ตอนที่แล้วตอนที่ 119 ความอิจฉาของ หวงอิ๋ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 121 เข้าร่วมงานประกาศรางวัลดนตรี

ตอนที่ 120 คำเชิญของ รองประธานเผิง


“เป็นอย่างไรบ้าง คุณชายซู คุณรู้สึกพอใจไหมครับ?”

เมื่อเข้าไปข้างใน ผู้จัดการฉั่ว ก็ได้พา ซูเหวิน ไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ แล้วอดจะยิ้มหัวเราะไม่ได้

“อืมมม เยี่ยม.. ที่นี่ดีมากๆ”

“คงจะรู้สึกดีมากถ้าได้อยู่ที่นี่…”

ซูเหวิน รู้สึกยินดีอยู่ในใจ และเขาไม่ลังเลเลยที่จะกล่าวยกย่องที่นี่อย่างไม่ตระหนี่

หลังจากเข้าชมเพนท์เฮ้าส์หลังนี้แล้ว เขารู้สึกผ่อนคลาย และเป็นธรรมดาที่จะมีความสุขมากกับมัน

อย่ามองว่าเพนท์เฮ้าส์นี้เป็นที่พักอาศัยอยู่บนอาคารสูง

แต่ต้องบอกว่าพื้นที่ของมันไม่น้อยเลย ครอบคลุมกว่าสามร้อยตารางเมตร

การออกแบบโครงสร้างห้องนั้นเป็นไปอย่างชาญฉลาดมาก การตกแต่งก็เป็นไปอย่างประณีต เรียบง่าย สวยงาม จนทำให้สถานที่นี่ดูกว้างขวางไม่น้อยจริงๆ

สิ่งที่สําคัญที่สุดคือ วิว และทิวทัศน์ของที่นี่

เนื่องจากชั้นที่เขาอยู่ค่อนข้างสูง และเป็นชั้นที่ดีที่สุดของอาคารนี้ ดังนั้นชั้นที่ ซูเหวิน อยู่จึงมีมุมมองที่กว้างเอามากๆ

เบื้องหน้าเป็นแม่น้ำ โดยมีหอไข่มุกตั้งอยู่ตรงหน้า

ด้านหน้าหากมองไปในแนวทแยงจะเป็น หาดไว่ทาน(The Bund) ด้านข้างยังสามารถมองเห็นพื้นที่อาคารพักอาศัยสุดหรูอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือ ชุมชนทอมสัน

ทิวทัศน์ที่สวยงามเช่นนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกสดชื่นได้มากจริงๆ

ซูเหวิน ได้เซ็นสัญญารับบ้านของที่นี่ทันที

จนถึงตอนนี้ เพนท์เฮ้าส์หรูนี้ก็เป็นของเขาแล้ว..

หลังจากดูบ้านแล้ว เรื่องยุ่งๆ เกือบทั้งหมดได้สิ้นสุดแล้ว

เขาจึงขับรถ Mercedes-Benz Maybach กลับไปที่มหาลัย

ขณะนี้เป็นเวลาเที่ยงวันพอดี มีนักศึกษาเป็นจำนวนมากสัญจรเข้าออก

เมื่อ ซูเหวิน ขับรถ Mercedes-Benz Maybach เข้าไปในลานจอดรถของมหาลัย ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกพบเห็น

ทันใดนั้น ก็มีเพื่อนนักศึกษาหลายคนรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา

หันไปทาง ซูเหวิน แล้วกดคลิกถ่ายรูปรัวๆ ไปหลายรูป

แม้แต่นักศึกษาบางคนยังถ่ายรูป ซูเหวิน ขณะเขากําลังลงจากรถด้วย

จากนั้นพวกเขาก็โพสต์รูปภาพทั้งหมดลงไปยังฟอรั่มของมหาลัย

ทันใดนั้น ซูเหวิน ก็ได้รับความนิยมขึ้นมาในฟอรั่มอีกครั้ง

“บ้าชิบ ซูเหวิน เปลี่ยนรถใหม่อีกแล้ว เขาเปลี่ยนรถมากี่ครั้งแล้ว?”

“นั่นน่ะสิ! แรกๆ ก็เป็น Aston Martin ต่อมา Lamborghini ตอนนี้ก็ Mercedes-Benz Maybach นี่ไม่ใช่ว่ารวยเกินไปแล้ว?”

“เชี้ยไรวะเนี้ย!! ครั้งแรกที่ได้ยิน ซูเหวิน ขับรถหรู ฉันคิดว่าเป็นดอกไม้งาม เซี่ย ที่ซื้อให้กับเขา แต่ไม่ว่า ดอกไม้งาม เซี่ย จะมีเงินแค่ไหน เธอก็ไม่สามารถซื้อรถหรูมากมายให้กับ ซูเหวิน ติดต่อกันได้ ถูกมั้ย?”

“หรือว่าเขาจะเป็นคนรวยรุ่นสองจริงๆ เมื่อก่อนแสร้งทําเป็นยากจนเพื่อทดสอบความจริงใจของ ฟาง ซินอี๋?”

“ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ฉันคิดว่า ฟาง ซินอี๋ คงประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่แล้ว”

“ฮ่าฮ่าๆ นี่มันเรียกว่ายิ่งกว่าการสูญเสียครั้งใหญ่อีก เพื่อนร่วมชั้น ซู เขานั้นช่างลึกลับ และยิ่งใหญ่ ก็ดูสิเขาแข็งแกร่งมากเป็นอันดับหนึ่งในการวิ่งระยะไกล เรื่องร้องเพลงเองก็ยอดเยี่ยม ไหนจะหน้าตาเองที่หล่อเหลานั้นอีก เขาเหมาะสมกับการเป็นเทพบุตร(หญ้ามหาลัย)ของเราจริงๆ โอเค ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่า ฟาง ซินอี๋ เธอมันตาบอดหรือไม่ แต่บอกตามตรงฉันคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าเธอจะทิ้งเขา ..ไปได้ ฮ่าฮ่าๆ….”

ชั่วขณะหนึ่ง เพื่อนร่วมชั้นต่างพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้

แต่ในขณะที่คุยกันไป สุดท้ายพวกเขาก็พากันชี้นิ้วไปที่ ฟาง ซินอี๋

ดอกไม้งามที่เดิมค่อนข้างโด่งดังในมหาลัยดูเหมือนจะกลายเป็นเป้าหมายของการเยาะเย้ยในครั้งนี้

ต้องบอกว่านับตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่ ซูเหวิน ทุบตี คุณชายหลี่ อย่างรุนแรง ฟาง ซินอี๋ และหลี่ อวี้เฟิง ก็ไม่กล้าที่จะมีปัญหาอะไรกับ ซูเหวิน อีก

เมื่อก่อนพวกเขาโดดเด่นแค่ไหน ตอนนี้ก็กลับดูจะถ่อมตัวลงแค่นั้น

คุณชายหลี่ ยังโชคดีอยู่ หลังจากถูก ซูเหวิน ทุบตีไปแล้ว นอกจากเข้านอนโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัวแล้ว อย่างมากที่สุดเขาก็แค่ ‘เสียหน้า’ เท่านั้น

ฟาง ซินอี๋ เธอกลับแตกต่างออกไป

เธอเป็นแฟนเก่าของ ซูเหวิน

นับตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่เธอพยายามจะใส่ร้าย ซูเหวิน แต่กลับล้มเหลว เธอก็ได้ถูกจำคุก และใช้เวลาอยู่หลายวันก่อนจะได้รับการปล่อยตัวออกมา

หลังจากนั้น ยังต้องชดใช้ค่าเสียหายต่างๆ ให้แก่ ซูเหวิน อีกหลายหมื่น

ด้วยเหตุนี้ เธอจึงถูกพ่อแม่ดุด่าไปไม่น้อย

เธอที่เคยเป็นคนใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย แต่ชีวิตของเธอในตอนนี้กลับต้องอยู่ในสภาวะขัดสน

สิ่งที่ทําให้ ฟาง ซินอี๋ ยอมรับไม่ได้มากที่สุดก็คือ…

ซูเหวิน ซึ่งเดิมทีไม่ได้อยู่ในสายตาของเธอด้วยซ้ำ ตอนนี้กลับโดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ และชีวิตของเขาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ

ขับรถหรู และมาพร้อมกับดอกไม้งามมหาลัย..

ความอิจฉาริษยา และความเกลียดชังในใจของเธอ ใครๆ คงสามารถจินตนาการได้ว่ามันมีอยู่มากแค่ไหน

เสียดายที่โลกนี้ไม่มียารักษาโรคเสียใจ

ส่วนผลกระทบในปัจจุบันนี้ ก็พูดได้แค่ว่าเป็นเธอที่ทําร้ายตัวเองเท่านั้น

ทั้งนี้ ซูเหวิน ไม่ทราบถึงเรื่องนี้ และเขาเองก็ขี้เกียจเกินกว่าจะไปสนใจมัน

หลังจากเขามาที่มหาลัย ตอนนี้เขาก็ไม่มีอะไรอื่นให้ทำอีกแล้ว

เพียงรอให้ทาง Worster Group โอนเงิน 5 พันล้านนั้นให้กับบริษัท ซินลี่ เทคโนโลยี

ด้วยวิธีนี้เขาก็สามารถเข้าควบคุม ไชน่า รีซอร์สเซส กรุ๊ป ได้

แต่สิ่งที่ทําให้ ซูเหวิน ไม่คาดคิดก็คือ..

ก่อนหน้านี้เขากลับได้รับโทรศัพท์จาก ช่านซิง และเป็นรองประธานเผิง ที่โทรเข้ามา

“คุณว่าไงนะ ให้ผมไปร่วมงานประกาศรางวัลดนตรี?”

ซูเหวิน ตกตะลึงเล็กน้อย และเขาถามด้วยความประหลาดใจออกไป

และใช่..เมื่อกี้ทันทีที่เขาเพิ่งรับโทรศัพท์ของ รองประธานเผิง

เขาก็ได้รับทราบข่าวที่น่าประหลาดใจนี้.. ที่ทำให้เขาแทบจะตั้งตัวไม่ทัน

“ครับ ประธานซู”

“งานประกาศรางวัลดนตรีครั้งนี้ จัดขึ้นร่วมกันโดยหลายหน่วยงาน อาทิ สมาคมดนตรี สถานีวิทยุเมืองม่อ และหน่วยงานอื่นๆ อีกมากมาย”

“ไม่ใช่แค่ ช่านซิง ของเราเท่านั้น แต่ยังมีศิลปินจากค่ายบันเทิงอื่นๆ ที่ได้เข้าร่วมด้วย และนี่ถือว่าเป็นงานประกาศรางวัลที่ค่อนข้างยิ่งใหญ่ และแน่นอนว่า คุณในฐานะประธานก็ย่อมสามารถเข้าร่วมได้ด้วยเช่นกัน”

ทางโทรศัพท์มีเสียงที่เต็มไปด้วยความเคารพ และเสียงหัวเราะยิ้มแย้มของ รองประธานเผิง ดังขึ้นจากอีกฝั่ง

“นั่นมันจะดีเหรอ?”

“งานประกาศรางวัล มักจะเป็นคนบันเทิง ศิลปิน นักร้อง และผู้จัดการระดับแถวหน้าที่จะเข้าร่วม แล้วบอสที่อยู่เบื้องหลังอย่างผมไปเข้าร่วมด้วยนี้.. ถือเป็นเรื่องปกติ?”

ซูเหวิน ขมวดคิ้ว แล้วถามไปอย่างสงสัย

แม้ว่าจะฟังดูไม่เลว และเขาเองก็อยากไปดูมาก.. ก็ตามที

“ฮ่าฮ่าๆ ประธานซู คุณพูดล้อเล่นได้เก่งจริงๆ”

“งานประกาศรางวัลดนตรีนี้ไม่ใช่เพียงแต่ศิลปินเท่านั้น เจ้าของบริษัทหลายคนก็เข้าร่วมด้วย และมีแม้แต่กระทั่งนักลงทุนก็ได้รับเชิญให้เข้าร่วมด้วยเช่นกัน”

รองประธานเผิง รีบอธิบาย

จากนั้นเขาก็พูดต่อว่า : “งานประกาศรางวัลครั้งนี้ ศิลปินหลายคนในบริษัทของเราก็ได้รับการเสนอชื่อ โดยเฉพาะ ถานอี้ เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงหลายรางวัล และอาจได้รับรางวัลมากมายไปในครั้งนี้”

“ในฐานะประธานบริษัท การเข้าร่วมงานครั้งนี้อาจเป็นวิธีการที่ดีในการเสริมสร้างชื่อเสียงของบริษัทของเรา!”

รองประธานเผิง กล่าวด้วยความคาดหวัง

และเหตุผลที่เขาอยากให้ ประธานซู ไปเข้าร่วมงานประกาศรางวัล

แน่นอนว่าไม่ใช่เพียงเพราะเขาเป็นประธานของ ช่านซิง เท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะตัวตนที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าที่อยู่เบื้องหลังของเขาด้วย

ลองคิดดูสิว่า เจ้านาย หรือศิลปินจากค่ายบริษัทอื่น พวกเขาจะมีสีหน้าเป็นอย่างไร เมื่อพบเห็น ประธานซู แห่ง ช่านซิง และยังคงมีสถานะที่แข็งแกร่งอยู่เบื้องหลังอย่าง ประธานของ Worster Group?

แค่คิดก็ทำให้ผู้คนตั้งตารอคอยแล้ว

แต่ในขณะที่เขากำลังพูดเชิญ ซูเหวิน อยู่นั้น ระบบก็ได้ส่งเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นในใจ(หัว)ของ ซูเหวิน

“ติ๊ง!”

“ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่กระตุ้นภารกิจสำเร็จ”

“ภารกิจระบบ : ตอบรับคําเชิญของ รองประธานเผิง เพื่อเข้าร่วมงานประกาศรางวัลดนตรี”

“รางวัลภารกิจ : หุ้น 100% ของ แฮปปี้บาร์(Happy Bar) บาร์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 7 ในเมืองม่อ”

แฮปปี้บาร์?

ซูเหวิน อยู่ในเมืองม่อแห่งนี้มาเป็นเวลาสามปี และเคยไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ มามากมาย

แต่เขากลับไม่รู้จักบาร์แห่งนี้จริงๆ

เมื่อมองเผินๆ แล้วดูเหมือนไม่ใช่บริษัทใหญ่ หรือธุรกิจใหญ่อะไร

แต่ก็โอเค ไม่เป็นไร.. บาร์ในเมืองม่อแห่งนี้ไม่ได้มีเป็นพันก็เป็นร้อย

หากคิดในแง่ดี บาร์ที่ติด 10 อันดับแรกได้นั้น ..ก็ค่อนข้างดีมากอยู่แล้ว

“ยอมรับภารกิจ” ซูเหวิน กล่าวทันที

จากนั้นเขาก็พูดกับ รองประธานเผิง ที่ปลายสายว่า : “อืม งานประกาศรางวัลครั้งนี้ผมจะไป คุณช่วยบอกเวลา และสถานที่มาให้ผมหน่อย!”

“โอเค ประธานซู”

“ในอีกสามวันข้างหน้า คืนวันศุกร์ งานประกาศรางวัลดนตรีได้ถูกจัดขึ้นที่หอศิลป์เลอหย่า”

“ตราบใดที่คุณไปถึงก่อนทุ่มหนึ่ง แน่นอนว่าด้วยตำแหน่งของคุณ ต่อให้คุณไปสายก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร”

เมื่อเห็น ประธานซู ตอบรับคำเชิญของเขาจริงๆ

รองประธานเผิง ก็รู้สึกมีความสุขในใจ และรีบพูดออกไปอย่างรวดเร็วทันที

เขาเชื่อว่าด้วยการมีส่วนร่วมของ ประธานซู

งานประกาศรางวัลครั้งนี้ บริษัท ช่านซิง เอนเตอร์เทนเมนท์ ของพวกเขาจะต้องมีต้องมีหน้ามีตาแบบทบเท่าทวีคูณขึ้นมาอย่างแน่นอน

และซูเหวิน ที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็วางสายไปหลังจากรับปากกับ รองประธานเผิง

ขณะเดียวกันเขาก็มีความคิดหนึ่งขึ้นมาในใจ

งานประกาศรางวัลครั้งนี้ เขาจะเชิญ เซี่ย ซินเหยา ไปด้วยดีหรือไม่นะ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด