การหวนคืนของอัศวินมังกรไร้พลัง ตอนที่ 23 ช่วยนิดช่วยหน่อย

ตอนที่ 23 ช่วยนิดช่วยหน่อย

“เหตุผลที่ตระกูลจูต้องการให้นายเข้าร่วมกับตระกูลจูก็คือสถานะของตระกูลจู ตอนนี้ผู้นำตระกูลจูกำลังจะตายแล้วคงอยู่ได้อีกไม่กี่ปี เขาแก่มากแล้ว ถ้าผู้นำตระกูลจูตายอำนาจของตระกูลจูก็จะลดลงเยอะ และตระกูลจูก็มีศัตรูมากมายเมื่อพวกเราอ่อนแอพวกศัตรูของพวกเราก็คงไม่ยืนดูเฉยๆ แน่นอน ตอนนี้ตระกูลจูพยายามทำทุกทางให้ตระกูลมีอำนาจมากขึ้น ตอนนี้ตระกูลจูพยายามทำทุกทางเพื่อให้ตระกูลแข็งแกร่งขึ้น นายคือเป้าหมายอันดับ 1 ผู้ควบคุมมังกร”

จูเจี่ยเว้นช่วงสักพัก ระหว่างเว้นช่วงเขาก็มองไปทางมังกรน้ำแข็งบนฟ้าแล้วพูดต่อ

“พูดตรงๆ ตอนที่ฉันได้ยินว่าทางตระกูลคิดว่านายควรเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ในการชวนเข้าตระกูลจู ฉันก็คิดว่าพวกผู้อาวุโสของตระกูลจูมีความคิดแปลกๆ แต่พอเห็นค่าพลังทั้งสามของมังกรน้ำแข็งของนาย ฉันก็รู้ว่าพวกผู้อาวุโสตระกูลจูคิดถูกกันแล้วพวกเขาคิดถูกแล้วที่ตั้งให้นายเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ออ! ไม่ต้องกังวลเรื่องใช้กำลังหรือใช้อำนาจบังคับนายเข้าตระกูลจู ตอนนี้ตระกูลจูมีศัตรูเยอะพอแล้วพวกเราไม่บังคับนายแน่นอน”

“ออ~ แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าเมืองโบราณแห่งนี้มีไข่มังกรอยู่”

หยางตงตอบแบบผ่านๆ แล้วถามคำถามต่อไป

เขาไม่สนใจว่าตระกูลจูจะเจอปัญหาอะไรหรือมีปัญหาอะไร เพราะไม่เกี่ยวกับเขา ตอนนี้เขาอยากรู้แค่ว่าจูเจี่ยรู้ได้ยังไงว่ามีไข่มังกรอยู่ที่เมืองโบราณแห่งนี้ เขาจำได้ว่าต้องผ่านไปอีกหลายปีถึงจะมีคนพบไข่มังกรศักดิ์สิทธิ์ที่เมืองโบราณแห่งนี้

“ไม่แน่ใจว่ามีอยู่ไหม อย่างที่บอกไปตระกูลจูส่งสมาชิกตระกูลจูแทบทั้งหมดออกตามหาไข่มังกร ถ้ารู้ว่าที่ไหนเกี่ยวข้องกับมังกรตระกูลจูก็จะเดินทางไปที่นั่น มีคนเคยบอกว่าเขาเคยเห็นรูปมังกรติดผนังสิ่งปลูกสร้างอยู่ข้างในเมืองโบราณแห่งนี้ ฉันก็เลยเดินทางมาที่นี่ แต่ถ้านายอยู่ที่นี่ด้วยแปลว่าที่นี่คงเกี่ยวข้องกับมังกรหรือไม่ก็มีไข่มังกรสินะ”

จูเจี่ยตอบแล้วถามคำถามต่อ

“ประมาณนั้น”

หยางตงตอบแบบอ้อมๆ ไม่ยืนยันอะไร

“นายต้องการให้พวกเราช่วยไหม?”

จูเจี่ยเสนอตัวช่วย ถึงเขาจะระดับน้อยกว่ามนุษย์ทุกคนในกลุ่มแต่เขาก็เป็นคนที่มีอำนาจสูงสุด ถ้าเขาบอกเดินหน้ากลุ่มมนุษย์กลุ่มนี้ก็ต้องเดินหน้า ถ้าเขาบอกว่าถอยหลังกลุ่มมนุษย์กลุ่มนี้ก็ต้องถอยหลัง ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้

“ไม่ต้อง”

หยางตงส่ายหน้า จูเจี่ยและกลุ่มของเขาอ่อนแอเกินไป ถึงตอนนี้เขาจะต้องการคนช่วยหาไข่มังกรศักดิ์สิทธิ์มากๆ เขาก็ปฏิเสธ ถ้าจูเจี่ยและกลุ่มของเขาอยู่ที่นี่จะช่วงสร้างปัญหาให้เขาแทนช่วยหาไข่มังกรศักดิ์สิทธิ์

“เข้าใจแล้ว”

จูเจี่ยแสดงท่าทางเสียใจ

“ถ้านายอยากช่วยมีเรื่องที่นายช่วยได้อยู่ นายคงสืบเรื่องของฉันมาบ้างแล้วและก็น่าจะรู้ว่าฉันกับซูหลาน คนตระกูลซูมีปัญหากัน ฉันต้องการให้นายกดดันตระกูลซูเรื่องธุรกิจนายสามารถทำได้ไหม”

หยางตงยังไม่ลืมเรื่องซูหลานและตระกูลซูของเธอ

“ได้แน่นอน”

จูเจี่ยตอบแบบไม่คิดอะไรเลย ตระกูลจูของเขาอยู่ในเมืองหลวงของเผ่าพันธุ์มนุษย์แปลว่าพวกเขามีอำนาจพอสมควร อย่าว่าแต่กดดันเรื่องธุรกิจตระกูลซูของซูหลานเลย ถ้าหยางตงต้องการตระกูลจูของเขาสามารถทำลายตระกูลซูได้เลย ขอแค่ให้หยางตงขอ

จริงอยู่ที่อยู่ๆ ตระกูลจูส่งคนของตัวเองไปฆ่าคนตระกูลซูไม่ได้ ทว่า ยังมีวิธีทำลายตระกูลซูอีกมากมาย เช่น ใส่ร้ายว่าตระกูลซูทำผิดกฎหมาย ไม่สิ! เรื่องนี้ไม่ต้องใส่ร้ายเพราะเขาศึกษาเรื่องตระกูลซูของซูหลานที่มีปัญหากับหยางตงมานิดหน่อย แล้วก็รู้ว่าตระกูลซูทำเรื่องผิดกฎหมายมากมาย ถ้าส่งคนตระกูลจูที่อยู่ในหน่วยตรวจสอบเรื่องผิดกฎหมายไปตรวจสอบคงเจอเรื่องผิดกฎหมายจำนวนมาก

“ขอบคุณ งั้นก็แยกกันตรงนี้”

หยางตงพยักหน้าแล้วกระโดดขึ้นหลังมังกรน้ำแข็งอีกครั้ง

เมื่ออยู่บนหลังมังกรน้ำแข็งแล้วหยางตงก็สั่งให้มังกรน้ำแข็งบินต่อไป บินหาไข่มังกรศักดิ์สิทธิ์

….

หลายวันต่อมา

ณ คฤหาสน์ตระกูลซู

ปัง!!!

ผู้นำตระกูลซูพ่อของซูหลานทุบกำปั้นของเขาลงโต๊ะไม้ยาวขนาดใหญ่ ด้านหน้าขอเขาคือสมาชิกตระกูลซูสวมชุดสูทสีดำที่กำลังนั่งก้มหน้า พวกเขาไม่กล้าพูดอะไรออกมา

เมื่อจูเจี่ยกลับถึงตระกูลเขาก็เริ่มแผนกดดันธุรกิจตระกูลซูทันที เขาบอกกับผู้อาวุโสของเขาว่าหยางตงต้องการอะไร ผู้อาวุโสของเขาก็เริ่มกดดันธุรกิจตระกูลซู ทั้งบอกให้ตระกูลที่ทำธุรกิจกับตระกูลซูยกเลิกการทำธุรกิจ ทั้งส่งคนจากหน่วยตรวจสอบเรื่องผิกกฎหมายไปที่กลุ่มธุรกิจตระกูลซู

เลวร้ายที่สุดเลยก็คือ มีคนรายงานว่าหลอดไฟโรงแรมตระกูลซูดับเอง 2 ครั้ง ตอนที่เขาอยู่ในห้อง ทางหน่วยตรวจสอบคุณภาพของโรงแรมก็สั่งปิดโรงแรมทั้งหมดที่เป็นของตระกูลซู แล้วบอกว่าต้องใช้เวลาตรวจสอบ 1 ปี

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก แค่ไฟดับเอง 2 ครั้ง มันต้องทำให้ปัญหาใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ แล้วแค่ไฟดับทำไมต้องสั่งปิดโรงแรม แล้วถ้าปิดก็ควรปิดโรงแรมที่เป็นปัญหาสิปิดโรงแรมทั้งหมดที่เป็นของตระกูลซูมันถูกต้องเหรอ แล้วเวลาตรวจสอบ 1 ปี นั่นมันอะไร เฮ้ยๆ แค่ไฟดับทำไมต้องใช้เวลาตรวจสอบ 1 ปี

เรื่องไร้สาระอีกเรื่องคือโรงงานผลิตอาหารกระป๋องของตระกูลซู มีคนรายงานว่าบนกระป๋องอาหารเขียนว่าปลาไม่มีก้างปลาเพราะถูกเอาออกมาหมดแล้ว แต่มีคนเปิดกระป๋องแล้วเจอกับก้างปลาขนาดเล็กมากๆ จนมองด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็นคือถ้ากินไปก็ไม่รู้สึกว่ามีก้างปลา แต่คนที่เจอก้างปลารายงานว่าตระกูลซูโฆษณาเกินจริง

หน่วยงานตรวจสอบคุณภาพอาหารเลยเข้าตรวจสอบโรงงานผลิตอาหารกระป๋องตระกูลซูอย่างรวดเร็ว และสั่งปิดโรงงานผลิตอาหารกระป๋องทั้งหมดของตระกูลซู ใช่แล้ว! สั่งปิดโรงงานผลิตกระป๋องทั้งหมด ไม่ใช่แค่โรงงานผลิตอาหารกระป๋องที่ผลิตอาหารกระป๋องที่เป็นปัญหา โรงงานผลิตอาหารกระป๋อง 20 แห่งโดนปิด แล้วก็ต้องใช้เวลาตรวจสอบความปลอดภัยของอาหาร 1 ปี

รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ของตระกูลซูก็มีปัญหาตั้งแต่ปัญหาเล็กๆ ไปจนถึงปัญหาขนาดใหญ่

“มีใครบอกฉันได้บ้างว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมหน่วยงานตรวจสอบถึงทำกับตระกูลซูของเราแบบนี้ เรื่องรายงานพวกนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ ทางหน่วยงานตรวจสอบก็ปล่อยผ่านไป ทำไมครั้งนี้ถึงจริงจังและทำงานกันรวดเร็วขนาดนี้ รายงานไปวันที่ 1 วันที่ 2 หน่วยงานตรวจสอบคุณภาพอาหารถึงโรงงานผลิตอาหารกระป๋องแล้ว นี่มันเรื่องบ้าอะไร แล้วตอนนี้พันธมิตรทางธุรกิจของพวกเราก็พยายามออกห่างจากพวกเรา ธุรกิจที่พวกเราลงทุนด้วยกันก็ถูกยกเลิกเกือบทั้งหมด ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น!!”

ผู้นำตระกูลซูถามสมาชิกตระกูลซู