ตอนที่แล้วบทที่ 30 : การกำเนิดของอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้คนที่สอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 32 : เเรงกดดันอันน่าสยดสยอง

บทที่ 31 : ทะลวงสู่อาณาจักรพระราชวังสีม่วง, เจตนาดาบขั้นห้า


บทที่ 31 : ทะลวงสู่อาณาจักรพระราชวังสีม่วง, เจตนาดาบขั้นห้า

งานเเต่งงานถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีตระกูลเย่เป็นศูนย์กลาง…..และเหล่ากองกำลังจากสิบมณฑลหรือที่อยู่บริเวณใกล้เคียงต่างก็ส่งตัวแทนมาร่วมงาน

เเม้แต่องค์ชายทั้งหกที่กำลังแย่งชิงบัลลังก์​ของอาณาจักรต้าเซี่ยต่างก็ส่งของขวัญมาแสดงความยินดีทีละคน

เห็นได้ชัดว่าในยามนี้, แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเอาชนะใจของตระกูล​เย่​ได้…..แต่พวกเขาก็ยังไม่ยอมเเพ้​ง่ายๆเช่นเดียวกัน

ยามนี้, เมื่อมองดูโม่รุ่ยกวงผู้นำแห่งตระกูลโม่…..ซึ่งในตอนนี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุขและความพึงพอใจ, มันส่งผลให้คนที่รู้จักเขาพลันรู้สึกเกลียดขี้หน้าเขาขึ้นมาเสียดื้อๆ

เนื่องจากอิทธิพลของตระกูลเย่….. ตระกูลโม่จึงมีการพัฒนาได้รวดเร็วอย่างก้าวกระโดด, พวกเขาได้มาจนถึงจุดที่แม้แต่ตระกูลหลักในเขตของพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะยั่วยุพวกเขา​โดยง่าย

ทุกคนต่างเห็นพ้องตรงกันว่าตราบใดที่เย่หวู่ชางยังคงชีวิตอยู่อยู่ หรือตราบใดที่โม่ซีจุนไม่ได้ถูกเย่หวู่ชางทอดทิ้ง…..การพุ่งทะยาน​ของตระกูลโม่ก็จะเป็นเพียงเรื่องของเวลา

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ พวกเขาต่างก็อิจฉาริษยาโม่รุ่ยกวงที่มีบุตรสาวที่ดีเช่นนี้ได้

เเละในขณะเดียวกัน, พวกเขาต่างก็คิดว่าเย่หวู่ชางเป็นคนหลงใหลในความงาม…..ดังนั้นพวกเขาจึงนำสาวน้อยที่โดดเด่นที่สุดในตระกูล​ของพวกเขามาเข้าร่วมงานเลี้ยง โดยหวังว่าพวกนางจะดึงดูดสายตาของเย่หวู่ชางได้

แต่น่าเสียดายที่พวกเขาประเมินมาตรฐานของเย่หวู่ชางต่ำไป

เย่หวู่ชางนั้นไม่แม้แต่จะมองพวกนางเลยแม้แต่น้อย ซึ่งสิ่งนี้ส่งผลให้แม่นางน้อยทั้งหลายต่างอกหักกันถ้วนหน้า

เเต่มันก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่เย่หวู่ชางไม่ได้ให้ความสนใจต่อพวกนาง

เพราะแม้ว่า เหล่าแม่นางน้อยเหล่านี้จะสวยงามเป็นพิเศษก็ตาม…..หากแต่เมื่อเทียบกับเย่ว์รู่ชวงและจ้าวชิงเกอ

ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของออร่าหรือรูปลักษณ์ พวกเเม่นางน้อยทั้งหลายไม่อาจเรียกว่าอยู่ในระดับเดียวกันได้

ยิ่งไปกว่านั้นพวกนางทั้งหลายยังไม่กระตุ้นการแจ้งเตือนใดๆจากระบบ……ซึ่งนั่นยิ่งทำให้พวกนางไม่ได้รับความสนใจโดยสิ้นเชิง

……….

หลังจาก​งานเเต่งงาน​

เมื่อได้เข้าร่วมตระกูลเย่, โม่ซีจุนก็ต้องรู้สึกเหลือเชื่ออยู่ไม่น้อย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งปฎิกิริยา​ของภรรยาเอกอย่างเย่ว์รู่ชวง รวมทั้ง​จ้าวชิงเกอภรรยา​รองที่มาด้วยกัน

เดิมทีเธอคิดว่าทั้งสองคนมาพบเพื่อให้เธอเจอเรื่องลำบาก

อย่างไรก็ตามพวกนางกลับเป็นคนที่พูดคุยได้ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ และพวกนางยังปฏิบัติต่อเธออย่างมีน้ำใจ ซึ่งนั่นยื่งทำให้เธอตกตะลึง

แต่ในไม่ช้า เมื่อเย่หวู่ชางมาถึง

เเละหลังจากได้ใช้เวลายามค่ำคืนร่วมกัน…..เธอก็รู้เหตุผลได้อย่างชัดเจน

…….

ในยามเช้าของวันถัดมา

เย่หวู่ชางออกจากห้องด้วยท่าทางที่สดชื่นและภาคภูมิใจ ปล่อยให้โม่ซีจุนนอนอยู่บนเตียงอย่างหมดเเรง

เธอไม่เคยคิดเลยว่าบุรุษผู้เย็นชา​คนนี้…..ยามอยูบนเตียงจะมีความสามารถที่น่ากลัวเช่นนี้ได้

นางไม่อาจลุกจากเตียงได้เป็นเวลาสามวันสามคืน

จนเมื่อเย่หวู่ชางมาเยือนอีกครั้ง เธอถึงกับตัวสั่นด้วยความกลัว กลัวว่าเขาจะตรากตรำอีกครา

หากแต่หลังจากที่เย่ว์รู่ชวงได้ทราบข่าว นางก็เข้ามาปลอบโยนเธอ แล้วดุเย่หวู่ชางอีกที

เมื่อโดนดุเช่นนี้, เย่หวู่ชางก็ได้เเต่จำใจ​กลับมาเก็บตัวฝึกตนอีกครั้ง

เเละหลังจากการฝึกตนแบบคู่เพียงคืนเดียวกับโม่ซี​จุน, เขาก็รู้สึกถึงคอขวดที่ค่อยๆคลายตัวลง

แรงผลักดันที่น่าสะพรึงกลัวได้พุ่งผ่านร่างกายของเขา

ในจุดตันเถียนและทะเลแห่งจิตสำนึกของเขา, พลังงานวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังปะทุขึ้นอย่างบ้าคลั่ง​

ออร่าแผ่ขยายขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า…..จนมันปรากฎรัศมีอันเปล่งประกายหลายขั้น เเละเคลื่อนที่ไปรอบๆทิศทาง

สุดท้าย, ด้วยการนำพลังงานวิญญาณเหล่านี้มาหลอมรวมผสานเข้าด้วยกัน เย่หวู่ชางค่อยๆมองเห็นรัศมีสีม่วงที่ถือกำเนิดขึ้นมา

จากนั้น พลังงานวิญญาณจำนวนมากก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเป็นลมปราณสีม่วง และควบแน่นอย่างต่อเนื่องในทะเลแห่งจิตสำนึกของเขา

ในที่สุดเมื่อพระราชวังสีม่วงอันงดงามปรากฏขึ้นในตันเถียน แรงผลักดันอันน่าสะพรึงกลัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุดก็ระเบิดออกมาจากร่างของเย่หวู่ชาง

ในยามนี้ มันก็หมายความว่าฐานการฝึกตนของเย่หวู่ชางได้ก้าวจากอาณาจักรปราการสวรรค์ทะลวงไปสู่อาณาจักรพระราชวังสีม่วงได้เรียบร้อย​แล้ว​

เเละถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงขั้นแรกของอาณาจักรพระราชวังสีม่วง, แต่พลังการต่อสู้ของเย่ห​วู่​ชาง​ก็เพิ่มขึ้นมาหลายสิบเท่า

เมื่อรู้สึกถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของตนเองเย่หวู่ชางก็รู้สึกถึงอิ่มเอมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ในยามนี้

ไม่เพียงแต่เขาได้ทะลวง​ไปถึงอาณาจักรพระราชวังสีม่วงได้เท่านั้น, เเม้แต่เจตนาดาบขั้นสามก็ทะลวงไปสู่เจตนา​ดาบขั้นที่สี่ ซึ่งมันทำให้พลังการต่อสู้ของเขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

“ไม่……มันยังไม่เพียงพอ ข้ายังสามารถแข็งแร่งขึ้นได้อีก”

“ระบบ, เพิ่มระดับความเชี่ยวชาญเจตนาดาบของข้า!”

เย่หวู่ชางไม่ลังเลและเลือกที่จะปรับปรุงอีกครั้ง

[ใช้คะแนนโชคลาภ 500,000 คะแนน เจตนาดาบเลื่อนเป็นขั้นที่ห้า!]

บูม~!

ออร่าที่ท่วมท้นของปรมาจารย์ดาบปะทุออกมาจากร่างกายของเขาโดยตรง

ทุกสิ่งรอบตัวเขาได้ถูกตัดเป็นผงด้วยรัศมีดาบของเขา

เจตนาดาบอันไร้ที่สิ้นสุดได้ปรากฏ​ขึ้น​เเละไหลวนอย่างต่อเนื่องรอบๆร่างกาย​ของ​เขา

เจตนาดาบขั้นที่ห้า, ช่างน่าสะพรึงกลัวอย่างเเท้จริ​ง

บางทีแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญที่หลายคนในจุดสูงสุด​ของอาณาจักรพระราชวังสีม่วงก็ยังไม่เคยมาถึงระดับนี้

…….

เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เย่หวู่ชางก็ตกตะลึงกับพลังอันมหาศาลของตนเอง

ยามนี้เขารู้สึกว่าแม้จะเป็นอัจฉริยะระดับสูงของอาณาจักรพระราชวังสีม่วงขั้นที่ห้าหรือหกปรากฏขึ้นมา…..เขาก็มีความมั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะพวกเขาได้

เเละหลังจากออกจากการเก็บตัวฝึกตนในครั้งนี้, เย่หวู่ชางก็ไม่ได้ประกาศถึงความก้าวหน้าของเขาในการเข้าสู่อาณาจักรพระราชวังสีม่วง

สำหรับตระกูลเย่ในปัจจุบัน การฝึกฝนของเขาในระดับอาณาจักรปราการสวรรค์นั้นก็เพียงพอแล้ว

ส่วนผู้อาวุโสในตระกูล​ตอนนี้, มีผู้อาวุโส​สูงสุด​ที่ประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่อาณาจักรปราการสวรรค์ด้วยความช่วยเหลือของผลต้นสมบัติใต้พิภพ

เเละอีกไม่นาน, ผู้อาวุโสอีกสองคนที่เพิ่งทะลุผ่านอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุด​ก็จะได้รับผลของต้นสมบัติใต้พิภพเช่นกัน​

ส่วนอีกสองคนที่เหลือก็ได้มาถึงขั้นปลายของอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์แล้ว….และพวกเขา​คงจะใช้เวลาเพียงหนึ่งหรือสองปีเท่านั้นที่จะถึงขั้นสูงสุด​

ในขณะนี้ต้าเซี่ยอยู่ในช่วงสภาวะปั่นป่วน….ดังนั้น, เขาจึงไม่ต้องการโดดเด่นมากนัก​ในช่วงเวลานี้

เท่าที่เขารู้, ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันของต้าเซี่ยได้มาถึงจุดที่เขาไม่สามารถเข้าร่วมว่าราชการในช่วงเช้าได้เเล้ว

เเถมเขายังจำต้องพึ่งยาอายุวัฒนะชนิดสุดท้ายในทุกๆวันและสามารถตายได้ทุกเมื่อ….ซึ่งนั่นส่งผลให้การต่อสู้ระหว่างเหล่าองค์ชายได้มาถึงช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตาย

ดังนั้น, ตระกูล​เย่เเละตัวเขาจำเป็นต้อง​เก็บตัวเล็ก​น้อยในช่วงเว​ลา​เเบบนี้

…….

ในช่วงเวลาต่อมา

เย่หวู่ชางจึงเลือกเก็บตัว​อยู่บ้านเเละใช้เวลาร่วมกับเหล่าภรรยาและลูกๆ

ทั้งยังมีการฝึกตนร่วมกันเป็นครั้งคราวกับเหล่าภรรยา​หลังจากที่ลูกๆหลับไปในตอนกลางคืน

และทุกครั้งหญิงสาวทั้งสามคนต่างก็เหนื่อยล้าและหมดเเรง

แม้ว่าพวกเธอจะพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวช แต่เย่หวู่ชางก็ยังคงไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและยืนกรานที่จะฝึกตนร่วมกับพวกเธอทุกวัน

กิจกรรมเหล่านี้ยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งหญิงสาวทั้งสามคนตั้งท้องทีละคน

อย่างไรก็ตาม, ในวันนี้มีสมาชิกกลุ่มหนึ่งมาแจ้งให้ทราบถึงเรื่องที่เขาไม่คาดถึงมาก่อน

“ท่านผู้นำตระกูล, องค์หญิงเซี่ยจือซวนมาขอเข้าพบขอรับ!”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เย่หวู่ชางก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงจนไม่อาจโต้ตอบได้ไปชั่วขณะหนึ่ง

………………………

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด