ตอนที่แล้วบทที่ 17 ทุกอย่างพร้อมสรรพ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 19 เหวลึกอยากกลืนกินผู้คน

บทที่ 18 ปลาโจนในน้ำลึก


หลังจากโข่วหงกับเต๋าเสวียนจื่อกลับสู่ยุทธภพเซียนแล้วพบว่าทั้งสองฝึกฝนวิถีเดียวกัน จะมีปฏิกิริยาอย่างไร หลี่ฟานไม่ได้ใส่ใจ

ตอนนี้ เขาจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว ขับเรือไท่เหยียนมาถึงเหนือซากปรักหักพัง

ตามปกติแล้ว ควรรอให้หมอกขาวจางหายทุกๆ สิบห้าปีค่อยมาสำรวจซากปรักหักพังนี้จึงจะถูก

แต่ตอนนี้หลี่ฟานอายุ 71 ปีแล้ว ยังต้องรออีก 14 ปีกว่าหมอกขาวจะจางหายอีกครั้ง

เวลานั้นเขาจะอายุ 85 แล้ว ความเป็นตายใกล้เข้ามา แม้แต่การเดินก็ยากลำบาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการขับเคลื่อนเรือไท่เหยียน

ดังนั้นจึงควรมาสำรวจวงกตเซียนมหัศจรรย์นี้เสียก่อนจะดีกว่า

อย่างไรเสียชาตินี้เขาก็ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว พร้อมจะเปิดเข้าสู่ชาติถัดไปได้ทุกเมื่อ

ควบคุมเรือไท่เหยียน หลี่ฟานค่อยๆ ลดต่ำลงสู่ก้นเหว

ไม่มี ญาณสัมผัส ช่วยนำทาง ต้องใช้สายตาแยกแยะทิศทางเท่านั้น

หมอกหนาทึบ สีขาวโพลนไปทั่วรอบๆ ทำให้หลี่ฟานรู้สึกไม่จริงไม่จังอย่างยิ่ง

รอบด้านเงียบสงัด ได้ยินเพียงเสียงหายใจของตัวเอง

มุ่งความสนใจไปยังด้านล่าง เดินหน้าบินไปเรื่อยๆ

ทันใดนั้น เหมือนไปชนอะไรบางอย่าง เรือไท่เหยียนเริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง

หลี่ฟานตกใจขึ้นมาทันที

เหมือนกำลังถูกบีบอัดด้วยแรงมหาศาลจากภายนอก มีเสียงครืดคราดเหมือนโลหะเสียดสีกันดังแว่วมาจากเรือไท่เหยียน

โชคดีที่วงจรอาคมป้องกันทำงานทันเวลา ฉาบแสงสีทองจางๆ ปกคลุมเรือไท่เหยียนเอาไว้

ตัวเรือค่อยๆ นิ่งขึ้น เสียงประหลาดที่ทำให้ขนลุกนั้นก็หายไป

เหลือแต่แสงป้องกันที่บิดเบี้ยวเปลี่ยนแปลงไม่หยุดบอกให้รู้ถึงแรงกดดันน่ากลัวจากภายนอก

"ผ่านชั้นลมทรงพลังมาแล้ว ข้างล่างคือชั้นแสงมายา" หลี่ฟานนึกทวนคำอธิบายของโข่วหงเกี่ยวกับวงกตเซียนมหัศจรรย์นี้

วงกตเซียนมหัศจรรย์มีไว้เพื่อป้องกันคนที่ถูกเนรเทศไม่ให้กลับสู่ยุทธภพเซียนเป็นหลัก

ชั้นลมทรงพลัง มีลมรุนแรงกระจายไปทั่ว

ใบมีดลมสามารถฉีกทึ้งร่างกาย ผู้ฝึกเซียน ขั้น สร้างฐาน ก็ยังต้องใช้พลังหยางป้องกัน ตอบโต้ด้วยความระมัดระวัง

ใต้ชั้นลมทรงพลังคือชั้นแสงมายา

แสงเจ็ดสีราวกับผ้าไหมไหลเวียนอยู่ในชั้นลึกของเหวนี้

พอมนุษย์เห็นก็จะตกอยู่ในหลุมพรางแห่งมายาไม่มีที่สิ้นสุด

ใต้ชั้นแสงมายา คือชั้นสลับด้าน

เข้ามาในชั้นนี้ ก็รู้สึกเหมือนฟ้าดินสลับที่ แยกไม่ออกว่าบนล่างซ้ายขวาอยู่ทางไหน

ยิ่งรอบด้านเป็นสีขาวโพลนไปหมด ไม่มี ญาณสัมผัส คอยบอกทิศทาง ก็ต้องหลงทิศแน่ๆ

หลังชั้นสลับด้าน คือชั้นเพลิงพลุ่งพล่าน

ดวงไฟนับหมื่นกำลังพุ่งทะยานไปมาอย่างเร็วโดยไร้ระเบียบในชั้นมิตินี้ ชนทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้าจนป่นปี้

ยังมีหมอกขาวหนาทึบซ่อนเร้น ทำให้ยากที่จะป้องกัน

ใต้ชั้นเพลิงพลุ่งพล่าน คือชั้นน้ำแข็งมืด

ตั้งแต่ชั้นนี้เป็นต้นไป หมอกจะค่อยๆ เบาบางลง

ชั้นน้ำแข็งมืด ไม่มีสิ่งอื่นใด มีเพียงอุณหภูมิต่ำยิ่งยวด

หากไม่มีวิธีป้องกันรับมือ กลัวว่าเพียงเข้าไปก็จะถูกแช่แข็งเป็นก้อนน้ำแข็งแล้ว

ใต้ชั้นน้ำแข็งมืด คือชั้นพายุอสนี

เสียงฟ้าร้องนับหมื่นชุดที่กระจายกลิ่นอายแห่งความพินาศดังกึกก้องไม่ขาดสายในเหวลึกชั้นนี้

สุดท้าย ก็คือพื้นที่เวิ้งว้างกว้างใหญ่กว่าชั้นหกชั้นที่ผ่านมารวมกันอีกหลายเท่า

ตามที่โข่วหงกล่าว ชั้นนี้ไม่มีอันตรายอะไรมาก เป็นเพียงความมืดสนิท แต่กลับทำให้ใจสั่นอย่างประหลาด

ทะลุชั้นมืดมิดออกไปก็จะออกจากวงกตเซียนมหัศจรรย์ ไปยังยุทธภพเซียนได้

หลี่ฟานระมัดระวังควบคุมเรือไท่เหยียน ใช้เวลาครึ่งชั่วยามสามารถผ่านชั้นลมทรงพลังมาได้ในที่สุด

พอเข้าสู่ชั้นแสงมายา หลี่ฟานก็ตกอยู่ในภาพหลอนซ้อนภาพหลอนมากมายจากแสงจ้าที่ส่องสว่างเต็มตา

ในภาพหลอน เขาหลบหนีออกจากวงกตเซียนมหัศจรรย์สำเร็จ ไปถึงยุทธภพเซียนแล้วก็ได้วิชาล้ำค่าหายากมาโดยบังเอิญ ไม่ถึงร้อยปีก็ ควบแน่นแก่นทองคำ สำเร็จ

หลังจากนั้นก็ฝึกฝนเรื่อยมาโดยราบรื่น พันปีให้หลังก็เป็นเซียนขึ้นสวรรค์ได้

เมื่อไปถึงสวรรค์เซียน หลี่ฟานก็เริ่มฝึกฝนจากขุนนางเซียนระดับต่ำสุดไล่ขึ้นมาทีละขั้น สุดท้ายกลายเป็นจักรพรรดิเซียนที่ยโสโอหังในสวรรค์เซียน

ต่อมา หลี่ฟานทำลายกำแพงมิติแห่งสวรรค์เซียน ขึ้นสวรรค์ไปสู่สวรรค์เทพ

เริ่มต้นจากกรรมกรเหมืองในสวรรค์เทพ ผ่านไปนับหมื่นปี หลี่ฟานบำเพ็ญเพียรจนถึงขั้นราชันเทพ กลายเป็นผู้ที่ทรงอำนาจที่สุดของสวรรค์เทพ

หลังจากนั้น หลี่ฟานก็ใช้ความพยายามอันแสนยากลำบาก ขึ้นสวรรค์ไปยังสวรรค์เทพโบราณ กลายเป็นคนเฝ้าประตูระดับต่ำสุดของสวรรค์เทพโบราณ

แล้วก็เริ่มต้นใหม่อีกครั้งอย่างยากลำบาก

ดำดิ่งลึกซ้อนกันไปไม่รู้กี่ชั้น...

ในที่สุด ภาพลวงตาก็ล่มสลาย

หลี่ฟานตื่นขึ้นมา ประสบการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมาถอยกลับไปในความทรงจำอย่างรวดเร็วเหมือนน้ำลดลง เหลือไว้เพียงร่องรอยบางเบา

รู้สึกไร้เรี่ยวแรงกับเรื่องที่ตัวเองเจออยู่ในภาพลวงตา หลี่ฟานตั้งสติแล้วลงต่ำลงไปเรื่อยๆ

สมองหมุนวืดไปชั่วขณะ หลงทิศทันที หลี่ฟานรู้ว่าตอนนี้มาถึงชั้นสลับด้านแล้ว

ถูกล้อมรอบด้วยหมอกขาวไม่มีที่สิ้นสุด เรือไท่เหยียนเหมือนหยดน้ำในมหาสมุทร ไม่รู้ว่าบนอยู่ทางไหน ล่างอยู่ทางไหน ไม่รู้ว่าต้องไปทางไหน

คิดแล้วว่าการผจญภัยครั้งนี้คงจะจบลงแค่นี้ หลี่ฟานกลับดีใจที่พบว่า มีสัญชาตญาณบางอย่างลึกลับส่งมาจากเรือไท่เหยียน บอกให้เขารู้ว่าต้องไปทางไหน

หลี่ฟานควบคุมเรือไท่เหยียนตามที่มันบอกให้ ไม่นานก็ออกจากชั้นสลับด้านมาได้

ต่อจากนี้ หลี่ฟานที่ลิ้มรสความสำเร็จไม่ได้ตั้งใจควบคุมอะไรอีก เพียงแค่ส่งพลังงาน ปล่อยให้เรือไท่เหยียนบินในวงกตเซียนมหัศจรรย์เอง

เพลิงพลุ่งพล่าน น้ำแข็งมืด พายุอสนี...

ที่เหล่านี้ดูเหมือนจะอันตรายยิ่ง แต่เรือไท่เหยียนกลับบินไปอย่างไม่เร่งไม่รีบ แต่กลับเฉียดผ่านวิกฤตความพินาศนับครั้งไม่ถ้วน

ด้วยความระทึกตลอดทาง หลี่ฟานจึงมาถึงชั้นสุดท้ายอย่างราบรื่น นั่นคือชั้นมืดมิด

"ใช่แล้ว เรือไท่เหยียนลำนี้รับผิดชอบขนย้ายผู้คนมาตั้งแต่พันปีก่อน การอพยพใหญ่กินเวลานับร้อยปี เรือลำนี้คงไม่ได้ไปกลับเพียงรอบเดียวแน่ๆ จากสภาพความเสียหายของมันดู คงทำหน้าที่ขนย้ายไม่หยุดมาหลายร้อยปี แน่นอนว่าผู้ฝึกเซียนที่รับผิดชอบเรื่องนี้คงรู้สึกว่าต้องควบคุมเองทุกครั้งเป็นเรื่องยุ่งยาก เลยทิ้งประตูลับไว้ในเรือลำนี้ ให้มันสามารถผ่านวงกตเซียนมหัศจรรย์ไปเองได้..." หลี่ฟานคิดออกอย่างตื่นเต้นว่าทำไมการเดินทางในครั้งนี้ถึงราบรื่นเกินความคาดหมาย

เรือไท่เหยียนแล่นไปอย่างเงียบเชียบในความมืดมิด

คิดว่ายุทธภพเซียนที่รอคอยมานานนับศตวรรษอยู่ข้างหน้าไม่ไกล แม้แต่คนที่มีสติอย่างหลี่ฟาน ตอนนี้ก็อดตื่นเต้นไม่ได้

ทันใดนั้น ในความเงียบงันอย่างที่สุด มีเสียงร้องดังแว่วมาอย่างประหลาด เก่าแก่ ยาวไกล และลึกล้ำ

เสียงประหลาดนี้แผ่ไปทั่วชั้นความมืดในพริบตา ก้องกังวานอยู่ในนั้น

จังหวะหัวใจของหลี่ฟานหยุดลงในทันที เหมือนเผชิญหน้ากับศัตรูร้ายบางอย่าง เลือดทั่วร่างเย็นเฉียบในพริบตา

เสียงนั้นยิ่งดังใกล้เข้ามา ในชั่วพริบตาก็ล้อมเรือไท่เหยียนเล็กๆ ไว้เหมือนถูกโอบล้อมจากทุกสารทิศ

อยู่ๆ เสียงก็หายไป

กลับมาเงียบสนิทอีกครั้ง

รอบด้านยังคงมืดสนิทเหมือนเดิม แต่กลับรู้สึกต่างไปจากความมืดเมื่อครู่

หลี่ฟานรู้สึกขนลุกซู่

เขารู้ว่า เรือไท่เหยียน ถูกสิ่งมีชีวิตบางอย่างกลืนกินเข้าไปแล้ว

"ปัง!"

ฉากป้องกันของเรือไท่เหยียนแตกสลายในพริบตา ตัวเรือก็เริ่มสลายตัวตามมา

แถบพลังงานเริ่มลดลงอย่างฮวบฮาบในชั่วพริบตา

หลี่ฟานจ้องมองความมืดข้างนอกอย่างเคร่งเครียดเป็นครั้งสุดท้าย พึมพำ

"ยังไม่จบ!"

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด