ตอนที่แล้วตอนที่ 88 เปิดเผยตัวตน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 90 บริษัทเกม

ตอนที่ 89 ความไม่พอใจของ ซุน จ่านอี้


“ให้ตายสิ ประธานหวัง คุณ...คุณพูดอะไรนะ?”

“ชายหนุ่มคนนี้ขอให้ Worster ลงทุนเป็นพันล้านให้กับบริษัทของคุณ? สมองของคุณมีปัญหาหรืออย่างไร?”

“คุณพูดแบบนี้ นี่ไม่เท่ากับคุณบอกเขาว่าเป็นประธานบริษัทเหรอไง?”

พอชายวัยกลางคนคนนั้นพูดจบทุกคนก็พากันตกใจ

พวกเขาไม่เข้าใจความหมายในคำพูดของอีกฝ่าย

ไม่ต้องพูดถึงพวกเขา

เพราะแม้แต่ เซี่ย เฉิงตง ก็ยังดูสับสนเช่นเดียวกัน

“เพ้ย! พวกคุณกำลังพูดเรื่องอะไร ประธานซู แน่นอนว่าเขาเป็นประธานของ Worster”

“เป็นเพราะเขาสนใจในแนวทางของบริษัทเรา จึงทำให้ Worster ลงทุนในบริษัทของเรา เรา เจี๋ยหง เทรดดิ้ง จึงมีโอกาสได้ร่วมมือกับ Worster”

เมื่อเห็นทุกคนมีสีหน้าสับสน

ชายวัยกลางคนจึงรีบยิ้มหัวเราะ พลางอธิบายอย่างรวดเร็ว

ฟังจากน้ำเสียงของเขาแล้วมันเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

และเขาก็คือ หวัง ฉางอัน เพื่อนนักธุรกิจที่ ซูเหวิน ได้รู้จักในงานเลี้ยงของบริษัท เทคโนโลยี ฮุยหวง ของ ตระกูลถัง เมื่อครั้งที่แล้ว

ในครั้งนั้น ซูเหวิน ก็ได้ขอให้เขายกเลิกความร่วมมือกับ กลุ่ม ไฮเทค โฮลดิ้ง ของ คุณชายหลี่

 เงียบสนิท บรรยากาศภายในห้องโถงที่เป็นไปอย่างคึกคักพลันเงียบลงทันตา

    แม้แต่เข็มหล่นก็ยังได้ยิน…

หลังจากฟังคำอธิบายของอีกฝ่ายแล้ว

ไม่ต้องพูดถึงแขกในส่วนอื่นๆ ภายในห้องโถงนี้

อย่างน้อยรอบๆ ซูเหวิน เวลานี้ ก็ไม่มีเสียงแม้แต่น้อย

เพราะในขณะนี้ทุกคนต่างเบิกตากว้างแล้ว

พวกเขาเผยสีหน้าตกตะลึง

“ให้ตายสิ นี่... มันเป็นไปได้อย่างไร ฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหม? ชายหนุ่มคนนี้เป็น ประธานของ Worster?”

“นั่นนะสิ ประธานของ Worster ถ้าจำไม่ผิดเขาเป็นชายวัยกลางคนไม่ใช่หรือ? ..กลายเป็นชายหนุ่มคนนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“ประธานหวัง คุณแน่ใจนะว่าตัวเองไม่ได้จำคนผิด?”

หลังจากเงียบเสียงคำถามต่างๆ ก็ระเบิดออกมา

ในทันใดนั้น ทุกคนเริ่มพูดคุยกันปากต่อปากทันที

ทุกคนเผยให้เห็นสีหน้าไม่เชื่อ..

เมื่อสักครู่นี้ที่ เซี่ย เฉิงตง ได้กล่าวแนะนําตัวตนของ ซูเหวิน

แม้จะน่าตกใจ แต่ก็ยังพอยอมรับได้

แต่คราวนี้ คำพูดของ ประธานหวัง จะทําให้ทุกคนเชื่อได้อย่างไร?

Worster คือบริษัทประเภทใด?

นั่นคือบริษัทที่ติดหนึ่งในร้อยอันดับแรกของโลก

ไม่ต้องพูดถึงในประเทศ และแม้แต่มองไปทั่วโลก นั่นมันคือบริษัทอีคอมเมิร์ซในอันดับต้นๆ ที่มีมูลค่าตลาดมากกว่าล้านล้านหยวน

พวกเขาติดอยู่ในอันดับท็อปร้อยอันดับแรกของโลก

เหนือกว่า ฮั่วซิน และเซี่ยซิ่น กรุ๊ป อยู่เล็กน้อย..

คือนี่คุณกำลังจะบอกว่า ชายหนุ่มคนนี้ เป็นประธานของ Worster Group เนี่ยนะ!

เอาตามตรง.. มันเหมือนกับว่ามีคนมาบอกคุณว่า เด็ก 2 ขวบครึ่ง สามารถวิ่งเอาชนะการแข่งขันวิ่งมาราธอนได้!

ซึ่งมันเป็นแค่เรื่องตลกที่ฟังดูไร้สาระเท่านั้น

“เสี่ยวเหวิน สิ่งที่ ประธานหวัง พูดนั้นเป็นความจริงหรือไม่?”

หลังจากตกใจ คนแรกที่พูดคือ เซี่ย เฉิงตง

เขามอง ซูเหวิน ด้วยความไม่เชื่อในสายตาของเขา

อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ

นับตั้งแต่ครัั้งแรกที่ เซี่ย เฉิงตง ได้ตรวจสอบภูมิหลังของ ซูเหวิน เขาเองรู้เพียงแค่ว่าเขาเป็นประธานของ โรงแรม ฮิลส์ เท่านั้น ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ไปตรวจสอบภูมิหลังของเขาอีกเลย

เมื่อมาได้ยินคําพูดของ ประธานหวัง ในขณะนี้ มันยิ่งทำให้เขาเต็มไปด้วยความตกใจ

“ครับ.. ประธานหวัง พูดถูกต้องแล้ว ผมเป็นประธานของ Worster จริงๆ”

“ผมได้เข้าซื้อหุ้น 51% ของ Worster เมื่อเดือนที่แล้ว อดีตประธานของ Worster ก็ได้เกษียณออกไป…”

เมื่อเผชิญกับคําถามของ เซี่ย เฉิงตง และสายตาที่จ้องมองมาอยากรู้อยากเห็นของทุกคน

ซูเหวิน จึงยกยิ้มขึ้นอย่างใจเย็น และบอกความจริงออกไปโดยไม่ปิดบัง

แต่ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา ทุกคนก็ตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์แล้ว

พวกเขามองไปที่ ซูเหวิน สายตาเหล่านั้นของพวกเขามันเต็มไปด้วยความประหลาดใจอย่างที่สุด

ชายหนุ่มคนนี้ ได้ยอมรับ เขายอมรับมันจริงๆ

คุณต้องรู้ก่อนว่าวันนี้มีผู้นำทางธุรกิจหลายคนอยู่ที่นี้ด้วย

ใครก็ตามที่ส่งคนไปตรวจสอบตัวตนของเขาก็จะรู้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ และคำโกหกของเขาจะถูกเปิดเผย

แต่ถึงกระนั้น อีกฝ่ายก็ยังกล้าพูดแบบนี้

และการแสดงออกที่เรียบง่าย ผ่อนคลายนั้นมัน ..คืออะไร?

ถ้าเขาไม่ใช่ ประธานของ Worster เขาไปเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน?

สักพักทุกคนไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไป

“โอ้.. พระเจ้า ซู สุดหล่อ คุณถ่อมตัวเกินไปแล้ว มีสถานะตัวตนแข็งแกร่งเช่นนี้กลับไม่เคยโอ้อวดบอกให้เรารู้บ้างเลย”

ทันใดนั้น เซี่ย ชิวเยี่ยน ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็อดไม่ได้ที่จะพูดไปพร้อมกับด้วยดวงตาที่เป็นประกายของเธอ

เธอยิ่งชื่นชม ซูเหวิน มากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

“ฮ่าฮ่า สิ่งนี้เรียกได้ว่า ‘ถ่อมตัว’ ไม่เหมือนกับบางคนที่ต้องการให้คนทั้งโลกรู้เกี่ยวกับภูมิหลังเล็กๆ น้อยๆ ของพวกเขา”

เซี่ย เคอหมิง พูดด้วยรอยยิ้ม ตัวเขาเองเหมือนกันที่ชื่นชม ซูเหวิน อย่างเต็มเปี่ยม เต็มร้อยให้ร้อย เต็มล้าน ..ให้ล้าน

แม้แต่ เซี่ย เฉิงตง และสวี่หยุน ก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้า พวกเขารู้สึกว่า ซูเหวิน นั้นถ่อมตัวเกินไปจริงๆ

อย่าลืมว่า ซูเหวิน ได้เข้ามาเป็นสมาชิกในกลุ่มครอบครัวเซี่ยของพวกเขามาสักระยะหนึ่งแล้ว

ช่วงนี้ทุกคนคุยกันในกลุ่มไม่น้อย

แต่ทำไมไม่เคยเห็นเขาพูดเลยว่าตัวเองมีความเกี่ยวข้องกับ Worster

กลับเป็น เซี่ย ซินเหยา ที่ดูเหมือนเธอจะเป็นคนที่สงบที่สุดในกลุ่มผู้ชม

คาดว่าเพราะเธออาจจะอยู่กับ ซูเหวิน มาเป็นเวลานาน ตอนนี้เลยค่อนข้างคุ้นเคยกับการเปิดเผยตัวตนของ ซูเหวิน บ้างแล้ว

“ฮ่าฮ่า ที่แท้คุณก็คือ ประธานคนใหม่ของ Worster เยี่ยม เยี่ยมมาก!”

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้

ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้น และมันดึงดูดความสนใจของทุกคน

เมื่อทุกคนมองไป และเห็นว่าเป็น ซุน เหว่ยถิง ประธานของ เซี่ยซิ่น กรุ๊ป ที่พูดหัวเราะออกมา

เขาก้าวไปข้างหน้าสองก้าวทันที และจับมือกับ ซูเหวิน

จากนั้นตบไหล่ของอีกฝ่ายอีกครั้ง ด้วยท่าทางดีใจ

คราวนี้ เป็น ซูเหวิน ที่สับสนแล้ว

เมื่อเห็น ซูเหวิน เหมือนไม่เข้าใจ ซุน เหว่ยถิง ก็ยกยิ้มขึ้นอีกครั้ง แล้วอธิบายว่า : “ประธานซู คุณอาจเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งในบริษัทได้ไม่นาน ซึ่งอาจจะยังไม่รู้..”

“พวกเรา เซี่ยซิ่น กรุ๊ป และบริษัทของคุณร่วมมือกันมานานกว่าสิบปีได้แล้ว นับว่าเราทุกคนเป็นเพื่อนเก่ากัน”

ซุน เหว่ยถิง กล่าวอธิบายช้าๆ ด้วยท่าทางสนิทสนม และดูรักใคร่กันมาก

พอคําพูดนี้ออกมา ทุกคนก็ตระหนักได้ทันที

เซี่ยซิ่น กรุ๊ป เป็นหนึ่งในแบรนด์โทรศัพท์มือถือที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ

และ Worster เองเป็นแพลตฟอร์มช็อปปิ้งออนไลน์ชั้นนําในประเทศ

Worster อาจกล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งในช่องทางการขายที่ทรงพลังที่สุดของ เซี่ยซิ่น กรุ๊ป

ทั้งสองบริษัทมีความร่วมมือกันนั้นจึงดูเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลจริงๆ

ซูเหวิน หัวเราะเบาๆ และเขาเข้าใจแล้ว ..ที่แท้เป็นเช่นนี้

เขาไม่คาดคิดจริงๆ ว่า Worster และเซี่ยซิ่น กรุ๊ป จะมีความร่วมมือกัน

แต่ตอนนี้ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะรู้

ในเมื่อเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกัน ก็ไม่สามารถไม่ไว้หน้ากันได้

ระหว่างพูดคุย และหัวเราะกับอีกฝ่าย

ทั้งในขณะนี้ที่เห็นได้ชัดว่า ตระกูลซุน ควรจะเป็นตัวเอกของงานเลี้ยงครั้งนี้

แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าทุกคนจะให้ความสนใจกับ ซูเหวิน มากกว่า

ทุกคนได้เข้ามาทีละคนทักทายอย่างอบอุ่น และกระตือรือร้นที่จะผูกมิตรกับเขา

สําหรับเรื่องนี้ ซูเหวิน เขาเพียงยิ้มรับอย่างช่วยไม่ได้

สําหรับเขา นี่อาจเป็นฉากปกติ

แต่สําหรับบางคนนั้น …มันกลับเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับได้

คนคนนี้ ย่อมเป็น ซุน จ่านอี้ ลูกชายของ ซุน เหว่ยถิง แล้ว

เขาตกใจกับตัวตนของ ซูเหวิน ไปในก่อนหน้านี้

และยิ่งมาตอนนี้ที่เขากลายเป็นที่สนใจของผู้คน

แม้แต่พ่อของเขาก็ยังก้าวไปข้างหน้า และเข้าทักทายอีกฝ่ายอย่างกระตือรือร้น เรียกได้ว่าเขากลายเป็นที่สนใจมากขึ้น (ขโมยซีน)

เห็นแบบนี้แล้วใจเขาจะสงบต่อไปอีกได้ยังไง?

ในมหาลัย ไม่ว่าจะเป็นสถานะ การเรียน หรือหน้าตา เขาเรียกได้ว่าโดดเด่นมาก ซึ่งเขาถือเป็นบุคคลที่มีอิทธิพล และมีบทบาทสำคัญมากคนหนึ่ง

ครั้งนี้เขากลับไม่คิดเลยว่าตัวเองจะถูกผู้ชายคนอื่นแย่งซีนไปจริงๆ

ทั้งยังต่อหน้าผู้หญิงคนที่เขาชอบ..

ความรู้สึกนั้นมันเหมือนมีก้อนหินก้อนใหญ่กดทับอยู่กลางหน้าอก ทำให้เขารู้สึกแย่มาก…

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในพริบตาเดียวก็ผ่านไปกว่าสองชั่วโมงแล้ว

ในที่สุดงานเลี้ยงต้อนรับครั้งนี้ที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากผู้บริหารระดับสูงของ ฮั่วซิน กรุ๊ป ก็สิ้นสุดลงแล้ว

ในช่วงเวลานี้ มีผู้คนจำนวนมากที่ต้องการผูกมิตรกับ ซูเหวิน ที่พากันเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่า

ท้ายที่สุดแล้ว ซูเหวิน ก็เป็นคนในเมืองม่อ ถ้าเทียบกับ ตระกูลซุน ในเมืองเผิงแล้ว เขาย่อมได้รับความนิยมมากกว่า

นอกจากนี้ Worster Group ยังมีชื่อเสียงในด้านการลงทุน

หากคุณไม่คิดคบค้าสมาคมกับคนใหญ่คนโตแบบนี้ แล้วจะไปคิดคบค้ากับใครอีก?

แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ เมื่องานเลี้ยงกําลังจะสิ้นสุดลง

ซุน จ่านอี้ ได้เสนอข้อเรียกร้องต่อ ตระกูลเซี่ย

นั่นก็คือ ในสองวันนี้ เขาอยากออกไปเดินเที่ยวเล่นสนุกในเมืองม่อ

โดยหวังว่า เซี่ย ซินเหยา จะเป็นไกด์นําเที่ยวให้กับเขา และพาเขาไปเที่ยวชมสัมผัสกับบรรยากาศภายในเมืองม่อ ..แห่งนี้ได้

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด