ตอนที่แล้วChapter 1288 นิกายระดับหนึ่ง ศักดิสิทธิ์นิรันดร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1290 ราชันย์สุดหล่อ และ ราชันย์จุน

Chapter 1289 จุนซ่างเซียวประมุขแผ่นดิน


เพราะว่านิกายยกระดับเป็นนิกายชั้นหนึ่ง ทำให้จุนซ่างเซียวหัวใจสั่นไหวไปมา ดังนั้นจึงต้องการจบให้เร็วที่สุด ไม่พูดพร่ำทำเพลง เข้าสู่หัวข้อเลย.

นิกายนิรันดรนอกจากเลื่อนเป็นชั้นหนึ่งแล้ว จุนซ่างเซียวยังต้องการมีสถานะสูงสุดของทวีป จึงได้สอบถามทุกคนว่ายอมรับหรือไม่? มีใครโต้แย้งไหม!

อย่างไรก็ตาม หลังจากคำพูดของเขาแล้ว ทั่วทั้งสนามชุมนุม แม้แต่ทั้งแผ่นดินที่กลายเป็นเงียบ ราวกับถูกแช่แข็งเอาไว้.

หลายคนไม่รู้ว่าชุมนุมยุทธ์โลกนั้นจัดเพื่ออะไร ตอนนี้รู้แล้ว นิกายนิรันดรที่ยกระดับเป็นนิกายชั้นหนึ่ง ต้องการเป็นผู้นำโลก!

ก่อนหน้านี้ แน่นอนว่าพวกเขาคงตะโกนดังลั่น ต้องไม่ลืมใครจะยอมรับกัน ตั้งแต่ในยุคโบราณ มีคนทำได้สักคนกัน?

ทว่าในเวลานี้ เหล่าชาวยุทธ์ที่สั่นไหว ผู้คนทั่วไปที่สั่นไปมา.

หากจะคิดถึงผู้นำโลกนะรึ? เจ้านิกายนิรันดร! ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นคนนำทุกคนเข้าสู่พิภพสงคราม แม้แต่ขยายพื้นที่สร้างอาณาเขตให้คนในทวีปเข้ามาทีหลังได้เข้าพัก.

เรื่องนี้ มีใครที่ไม่รู้กัน.

ระหว่างที่ทุกคนอยู่ในความเงียบนั้น สถานการณ์ดูอึมครึมเป็นอย่างมาก.

จุนซ่างเซียวที่ยืนมือขัดหลัง ก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล“เก้าราชันย์ เห็นว่าอย่างไร.”

“......”

ราชันย์หลิง ราชันย์จิงและคนอื่น ๆ ที่จ้องมองหน้ากันไปมาด้วยความงงงวย.

พวกเขารู้ว่าพันธมิตรชาวยุทธ์โลกนั้นเป็นองค์กรความร่วมมือ ทว่าไม่คาดคิดเลยว่าจุนซ่างเซียวจะเสนอเป็นผู้นำคนแรก ทำให้พวกเขารู้สึกกดดันเล็กน้อย.

“แค๊ก!”

ในเวลานั้น เสียงไอที่ดังขึ้น.

เก้าราชันย์ที่จ้องมอง แววตาที่เผยความหวาดหวั่นขึ้นมาทันที.

เพราะว่าเหล่านักโทษร้ายแรงทั้งเก้าที่เผยยิ้มให้กับพวกเขา เป็นรอยยิ้มที่มืดมน ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในทันที.

นี่หมายความว่าอย่างไร?

มันคือการข่มขู่นั่นเอง!

“เจ้านิกายจุนมีพรสวรรค์ที่ท้าทายสวรรค์ ผู้นำพันธมิตร ถูโหมวย่อมยอมรับ!”ราชันย์หลิงที่เอ่ยกล่าวยอมรับเป็นคนแรก.

อีกแปดราชันย์ที่กล่าวยอมรับด้วยเช่นกัน.

เป็นความจริง ถึงจุนซ่างเซียวไม่ส่งอี้เฟยซิวและคนอื่น ๆ ออกมา พวกเขาก็ได้ครุ่นคิดมาก่อนแล้ว อีกฝ่ายที่ช่วยพวกเขาออกมาจากนรก ทั้งเก้าย่อมให้การยอมรับ หนำซ้ำอีกฝ่ายยังมีความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าพวกเขาอีกด้วย.

“ทุกท่าน.”

จุนซ่างเซียวที่จดจ้องมองไปยังเหล่าเจ้านิกายชั้นหนึ่ง “พวกท่านคิดอย่างไร?”

“สามารถยกระดับจากสำนักระดับเก้าจนมาถึงนิกายอันดับหนึ่ง มีความสามารถที่ไม่ธรรมดาแน่นอน นิกายไท่เสวียนเซิ่งของพวกเรายินดียอมรับนิกายนิรันดรเป็นผู้นำ ยอมรับเจ้านิกายจุนเป็นผู้นำพันธมิตร!”เจ้านิกายยวีที่ลุกขึ้นยกมือประสานออกไปด้านหน้าทันที.

กับสถานการณ์ในเวลานี้ จะมีใครกล้าออกไปต้าน ดังนั้นเหล่านิกายใหญ่ต่างก็ยอมรับ.

นิกายระดับสองและสามเองก็เอ่ยกล่าวสนับสนุนเช่นกัน.

ในเวลานั้นเหล่านิกายใหญ่เล็กต่างก็กล่าวยอมรับนิกายนิรันดรเป็นผู้นำพันธมิตรเป็นผู้นำทวีปชิงหยุน.

“จังหวัดซีเหนียนหยางยอมรับหรือไม่?”

“ยอมรับ!”

“จังหวัดตงเป่ยลู่ล่ะ ยอมรับใหม?”

“ยอมรับ!”

“......”

เขาที่สอบถามจังหวัดต่าง ๆ เก้าจังหวัด ก่อนจะหันหน้าไปยังอีกฝั่ง“แล้วสามจังหวัดโพ้นทะเลล่ะ ยอมรับหรือไม่?”

“ยอมรับ!”

เจ้าวังชิวที่เอ่ยกล่าวยอมรับทันที.

สองสองจังหวัดที่กล่าวยอมรับ จุนซ่างเซียวที่หันหน้าไปยังเจ้านิกายราชันย์มาร พร้อมกับเผยยิ้ม “เจ้ายอมรับหรือไม่?”

“ยอมรับ ต้องยอมรับอยู่แล้ว!”เจ้านิกายซ่างเร่งรีบเอ่ยกล่าวออกมา.

ทั้งนิกายฝ่ายธรรมะและฝ่ายอธรรม ต่างก็ให้การยอมรับ เพราะว่านิกายนิรันดรเคยช่วยทวีปชิงหยุน พวกเขาย่อมต้องยอมรับ แม้แต่หวาดกลัวอีกฝ่ายที่จะรีดไถพวกเขาอีกด้วย หากว่าไม่ยอมรับ.

“ทุกท่าน.”

จุนซ่างเซียวที่กวาดตามองเหล่าชาวยุทธ์ที่มาชุมนุมแม้แต่มองรอดผ่านค่ายกลสะท้อน “พวกท่านล่ะยอมรับหรือไม่!”

“ยอมรับ!”

“พวกเรายอมรับ!”

ไม่ว่าจะเป็นเมืองใดของทวีปชิงหยุน เสียงดังกึกก้องสนับสนุนดังขึ้น ไม่มีเสียงใหนคัดค้านเลย.

จะให้ต่อต้านได้อย่างไร.

เก้าราชันย์และเหล่านิกายใหญ่ต่างเห็นด้วย แล้วจะมีใครกล้าขัดขืนล่ะ?

“ในเมื่อไม่มีใครโต้แย้ง.”จุนซ่างเซียวที่นำแบบฟอร์มออกมา กล่าวออกไปว่า“ขอให้เจ้านิกายทุกคน ทั้งฝ่ายธรรมะและอธรรม โปรดเซ็นสัญญาพันธะมิตรยอมรับเปิ่นจั้ว.”

“......”

เหล่าชาวยุทธ์ทุกคนที่มุมปากกระตุก.

แม้แต่เตรียมเอกสารให้ลงชื่อเอาไว้ด้วย.

เหล่าเจ้านิกายใหญ่ที่ได้แต่ลงชื่อ แม้แต่ยอมรับนิกายนิรันดรเป็นผู้นำ พวกเขาที่เป็นสมาชิกของพันธมิตร.

“เฮ้อ.”

ในมุมหนึ่งของการชุมนุม ฉินเห่าหรานที่จ้องมองการประชุมเงียบ ๆ.

ครั้งหนี่งเขาเคยก่อตั้งพันธมิตรร้อยสำนักขึ้นมา ทว่าองค์กรของเขานั้นช่างเล็กกระจิดริด ไม่อาจเทียบกับอีกฝ่ายได้เลย.

“ข้อตกลงมีผลในทันที.”

จุนซ่างเซียวที่โบกมือ พร้อมกับเอ่ยกล่าวอย่างเคร่งขรึม“ข้าคือผู้นำพันธมิตรโลกคนแรก.”

“คารวะท่านผู้นำ!”

“คารวะท่านผู้นำ!”

เก้าราชันย์ เจ้านิกายนิกายใหญ่ ทุกคนต่างก็ยกมือขึ้นประสานคารวะต่อจุนซ่างเซียว.

“ทุกท่าน ในเมื่อข้าได้รับหน้าที่เป็นผู้นำพันธมิตร แน่นอนว่าข้าต้องรับผิดชอบหน้าที่อย่างดีที่สุด ข้าจะทำให้ทวีปชิงหยุนยกระดับขึ้นไปอีกขั้น!”

“ดังนั้น!”

จุนซ่างเซียวที่ดีดนิ้ว พร้อมกับปรากฏหน้าจอขนาดเล็กขึ้น.

เป็นหน้าจอแผนที่ของทวีปชิงหยุน พร้อมกับมีจุดส่องสว่างไปทั่วทวีป ปกคลุมทั่วทั้งเก้าจังหวัด เป็นจุดที่ส่องสว่างมากมาย.

โกวเซิ่งที่เอ่ยเสียงดัง “ข้าได้จัดเตรียมค่ายกลเคลื่อนย้ายขึ้นมา มันสามารถส่งคนไปยังอีกสถานที่หนึ่งอย่างรวดเร็ว นับจากวันนี้จะเปิดทำการ ให้ทุกคนสามารถเดินทางได้สะดวกยิ่งกว่าเดิม!”

เก้าราชันย์ที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโตอีกครั้ง.

ค่ายกลเคลื่อนย้าย น่าเกรงขามเกินไปแล้ว!

“แน่นอน.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ก่อนหน้าใช้เฉพาะนิกายของข้า ในเมื่อประกาศใช้ต่อสาธารณะ ดังนั้นทุกคนสามารถเคลื่อนย้ายได้ ทว่าจะต้องจ่ายศิลาวิญญาณในการเคลื่อนย้าย.”

“เจ้านิกายจุน!”

ใครบางคนที่เอ่ยสอบถามออกมา “สามารถเคลื่อนย้ายไปได้ไกลแค่ใหน?”

จุนซ่างเซียวชี้ไปยังแผ่นดิน เอ่ยออกมาว่า“ในพื้นที่เก้าจังหวัดไม่ว่าจะเป็นที่ไหนบนจุดส่องสว่าง ขอเพียงเคลื่อนย้ายไป สามารถเคลื่อนย้ายได้เพียงพริบตาเดียว.”

“เคลื่อนย้ายทันทีรึ?”

“ลึกลับขนาดนี้เลยรึ?”

“ดูนั่นเร็วเขา ในเวลานั้นปรากฏค่ายกลขึ้น!”

เหล่าชาวยุทธ์เมืองใหญ่มากมายพบว่า มีริ้วแสงที่เหมือนกับวงเวทย์แตกแขนงเป็นเส้นใยแมงมุมส่องสว่างปรากฏขึ้น เป็นสัญลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีช่องให้ทุกคนใส่ศิลาวิญญาณลงไปด้วย.

“เตรียมขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

แน่นอนว่านิกายนิรันดรได้ลอบเตรียมเอาไว้ นอกจากนี้ยังเป็นค่ายกลระดับสูงด้วย แม้แต่คนผ่านไปผ่านมา ยังไม่สังเกตเห็นการมีอยู่ของมัน.

จุนซ่างเซียวที่ได้รับคัดเลือกเป็นผู้นำพันธมิตร แน่นอนว่าจำเป็นต้องพิสูจน์ตัวเอง ดังนั้นจึงคลายการปิดกั้น ปรากฏค่ายกลให้คนอื่น ๆได้เห็น เพียงแค่จ่ายศิลาวิญญาณเทียม ก็สามารถไปใหนมาใหนในแต่ละจังหวัดได้ดั่งใจ.

“ข้าจะทดสอบเอง!”

ผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งที่จ้องมองไปยังสัญลักษณ์ พร้อมกับใส่ศิลาวิญญาณเทียมลงไป ก่อนที่ค่ายกลจะส่องสว่างส่งเขาจากจังหวัดซีอวิ๋นไปยังจังหวัดตงเป่ยลู่ทันที.

“สวรรค์!”

“ลึกล้ำเกินไปแล้ว!”

“จากนี้ หากว่ามีธุระรีบเร่ง สามารถจ่ายศิลาวิญญาณเทียมไปใหนมาใหนได้เลย!”

“การกระทำของเจ้านิกายจุน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทุกคนทั่วทวีปต่างก็ได้ผลประโยชน์!”

ขณะที่ทุกคนอุทานด้วยความตื่นเต้นประหลาดใจกับการเคลื่อนย้ายผ่านค่ายกลเคลื่อนย้าย ในเวลาเดียวบนท้องฟ้าที่ไกลออกไปกลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรง ราวกับจะฉีกท้องฟ้า ปรากฏร่างที่มีแสงเจ็ดสีแผ่กลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรงออกมา.

“นี่มัน.....”

ในเวลานั้นคนทั่วโลกที่เผยความประหลาดใจ“กำเนิดราชันย์!”

ทุกครั้งที่เกิดยอดฝีมือ ย่อมเกิดปรากฏการณ์ฟ้าดินขึ้นนั่นเอง.

ปรากฏการของทวีปชิงหยุน เพราะว่าราชันย์ยุทธ์ที่อยู่บนจุดสูงสุด จึงเกิดปรากฏการณ์ที่เห็นไปทั้งโลก.

น่าเสียดาย.

ตั้งแต่ยุคโบราณ พลังฟ้าดินมีจำกัด ทำให้คนที่จะก้าวไปถึงราชันย์น้อยมาก มีราชันย์ได้แค่สิบคน หากไม่มีคนใดตกตายไปก็จะไม่สามารถก้าวถึงระดับนั้นได้.

“ปรากฏแล้ว!”

“บัลลังก์ราชันย์ได้ปรากฏแล้ว!”

“ในอดีตราชันย์รัตติกาลที่ปรากฏขึ้น ก็เคยเกิดเหตุการณ์นี้ครั้งหนึ่ง!”

“น่าเสียดาย นับตั้งแต่อีกฝ่ายตกตายไป ตำแหน่งราชันย์ดังกล่าวก็ว่างเปล่าไม่มีใครรับสืบทอดได้!”

ทั่วทั้งโลกที่พูดคุยกันไปมาด้วยความตื่นเต้น บางคนที่แม้แต่คุกเข่าลง การปรากฏของปรากฏการณ์ตำแหน่งราชันย์นั้นดูยิ่งใหญ่จนต้องคุกเข่าลงอย่างนอบน้อม.

ดูเหมือนว่าปัญหาคนผู้นั้นเป็นใคร!

เป็นใครกัน? ใครที่สำเร็จเป็นราชันย์และสร้างปรากฏการณ์บัลลังก์ราชันย์นี้ขึ้น!

“พวกเจ้าดูที่ภาพหน้าจอเร็วเข้า!”

ในเวลานั้น ผู้คนแต่ละคนที่ร้องตะโกนโหวกเหวก.

“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”

เหล่าชาวยุทธ์ทั้งแผ่นดินที่จ้องมองค่ายกลสะท้อน จากนั้นก็พบว่า จุนซ่างเซียวที่อยู่บนแท่นนั้น ทั่วร่างปกคลุมด้วยแสงเจ็ดสี ส่องสว่างเจิดจ้า บนท้องฟ้าปรากฏริ้วแสงของบัลลังก์ราชันย์.

เป็นเขา!

เป็นเจ้านิกายจุน!

เป็นเขาที่สร้างปรากฏการณ์บัลลังก์ราชันย์นี้ขึ้น!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด