ตอนที่แล้วบทที่ 19 สูญสิ้นตระกูลเฉิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 21 องค์ชายสาม

บทที่ 20 อุบัติเหตุ


......

“เหตุใดจึงยังไม่มีการแจ้งเตือนถึงภารกิจที่เสร็จสิ้นแล้วล่ะ…”

ฉินจวินพึมพำเบาๆ กับตนเองอย่างสงสัย ก็เห็นชัดนี่ว่าไม่มีใครอยู่ คนตระกูลเฉิงก็แยกย้ายกันไปหมดแล้ว แต่ทำไมยังไม่มีการแจ้งเตือนจากระบบ

หรือต้องให้ทำลายจวนไปด้วยหรือ…

หลังคิดไตร่ตรองเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนเขาก็หันไปถามต้าจี๋ที่อยู่ข้างหลังว่า

“เจ้าทำลายจวนทั้งหมดนี้ได้ไหม”

“ไม่มีปัญหาเจ้าค่ะ แต่เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ นายน้อยถอยออกไปก่อนนะเจ้าค่ะ”

ต้าจี๋พยักหน้าพร้อมกล่าวบอกกับฉินจวิน ถึงจวนของตระกูลเฉิงจะครอบครองพื้นที่โดยรอบขนาดใหญ่ แต่กับนางมันกลับดูเล็กมาก

หากชายผู้แข็งแกร่งในระดับอาณาจักรปรับแต่งความว่างเปล่า ก็จะสามารถระเบิดภูเขาและพื้นพิภพด้วยพลังยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย

ฉินจวินพยักหน้าเข้าใจแล้วเดินนำฉางเฉียนเฉียนกับฉางห่าวออกไปคอยอยู่หน้าประตูจวน ขณะที่คนอื่นๆ หันหลังกลับไป เจ้าสุนัขเสี้ยวเทียนกลับเดินเข้าหาต้าจี๋ก่อนเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ

“เจ้าก็มาจากเผ่าปีศาจเช่นกันนี่!”

ต้าจี๋ไม่เคยเผยวิญญาณแท้จริงที่เป็นปีศาจของนางให้ใครรู้ แต่ในระหว่างการต่อสู้กับตระกูลเฉิงเมื่อครู่นี้ ร่องรอยวิญญาณกลับรั่วไหลออกมาโดยไม่ตั้งใจ แม้จะเป็นเพียงร่องรอยเล็กๆ แต่มันก็ถูกเจ้าสุนัขเสี้ยวเทียนสัมผัสได้อย่างรวดเร็ว

“ชู่!!!”

ต้าจี๋ยกนิ้วชี้เรียวยาวขึ้นต้องปากอิ่มของนางด้วยสีหน้าสนุกสนาน นางยังไม่เคยเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของนางต่อฉินจวินก็จริง แต่เขาก็รู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้วแม้นางจะคิดว่าเขายังไม่รู้

ถึงเจ้าสุนัขเสี้ยวเทียวจะสงสัยว่าต้าจี๋สามารถปกปิดร่องรอยปีศาจของนางได้อย่างไร แต่มันก็เลือกที่จะเงียบแม้อยากจะรู้เพียงใดก็ตาม

แม้ทั้งคู่จะอยู่ในระดับอาณาจักรปรับแต่งความว่างเปล่าเช่นกัน แต่เจ้าสุนัขเสี้ยวเทียนกลับไม่สามารถสัมผัสถึงร่องรอยนั้นได้และคิดว่านางคือมนุษย์มาโดยตลอด

ถือเป็นเรื่องน่าอิจฉาที่นางสามารถปกปิดร่องรอยปีศาจของตนได้แม้จะไม่สมบูรณ์ก็ตาม ซึ่งหากถูกผู้แข็งแกร่งที่อยู่เหนืออาณาจักรแก่นทองคำรับรู้เข้าพวกเขาก็สามารถบอกได้ทันทีว่าคือปีศาจ เพียงเป็นเรื่องยากหากคิดประเมินความแข็งแกร่งของมัน

เพราะหากเมื่อไรที่มันได้ระเบิดพลังออกไปอย่างเต็มที่ มันจะเป็นความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวต่ออาณาจักรสวรรค์และพิภพทันที

  

การบ่มเพาะความเป็นเซียนของมนุษย์ต้องไต่ระดับจาก ระดับกลั่นลมปราณ สร้างรากฐาน แก่นทองคำ เปลี่ยนแปลงมนุษย์ ปรับแต่งความว่างเปล่า และพิภพอมตะ จนไปสู่การเป็นเซียน

ซึ่งผู้แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรเฉียนเยว่นั้น อยู่เพียงระดับอาณาจักรเปลี่ยนแปลงมนุษย์เท่านั้น

“จะทำลายจวนที่งดงามเช่นนี้จริงหรือ” ฉางเฉียนเฉียนทนไม่ได้จึงเอ่ยถามฉินจวินออกไป

“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า” ฉินจวินตอบด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย ซึ่งฉางเฉียนเฉียนที่ได้ยินและเห็นท่าทางน่าหมั่นไส้อย่างนั้นก็ถึงกับพุ่งเข้าใส่พร้อมง้างเล็บและฟันเตรียบงับ น่าเสียดายที่เขาดันหัวนางที่กำลังปรี่เข้ามาด้วยมือข้างเดียวทันพอดี

ภายใต้สายตาริษยาของฉางห่าว การต่อสู้ระหว่างคนทั้งสองดูราวกับคู่รักกำลังหยอกเย้ากันมากกว่าที่จะเป็นศัตรู ทำเขารู้สึกเหมือนถูกน้องเล็กทรยศหักหลังเสียมากกว่า

อย่างที่ทุกคนรู้กัน ว่ามันเป็นกฎชั่วนิรันดร์ที่คนอย่างศิษย์พี่ใหญ่ต้องถูกศิษย์น้องหญิงทอดทิ้ง

  

“ฮึ่ม!!!”

ฉางห่าวกระแทกเสียงแอมในลำคออย่างหงุดหงิด จากนั้นเร่งฝีเท้าเดินไปเบื้องหน้าฉินจวิน เพราะไม่อยากทนดูภาพการต่อสู้ที่น่าสะอิดสะเอียนระหว่างคนทั้งสอง

เมื่อเห็นการกระทำอันน่าอึดอัดของศิษย์พี่ใหญ่ ฉางเฉียนเฉียนก็ปัดมือที่ฉินจวินจับอยู่บนหัวนางออกจนมือขวาของเขาหลุดร่วงลงมาสัมผัสถูกหน้าอกอิ่มของนางอย่างไม่ตั้งใจ

ผ่าง!!! (⊙_⊙)

ฉินจวินถึงกับชะงักไปชั่วหนึ่ง เวลานั้นเขารู้สึกเหมือนสติกำลังระเบิดหลุด

ส่วนฉางเฉียนเฉียนก็หยุดชะงักไปกับสถานการณ์เมื่อครู่นี้เช่นกัน นางเบิกดวงตากว้างด้วยความตกใจและไม่อยากเชื่อก่อนที่ทั้งสองจะตกอยู่ในความเงียบอันน่าอึดอัดไปชั่วขณะ

ฉินจวินกระแอมไอแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนเอ่ย

“ใจเย็น นี่ยังกลางวันแสกๆ”

กับสิ่งที่เกิดขึ้น เขารู้สึกใจหายนิดหน่อยเพราะไม่คิดว่านางจะซ่อนรูปขนาดนี้

  

เจ้าก็รู้ว่ามันยังกลางวันแสกๆ อยู่อย่างนั้นหรือ

ฉางเฉียนเฉียนเคืองมากจนดวงตาเริ่มแดงก่ำหลังอุตส่าทะนุถนอมความบริสุทธิ์ของตนเองราวกับหยกมานานกว่าสิบปี ตอนนี้กลับถูกชายคนนี้เอาเปรียบ

ฉินจวินรีบหันหลังกลับ เขายืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจเดินไปหาฉางห่าวที่กำลังยืนวางท่าเชิดหน้าสูงส่วนหน้าอกก็ตั้งตระหง่านไปข้างหน้าราวกับยิ่งใหญ่มาก พอได้เห็นอย่างนั้นเขาก็ถึงกับถอนหายใจให้ชายผู้ช่างสง่างามเช่นเขา

“พี่ชาย โทษทีนะ ข้าไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้น” ฉินจวินพึมพำกับตนเองเบาๆ

ปกติแล้วเขาจะรู้สึกได้เลยว่าฉางห่าวใส่ใจฉางเฉียนเฉียนมากแค่ไหน แม้จะน่าเสียดายที่นางไม่เคยมองเห็นถึงความใส่ใจจากพี่ใหญ่ของตนเองเลย

โดยเฉพาะหลังพบกับฉินจวินแล้ว นางยิ่งเพิกเฉยต่อเขาราวกับเป็นอากาศธาตุ

โธ่ว… ฉางห่าวผู้น่าสงสาร!

ดูเหมือนว่าฉางห่าวจะรับรู้ถึงการจ้องมองของฉินจวิน เขาหันกลับไปเห็นฉินจวินกำลังเดินตรงมายังเขา ในขณะที่ฉางเฉียนเฉียนเดินใจลอยอยู่หลังเขาอีกที ฉางห่าวตะโกน

“ศิษย์น้องเล็ก หยุดเดินเตาะแตะได้แล้ว เดี๋ยวได้เผลอเจ็บตัวหรอก”

น้องแกสิ สะบึมขนาดนั้น!

ข้าสิที่บอบช้ำทางจิตใจโดยไม่ตั้งตัว…

  

ฉางเฉียนเฉียนได้แต่ร้องไห้อยู่ในใจ และในเวลาเดียวกันภาพลักษณ์ของฉางห่าวที่อยู่ในใจนางก็ลดลงอีกครั้ง

หากฉางห่าวอ่านใจนางได้ตอนนี้ เขาคงได้กระอักเลือดจริงๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด