ตอนที่แล้วChapter 1059 เกินไปอย่างงั้นรึ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1061 นักโทษใหม่ของเจาโตวโตว

Chapter 1060 นิกายของข้าเปิดรับและรอเขาเสมอ


บนทะเลตะวันออก.

เรือรบตงกู่ที่หยุดอยู่กลางอากาศ.

เซียวจุ้ยจื่อที่เงยหน้าขึ้นพร้อมกับนอนราบเล็งเป้า พร้อมกับเหนี่ยวไกลยิงปืนออกไป!

“ฟิ้ว-”

ลูกปืนที่พุ่งผ่านห้วงมิติ ทะลวงมิติออกไปชั้นแล้วชั้นเล่า!

“โครม!”

ในเวลานั้นปลาตัวใหญ่ที่กระโดดขึ้นมา ถูกเจาะหัวไปในทันที.

“ฟู่!”

หลี่ชิงหยางที่ปล่อยพลังวิญญาณออกมา กลายเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่พร้อมกับนำปลาขึ้นมาบนเรือเหาะตงกู่.

“เคร้ง เคร้ง เคร้ง!”

เย่ซิงเฉินที่ก้าวไปด้านหน้า ริ้วแสงกระบี่ที่พุ่งออกไป.

“พรึด โครม!”

“พรึด โครม!”

ปลาตัวใหญ่ที่ถูกชำแหละ ก่อนที่จะถูกส่งเข้าไปในเตา!

เหออู๋ตี้ที่ยกมือออกไป พลังธาตุเพลิงจากวิชาลับคันฉ่องสวรรค์ห้าธาตุที่แผดลุกโชนย่างปลาดังกล่าวในทันที!

โหลวจื่อหลง“......”

ปรมาจารย์ฟ่าน“.....”

“ทั้งสอง.”

จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะ พร้อมกับยกสุราขึ้นจิบ “ไม่ดื่มกันรึ?”

“เจ้านิกายจุน....”โหลวจื่อหลงที่มุมปากกระตุก เอ่ยออกมาว่า“พวกเราไม่เร่งรีบกลับหรอกรึ!”

ทะเลตะวันออกนั้นเต็มไปด้วยอันตราย แต่พวกเขากับหยุดนิ่งทำอาหาร ดูง่าย ๆ สบาย ๆ ราวกับมาท่องเที่ยว!

“เหล่าโหลว.”

จุนซ่างเซียวที่ยกสุราขึ้นดื่ม เอ่ยเป็นนัย “การล่องเรือเที่ยว ไม่สนใจจุดหมาย ชมทิวทัศน์ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนปรารถนาหรอกรึ?”

โหลวจื่อหลงที่ตกใจ ยกแก้วสุราขึ้นเอ่ยออกไปว่า“ความคิดของเจ้านิกายจุนช่างน่าเคารพนัก!”

ฟ่านเย่จื่อที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ยกสุราขึ้นเอ่ยออกมาว่า“ได้ยินคำพูดของเจ้านิกายจุน รู้สึกราวกับได้อ่านหนังสือมาสิบปี!”

แม้นแต่นายน้อยหยวนที่ได้แต่สงบใจ คิดถึงการที่ตัวเองหนีแต่กับไม่สามารถรอดพ้นเงื้อมมืออีกฝ่ายได้ ทำให้ได้แต่ทำใจยกสุราขึ้นดื่มตรง ๆ.

“มา!”

“ชนแก้ว!”

......

ท่องเที่ยวดื่มสุรา.

นายน้อยหยวนที่นอนกอดไหสุรา ร้องโหยหวนคร่ำครวญ “เหล่าหลิน ทำไมข้าถึงได้น่าอนาถเพียงนี้!”

เหล่าหลินที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ เตรียมยกไหสุราออกมา ทว่าขณะยื่นมือออกไป กับถูกนายน้อยหยวนปัดออกไป กล่าวออกไปว่า“ไป....หลบไป.....”

“......”

เหล่าหลินที่ได้แต่เงียบ ก้าวออกไปเงียบ ๆ.

นายน้อยหยวนที่เป็นคนมีมันสมองที่ยอดเยี่ยม ทว่าภายใต้การพ่ายแพ้หลายต่อหลายครั้ง ดูเหมือนว่าจะเจ็บปวดจนไม่สามารถทนเอาไว้ได้แล้ว.

“พรึด โครม!”

เหล่าหลินที่ก้าวมาในห้องโดยสารคุกเข่าลงในทันที เอยออกไปว่า“เจ้านิกายจุน เหล่าฟู่ยินดีที่จะแลกชีวิตตัวเองกับนายน้อย!”

“เจ้าคือครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์ คุกเข่าให้กับคนอื่นง่าย ๆ คิดถึงศักดิ์ศรีของตัวเองบ้างไหม?”จุนซ่างเซียวที่เอ่ยออกมาเล็กน้อย.

“นายน้อยหยวนช่วยชีวิตเหล่าฟู่มาหลายครั้ง เพื่อเขาแล้วทำไมข้าต้องสนศักดิ์ศรีกัน!”ชายชราที่เอ่ยกล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

แววตาของเขาที่เป็นประกายคิดถึงเรื่องราวในอดีต ที่ผ่านมานานแล้ว....ความทรงจำที่ปรากฏเป็นฉาก ๆ ที่เขารอดตายมาได้.

จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา “ขณะที่เปิ่นจั้วต่อสู้กับราชันย์เจิ้นเหว่ย ดูเหมือนว่าเจ้าจะซ่อนตัวลอบดูอยู่ห่าง ๆงั้นรึ?”

“ไม่ผิด!”

เหล่าหลินที่เอ่ยกล่าวอย่างจริงจัง.

ที่จริง เขาสามารถบอกได้ว่าด้วยพลังของจุนซ่างเซียวนั้น สามารถจัดการพวกเขาได้อย่างง่ายดาย.

ยิ่งก่อนหน้านี้เห็นพลังของอาวุธเหนือเทวะและเผ่าวิญญาณ ยิ่งทำให้พวกเขาหวาดกลัวเข้าไปอีก ถึงแม้นว่าตอนนี้จะดูเหมือนว่าอีกฝ่ายอ่อนแอ ไม่มีพลังบ่มเพาะ ทว่าพวกเขาก็ไม่มีความคิดที่จะต่อต้านเลยแม้แต่น้อย!

“แท้จริงแล้วเจ้าเดินทางไปยังเมืองเจิ้นเหว่ยทำอะไรอย่างงั้นรึ?”

“นายน้อยหยวนเดินทางไปยังอาณาจักรเจิ้นเหว่ย ก็เพื่อที่จะเข้าร่วม สร้างผลงานความดีความชอบ.”

จุนซ่างเซียวที่หมดคำพูด “คนเช่นเหล่าหยวนในเมื่อต้องการรับใช้คนอื่น ๆ แล้วทำไมไม่คิดที่จะเข้าร่วมนิกายของเปิ่นจั้วกัน? กล่าวได้ว่า ในสายตาของเขา นิกายนิรันดรต่ำต้อยกว่าอาณาจักรจังหวัดตงไห่อย่างงั้นรึ?”

“.....”เหล่าหลินที่กลายเป็นเงียบงัน.

กล่าวตามจริง เขาที่หวังที่จะให้นายน้อยเข้าร่วมจุนซ่างเซียว เพราว่าบุรุษคนนี้แข็งแกร่งมาก อนาคตของเขานั้นไร้ขีดจำกัดอย่างแท้จริง.

แต่เพราะว่านายน้อยเขาได้ตัดสินใจแล้ว เขาจึงไม่กล้าที่จะกล่าวแย้ง.

“กล่าวเตือนนายน้อยของเจ้าด้วย.”จุนซ่างเซียวเอ่ย “เปิ่นจั้วต้องการคนมีความสามารถเช่นเขา หากว่ายินดีเข้าร่วม จะได้รับการปฏิบัติที่ดีอย่างแน่นอน.”

“เรื่องนี้.....”เหล่าหลินที่กล่าวเสียงสั่น.

นายน้อยที่มีศักดิ์ศรีสูงลิ่ว เขาแทบจะไม่รู้วิธีที่จะเกลี้ยกล่อมได้เลย.

“แน่นอน.”

จุนซ่างเซียวกล่าวเพิ่ม “ไม่เห็นด้วยตอนนี้ไม่เป็นไร นิกายของข้าเปิดรับและรอเขาเสมอ.”

แน่นอนว่าสองครั้งไม่มีครั้งที่สาม.

ในครั้งนี้ ในเมื่อเข้าจับนายน้อยหยวนมา หากไม่เห็นด้วยก็ต้องถูกขังไว้ในคุก ไว้ให้เจาโตวโตวกล่าวหลอกหลอน จนให้รู้ความ.

......

โลกที่มืดมน อากาศที่รุนแรงและเลวร้ายที่สุด.

ที่นี่ก็คือดินแดนของเผ่าวิญญาณนั่นเอง สถานที่แห่งนี้ดูไม่แตกต่างจากนรกด้วยซ้ำ!

ในเวลานี้ ภายในตำหนักที่โออ่าโบราณ มียอดฝีมือเผ่าวิญญาณมารวมกันและกำลังพูดคุยปรึกษาหารือกันอยู่.

“ถางจู่สี่ขาดการติดต่อไปอีกแล้ว!”

“น่ารังเกียจ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน!”

“ในความเห็นของข้า ถางจู่สามและถางจู่สี่ จะต้องถูกยอดฝีมือทวีปชิงหยุนพบเข้า จากนั้นก็ถูกทำร้ายจนเข้าสู่การจำศีล.”

“หากเป็นเช่นนี้ หลังจากผ่านไปหมื่นปี ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาเพิ่มพูนขึ้นเกินที่พวกเราจะคาดการณ์ ถางจู่ทั้งสองที่เพิ่งฟื้นคืนสติ กับถูกพบเข้าในเวลาไม่ต่างกันมากนัก!”

“ตึก! ตึก!”

ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกันนั้น ที่ด้านนอกตำหนักมีเสียงก้าวเท้าเข้ามาด้านใน.

“ฟู่!”

สายลมที่พัดโบกอ่อน ๆ กลีบกุหลาบที่ลอยระล่องไปทุกที่.

ร่างกายที่เพรียวบางรูปร่างชดช้อย ทรวดทรงโค้งเว้างดงามได้รูป ก้าวเข้ามา ร่างกายที่มีสายลมพัดกลีบกุหลาบลอยออกไปเป็นระยะ ๆ นำทางมา.

ยอดฝีมือเผ่าวิญญาณที่ตั้งสองแถวทันที พร้อมกับโค้งศีรษะลงต่ำ พร้อมกับผายมือตอนรับอย่างนอบน้อม.

“ฟิ้ว!”

สตรีผู้งดงามที่สะบัดมือ ก่อนที่จะลอยขึ้นไปบนบัลลังก์.

ขาที่เรียวด้านซ้ายยกขึ้นไขว่ห้าง นิ้วที่วางบนพนังพิงพลางเคาะเบา ๆ.

“คารวะจักรพรรดินี!”

ยอดฝีมือเผ่าวิญญาณที่โค้งคำนับด้วยความเคารพ.

ภายในโลกเผ่าวิญญาณ ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือจักรพรรดินีแน่นอน.

ถางจู่สามและถางจู่สี่ที่ตอนนี้ตกอยู่ในมือของผู้อื่น.

สตรีผู้งดงาม แต่ในเวลานี้อารมณ์ไม่ดีนัก จักรพรรดินีของทวีปแห่งนี้ เพราะว่านางชื่นชอบดอกกุหลาบ ดังนั้นนามของนางจึงถูกขนานนามว่า“จักรพรรดินีเหม่ยกุ้ย.”(ราชินีดอกกุหลาบ)

เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเผ่าวิญญาณ.

หมื่นปีที่แล้ว หลังจากจักรพรรดินีหลิงปิงจักรพรรดินีรุ่นที่สี่สละตำแหน่ง  นางที่คือจักรพรรดินีองค์ใหม่ที่ขึ้นครองราชย์ถัดมา.

จักรพรรดินีเหม่ยกุ้ยที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย กล่าวด้วยท่าทางโกรธเกรี้ยว “เรียกประชุมเร่งด่วนเช่นนี้ มีปัญหาอะไร?”

จักรพรรดินีผู้นี้ ครองราชย์มากว่า 990 ปีแล้ว ตลอดเวลาได้พิชิตพิภพข้างเคียงมากมาย กลายเป็นหนึ่งพิภพที่น่าพรั่นพรึงเป็นอย่างมาก.

“เรียนจักรพรรดินี!”

ยอดฝีมือเผ่าวิญญาณคนหนึ่งที่กล่าวเสียงสั่น“ถางจู่สามและถางจู่สี่ที่คืนสติที่ทวีปชิงหยุนติดต่อกัน ตอนนี้พวกเขาได้สูญเสียการติดต่อไปไม่ห่างกันนัก!”

“โอ้ว?”

จักรพรรดินีเหม่ยกุ้ยที่เผยความประหลาดใจ.

“จักรพรรดินี!”

ยอดฝีมือเผ่าวิญญาณอีกคนที่เอ่ยปากออกมา“ช่องมิติที่เชื่อมไปยังทวีปชิงหยุนก่อนหน้านี้ถูกเสริมพลังด้วยค่ายกลที่แข็งแกร่ง จนพวกเราไม่สามารถที่จะแทรกผ่านเข้าไปได้เลย!”

“เจ้าพวกขยะ!”จักรพรรดินีเหม่ยกุยที่กล่าวตำหนิเสียงดัง.

เรื่องเกี่ยวกับทวีปชิงหยุนนั้น แม้นว่าจะเป็นการจัดการของจักรพรรดินีรุ่นก่อน ทว่าก่อนหน้านี้ นางที่ออกคำสั่งให้พิชิตพิภพหลายแห่ง กับสามารถจัดการได้อย่างสมบูรณ์ แต่กับสถานที่แห่งนี้กับไม่คืบหน้าเลย!

“......”

เหล่ายอดฝีมือที่ได้แต่เงียบไปตาม ๆ กัน.

“เปิ่นหวงไม่ต้องการคำแก้ตัว ให้เวลาพวกเจ้าอีกหนึ่งปี หากไม่สามารถรุกไปยังทวีปชิงหยุนได้...”จักรพรรดิเหม่ยกุยที่ใบหน้าเย็นชาเอ่ยออกมาว่า“ทุกคนต้องตายเพื่อขอโทษ.”

“รับทราบ!”

เผ่าวิญญาณที่ตอบรับเสียงดัง.

“เลิกประชุม.”

ทุกคนที่เร่งรีบออกจากห้องโถงทันที.

อย่างไรก็ตามระหว่างทางนั้น ผู้คนที่พูดคุยกันเสียงเบา“ท่านจักรพรรดินีดูจะอารมณ์ไม่ดี! ดูเหมือนว่าต้องการไปลงที่พิภพอื่นอีกอย่างงั้นรึ?”

“ข้าได้ยินมาว่าคัมภีร์ส่วนหนึ่งถูกขโมยไป!”

“หืม? สิ่งนั้นนางเก็บไว้ด้วยตัวเอง ใครช่างใจกล้านัก สามารถขโมยจากมือท่านจักรพรรดินีได้!”

“ไม่สงสัยเลยว่าจะอารมณ์ไม่ดีปานนั้น!”

“ในเมื่อรู้เรื่องนี้แล้ว ทำไมเจ้าไม่บอกพวกเราก่อน ตอนนี้ท่านจักรพรรดินีออกคำสั่งเด็ดขาดแล้ว หากทำไม่สำเร็จ ทุกคนต้องหัวขาดกันแน่!”

จักรพรรดินีเหม่ยกุยแน่นอนว่าย่อมได้ยินสิ่งที่ผู้ใต้บังคับบัญชาคุยกัน ตอนนี้นางโกรธเกรี้ยวเทียมสวรรค์“มันเป็นใครกันที่ขโมยส่วนคัมภีร์ของข้า อย่าให้เปิ่นหวงจับได้ก็แล้วกัน!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด