ตอนที่แล้วตอนที่ 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 4

ตอนที่ 3


ตอนที่ 3

ที่นี่มันที่ไหนกันน่ะ ?

ผมได้สติมาแล้ว แต่เหมือนมีแค่ความมืดอยู่ตรงหน้าผม

มีอะไรบางอย่างห่อหุ้มทั่วร่างผมไว้ …เหมือนกับกำลังพยุงลอยอยู่ …

นี่ใช่การซาวน่าในห้องมืดหรือเปล่านะ ? ไม่สิไม่สิ มันไม่ใช่แบบนั้นเลย

ผมไม่มีประสบการณ์กับเดินอยู่ในห้วงอวกาศหรือโดนมัดมือมัดเท้ามาก่อน แถมยังโดนโยนเข้ามาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ด้วย ผมเลยประเมินอะไรไม่ถูกเลยจริงๆ

『 สวัสดีจ้า ! ทู้กคน! สายัณฑ์สวัสดิ์น้า  , 【โกลาหล】 ทั้งหลาย !』

ผมได้ยินเสียงเด็กสาวส่งเสียงร้องตื่นเต้นดีใจ

『ฉันแน่ใจอะนะ ว่าพวกเธอคงมีคำถามมากมายก่ายกองเลยล่ะ แต่ขอให้รอก่อนสัก 10 ชั่วโมง โอเคร้  !?

ถ้างั้น เจอกันนน~ 』

แล้วอยู่ๆเสียงของเด็กสาวคนนั้นก็เงียบไปทันที

หลังจากนั้นผมก็ได้ยินเสียงของเธอทุกชั่วโมง

“รอรายละเอียดอีกใน 9 ชั่วโมงน้า !”

“รออีก 8 ชั่วโมงเอง !”

เนื้อหาที่พูดไม่เปลี่ยน มีแค่จำนวนนับชั่วโมงทีลดลง

ถึงจะพูดแบบนั้นผมก็ซาบซึ้งใจเลยนะที่มีเสียงพูดเข้ามาในสถานการณ์แบบนี้

ในตอนที่ผมมีสติอยู่แต่ขยับร่างกายไม่ได้ และมองไม่เห็นอะไรเลย

การได้รับประสบการณ์แบบนั้นคือ หนึ่งนาทีเหมือนหนึ่งชั่วโมง หนึ่งชั่วโมงเหมือนหนึ่งวัน จนผมใกล้จะสติแตกแล้ว

ผมค่อนข้างแน่ใจเลยว่าตัวเองต้องบ้าไปแน่ๆหากเฝ้ารอเปล่าๆโดยไม่มีอะไรเข้ามาเลย

และในที่สุด ผมก็ได้ยินเสียงที่พูดว่า “รออีกหนึ่งชั่วโมง !”

อีกหนึ่งชั่วโมงในที่สุด ผมจะเป็นอิสระจากสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นกรงขังจิตวิญญาณเสียที

『ทำให้รอซะนานเลยแฮะ ~! อ้ะโอ๋ ? เหมือนจะมีคนสติแตกไปซะแล้ว ไม่เป็นไร๊ไม่เป็นไร!』

ถ้อยคำที่เด็กสาวพูดออกมาผิดไปจากปรกติ ถึงน้ำเสียงจะยังตื่นเต้นอยู่แต่ถ้อยคำที่พูดออกมามันออกจะน่ารังเกียจ

『ทุกคนจาก 【โกลาหล 】  , ฉันจะให้พวกเจ้าช่วยในการรังสรรค์โลกใหม่ใบนี้นะ !

พวกเจ้าน่ะเป็นกลุ่มบุคคลที่ชื่นชอบในเสรีภาพและความโกลาหลอลหม่านใช่ไหมล่ะ ดังนั้นก็น่าจะยืดหยุ่นให้ในเรื่องนี้ด้วยถูกไหมมม !?』

รักชอบในเสรีภาพน่ะเป็นสิ่งที่ผมเข้าใจได้

ไม่วาจะเป็นใครก็ย่อมต้องชอบอิสระเสรีมากกว่าการถูกล่ามโซ่อยู่แล้วนี่ แต่เอ , รักในความโกลาหลอลหม่านนี่ ? มันอะไรกันน่ะ ?

แต่เดิมคำว่า อลหม่าน เนี่ย ไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวันสักเท่าไหร่เลย ผมเลยไม่เข้าใจคำนั้นนัก

『อ้ะ อ๋าาาาาา!? ฟังที่ฉันพูดก่อนนนนนนน !!

คุฮุฮุ … ก็เป็นธรรมดาอยู่แล้วน่ะนะสำหรับพวกนายที่เป็น 【โกลาหล】 จะกลายเป็นแบบนี้ในสภาพที่ชอบเสรีและวามวุ่นวาย 』

น้ำเสียงของเด็กสาวถูกความบ้าคลั่งปนเปื้อน

『โอเคร ! เข้าใจแล้ว ! ฉันเข้าใจแล้ว !

ทีแรกฉันวางแผนว่าจะอธิบายมันตอนท้ายๆ แต่ … ฉันจะอธิบายถึงเหตุผลและปรากฏการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับพวกนายทุกคนก่อนเลย 』

ถึงผมจะไม่อาจมองเห็นหรือสัมมผัสได้ แต่ดูเหมือน คนจากกลุ่ม  【โกลาหล 】 , ที่อยู่รอบๆผมกำลังระดมยิงคำถามใส่เด็กสาว อยู่

จากที่เดาจากคำพูดของเธอน่ะนะ

『ก่อนอื่นเลยนะ , ปรากฏการณ์ที่เจออยู่นี้มันคือ — 【โปรเจกช่วยโลก 】 ยังไงล่ะ ! หา ? ปิดบังมากเกินไปเหรอ ? ก็หัดรอก่อนที่ฉันจะพูดจบสิเออ~!』

น้ำเสียงของเด็กสาวเริ่มมีความโกรธเคืองปนแล้ว

อื้ม  พวกนายก็น่าจะรู้นี่หน่า ว่าโลกของพวกนายน่ะกำลังจะล่มสลาย หรือพูดให้ชัดๆก็จะพังทลายภายใน20ปีแหละ !』

เอ๊ะ อ้าว? ไม่ใช่หนึ่งร้อยปีเหรอ ? 20 ปีเอง ? ตอนนั้นผมก็คงอายุ  38 ปีพอดี …

『เอ้ะ? พวกนายกำลังจะลำบากเหรอ ? ช่าย  , มันก็ช่าย , ฉันก็ลำบากเหมือนกันน้ะ !

ดังนั้นแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงการล่มสลาย ก็เลยได้เวลาของ  【โปรเจกกอบกู้โลก 】 !

พูดให้ชัดๆนะ โลกปัจจุบันนี้ มนุษย์อย่างพวกนายน่ะมันไร้ประโยชน์สิ้นดีเลย !

พระเจ้าเจ้าขา , ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่างเดียว ! อัตราการเกิดที่ลดลงต่ำควบคู่ไปกับประชากรผู้สูงวัย ?

ปั้มเด็กเพิ่มกันสิ ! มลภาวะอย่างนั้นเหรอ ? ใช้สมองห่วยๆของพวกแกมั่ง ! หมดแรงจูงใจอย่างนั้นเรอะ ? เฮ่อออ ? นี่พวกนายมีชีวิตอยู่กันไปเพื่ออะไรเนี่ยยย ?』

เสียงเกรี้ยวกราดของเด็กหญิงดังขึ้น

『อันที่จริงแล้วฉันน่ะนะ วางแผนจะซุ่มเฝ้าดูความล่มสลายฉิบหายอยู่เงียบๆแหละ แต่…ก็ต้องอดใจไว้อะนะ

เจ้าพวกนั้นกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ก็พบกับความเจ็บปากมากมายเลย ล่ะเนาะ ?

ฉันจึงตัดสินใจที่จะช่วยพวกนายสักครั้งหนึ่งยังไงล่ะ !

แล้วพวกนายรู้ป่ะ ว่าช่วงเวลาไหนที่มนุษย์ทำได้ดีที่สุด ?』

เวลาไหนที่พวกเราทำได้ดีที่สุดอย่างนั้นเหรอ ?

ผมย้อนระลึกนึกกลับไปถึงชีวิตตัวเอง

— ใช้ตอนที่ตั้งใจอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหา’ลัยรึเปล่านะ ?

『หมดเวลา ! ในหมู่พวกนายน่ะมีเจ้า โง่เยอะแยะไปหมด ! สัดส่วนคนที่ตอบถูกน่ะน้อยกว่า 23%!

ความรักอะเหรอ ? ไม่มีทางล่ะ !

นายน่ะไม่เคยมีแฟนสาวเลยสักคนในชีวิตเลยถูกไหม ?!

สอบเข้างั้นเหรอ ?

นายก็แค่เลือกมหาวิทยาลัยที่เหมาะสมกับความสามารถนายนี่ ใช่ป่ะล่ะ !?

ทำงานงั้นเหรอ?

นายก็แค่ถอดสมองทำตามคำสั่งหัวหน้าเฉยๆเองนี่ ถูกไหม!?』

ถ้อยคำที่ฟังแล้วขมขื่นของเด็กสาวออกมาต่อเนื่อง

『อุ้ปส์, ขอโทษน้าาา ,

ฉันดันไปพูดนอกเรื่องเสียได้ แต่มันก็น่ารำคาญจริงนี่นา  เอาเถอะ ฉันจะเฉลยคำตอบที่ถูกให้ฟัง !

ช่วงเวลาที่พวกมนุษย์อย่างพวกนายทำได้ยอดเยี่ยมที่สุดก็คือ — ในช่วงที่เกิดความขัดแย้ง』

ความขัดแย้งเนี่ยนะ?

『ยามที่เจ้าพวกมนุษย์ปลดปล่อยมันออกมา — การวิวัฒนาการเร่งขึ้นสูงสุดในช่วงพวกนายต่อสู้กับอะไรสักอย่าง

ถูกต้องงงงง! มันคือเวลาที่พวกนายออกสู่สงครามยังไงล่ะ !』

ผมเคยได้ยินมาว่า เทคโนโลยีก้าวกระโดดขึ้นมาในช่วงสงคราม

『ส่วนที่รองลงมาก็เรื่อง หื่นกามล่ะมั้งนะ?

เจ้าพวกมนุษย์อย่างพวกนายนี่มัน อ้ายโรคจิต จนเกินเยียวยาจริงๆเล้ยยยย

เฮ่อออ ฉันนอกเรื่องอีกละ

เอาล่ะ ดังนั้นฉันจะให้พวกมนุษย์อย่างพวกนายได้วิวัฒนาการเพื่อช่วยโลกใบนี้ !

ต้องพูดว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของพวกนายน่ะมันไวไปหน่อยในความคิดฉันอะนะ ? แถมยังไปผิดทิศผิดทางอีกด้วย

หากถามฉันว่า มันผิดตรงไหน ก็อาวุธนิวเคลียร์ยังไงล่ะ !

นั่นอะเลวร้ายที่สุดเลย !

ปกติแล้วก็ไม่เป็นไรหรอก ถ้าฉันจะให้พวกนายก่อสงครามกัน

แต่ถ้าหากเป็นในสังคมของพวกนายนะ ไม่สิไม่สิ ในจักรวาลพวกนายน่ะมีหวังโดนบึ้มทำลายในชั่วพริบตาเลยล่ะ 』

เสียงของเด็กสาวเต็มไปด้วยความโมโห

『หากทิ้งให้มันยังเป็นอยู่อย่างนี้ต่อไป สังคมพวกนายก็จะค่อยๆล่มสลายอย่างช้าๆ ขณะที่พวกนายยังชะงักชะงันอยู่แบบนี้

ขณะเดียวกัน หากพวกนายก่อสงครามขึ้นมา ก็จะเกิดการฆ่าล้างทั่วทั้งโลกขึ้นมาในทันทีโดยไม่ต้องรอด้วยซ้ำ 』

เด็กสาวประกาศข้อสรุปทั้งสองอย่างออกมาที่สรุปได้สั้นๆง่ายๆได้ว่า แบ้ด เอนด์

『ฉะ นั้น แล้ว ! สิ่งที่จะแก้ไขปัญหาปัจจุบันได้น้านก็คือออออ  —   【โปรเจคกอบกู้โลก 】ยังไงล่ะ 』

ผมว่า ผมก็ถามไปแล้วไม่ใช่เหรอว่า เจ้า 【โปรเจคกอบกู้โลก 】 คืออะไร?

『ฉันจะอธิบายล้า !

【โปรเจคกอบกู้โลก 】ก็คือ โปรเจคที่จะแบ่งมนุษย์ออกเป็น พวก【กฏ】 ( 【Law】) , พวก 【เป็นกลาง】 (【Neutral】) และ 【โกลาหล】, (【Chaos】)

แล้วให้แต่ละฝ่ายเข้าสู้กัน !

ถ้าพูดให้ลงรายละเอียดไปเลย ฝ่ายที่สู้กันจริงๆก็คือ ฝ่าย 【กฏ】 กับฝ่าย  【โกลาหล】 ส่วนฝ่าย 【เป็นกลาง】 คือมนุษย์ที่ไม่สนใจโอกาสอันล้ำค่าที่ฉันเสนอให้  เจ้าพวกปล่อยโอกาสผ่านไปโง่เสียจนเกินเยียวยานั่นเอง 』

—? นี่แม่นี่กำลังพูดอะไรอยู่น่ะ ? ให้เข้าสู่กันอย่างนั้นเหรอ ?

ตัวผมในตอนนี้คือ  【โกลาหล 】

สรุปสั้นๆคือ เธอกำลังบอกให้ผมไปสู้กับพวก มนุษย์ฝ่าย 【กฏ 】  โดยให้เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้งั้นเหรอ?

ทำไปเพื่ออะไรกันน่ะ ? เพื่อช่วยโลกใบนี้งั้นเหรอ ? ห้ะ ? คลุมเครือไม่ชัดเจนอะไรขนาดนั้นเนี่ย ?

『ถูกต้องแล้วจ้า ! ฉันน่ะวางแผนงานไว้ดีนะ ! พวกนายก็แค่ฆ่าเฉพาะเจ้าพวกมนุษย์ฝ่าย 【กฏ】 ที่บุกเข้ามาโจมตีนายก็แค่นั้น !』

เห้ะ ? อะไรนะ? เราจะถูกโจมตีเหรอ? แถมยังต้องฆ่ามนุษย์ฝ่าย 【กฏ】 จริงๆเรอะ? พร้อมกันกับมนุษย์ฝ่าย 【โกลาหล】 ทั้งที่ผมไม่เคยรู้จักหน้ากันมาเก่อนเนี่ยนะ ?

『อะ ท่ดๆ โทษที  เจ้าสมาชิก 【โกลาหล】 คนอื่นน่ะมันก็ไม่ใช่เพื่อนพ้อง พันธมิตรของนายเหมือนกัน มนุษย์ฝ่าย【โกลาหล】ทุกคนต่างก็ต้องต่อสู้กันเองเช่นกัน , โอเคไหม ?』

อะไรมันจะซับซ้อนเบอร์นั้น ผมจะถูกโจมตีจากมนุษย์ฝ่าย【กฏ】และผมเองก็ไม่มีพันธมิตรด้วยอีกต่างหาก ?

『โอโห ดูเหมือนจะมีคำถามมากมายเลยล่ะ … หืมม , ฉันล่ะสงสัยจริงๆเลยน้า, ว่าควรตอบคำถามไหนก่อนดี …?นึกออกแล้ว!

ก่อนอื่นเลย พวกมีคุณสมบัติ【โกลาหล】อย่างพวกนายเนี่ยนะ เสียเปรียบกว่า

ดังนั้นแล้วถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปคงโดนยำเละข้างเดียวแหงๆ ซ฿งมันไม่ดีต่อวิวัฒนาการของมนุษยชาติเลย

ดังนั้นก็ต้องมีการให้แต้มต่อสักหน่อย  ฉันจะอธิบายรายละเอียดของ   【โปรเจคกอบกู้โลก 】 ให้พวกนายฟังก่อนเลย

และฉันจะมอบอบิลิตี้สุดทรงพลังที่แข็งแกร่งว่าเจ้ามนุษย์【กฏ】 อยู่เล็กน้อย 』

อยู่ๆเด็กสาวก็เปลี่ยนเรื่องไป เหมือนเธอโดนกดดันจากมากมายที่ถาโถม

จากกลุ่มชาว 【โกลาหล】 สินะ?

『อ๊าาาาาา !?

มาถงพวกนายก็เริ่มจากการเสริมแกร่งให้โดเมนของพวกนายสิ ! ตั้งรับน่ะ !

หลังจากนั้นก็แย่งโดเมนชาวบ้านมา ด้วยการใช้เผ่าพันธุ์ของนายไง !  ดู ยู อันเด้อ สแต๋น? (DO YOU UNDERSTAND?) 』

ดู ยู อันเดอร์ สแต๋น อย่างนั้นเหรอ ? เข้าใจก็บ้าโล้ววววว !

ก็อย่างที่บอกไปนั่นแหละ เหล่ามนุษย์ 【โกลาหล 】

ทั้งหลาย ที่ผมไม่อาจรับรู้การมีอยู่ของพวกเขา ก็ค่อยๆทยอยถามคำถามทีละคำถามกับเด็กสาวคนนั้น จนกระทั่งรายละเอียดเรื่อง 【โปรเจคกอบกู้โลก 】 เริ่มค่อยๆชัดเจนขึ้นมา

หลังจากเข้าช่วงถามตอบ สลับกันไปมา กินเวลาหลายชั่วโมงแล้ว

ถึงอย่างไรเด็กสาวคนนั้นก็ไม่ได้เปิดเผยชื่อของเธออยู่ดี ผมเลยตัดสินใจเรียกเธอว่า ผู้วางแผน

แล้วสิ่งที่ผมเข้าใจเกี่ยวกับ  【โปรเจคกอบกู้โลก 】 มีดังนี้—

① มนุษย์บนโลกใบนี้เป็นคุณสมบัติสามหมวดคือ  : 【กฏ】, 【โกลาหล】 และ 【เป็นกลาง 】

② 【กฏ】 และ 【โกลาหล】 จะเข้าสู้กัน โลกจะปลอดภัยด้วยการทำให้มนุษยชาติมีวิวัฒนาการ หากให้พูดกันตามตรงนะ ตรงส่วนนี้ก็ไม่ชัดเจนอยู่ดี

③ มนุษย์ฝ่าย 【โกลาหล 】 จะได้เป็นเจ้าของโดเมน  มนุษย์ฝ่าย 【กฏ 】 จะเป็นฝ่ายบุกเข้าโดเมน

หาก 【คอร์จริง】 ซึ่งตั้งอยู่ในด้านในสุดของพื้นที่โดเมนถูกขโมยไปโดย มนุษย์ฝ่าย【กฏ】   โดนเมนนั้นจะถูกปลดปล่อย แต่หากโดนขโมยโดย  【โกลาหล】ด้วยกัน โดเมนจะถูกชิงไป

พอลองจินตนาการถึงรายละเอียดที่ ผู้วางแผนอธิบายแล้วมนุษย์ฝ่าย 【โกลาหล 】 น่ะเป็นมนุษย์ที่คล้ายกับพวกจอมมารหรือพวกนักสร้างดันเจี้ยน ส่วนมนุษย์ฝ่าย【กฏ 】 ก็เป็นเหมือนผู้กล้า

④ หากทุกโดเมนถูกปลดปล่อยหรือถูก มนุษย์ฝ่าย【โกลาหล 】 ยึดครบหมด

【โปรเจคกอบกู้โลก 】จะสิ้นสุดลง

และมีเสริมด้วยว่า —

① องค์ประกอบที่สำคัญที่แถมให้ คือ มนุษย์ฝ่าย 【โกลาหล 】 นั้นจะสูญเสียความทรงจำทั้งหมดก่อนที่จะกลายเป็น 【โกลาหล 】 อีกทั้งมนุษย์ฝ่าย 【กฏ】และ【เป็ฯกลาง】 จะสูญเสียความทรงจำบางส่วนของบุคคลที่กลายเป็น 【โกลาหล】ไป

หากพูดง่ายๆก็คือ มนุษย์ฝ่าย 【โกลาหล 】 นั้นถูกลบตัวตนทิ้งไป

ตามที่ผู้วางแผนพูดนั่นแหละว่า — 『นี่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายสู้กันได้อย่างเต็มที่โดยไม่ลังเล เลยใช่ไหมล่ะ ?』

② มนุษย์ที่มีคุณสมบัติแบบ  【โกลาหล】 ถือเป็นส่วนน้อย ลงรายละเอียดก็คือ เป็นจำนวนประชากร  0.02% ของมนุษย์ทั้งหมด

มันน้อยเสียจนไม่อาจจะเรียกว่า เป็นพวกส่วนน้อยได้เลยล่ะ แต่ถึงอย่างนั้น ประชากรรวมทั้งหมดของโลกตอนนี้ก็อยู่ที่ประมาณ 5 พันล้านคน

หากคำนวนง่ายๆจำนวน มนุษย์ฝ่าย  【โกลาหล 】 มีประมาณหนึ่งล้าน

③ หากมนุษย์ฝ่าย  【กฏ】 และ  【เป็นกลาง 】 ไม่ทำการปลดปล่อยโดเมน พวกนั้นจะตายไปเพราะขาดอาหาร และนั่นก็จะทำให้พวกนั้นดิ้นรนสู้สุดใจ

④ มนุษย์ฝ่าย  【กฏ】 จะได้รับข้อมูลรายละเอียดเรื่อง 【โปรเจคกอบกู้โลก 】 หนึ่งเดือนต่อมา ก่อนจะถึงเวลานั้นจะไม่มีมนุษย์คนใดสามารถบุกโดเมนของผู้อื่นได้

รายละเอียดนั้นก็ยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายนัก —

ตอนผมฟังคำอธิบาย มีแต่องค์ประกอบต่างๆที่ผมฟังแล้วไม่เข้าใจทั้งนั้น

② คำแนะนำเรื่องหลักการพื้นฐานในการทำลายโลกใบนี้ ผมได้รู้เรื่องราวหลายอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อน แต่ถ้าให้พูดคร่าวๆก็เป็นพื้นฐานอย่าง เวทย์มนตร์ และอบิลิตี้พิเศษที่ใช้งานได้

โดยคุณจะเติบโตจากการกำจัดศัตรู  คุณลักษณะที่เหมือนกันฝ่าย【โกลาหล 】 และ 【กฏ 】 แต่จะมีแค่เพียงฝ่าย 【โกลาหล】 ที่จะเติบโตขึ้นได้ผ่านการที่ลูกน้องทำการฆ่าศัตรู

แล้วฝ่าย 【เป็นกลาง 】น่ะหรือ? ตามที่ผู้วางแผนพูดไว้ก็คือ  —『ฉันไม่สนใจเจ้ามนุษย์ที่ไม่ฟังคำพูดของฉัน』

③ อาวุธสมัยใหม่ไม่มีเกิดผลใดกับ ฝ่าย  【อลหม่าน 】 รวมถึงลูกน้องของพวกเขาด้วย

และสิ่งสำคัญอย่างสุดท้าย —

『ฉันได้ปรับปรุงหลักการในการทำลายโลกใบนี้ให้แล้วนะ ดังนั้นพวกนายทุกคนสามารถควบคุมด้วยตัวเองได้เลย !

เอาล่ะ ว่ากันง่ายๆก็คือ ฉันติดตั้งโปรแกรมสุดพิเศษไว้กับสมาร์ทโฟนพวกนาย ,ลองเช็คดูสิ 』

พอผมดึงสมาร์ทโฟนตัวเองออกมาก็พบว่า เห็นพื้นที่ว่างแปลกๆ

แล้วก็เป็นคำพูดส่งท้ายของ ผู้วางแผน :

『ถ้าอย่างนั้น ฉันจะบังคับให้พวกนายทำการวิวัฒนาการละกัน ! ไม่มีสิทธิ์โหวตขอคัดค้านน้ะจ๊ะ เอาล่ะ พยายามให้ดีที่สุดเพื่อช่วยโลกใบนี้ล่า~ ไฟ้ท์โตะ!』

พอเสียงของเด็กสาวที่เป็นกันเองหมดลง — สติสตางค์ของผมก็จมดิ่งสู้ความว่างเปล่า

---------------------------------------------

(TTL : คำอธิบายเรื่อง คำสำคัญสามคำ คือ 【กฏ】,【โกลาหล】 และ 【เป็นกลาง】

มาจากเบสไอเดียของ 9 Alignment(การจำแนกลักษณะคุณสมบัติทั้ง9รูปแบบ จากเกมD&D) เกิดจากการนำคุณลักษณะ 3x3 อย่างมาเรียงตารางไว้

ประกอบด้วย Lawful , Chaotic และ Neutral

ส่วนอีกหลักก็จะเป็น Good, Bad และ True

Lawful จะเป็นพวกสายยึดกฏกติกา ความถูกต้อง, Chaotic ไม่สนกติกา แหวกขนบ ,ส่วนNeutral เป็นพวกที่ไม่ตัดสินใจ

ผลก็เลยเป็นอย่างที่ เด็กสาว ผู้วางแผน(Mastermind)ปล่อยไว้ไม่สนใจนั่นเอง )

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด