ตอนที่แล้วตอนที่ 9 ญาติห่างๆนั้นไม่ดีเท่าเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 11 ผมคือกฎ

ตอนที่ 10 ครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวของฉัน


ในสถานการณ์ทั่วไป คนปกติมักจะหวาดกลัวตื่นตระหนกและอาจจะตัดสินบางสิ่งผิดพลาดเมื่อพบเจอกับเรื่องสยองขวัญเหนือธรรมชาติและความผิดพลาดเพียงเล็กน้องอาจจะนำไปสู่จุดจบได้ อย่างไรก็ตามเกาหมิงนั้นแตกต่างออกไปเขามักจะคาดเดาถึงผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดก่อนเสมอ คิดถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆลดความคาดหวังถึงสิ่งที่เป็นไปได้ก่อนจะตัดสินใจลงมือเสมอ

2409 ฝางชูฉี : "พี่หวังและเสี่ยวชิวอาจจะไม่รอดแล้ว พวกเราต้องรีบรวมตัวกันถึงจะมีโอกาสรอดชีวิตและอีกเรื่อง ฉันต้องการคำอธิบายจากครอบครัวของจ้าวซี การที่จ้าวซีจะกลับมาที่อาคารนี้อีกครั้ง มันจะต้องเกี่ยวข้องกับพวกคุณ!"

2304 หลี่หลี่ : "แม้ว่าจ้าวซีจะเป็นแค่ลูกบุญธรรมของครอบครัวเรา แต่พวกเราปฏิบัติต่อเขาเหมือนคนในครอบครัวเสมอ แล้วพวกคุณล่ะ ปากก็เรียกพี่จ้าวพี่จ้าว แต่ฉันรู้นะ พวกคุณทุกคนต่างก็ดูถูกเขาหมดทั้งนั้นแหละ ยิ่งกว่านั้นก็เป็นพวกคุณที่ชอบปล่อยข่าวลือเสียๆหายลับหลังเขาทั้งนั้น แม้กระทั้งเรื่องที่ฉันมีความสัมพันธ์กับเขา คิดว่าฉันจะไม่รู้เรื่องชั่วๆพวกนี้หรอ พวกคุณนั่นแหละที่เป็นคนบังคับให้จ้าวซีต้องฆ่าตัวตาย!"

หน้าจอวิดีโอของหลี่หลี่เริ่มสั่น เธอกลัวมาก เธอกอดลูกน้อยแน่นและเปิดประตูห้องนั่งเล่นออกมา

ศพอยู่บนชั้นสองส่วนเธออยู่บนขั้นสาม เธอไม่กล้าหนีลงไปจึงรีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนเพื่อไปซ่อนตัวร่วมกับคนอื่นแทน

แม่บุญธรรมของจ้าวซี่ติดตามหลี่หลี่มา น้ำตาไหลลงมาตามรอยย่นบนใบหน้า ตะกร้าที่เธอถือไว้บนแขนเต็มไปด้วยเงินกระดาษ

"ทำไมแม่ต้องพกของพวกนี้มาด้วย หรือเป็นแม่ที่เรียกเขากลับมา!" หลี่หลี่ดุดาแม่สามีตัวเอง แต่ในเวลานั้นมีเสียงดังมาทางเดินอันมืดมิด ราวกับมีมือหลายมือกำลังคลานเข้ามา เธอกรีดร้องด้วยความกลัว ทิ้งหญิงชราแล้วอุ้มลูกวิ่งหนีทันที กล้องมือถือสั่นจนมองไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร

2409 ฟางซูฉี : "หลี่หลี่ นี่คุณลืมแม่สามีหรือเปล่า?"

2501 หวงหมิงหมิง : "พวกเราขึ้นไปรวมตัวแก้ปัญหาบนด่านฟ้ากันดีไหม? อยู่ในห้องต่อไปพวกเราอาจะไม่รอด"

2607 เจี่ยฉี : "ไม่!การซ่อนตัวอยู่ชั้นบนไม่ใช่ทางเลือกที่ดี สุดท้ายจะเป็นพวกเราเอง ที่ขังตัวเองไว้ข้างบนรอมันมา!"

2707 เหยาหยวน : "ห้องของฉันอยู่ห่างจากทางบรรไดมากที่สุด ทุกคนมารวมตัวที่ห้องฉันกันก่อนเถอะ"

2409 ฟางซูฉี : "อาจารย์เหยา? คุณหายดีแล้วเหรอ?"

ฟางซูฉีและเพื่อนบ้านอีกหลายคนตกตะลึงเป็นพิเศษเมื่อเห็นเหยาหยวนตอบกลับ เหยาหยวนอยู่ในวัย 70 ปี เป็นครูโรงเรียนตำรวจที่เกษียณแล้ว เป็นนายตำรวจที่มีความสามารถน่านับถือ แต่เมื่อสองปีที่แล้ว เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรง หลายๆคนในอพาร์ตเมนท์หลี่จิงรู้เรื่องนี้ดี ครูเหยาซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นชายชราที่แข็งแรงสุขภาพดี แต่ภายในเวลาเพียงสองปีเขากลับผอมลงอย่างรวดเร็วจนสูญเสียรูปลักษณ์ของมนุษย์ไป จากคนที่แข็งแรงแต่กลับทำได้เพียงแค่นั่งรถเข็น แม้กระทั่งการพูดหรือกินก็ยังลำบาก

"ฉัน..." ชายชราเม้มริมฝีปากแล้วยิ้มอย่างขมขื่น "ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อสามเดือนก่อนฉันเลิกรักษาและรอความตายอยู่ที่ห้องเพียงลำพัง แค่จะลุกจากเตียงยังเป็นไปไม่ได้เลย แต่คืนนี้อยู่ดีดีฉันรู้สึกว่าอาการเจ็บป่วยของฉันหายขาดแล้ว ไม่เพียงแต่ฉันไม่รู้สึกเจ็บปวดแต่ร่างกายของฉันก็กลับคืนสู่สภาพที่ดีที่สุดเช่นกัน"

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครเชื่อ ชายชราจึงถอดเสื้อออกอย่างเงียบๆ ขณะที่เปิดกล้องคุย ผิวของเขาเกือบจะเหมือนกับคนตาย ซีดไร้เลือด มีเส้นเลือดสีดำจำนวนมากเต้นเป็นจังหวะโป่งพองรอบหน้าอกและหน้าท้อง ราวกับว่าร่างกายของเขากำลังจะระเบิดและหลอมรวมเข้ากับโลก

"ฉันไม่รู้ว่าทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้น แต่ฉันรู้ว่าฉันยังคงเป็นฉัน"

ในวิดีโอแชทกลุ่มไม่มีใครพูดอะไร เมื่อเหล่าเพื่อนบ้านต่างเห็นร่างกายครูเหยาในวิดีโอ ทุกคนต่างแสดงความกลัวและรังเกียจออกมาโดยไม่รู้ตัว ปฏิกิริยาของแต่ละคนทำให้ครูเหยารู้สึกอึดอัด

ครูเหยาสวมเสื้อกลับอย่างเงียบๆ เขาผ่านประสบการณ์มามากมายและรู้ว่าตอนนี้ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไร จึงเลือกที่จะเงียบ

เหล่าเพื่อนบ้านต่างไม่เชื่อครูเหยา แต่เกาหมิงเป็นข้อยกเว้น เขาเคยเห็นพ่อแม่ที่ถูกแทนที่ด้วยสิ่งมีชีวิตที่'ไม่รู้จัก'พวกมันสามารถปลอมแปลงตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่มีทางเลยที่จะทิ้งข้อบกพร่องชัดเจนเช่นนี้ไว้

"ตามข้อมูลแนะนำด้านหลังภาพ คนที่ใกล้จะตายก็สามารถเข้าเกมได้เช่นกัน ครูเหยาจัดอยู่ในประเภทนี้หรือเปล่านะ?"

เพื่อนบ้านปกติทั้งหมดในวิดีโอแชทกลุ่มทำให้เกาหมิงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ในทางกลับกัน เป็นครูเหยาที่ดูมีปัญหาใหญ่ที่สุด กลับทำให้เกาหมิงรู้สึกสบายใจมากกว่า

'ถ้ามีผีอยู่ในหมู่เพื่อนบ้านที่ดูเหมือนปกติ พวกมันควรมุ่งร้ายต่อคนที่มีชีวิตจริงและยั่วยุให้คนที่มีขีวิตฆ่ากันเอง'

เกาหมิงคว้าที่จับประตูพร้อมที่จะออกจากห้องของจ้าวซีเพื่อตรงไปหาอาจารย์เหยาด้วยตัวเอง

แผนของเขาดูเหมือนจะดี แต่ทันทีที่เกาหมิงเปิดประตู เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบ ดูเหมือนว่าหลี่หลี่กำลังอุ้มลูกชายของเธอผ่านมาทางชั้นห้า

'เราจับมัดสองแม่ลูกดีไหมนะ?' เกาหมิงพิงประตู 'น่าจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการยืนยันตัวตนของเพื่อนบ้าน'

เกาหมิงลังเลเพียงเสี้ยววินาที หลี่หลี่และลูกชายของเธออยู่คนเดียว นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยาก

'วิดีโอกลุ่มช่วยให้เราจับตามองคนอื่นได้ แต่เราก็ถูกจับตามองด้วยเช่นกัน จะปล่อยให้ใครเห็นสิ่งนี้ไม่ได้'

เกาหมิงปิดกล้องแล้วเดินออกไปที่ทางเดิน เขาวิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว แต่ที่น่าประหลาดใจคือเขาไม่พบสองแม่ลูก แม้ว่าจะขึ้นไปถึงชั้นที่เจ็ดแล้วก็ตาม

'มีบางอย่างผิดปกติ หลี่หลี่กำลังอุ้มเด็กไปด้วยไม่ว่าเธอจะเร็วแค่ไหน แต่ไม่มีทางที่เราจะไล่ตามไม่ทัน!'

มีกลิ่นเหม็นเน่าจางๆ ในอากาศ เขามองลงไปชั้นล่าง ทั้งมืดและไร้ชีวิตชีวา เงียบสงบ ชวนให้นึกถึงฉากการตายของจ้าวซี

"พวกเขาทั้งหมดเป็นผีจริงๆใช่ไหม"

เสียงเถียงกันดังมาจากโทรศัพท์มือถือ เกาหมิงรีบลดระดับเสียงและซ่อนตัวอยู่ที่มุมเพื่อตรวจสอบ

2409 ฟาง ซูฉี : "ฉันออกไปไม่ได้! จ้าวซีอยู่นอกประตูห้องฉันแล้ว มันกลับมาแล้ว!"

ผู้พักอาศัยบนชั้นสี่ส่งวิดีโอในกลุ่มแชท โดยกล้องวงจรปิดที่หน้าประตูห้องจับภาพไว้ได้

ในวิดีโอขาวดำ จ้าวซีขยับตัวไปตามขั้นบันได ใบหน้าของเขาถูไปกับพื้นและคอที่หักห้อยอยู่บนไหล่ของเขากำลังแกว่งไปมา ดูเหมือนมันจะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง มันค่อยๆเงยหน้าขึ้นเผยรอยยิ้มแปลกๆให้กล้อง ก่อนจะเอาหัวพุ่งชนประตูห้อง 2409

วิดีโอนี้สร้างความหวาดกลัวในใจของทุกคน ไม่ต้องพูดถึงฟางซูฉีที่ถูกขังอยู่ภายใน

แขนที่ถือโทรศัพท์สั่นมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อเสียงทุบประตูครั้งที่เก้าดังขึ้น เธอก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมา

จากนั้นเสียงกระจกแตกก็เข้าหูผู้อยู่อาศัยทั้งหมด และหน้าจอวิดีโอก็เบลอและหมุนจนกระทั่งมีเสียงของหนักตกลงพื้นอีกครั้ง

"ปัง!"

โทรศัพท์มือถือที่ก่อนหน้านี้ที่จับไว้แน่น ได้ฝังอยู่บนใบหน้าที่น่าเศร้าของฟางซูฉี ดูเหมือนว่าเธอจะถูกผลักตกลงมาจากชั้นสี่ เสียชีวิตในรูปแบบเดียวกับจ้าวซี

หน้าจอวิดีโอของฟางซูฉีถูกย้อมด้วยสีแดง

เกาหมิงตกตะลึงเขาอดทนต่อความรู้สึกไม่สบายใจ วิ่งไปสุดทางเดินบนชั้นเจ็ด ทุบหน้าต่างที่ปิดอยู่แล้วมองลงไป

"นี่มัน!" ความสงสัยของเกาหมิงได้รับการยืนยันแล้ว

ในวิดีโอฟางซูฉีเสียชีวิตอย่างน่าอนาถที่ชั้นล่าง แต่เมื่อเกาหมิงมองลงไปกลับไม่พออะไร พบเพียงลอยคราบเลือดเก่าที่ทางเข้าอาคารเท่านั้น

เพื่อนบ้านเหล่านี้ดูเหมือนจะมีชีวิตอยู่แค่ในวิดีโอแชทเท่านั้น ดูเหมือนว่าพวกมันพยายามสร้างบรรยากาศที่น่ากลัวบางอย่าง

"มีบางอย่างผิดปกติกับวิดีโอแชทและเพื่อนบ้านในนั้น โทรศัพท์มือถือที่จ้าวซีทิ้งไว้ห้องอาจเป็นกลอุบายของ 'ผี'!"

มีเส้นเลือดปูดขึ้นมาระหว่างคิ้วของเขา ถ้าเกาหมิงไม่สามารถเคลียร์เกมให้เร็วที่สุด จุดจบของเขาคงจะน่าสังเวชมากกว่าฟางซูฉีนับสิบเท่า

'ในความเป็นจริง ไม่มีทางที่มือถือจะวางอยู่ในห้องได้ หลังจากที่พี่จ้าวฆ่าตัวตาย แม่บุญธรรมหน้าเลือดและน้องสะใภ้จะต้องขายของทุกอย่างที่พี่จ้าวมีทิ้งไป ท้ายที่สุดเมื่อซวนเหวินเช่าห้องต่อ ก็จะเหลือก็เพียงแต่ของที่ไร้ประโยชน์'

เกาหมิงก้มลงมองโทรศัพท์มือถือ นึกถึงเกมที่เคยช่วยเว่ยต้ายู่ออกแบบสำหรับการแข่งขันเมื่อหลายปีก่อน ชื่อของเกมคือ'ครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวของฉัน'

ตัวละครหลักของเกมเป็นลุงวัยกลางคนที่ไร้ประโยชน์ แต่กลับมีภรรยาที่สวยงามและอ่อนโยน ลูกสาวที่ฉลาดและประพฤติตัวดีรวมถึงพ่อแม่ที่รักเขามาก ในตัวเกมตัวละครหลักจะใช้เพียงโทรศัพท์มือถือติดต่อครอบครัวเท่านั้น

วันหนึ่งเขาจะได้พบกับผู้หญิงที่ดูเหมือนภรรยาอยู่บนถนน เขารีบเข้าไปกอดหญิงสาว แต่เธอกลับหลบเลี่ยงเขาในอ้อมแขนของชายอื่น ผู้เล่นจะต้องสืบหาความจริงจากมุมมองของตัวละครหลัก ในท้ายที่สุดเราจะพบว่าชิวิตของเราเป็นแค่ภาพลวงตาที่โทรศัพท์มือถือสร้างขึ้น ภรรยาและลูกสาวกลับกลายเป็นของคนอื่น แม้แต่พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดก็ได้ตัดความสัมพันธ์กับเขา ครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวที่เขามีคือโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่า ผลสุดท้ายเขากลับเป็นตัวร้ายที่สุดของเรื่องราว เราจะฉีกหน้ากากที่เขาสร้าง เปิดเผยหัวใจที่สกปรกของเขาให้ทุกคนได้เห็น

ฉากจบของเกมมีสามรูปแบบ ฉากจบแรกคุณลุงเจอไดอารี่และยาที่หายไป จริงๆนี่เป็นครั้งที่ห้าที่เขาตื่นขึ้น แต่กลับเลือกที่จะกลืนยาลงไปอีกครั้งและเลือกใช้ชีวิตในจินตนาการเป็นครั้งที่หก ฉากจบที่ดีคือลุงสามารถทำลายโทรศัพท์มือถือ หนีจากภาพลวงตา ตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตใหม่ พยามปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นและคืนดีกับพ่อแม่ ฉากสุดท้ายฉากจบแบบเลวร้าย คุณลุงเสียสติและถือว่าโทรศัพท์เป็นเหมือนครอบครัวที่แท้จริงของตัวเอง เขาเสียชีวิตพร้อมกับโทรศัพท์ และในที่สุดเด็กคนหนึ่งก็พบโทรศัพท์นั้นขึ้นมาเพื่อเริ่มวงจรใหม่อีกครั้ง

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด