัวแบบนั้นความปรารถนาทั้งหมดที่อัดอั้นอยู่ในอกสมัยที่ยังมีชีวิตก็ระเบิดออกมาทันที  อุปนิสัยของมันเองก็ได้บิดเบี้ยวไปโดยสิ้นเชิง

ด้วยความแข็งแกร่งอันเหนือล้ำที่ตนเองมีทำให้มันไม่ลังเลที่จะตามล่าหาตัวศัตรูเก่ามาแก้แค้เลย  มันได้พิชิตวิญญาณทั้งหมดที่นี่และสั่งให้ปฏิบัติตามสิ่งที่มันต้องการโดยไม่สนศีลธรรมใด ๆ

โดยไม่รู้ตัว  เมื่อความคิดของมันเริ่มชัดเจนขึ้นพฤติกรรมของมันก็ยิ่งกดขี่มากขึ้น  ซึ่งหลัก ๆ แล้วความคิดเหล่านั้นก็มีแต่เรื่องไร้สาระและเอาแต่ใจตัวเองทั้งนั้น

ดังนั้นเหตุผลที่ทำให้มันมีความสุขมากเมื่อได้เห็นถังเจิ้นจึงไม่ใช่เพราะของขวัญที่เขาเคยให้  แต่เป็นแก่นโลหิตในร่างของเขาที่มันต้องการเอาไปใช้ในทางที่ถูกต้อง

เพียงแค่เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มันก็สามารถรับมาได้ตามที่ต้องการโดยไม่มีผู้ใดสามารถขัดขืนคำสั่ง  เพราะว่าตอนนี้มันไม่ได้เป็นอย่างที่มันเคยเป็นอีกต่อไปแล้ว!

อีกทั้งยังไงถังเจิ้นก็ยังเคยใจดีกับมัน  มันจึงเพิ่มความจริงใจเข้าไปโดยการชักชวนอย่างให้ความเมตตา  ซึ่งเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับความแข็งแกร่งที่แต่ละฝ่ายมีอยู่ในตอนนี้อยู่แล้ว

แต่ถ้าไอ้มนุษย์นี่ไม่รู้จักรักดีล่ะก็มึงอย่ามาหาว่ากูเนรคุณทีหลังก็แล้วกัน!

ถึงจะไม่อาจมองออกว่าการฝึกฝนของถังเจิ้นคือระดับไหนก็ตาม  แต่ไอ้ต่างเผ่านี้ก็ไม่ได้จริงจังอะไรกับเขานัก  เพราะว่ามันมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองสุดขีดและถึงขนาดยกยอปอปั้นว่ากูนี่แหละเจ๋งสุดอยู่เป็นประจำ

ส่วนเรื่องที่กระดับของถังเจิ้นจะสูงกว่าตัวเองนั้นมันไม่คิดเลยแม้แต่น้อย  เพราะเรื่องเหลวไหลแบบนั้นมันไม่มีทางเป็นไปได้เลย

ไม่รู้ว่าบังเอิญหรืออะไร  แต่ไอ้หมอนี่มันเลื่อนจนเป็นระดับลอร์ด 4 ดาวโดยที่ตัวมันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน  แต่ที่เข้าใจแน่ ๆ คือระดับการฝึกฝนขนาดนี้เป็นเพียงแค่ความฝันในสมัยยังมีชีวิตอยู่  และความแข็งแกร่งในระดับนี้ก็เรียกได้ว่าสามารถกดขี่ทุกคนได้ทั่วทีปทั่วแดนแล้ว!

ซึ่งเรื่องแบบนี้เป็นอะไรที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก  อาจเป็นเพียงสถานการณ์เดียวที่จะไม่เกิดขึ้นซ้ำอีกเลยด้วยซ้ำไป!

ดังนั้นมันจึงประเมินว่าไม่ว่าการฝึกฝนของถังเจิ้นเพิ่มพูนเร็วเพียงใดก็ตามย่อมต้องมีขีดจำกัดคอขวดอยู่เสมอ  จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเลื่อนระดับได้หลายระดับในเวลาสั้น ๆ!

เพราะนั่นไม่ใช่ระดับตำนานแล้ว  แต่มันคือความเพ้อฝันไร้สาระ!

ดังนั้นในสายตาของมันจึงคิดว่าไม่ว่าถังเจิ้นจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่มีทางเทียบเท่าตัวเองในตอนนี้ได้อย่างแน่นอน  และถ้าตัวเองลงมือล่ะก็ย่อมสามารถบดขยี้เขาทิ้งได้สบาย ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย!

แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่มันจะคิดแบบนี้

เพราะว่าในโลกโหลวเฉิงแห่งนี้ยิ่งระดับของนักรบสูงขึ้นมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเลื่อนระดับได้ยากมากขึ้นเท่านั้น  หลังจากที่เลื่อนเป็นระดับลอร์ดแล้วกระบวนการในการเลื่อนระดับจะยิ่งยากมากขึ้นไปอีก

เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นพลเมืองของโหลวเฉิงระดับประเทศซึ่งด้วยโบนัสคุณสมบัติของโหลวเฉิงที่เพิ่มขึ้นมันจะช่วยให้ความยากดังกล่าวลดลงอย่างมาก  ซึ่งจะง่ายต่อการพัฒนาระดับการฝึกฝนให้เพิ่มพูนขึ้น

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมนักรบระดับลอร์ดจึงหาได้ยากในโหลวเฉิงธรรมดา  แต่กลับมีให้เห็นอย่างกับคนธรรมดาในโหลวเฉิงระดับประเทศ

แน่นอนว่านี่คือกระบวนการในการส่งเสริมนักรบภายแบบปกติ  หากตัดสถานการณ์พิเศษออะไปล่ะก็นักรบโหลวเฉิง 99% จะเดินตามเส้นทางนี้

ดังนั้นในการพัฒนาของถังเจิ้นหากว่าไม่ได้มาเห็นด้วยตาตัวเองล่ะก็จะไม่มีใครเชื่อเลย

ด้วยเหตุนี้เองสำหรับตัวมันแล้วจึงคิดว่าไม่เป็นปัญหาอย่างแน่นอน  เพียงแต่คนที่มันเจอคือถังเจิ้น  ตัวเขานั้นมีวิธีการอัปเลเวลที่แตกต่างจากคนอื่น ๆ ทั้งหมด!

มีคนนอกที่ให้ความสนใจเขาอยู่มากมาย  โดยในขณะที่กำลังให้ความสนใจเมืองเชิ่งหลงอยู่นั้นก็ได้สังเกตเห็นการอัปเลเวลที่เร็วผิดปกติของถังเจิ้นด้วย

หลังจากที่วิเคราะห์ดูแล้วพวกนั้นก็เชื่อสนิทใจเลยว่าถังเจิ้นนั้นเดิมทีมีการฝึกฝนที่สูงมากอย่างแน่นอน  เพียงแต่ด้วยสาเหตุอะไรบางอย่างทำให้ต้องผนึกพลังเอาไว้  และผนึกดังกล่าวจะคลายออกก็ต่อเมื่อเขาได้เคลียร์เงื่อนไขอะไรบางอย่างเท่านั้น

เมื่อเอาข่าวลือเรื่องที่เขามาจากโหลวเฉิงระดับทวีปอันแสนลึกลับแล้วพวกกองกำลังทั้งหลายต่างก็หวั่นเกรงว่าตัวตนของถังเจิ้นในโหลวเฉิงระดับทวีปนั้นจะไม่ใช่ธรรมดา!

ถังเจิ้นก็เคยได้ยินข่าวลือดังกล่าวเช่นกัน  แต่เขาแค่หัวเราะเบา ๆ และเลิกใส่ใจ!

********************************

ในพื้นที่หมอกสีเทา

ในเวลานี้ถังเจิ้นหยุดหัวเราะได้ในที่สุด

เพราะการแสดงของไอ้ต่างเผ่าเมื่อกี๊ที่เป็นแค่หนูแต่กำลังบังคับเสือให้ฆ่าตัวตายนี่มันอย่างฮาเลยจริง ๆ นี่หว่า!

แม้ว่าเขาจะรู้ว่าหลังจากกลายเป็นร่างวิญญาณแล้วธรรมชาติของคนคนนั้นจะบิดเบี้ยวและเปลี่ยนไปอย่างมากจนคำพูดและการกระทำสวนทางตีกันมั่วไปหมดเลยก็ตามที  แต่ถังเจิ้นก็ยังอดตลกกับไอ้ต่างเผ่านี่ไม่ได้จริง ๆ

เฮ่อ~  ขนาดที่มีความสุขแบบนี้ก็ยังหาได้ยากสำหรับเขาในตอนนี้

เพราะนับตั้งแต่ที่เขาได้กลายมาเป็นเจ้าเมืองเชิ่งหลงถังเจิ้นได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดที่มีให้กับมัน  เขาต้องยุ่งอยู่กับงานมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีเวลาพักผ่อนแค่นิดเดียว

หลังจากที่ได้เลื่อนขึ้นเป็นระดับราชาแล้วร่างกายของเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ  เลื่อนขึ้นเป็นสิ่งมีชีวิตรูปแบบที่สูงขึ้น  และมีความรู้สึกอย่างเรือนลางว่าตนเองนั้นอยู่เหนือกว่าสรรพชีวิตทั้งหลายที่มีอยู่นับไม่ถ้วน

ทว่าการอัปเลเวลเองก็ได้นำมาสู่ความเปลี่ยวเหงาในใจ  มันทำให้เขาเริ่มจะทำอะไรจริงจังอย่างมากและมีเวลาสื่อสารกับผู้อื่นน้อยลงเรื่อย ๆ

บางครั้งถังเจิ้นก็คิดไปเองว่าถ้าตนยังอัปเลเวลต่อไปล่ะก็จะต้องได้มาแน่นอน  อายุยืนยาวที่ไฝ่ฝันถึงนั่นน่ะ

ทว่าหากเป็นแบบนั้นแล้วเมื่อเวลาที่ผ่านไปหลายปีก็จะไม่เหลือญาติและเพื่อน ๆ ที่รายล้อมรอบตัว  จะเหลือแต่เพียงความโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงา  แล้วการดำรงอยู่แบบนั้นมันจะอยู่ไปเพื่ออะไรกันล่ะ?

มีชีวิตอยู่เพื่อแค่อยู่  แบบนั้นก็ไม่ต่างอะไรจากพืช  ดิน  หรือก้อนหินหรอกเหรอ?

นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ถังเจิ้นเริ่มเรียนรู้ที่จะชะลอความเร็วและค่อย ๆ เพลิดเพลินไปกับความสุขของชีวิต

ถึงยังไงชีวิตนี้ก็แสนสั้นนัก  เส้นทางในการอัปเกรดโหลวเฉิงก็แสนยาวนานและยากลำบาก  ถ้างั้น...  ทำไมไม่ลองเก็บของขวัญอันแสนวิเศษทุกชิ้นที่เจอระหว่างทางไว้ดูล่ะ!

แม้ว่าในใจจะคิดแบบนี้อยู่ก็ตาม  แต่ก็ไม่รู้ทำไมมันถึงยังติดขัดอะไรบางอย่างทำให้ไม่สามารถก้าวต่อไปได้  มันราวกับมีอะไรบางอย่างขวาอยู่ที่ทำให้ไม่เกิดความแล้วในใจซักที

ทว่าเสียงหัวเราะที่ระเบิดออกมาเองโดยไม่ได้ตั้งใจนี้กลับทำให้ใจที่ติดขัดเปิดออก  สติเกิดความแจ่มชัดขึ้นมาในทันที!

ความหมายลึกลับในเรื่องนี้คงมีเพียงถังเจิ้นเท่านั้นที่สามารถเข้าใจได้!

หลังจากที่หัวเราะอย่างเต็มที่แล้วถังเจิ้นก็เพิกเฉยต่อไอ้ต่างเผ่าที่ตกอยู่ในความสับสนและหวาดกลัว  แต่มองไปยังผู้หญิงต่างเผ่าผู้น่ากลัวตรงหน้า

อีกฝ่ายเองก็จ้องเขากลับมาพร้อมกับรอยิ้มจาง ๆ ที่ประดับใบหน้า  แต่แววตากลับบอกถึงความรำคาญใจ

“ถ้านับดี ๆ ล่ะก็เราเจอกันสามครั้งแล้วใช่มั้ย

จู่ ๆ ก็รู้สึงว่าทุกครั้งที่เจอเธอเป็นต้องประหลาดใจได้ทุกทีเลยเชียว!” ถังเจิ้นพูดกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง

“นั่นควรเป็นคำพูดฉันมากกว่า  เพราะทุกครั้งที่ฉันได้เห็นนายเป็นต้องเห็นว่านายมีรากฐานการฝึกฝนสูงขึ้นทีละหลายขั้นตลอดเลย  ดูอย่างตอนนี้ซิ  เป็นระดับราชาไปแล้วเนี่ย!

ว่าก็ว่าเถอะถังเจิ้น  นายทำได้ไงอะ  ไหนลองเอามาแชร์กันหน่อยซิ  แน่นอนว่าไม่ขอเปล่า ๆ หรอก  รับรองว่าฉันจะทำประโยชน์ให้นายแบบคุ้ม ๆ เลย!”

ผู้หญิงต่างเผ่าจ้องถังเจิ้นไม่วางตา  น้ำเสียงที่พูดบ่งบอกถึงความอยากรู้อยากเห็น  ซึ่งแววตาสงสัยนั้นบ่งบอกเลยว่าอยากรู้จริง ๆ ไม่ได้เล่นตุกติก

“ความลับส่วนตัวบอกไม่ได้  แต่ถึงบอกไปหล่อนก็ทำตามไม่ได้อยู่ดีแหละ!” ถังเจิ้นส่ายหน้าส่งซิกให้อีกฝ่ายตัดใจซะ

“ฮึ่ม  ไม่บอกก็ไม่บอกสิ  ถ้าฉันจับวิญญาณนายกินล่ะก็เด๋วก็รู้แล้วทำตามได้เองแหละ!”

เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ยอมรับคำประเมินของถังเจิ้นและพูดด้วยน้ำเสียงหิวโหยพร้อมแลบลิ้นเลียปาก

“แต่จะว่าไปจากความทรงจำที่ฉันได้จากวิญญาณที่กินเหมือนนายจะมาจากโหลวเฉิงระดับทวีปสินะ  แถมครั้งนึงนายยังเคยเป็นคนที่เลเวลสูงแต่กลับถูกผนึกไว้  เพราะงั้นนี่จึงเป็นสาเหตุที่นายเลื่อนระดับได้รวดเร็ว

ถ้าวิเคราะห์ไปตามนี้ล่ะก็เรื่องมันจะสมเหตุสมผลและเป็นไปได้มากที่สุดแล้ว!”

ผู้หญิงต่างเผ่าพูดมาถึงตรงนี้แล้วแววตาก็เปลี่ยนเป็นผิดหวัง  ขณะเดียวกันก็มีอารมณ์เหมือนกำลังหวนรำลึงถึงความหลังอะไรบางอย่าง

แต่ถังเจิ้นที่ได้ยินอีกฝ่ายพูดก็กลับต้องประเมินอีกฝ่ายใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า  เขารีบถามอย่างสงสัยมาก “เธอหมายความว่าไง!  จะบอกว่าสามารถรับเอาความทรงจำจากวิญญาณที่กินเข้าไปมาเป็นของตัวเองได้ด้วยเอ่อ!”

“ก็ปกติหนิ  เป็นความสามารถที่มีมาแต่เกิดแล้ว!”

ผู้หญิงต่างเผ่าตอบด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด