ตอนที่แล้วChapter 26: ก่อความบาดหมาง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 28: คืนนองเลือด

Chapter 27: เริ่มบรรเลง


ตามการประเมินครั้งใหม่ การเปลี่ยนแปลงของหน้าต่างตัวละครของฉินหรานนั้นแทนความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของเขา ฉินหรานไม่จำเป็นต้องเห็นการประเมินด้วยซ้ำ เขาสามารถบอกความแตกต่างได้ด้วยตัวเองแล้ว สองวันครึ่งที่ผ่านมาเปลี่ยนเขาเป็นคนใหม่

เมื่อเขาถือ [Viper-M1] ที่เป็นรางวัลจากการจัดการกับมือลอบสังหารไว้ ฉินหรานรู้สึกเหมือนเป็นทหารผ่านศึกที่มีประสบการณ์การสู้รบมากมาย ลึกลงไปเขาก็รู้แหละว่ามันเป็นแค่ความจริงเสมือนแต่เขาก็ยังชอบความรู้สึกนี้ ทั้งหมดนี้เหมือนจริงเกินไป ถ้าไม่เพราะว่ามีหน้าต่างตัวละครและแถบภารกิจ ฉินหรานก็คงจมลงไปในความรู้สึกแบบนี้ด้วยความยินดีอย่างยิ่ง

"นี่สินะคือสิ่งที่ดึงดูดทุกคนเข้ามาที่เกมใต้ดินนี่" ฉินหรานคิดถึงคนอื่น ๆ ทุกคนที่เข้ามาเล่นเกมด้วยแรงกระตุ้นที่แตกต่างไปจากเขา เขาพอจะเข้าใจเหตุผลของคนพวกนั้นขึ้นมา ถ้าเขามีสุขภาพปกติเขาคงไม่มีทางเข้ามาเล่นเกมนี้้ ไม่ว่าเกมจะเหมือนจริงหรือน่าตื่นเต้นแค่ไหน ฉินหรานแค่อยากมีชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป เขาไม่ใช่คนละโมบหรือชอบความตื่นเต้น เขาแค่สิ้นหวัง แต่มันก็ไม่ได้หยุดเขาจากการพยายามสุดความสามารถ อย่างไรซะชีวิตเขาก็แขวนอยู่บนเส้นด้ายอยู่แล้ว

เขายืนพิงกำแพงตึกอยู่ในซากปรักหักพัง ซ่อนตัวอยู่ในเงา ตาหลุบลงครึ่งหนึ่งขณะหายใจแผ่วและรอคอย ถ้าสถานการณ์เป็นใจ ฉินหรานก็อยากจะนอนลงแล้วงีบเสียหน่อย แต่ว่าเขาก็ไม่สามารถเอื้อมถึงความเพลิดเพลินเช่นนั้น ช่วงเวลาสำคัญใกล้เข้ามาแล้ว

ความมืดเริ่มเข้ามาปกคลุมท้องฟ้าเมื่อถึงยามกลางคืน พระจันทร์ขยับขึ้นแขวนกลางท้องฟ้ามืดช้า ๆ เสี้ยวจันทร์เห็นขอบชัดนำความรู้สึกสงบเข้ามาที่เมืองแห่งสงครามนี่ แต่ความสงบนั้นก็ถูกทำลายลงด้วยเสียงฝีเท้า เสียงพวกนั้นดังมาจากที่ไกล ๆ และดึงดูดความสนใจของฉินหราน ภายใต้แสงจันทร์อ่อนจางเขามองเห็นทหารกลุ่มออกไปก่อนหน้านี้ ทหารที่กำลังรีบร้อนไม่ได้สังเกตเห็นฉินหรานที่ซ่อนอยู่ในเงา ความกระวนกระวายทำให้พวกมันไม่สังเกตสังการอบตัวเท่าปกติ

พวกทหารแค่อยากค้นในซากเมืองหาพรรคพวกแล้วรายงานกลับไปที่พันตรีซาหลูข่า ร้อยโทแฮงก์ตายไปแล้ว รวมทั้งทีมของเขาด้วย ไม่มีใครรอดชีวิตเลย ข่าวนี้ทำให้พวกมันตัวสั่นไปถึงแก่น อย่างไรเสียแฮงก์ก็เป็นคนที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่งในหมู่ทหาร ไม่ว่าจะเป็นการยิงปืนหรือการต่อสู้มือเปล่าเขาก็โดดเด่นที่สุดในกลุ่ม ยิ่งเขาสามารถทำภารกิจที่แทบจะเป็นไปไม่ได้หลายภารกิจได้สำเร็จ ทั้งฐานที่มั่นก็แทบจะสรุปออกมาว่าร้อยโทแฮงก์นั้นไร้เทียมทาน ทหารส่วนมากเชื่ออย่างนั้นจริง ๆ แต่แฮงก์ที่ทหารทุกคนกล่าวขวัญถึงตอนนี้ก็ตายไปแล้ว ถูกลูกน้องของตัวเขาเองฆ่าด้วยปืนกล

นี่ทำให้ทหารทุกคนสงสัย พวกเขายอมรับไม่ได้ พวกเขาต้องการคำอธิบาย และคนเดียวที่สามารถให้คำอธิบายได้ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากพันตรีซาหลูข่า พวกเขาเร่งฝีเท้าขึ้นอีก

ฉินหรานที่ยังซ่อนตัวอยู่ในเงามองเหล่าทหารจากไปอย่างเร่งรีบแล้วลุกขึ้นยืนช้า ๆ นี่แหละคือสิ่งที่เขาคาดหวังไว้

...

"เชี่ย!" หลังจากฟังลูกน้องรายงาน ซาหลูข่าผุดลุกจากเก้าอี้อย่างแรงจนเก้าอี้ล้มไปด้านหลังพร้อมเสียงดังลั่น ไม่มีใครสนใจเก้าอี้ ทุกคนต่างมองไปที่ซาหลูข่า พวกเขาต้องการคำอธิบาย ทำไมแฮงก์และลูกทีมถูกกำจัด? แม้แต่ทหารผู้ช่วยผู้ซึ่งหวาดกลัวในตัวซาหลูข่าก็ยังไม่เบนสายตาออก

"ฉันรู้ว่าพวกแกทุกคนมีคำถามมากมาย ทุกอย่างจะชัดเจนขึ้นเร็ว ๆ นี้ รวบรวมทหารทุกคนในฐานที่ประจำการอยู่! พวกเขามีสิทธิ์ที่จะรู้ความจริงเหมือนกัน!" ซาหลูข่าพูดด้วยเสียงต่ำพลางมองสบตากับทุกคน

"ครับ ท่าน!" ผู้ช่วยและหน่วยสอดแนมทำความเคารพและออกไปจากห้องทำงานของซาหลูข่า

เมื่อเหลือเพียงซาหลูข่าคนเดียวในห้อง เขายังคงมีสีหน้าสงบ ก่อนที่ทหารสอดแนมของเขากลับมาเขายังคงมีความหวังอยู่ในใจ แต่เมื่อรายงานมาถึงความหวังสุดท้ายของซาหลูข่าก็ถูกบดขยี้เป็นชิ้น ๆ มือขวาของเขาตายแล้วรวมทั้งทีมที่ตามเขาไปด้วย ทั้งหมดเพราะมือลอบยิงหนึ่งคนและมือปืนกลของทีมตัวเอง!

ตอนที่เขาได้ยินข่าวนี้ ภาพของสายลับที่แทรกซึมเข้ามาในทีมและแทงข้างหลังแฮงก์ก็ปรากฎขึ้นในใจของซาหลูข่า นอกไปจากเจินหนิงแล้วก็ไม่มีใครกล้าทำกับเขาแบบนี้ แถมการแทรกซึมและลอบสังหารก็ยังเป็นจุดแข็งของคนของเจินหนิงด้วย

"แกขวางทางฉัน ขโมยของของฉัน แล้วตอนนี้ก็อยากให้ฉันตาย? ดี เราจะได้เห็นกันว่าสุดท้าย จะเป็นใครที่กลายเป็นศพ!" ซาหลูข่าพึมพำ จากนั้นเขาก็ดึงลิ้นชักเปิดออกและหยิบปืนกระบอกหนึ่งออกมา เขาถือปืนไว้ในมือ รับรู้สัมผัสหยาบ ๆ ของส่วนมือจับ เขาหัวร้อนขึ้นมาอีกรอบขณะหันมองออกไปนอกหน้าต่าง ทหารของเขาถูกเรียกมารวมตัวเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าซาหลูข่าจะโมโหเพียงใด เขาก็จะไม่ตรงไปหาเรื่องเจินหนิงด้วยตัวเอง แบบนั้นก็เท่ากับฆ่าตัวตายชัด ๆ

โชคดี เขามีทหารทั้งกองอยู่ใต้บัญชา เขามีอาวุธที่ทันสมัยที่สุดและมีกำลังสู้รบที่แข็งแกร่งที่สุดในกองกำลังกบฏ มันเป็นไพ่ตายของเขาและตอนนี้ก็ได้เวลาใช้ไพ่ใบนี้แล้ว

ซาหลูข่าเดินออกมาจากห้องทำงาน เขายืดตัวตรงและเร่งฝีเท้าขึ้น เสียงรองเท้ากระทบพื้นดังกังวานราวกับเสียงค้อนตอกลงบนตะปู ใครที่เห็นเขาในตอนนี้คงจะถูกหลอกด้วยความมั่นคงและกริยาภายนอกของเขา และรู้สึกนับถือความเป็นทหารอย่างแท้จริงของเขา นอกเหนือจากความโมโหร้ายและไร้ปรานีของเขาแล้ว เขาก็คือทุกอย่างที่ทหารคนหนึ่งอยากจะเป็นไม่ใช่หรือ? ข้อเสียสองสามอย่างจึงได้รับการอภัย

ซาหลูข่ารู้ว่าทหารของตนต้องการอะไรในตัวผู้นำ และเขาก็เป็นอย่างนั้นพอดี มองทหารที่เรียงแถวมากมาย และทุกคนต่างมองมาที่เขาอย่างเคารพเขาก็รู้สึกพึงพอใจ เขาเดินไปที่ปะรำยกพื้น หายใจลึก และเริ่มพูดด้วยเสียงต่ำผ่านเครื่องขยายเสียง "ทหารของผม พวกเราถูกทรยศ!"

ซาหลูข่าตรงเข้าประเด็น เปิดเผยความจริงอันน่าตกใจ ทหารทั้งหมดตกใจมากเมื่อได้ยินซาหลูข่าพูดออกจากปากของเขาเอง แต่ด้วยความนับถือในตำแหน่ง พวกเขาต่างไม่กล้าส่งเสียงอะไรออกไปตอนนี้ ซาหลูข่าพูดต่อ "เป็นนายพลเจินหนิง! เขาทำความตกลงกับศัตรูโดยใช้ชีวิตของพวกเราเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน! ไอ้หน้าตัวเมียนั่นเลือกที่จะทรยศพวกเดียวกันเพื่อให้ตัวเองรอด! เขาเริ่มสงครามนี้ และตอนนี้เขาต้องการให้พวกเราสู้เพื่อเขา เขาใส่ความพวกเรา! เขาใช้พวกเราเป็นแพะรับบาป!" ซาหลูข่าพูดเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นจู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นทะมึน "ผมรู้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น มันอาจยากที่จะเชื่อ แต่นี่คือความจริงอันทุเรศ ผมส่งร้อยโทแฮงก์ออกไปเก็บหลักฐานเพิ่มแต่เขาถูกลอบสังหารโดยไอ้หน้าตัวเมียนั่น! ทีมสอดแนมสามารถยืนยันเรื่องนี้ แฮงก์เป็นทหารที่ผมเชื่อใจมากที่สุด เขาเป็นนักรบที่แท้จริง เป็นทหารที่ดี! การลอบกัดแบบนี้ไม่ยุติธรรมกับเขาเลย! เป็นความอัปยศที่เขาได้รับและนำลงโลงไปด้วย!" ซาหลูข่าดูโศกเศร้ามากขึ้น กระทั่งดวงตายังเริ่มแดงก่ำ ทหารที่อยู่ใกล้ ๆ สามารถมองเห็นประกายน้ำในดวงตาคู่นั้น ราวกับไม่ต้องการให้ทหารทั้งหมดเห็นเขาในสภาพเช่นนี้ เขาหันหลังกลับและให้สัญญาณกับทีมทหารสอดแนมที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หัวหน้าทีมสอดแนมเดินมาที่เครื่องขยายเสียงในขณะที่ทหารทั้งหมดยังมองไปที่ผู้พันที่ไม่อยู่ในอารมณ์ปกติ

"ใช่ ผมสามารถยืนยันได้ว่าร้อยโทแฮงก์ถูกลอบสังหาร เขาถูกยิงจากด้านหลังและลูกทีมทุกคนถูกสไนเปอร์ลอบยิง" หัวหน้าทีมพูด

พริบตาเดียว ทหารทั้งหมดส่งเสียงฮือฮาขึ้นมา ทุกคนมองสบตากันอย่างไม่อยากเชื่อ ความโกรธเริ่มกระจายไปในกลุ่มทหาร ซาหลูข่ารอคอยช่วงเวลานี้อยู่ในใจ เมื่อทหารทั้งหมดถูกปลุกปั่นขึ้น เขาก็หมุนตัวกลับมา

"ทหารของผม แฮงก์ถูกลอบสังหาร! คนต่อไปก็คงเป็นผมเอง และเป็นพวกคุณ! หรือคุณ! เพราะมีแค่ตอนที่พวกเราแนวป้องกันแรกถูกทำลาย ไอ้ลูกหมาเจินหนิงจึงจะบรรลุข้อตกลงกับพวกศัตรู! สิ่งเดียวที่เขาสนใจก็คือชีวิตของตัวเอง!" ซาหลูข่ามองไปที่ทหารทั้งหมด เขาพูดเสียงดังขึ้นอีก "ผมไม่ต้องการให้เป็นเช่นนี้ เพราะว่าผมก็เป็นทหารคนหนึ่ง ผมยอมตายในสนามรบ อุทิศชีวิตเพื่อสิ่งที่ดีกว่าการต้องทนอัปยศเฉกเช่นนี้! ตอนนี้ ผมจะประกาศศึกกับไอ้ลูกหมาเจินหนิง! ใครจะไปกับผมบ้าง?" ซาหลูข่าตะโกน

"ผม ผม!"

"ผม ผม!"

...

ทหารทั้งหมดต่างความพลุ่งพล่านเมื่อได้รับฟังการชักจูงของซาหลูข่า มีเพียงผู้ช่วยข้างตัวซาหลูข่าที่มีสีหน้าตกใจและสงสัย ในฐานะทหารผู้ช่วยของซาหลูข่า เขารู้มากกว่าคนอื่นเล็กน้อย เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้านายของเขาอธิบายกับทุกคนเสียหน่อย

อย่างเช่น ไม่ได้มีการพูดถึงอัญมณีพวกนั้น

แต่ก่อนที่ผู้ช่วยคนนั้นจะได้ตั้งข้อสงสัยหรือลงมือทำอะไร ปืนกระบอกหนึ่งก็เล็งมาที่หัวของเขา

เป็นซาหลูข่า

ปัง!

ซาหลูข่ายิงโดยไม่คิดซ้ำสอง ผู้ช่วยตาย ดวงตาเบิกกว้าง แต่ซาหลูข่าไม่แม้แต่จะแสดงความเสียใจหรือสงสาร ผู้ช่วยคนนี้รู้มากเกินไป

"เขาเป็นสายลับของไอ้ลูกหมาเจินหนิง และแฝงตัวอยู่ในค่ายของเรา! แต่มันช้าเกินไป แฮงก์ได้..." เป็นอีกครั้งที่ซาหลูข่าเล่นละครได้แนบเนียน

พวกทหารตะลึงไป แล้วความตกใจของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นความโกรธแค้นมากยิ่งกว่าเดิม พวกเขามองไปที่ผู้ช่วยที่ตายไปแล้วคนนั้นอย่างรังเกียจ

"ทหารของข้าพเจ้า ถึงเวลาที่เจินหนิงต้องชดใช้แล้ว! ไปทวงคืนความยุติธรรม!"

"ความยุติธรรม!"

"ความยุติธรรม!"

เสียงตะโกนของทุกคนก้องไปในความเงียบงันยามค่ำคืน

.

.

.

.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด