ตอนที่แล้วบทที่ 32 ร่างกายสามารถสื่อสารกับสมบัติ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 34 คาถาชำระจิตมีอานุภาพ

บทที่ 33 พี่น้องสองสาวสุดสวย 


หลี่ฟานถามคำถามประหลาดๆ ติดต่อกันหลายข้อ ทำให้อวิ๋นหยูเจินถูกถามจนงง ไม่เข้าใจว่าหลี่ฟานถามไปทำไม

นางเหมือนคิดถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่งขึ้นมาได้ จ้องมองหลี่ฟานด้วยสีหน้าซีดขาว "หรือท่านจะเป็นพ่อของพวกเราสองพี่น้องที่พลัดพรากไปนานแล้ว?"

แต่ไม่นานนางก็ปฏิเสธความคิดนั้นไปเอง "ไม่ใช่สิ หน้าตาท่านไม่เหมือนพวกเราเลยสักนิด"

"แค่อยากรู้เฉยๆ ก็เท่านั้นแหละ" หลี่ฟานไม่สนใจความคิดค่อนข้างกระโดดของสาวน้อยผู้นี้ พูดเสียงเรียบ

"รู้ รู้ ความอยากรู้เกี่ยวกับพวกเดียวกัน เป็นเรื่องปกติของมนุษย์" อวิ๋นหยูเจินทำท่าเข้าใจ พยักหน้ารัวๆ

หลี่ฟานก็ขี้เกียจจะอธิบาย

อวิ๋นหยูเจินถอนหายใจ เล่าช้าๆ ว่า "เดิมทีพวกเราเป็นคนจากเกาะเหยหลานทางเหนือ พ่อแม่จากไปตั้งแต่เด็กเพราะภัยพิบัติ เหลือแค่พี่สาวกับข้าพึ่งพากันและกัน ตามความทรงจำ ข้ากับพี่สาวต้องอาศัยการขอทานเลี้ยงชีพทุกวัน มื้อเช้าไม่รู้มื้อเย็น"

"แต่ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ พี่สาวเริ่มหาของมีค่าได้จากที่ต่างๆ อยู่เรื่อย"

"แล้วชีวิตของพวกเราก็ดีขึ้นทุกวัน จากนั้นพี่สาวก็สร้างตึกเทียนเป่าขึ้นมาได้ด้วยฝีมือตัวเอง" อวิ๋นหยูเจินระลึกความหลัง

"แต่น่าเสียดายที่ข้าไม่ได้เจอพี่สาวมาหลายปีแล้ว" ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความคิดถึง

"หือ? นางไปที่แห่งใด?" หลี่ฟานขมวดคิ้ว

"สามปีก่อน พี่สาวถูกเซียนที่ผ่านมาเห็นแล้วพาตัวไป ช่วงแรกนางยังฝากข่าวส่งมาบอกว่าปลอดภัย แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ข่าวคราวอีกเลย" อวิ๋นหยูเจินพูดอย่างสงสารตัวเอง เท้าคางด้วยมือสองข้าง

"ถูกเซียนพาตัวไป อย่าบอกนะว่าเอาไปฝึกเป็นเซียน?" หลี่ฟานถามอย่างอดไม่ได้

อวิ๋นหยูเจินถอนหายใจ "ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็ดีสิ พี่สาวเคยฝากจดหมายกลับมา ใช้รหัสลับที่มีแค่เราสองคนเข้าใจบอกว่าตอนนี้นางตกอยู่ในอันตราย ถ้าหากต่อไปไม่ติดต่อมาอีก ก็แสดงว่านางอาจเจออันตรายถึงชีวิตแล้ว และบอกข้าด้วยว่าไม่ต้องไปตามหานาง"

หลี่ฟานได้ยินแล้วอดถามไม่ได้ "อย่าบอกนะว่าเป็นเพราะร่างกายพิเศษสื่อวิญญาณหาสมบัติของนางนำมาซึ่งเคราะห์กรรม?"

"นั่นก็เป็นเรื่องที่ข้าคิดไม่ตกเช่นกัน แม้ความสามารถสื่อวิญญาณหาสมบัติจะเก่งจริงๆ สามารถรับรู้สมบัติในระยะรอบตัวได้ แต่ก็จำกัดอยู่ดี"

"พี่สาวเป็นแค่คนธรรมดา สิ่งที่รับรู้ได้ก็มีเพียงของมีค่าสำหรับคนปกติเท่านั้น สมบัติพวกนี้ในสายตาของเหล่าเซียน อาจจะไม่ต่างอะไรกับเศษเหล็กสนิมเก่าๆ"

"ก่อนหน้านี้ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีเซียนสังเกตเห็นพรสวรรค์ของพี่สาว แต่สุดท้ายพวกเขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่ไม่รู้ทำไมสุดท้ายพี่สาวก็ถูกเซียนผู้นั้นพาตัวไป" อวิ๋นหยูเจินถอนหายใจอีกรอบ ดวงตาเผยความเศร้าโศกออกมาเล็กน้อย

"ถึงพี่สาวจะอาจจะไม่รอดชีวิต แต่มรดกที่นางทิ้งไว้ยังอยู่ ตึกเทียนเป่าที่พี่สาวอุตส่าห์ตรากตรำสร้างมาทั้งชีวิต ไม่อาจปล่อยให้พังในมือข้าได้" อวิ๋นหยูเจินมองจ้องหลี่ฟานแน่วแน่ด้วยตากลมโต

"นี่เป็นเหตุผลที่วันนี้ข้าตามท่านมา"

หลี่ฟานเลิกคิ้ว ไม่พูดอะไร

อวิ๋นหยูเจินอธิบายต่อไปเอง "ข้าไม่มีความสามารถอัศจรรย์แบบพี่สาว หลังจากพี่สาวหายตัวไป ธุรกิจของตึกเทียนเป่าก็แย่ลงทุกวัน แถมหลังจากนั้นข้ายังมองพลาดเอาของปลอมเข้ามาอีกหลายชิ้น ทำให้ขาดทุนไปเป็นจำนวนมาก"

"พวกผู้อาวุโสทยอยๆ ไม่พอใจข้ามากขึ้น ถึงขั้นอยากผนึกกำลังกับคนนอกเพื่อไล่ข้าออกไป และแบ่งทรัพย์สินของตึกเทียนเป่า"

"แต่โชคดีที่พวกเขายังหวั่นเกรงพี่สาวที่ถูกเซียนพาตัวไป เลยไม่กล้าทำอะไรข้า"

"ข้าจึงอ้างเหตุผลจะขยายตลาด จากเกาะเหยหลานมาที่เกาะหลิ่วหลี่นี่ ก็เพื่อหลบเอาตัวรอดไปก่อน"

"แรกเริ่มข้าตั้งใจว่าจะพัฒนาธุรกิจที่นี่สักสองสามปี สะสมกำลังให้มากพอแล้วจึงค่อยกลับไปสะสางบัญชีกับพวกนั้น แต่ไม่คิดว่าจะมาเจอผู้ที่สื่อวิญญาณหาสมบัติได้ที่เกาะหลิ่วหลี่นี้อีกคน"

อวิ๋นหยูเจินตื่นเต้นขึ้นมาทันที "ถ้าได้ท่านช่วย ข้าจะต้องกลับไปยึดตึกเทียนเป่าคืนมาได้อย่างแน่นอน"

"ทำไมข้าต้องช่วยเจ้าด้วย?" หลี่ฟานไม่สะทกสะท้าน "ข้าไม่สนใจเรื่องของตึกเทียนเป่าพวกเจ้าหรอก สิ่งที่ข้าอยากได้คือการเป็นเซียนเท่านั้น"

"ก่อนหน้านี้พวกเจ้าตกลงว่า ถ้าข้าช่วยเจ้ายึดกองเรือได้ ก็จะช่วยให้ข้าได้โควตาเข้าสระวิเศษชำระร่าง เรื่องนี้พวกเจ้าไม่ได้กลับคำใช่ไหม?"

อวิ๋นหยูเจินดูเหมือนจะเตรียมใจไว้แล้วกับคำตอบของหลี่ฟาน นางพยักหน้า "ตึกเทียนเป่าของพวกเรา ทำธุรกิจมาโดยยึดความซื่อสัตย์เป็นหลัก คำที่ให้ไว้ ต้องทำให้ได้แน่นอน แต่ว่า..."

นางชะงัก แล้วมองหลี่ฟานด้วยสายตามีเล่ห์เหลี่ยม

"แต่ว่าอะไร?" หลี่ฟานสีหน้าเคร่งขรึม

อวิ๋นหยูเจินหัวเราะเบาๆ "ต่อให้ลุงเข้าไปในสระวิเศษชำระร่างได้ ก็ไม่ง่ายที่จะกำจัดหมอกพิษเซียนในร่างหรอก คนที่เข้าไปในสระวิเศษทุกปี แทบจะมีแค่ครึ่งเดียวที่สำเร็จ ยิ่งอายุมากขึ้น โอกาสล้มเหลวก็ยิ่งสูง"

"ลุงอายุก็ไม่น้อยแล้ว ท่านมั่นใจหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์หรือว่าจะสำเร็จ? ทุกคนมีโอกาสเข้าสระวิเศษได้แค่ครั้งเดียวในชีวิต ถ้าหากล้มเหลว ก็คงต้องลาจากการเป็นเซียนแล้ว"

"การชำระร่างในสระวิเศษไม่ใช่เรื่องที่จะสำเร็จร้อยเปอร์เซ็นต์ ข้าก็รู้ แค่มีโอกาสครึ่งหนึ่ง ก็ถือว่าคุ้มค่าพอที่จะลองแล้ว แต่ฟังจากที่เจ้าพูด..." หลี่ฟานมองอวิ๋นหยูเจิน หรี่ตาลง

"ใช่แล้ว" ดวงตาอวิ๋นหยูเจินเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ รู้อยู่แล้วว่าหลี่ฟานต้องตกหลุมแน่ "จดหมายฉบับสุดท้ายที่พี่สาวส่งมาพร้อมกับยาวิเศษหนึ่งเม็ด เรียกว่าหลี่เฉินตาน"

"ตามที่พี่สาวบอกในจดหมาย หากกินยานี้เข้าไป โอกาสที่จะกำจัดพลังงานของสภาวะพิษในร่างกายจะเพิ่มขึ้นมาก หากใช้ร่วมกับสระวิเศษชำระร่าง ถึงแม้อายุมากอย่างลุง ก็มีโอกาสสำเร็จสูงมาก"

"ยาวิเศษที่มีผลขนาดนั้น ทำไมเจ้าถึงไม่กินมันเสียเอง?" หลี่ฟานถามอย่างสงสัย

"ลุง ไม่ใช่ทุกคนจะอยากเป็นเซียนแบบท่านหรอก ความปรารถนาของข้าคือทำธุรกิจให้ดี แล้วก็ปกป้องตึกเทียนเป่าที่พี่สาวทิ้งไว้ให้" อวิ๋นหยูเจินตอบ

"คนต่างมีความมุ่งหมายต่างกัน..." หลี่ฟานค่อยๆ พยักหน้า

"เป็นไง ลุงยอมรับแล้วใช่ไหม?" อวิ๋นหยูเจินมองหลี่ฟานด้วยแววตาคาดหวัง

"ให้ข้ากลับไปคิดดูก่อน สามวันให้หลัง จะให้คำตอบเจ้า" หลี่ฟานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ได้ตอบรับในทันที

"ได้ งั้นข้ารอข่าวจากลุงนะ" ถึงอวิ๋นหยูเจินจะผิดหวังบ้าง แต่ก็พยักหน้ารับ

"ข้าขอตัว!"

"หวังว่าคราวนี้ข้าจะไม่ได้เลือกผิด"

อวิ๋นหยูเจินมองเงาร่างของหลี่ฟานที่เดินจากไป หน้าตาจริงจังขึ้นมา พูดเบาๆ

ในการติดต่อกับหลี่ฟาน อวิ๋นหยูเจินแสดงบทเป็น 'ผู้เยาว์' 'สาวน้อย' มาโดยตลอด

สัญชาตญาณบอกนางว่า หลี่ฟานไม่ได้รังเกียจที่นางทำแบบนี้

และการคบหากับหลี่ฟานในฐานะผู้เยาว์ จะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น

อวิ๋นหยูเจินไม่เหมือนพี่สาวอวิ๋นเยวี่ยถิง ที่มีความสามารถในการรับรู้สมบัติจากห้วงลึกลับ

แต่นางก็มีความพิเศษในแบบของตัวเอง

นอกจากพี่สาวอวิ๋นเยวี่ยถิง ไม่มีใครรู้เลยว่า อวิ๋นหยูเจินสามารถคาดเดาสุดวิสัยได้ตั้งแต่เด็กว่า เรื่องราวจะดีหรือร้าย

ก็ด้วยความสามารถสื่อวิญญาณหาสมบัติของพี่สาว และความสามารถหลีกเลี่ยงเรื่องร้ายเข้าหาสิ่งดีของน้องสาว ที่ทำให้สองพี่น้องเติบโตมาได้อย่างราบรื่น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด