ตอนที่แล้วบทที่ 7 มังกรหงส์กลืนกิน ดาบฉวัดเฉวียน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 9 ฟ้าไม่ตัดขาดทางมนุษย์

บทที่ 8 เซียนกับมนุษย์แยกจากกันชั่วนิรันดร์


บนท้องฟ้า ปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้นอีกครา!

ดาบยักษ์ที่ผ่านการหลอมรวมกันนับร้อยนับพัน กลับถูกทิ้งไว้ในที่มืด นับพันปีไม่มีผู้ใดเหลียวแล

ตามกาลเวลาที่ผ่านไป ตัวดาบของมันไม่สว่างวาวอีกต่อไป คมดาบของมันไม่คมกล้าอีกแล้ว ทั่วทั้งกายของมัน เต็มไปด้วยรอยสนิมผุกร่อน!

ทว่า ความรู้สึกโกรธแค้นไม่ยอมจำนนกลับผุดขึ้นมาในทันใด!

การกัดกร่อนของสนิมนั้นยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ความเหนือธรรมชาติและความสง่างามของดาบเล่มนั้นกลับเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน!

"นักเดินทางขั้นสร้างฐานเต๋าเสวียนจื่อ บำเพ็ญเพียรมาสองร้อยหนึ่งปี ใช้วัตถุมหัศจรรย์【ดาบสนิมเต๋าเสวียน】สำเร็จขั้นสร้างฐาน ในดินแดนไร้เซียน ต่อสู้ชิงชัยกับผู้คน ในที่สุดก็ต้องล้มตายด้วยน้ำมือของนักเดินทางขั้นสร้างฐานโข่วหง"

"ตอนนี้ร่างสลายชีพดับ คืนร่างกลับสู่ฟ้า!"

ฉากอลังการปานดอกไม้ไฟ ส่องแสงสว่างไปทั่วท้องฟ้าเป็นพันลี้

"เต๋าเสวียนจื่อ..." โข่วหงแหงนหน้ามองภาพอันงดงามนั้น ดูเหมือนจะอึ้งงันไปหมดสิ้น พึมพำไม่หยุดปาก

ทหารทุกคนในสถานที่ก็เงยหน้ามองท้องฟ้า เหม่อลอยอย่างตะลึงงัน

"ข้าน้อยหลี่ฟาน ได้พบท่านเซียน"

ในตอนนั้นเอง ชายชราผมหงอกเคราขาวคนหนึ่ง ถือไม้เท้าตัวสั่นเทา เดินงกเงิ่นมาถึงข้างกายโข่วหง

โข่วหงไม่ได้สนใจ หลี่ฟานก็ไม่รีบร้อน ยืนรออยู่ข้างๆพลางใช้สายตาบอกทหารทั้งหลายให้อดทนรอคอย

ผ่านไปนานพอสมควร หลังจากที่ปรากฏการณ์ประหลาดบนฟากฟ้าจางหายไป โข่วหงถึงหันมามองหลี่ฟาน

"เจ้าคือหัวหน้าของพวกมนุษย์ที่นี่หรือ?" น้ำเสียงของโข่วหงห้วนๆ เห็นได้ชัดว่าความรู้สึกที่มีต่อหลี่ฟานไม่ค่อยดีนัก "เสียงที่ดังอยู่รอบด้านก่อนหน้านี้ เป็นฝีมือของเจ้าใช่ไหม"

"กลเม็ดเล็กน้อยเท่านั้น ไม่พอจะเข้าสายตาของท่านเซียน" หลี่ฟานประสานมือ หลีกเลี่ยงไม่ตอบคำถาม แต่กลับค้อมกายลงทันที "ขอท่านเซียนเมตตากรุณา ช่วยชีวิตตระกูลของข้าน้อยนับพันปาก"

"เมตตางั้นหรือ..." โข่วหงได้ฟังดังนั้น ก็หัวเราะเยาะเย้ย "ข้ากับเต๋าเสวียนจื่อต่อสู้กัน ต่างก็อาศัยฝีมือของตน ชีวิตความตายล้วนขึ้นอยู่กับฟ้า พวกเจ้ามนุษย์ตัวจ้อย กลับกล้ายุ่มย่ามในการต่อสู้ระหว่างพวกเราผู้ฝึกเซียน"

สายตาของเขามองมายังหลี่ฟาน กลิ่นอายฆ่าฟันในน้ำเสียงเผยออกมาอย่างชัดแจ้ง "พูดกันตามตรง ถึงแม้ข้ากับเต๋าเสวียนจื่อจะสู้ตายกันเพื่อชิงคัมภีร์ควบแน่นแก่นทองคำ แต่เขาก็ยังเป็นพี่น้องกับข้ามาร้อยกว่าปี ตอนนี้เจ้าลอบทำร้ายเขา ข้าควรจะฆ่าเจ้าเพื่อแก้แค้นให้เต๋าเสวียนจื่อหรือไม่?"

หลี่ฟานไม่ได้สนใจถ้อยคำคุกคามของโข่วหง เพียงแค่ยิ้มขมขื่น "ข้าก็เพียงแสวงหาโอกาสรอดชีวิตเท่านั้น! ก็อย่างที่ข้าน้อยพูดไปก่อนหน้านี้ หากท่านเซียนพ่ายแพ้ ตระกูลของข้าคงหนีความตายไปไม่พ้น"

เมื่อได้ฟังดังนั้น สีหน้าของโข่วหงก็อ่อนลงเล็กน้อย เขาถอนหายใจเบาๆ "เพื่อแสวงหาโอกาสรอดชีวิตงั้นหรือ ที่เจ้าพูดมาก็ไม่ผิด โลกทุกวันนี้โหดร้าย ใครบ้างไม่ต้องดิ้นรนเพื่อชีวิตรอด"

หลี่ฟานเห็นน้ำเสียงของโข่วหงอ่อนลง ก็รีบฉวยโอกาสต่อทันที "ก่อนหน้านี้ เต๋าเสวียนจื่อ...ท่านเซียนเคยสัญญากับข้าน้อยว่า หาก..."

ยังไม่ทันพูดจบ โข่วหงก็ขมวดคิ้วแล้วขัดคำพูดของหลี่ฟาน "หากเป็นเรื่องนี้ กลัวว่าจะต้องทำให้เจ้าผิดหวังแล้ว เต๋าเสวียนจื่ออาจจะไม่มีความตั้งใจจะทำตามคำสัญญาตั้งแต่แรกแล้ว"

หลี่ฟานอึ้งไปชั่วขณะ "ท่านเซียนหมายความว่าอย่างไรหรือ?"

โข่วหงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันเล็กน้อยว่า "เต๋าเสวียนจื่อบำเพ็ญมาตลอดร้อยปี ต่อหน้าผู้คนก็ออกตัวเป็นคนเที่ยงตรงจริงจัง พูดอย่างไรก็ทำอย่างนั้น ใครจะคิดว่า แท้จริงแล้วการกระทำของเขาไร้ซึ่งขอบเขต แม้แต่มนุษย์ยังหลอก"

เขาชะงักไปเล็กน้อย มองสีหน้าของหลี่ฟาน แล้วพูดต่อว่า "วงกตเซียนที่อันตรายนี้ร้ายกาจเพียงใด ก่อนหน้านี้แม้แต่พวกเราสองคนยังต้องอาศัยโชคช่วยส่วนหนึ่งจึงฝ่าออกมาได้ แค่พวกเราเองจะออกมา ยังต้องออกแรงอยู่มาก แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะพามนุษย์เข้าไปด้วย?"

"อะไรนะ? แม้แต่พวกท่านเองก็ไม่รู้วิธีไปจากที่นี่หรือ?" หลี่ฟานตกใจจนสะเทือนใจ สีหน้าย่ำแย่สุดขีด ความคาดหวังกว่าร้อยปีถูกผู้ฝึกเซียนตรงหน้าปฏิเสธด้วยปากตัวเอง สภาพจิตใจของหลี่ฟานเกือบจะล่มสลายลง

โชคยังดีที่หลี่ฟานผ่านการหล่อหลอมมาหลายภพชาติ จิตใจจึงเข้มแข็ง เขาตั้งสติ แล้วพูดกับโข่วหงว่า "ที่นี่ไม่เหมาะจะคุยกัน ท่านเซียน เชิญตามข้าน้อยมา"

พูดจบก็พาโข่วหงเดินไปในซากปรักหักพังของเมืองเสวียนจิงครู่หนึ่ง มาถึงที่หลบภัยใต้ดินแห่งหนึ่ง

ก่อนหน้านี้ตอนโข่วหงกับเต๋าเสวียนจื่อต่อสู้กัน ทหารในเมืองก็ซ่อนตัวอยู่ในที่หลบภัยเหล่านี้ ในเมืองเสวียนจิง มีที่หลบภัยลักษณะเดียวกันนี้มากมายทั้งเล็กและใหญ่ นับร้อยจุด

ถึงแม้ที่หลบภัยจะฝังอยู่ใต้ดินลึก แต่ก็มีแสงไฟส่องสว่าง ยังคงสว่างไสวเหมือนกลางวัน ทั้งยังมีท่อระบายอากาศเชื่อมต่อกับภายนอก ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด

โข่วหงมองหลอดไฟบนเพดานอย่างสนใจ และชมเชยว่า "แปลกใจนักที่เต๋าเสวียนจื่อถึงได้มาร่วมมือกับพวกเจ้ามนุษย์ การที่สามารถควบคุมและใช้ประโยชน์จากพลังสายฟ้าได้ ดูท่าหลายพันปีมานี้ มนุษย์ในดินแดนไร้เซียนอย่างพวกเจ้า พัฒนาไปได้ไม่น้อยเลยจริงๆ แม้แต่อาวุธลับก่อนหน้านี้ ก็นับว่ามีอานุภาพไม่เลว"

หลังจากนั้น เขาก็ส่ายหน้า "น่าเสียดายที่มีประโยชน์ได้แค่ในดินแดนที่หนทางแห่งเต๋าขาดสะบั้นแห่งนี้เท่านั้น พอออกไปจากที่นี่ ภายใต้การกดดันของกฎเกณฑ์แห่งวิถีใหญ่ สิ่งเหล่านี้ก็ไร้ที่ใช้สอย"

"พูดมาสิ เต๋าเสวียนจื่อไปหาเจ้าเมื่อไหร่ ถึงได้ใช้ให้เจ้าลอบโจมตีข้าที่นี่ เวลามันไม่เข้ากันเลย หรือไม่ก็...เขาฝึกวิชาแยกร่างเงียบๆหรือไง?" โข่วหงนึกอะไรขึ้นได้ จู่ๆก็ถามขึ้นมา

หลี่ฟานไม่แสดงอาการใดๆ ขณะกำลังจะตอบ กลับเห็นโข่วหงอยู่ๆก็เบื่อหน่าย โบกมือ "ช่างเถอะ ยังจะมัวหมกมุ่นเรื่องนี้อยู่ทำไม เมื่อตายจากไปแล้ว ทุกอย่างล้วนว่างเปล่า" จบประโยค เขาก็นั่งลงบนเก้าอี้ สีหน้าหดหู่ไม่น้อย ดูเหมือนว่าการตายของเต๋าเสวียนจื่อจะกระทบจิตใจเขาพอสมควร

"ไม่ถามเรื่องนี้จะดีที่สุด ถ้าพูดมากไป มีหลุดพลาดบ้างก็คงไม่แปลก" หลี่ฟานคิดในใจ

ต่อจากนั้น เขาก็ถามโข่วหงด้วยสีหน้ากระวนกระวาย "ที่ท่านเซียนพูดไว้ก่อนหน้า ว่าไม่อาจพามนุษย์ออกจากดินแดนไร้เซียนแห่งนี้ได้ เรื่องนี้เป็นความจริงหรือ?"

โข่วหงหัวเราะเบาๆอย่างดูแคลน "เจ้ามนุษย์ตัวเล็กๆ ข้าจะหลอกเจ้าทำไม อาจจะมีแค่ผู้ฝึกฝนระดับควบแน่นแก่นทองคำที่พอจะพามนุษย์ฝ่าด่านวงกตเซียนที่อันตรายไปได้ แต่ถ้าเป็นเพียงระดับสร้างฐาน เป็นไปไม่ได้แน่นอน!"

"แน่นอน หากเจ้าไม่รังเกียจว่าพอออกไปแล้วจะเหลือแต่เศษชิ้นส่วน ข้าก็ยินดีจะลองพาไปอย่างฝืนใจก็ได้"

หลี่ฟานไม่ได้สนใจมุกตลกเย็นชาที่ไม่ค่อยตลกเท่าไรนัก เขายังไม่ยอมแพ้ จึงถามต่อ "หรือว่า พวกเราปุถุชนคนธรรมดา จะไม่มีความหวังจะได้ออกจากโลกนี้แล้วงั้นหรือ?"

โข่วหงคิดอยู่ชั่วครู่ แต่สุดท้ายก็ส่ายหน้า "หากต้องการออกจากดินแดนไร้เซียน จำเป็นต้องฝ่าวงกตเซียนที่อันตราย ด้วยร่างกายอันต่ำต้อยของมนุษย์สามัญ ไม่มีความเป็นไปได้แม้แต่น้อยที่จะฝ่าผ่านไปได้ ความพยายามทั้งหมดมีแต่จะหาทางตายเปล่าๆ แล้วก็ เจ้าอายุก็จวนจะเข้าโลงแล้ว ยังจะมุ่งมั่นออกจากที่นี่ไปทำไมอีก เป็นฮ่องเต้บนดินแดนนี้ไม่ดีหรือไง"

โข่วหงทำสีหน้าเหมือนไม่เห็นด้วยเลย

"ข้าจะแก่จะตายก็ไม่เป็นไร แต่ยังไงก็อยากทิ้งความหวังไว้ให้ลูกหลานบ้าง" หลี่ฟานไม่ยอมแพ้ จึงถามอีกครั้ง "หากว่าคนรุ่นหลังของข้า สามารถฝึกฝนจนถึงระดับขั้นสร้างฐานเช่นท่านเซียน อย่างนั้นก็น่าจะมีโอกาสออกจากที่นี่ไปได้แล้วใช่ไหม?"

โข่วหงได้ฟังก็หัวเราะเสียงดัง "ไม่ต้องพูดถึงที่นี่ไม่มีพลังหยางแม้แต่น้อย ฝึกฝนไม่ได้เลยสักนิด ขอแค่พูดถึงเซียนกับมนุษย์ถูกแยกจากกันตลอดไป มนุษย์ในที่นี่ทั่วกายเต็มไปด้วยหมอกพิษ จะไปฝึกวิถีเซียนได้อย่างไร?"

โข่วหงหัวเราะเย็นชาว่า "ข้าแนะนำให้เจ้าตัดใจไปเถอะ พวกเจ้ามนุษย์พวกนี้ หากต้องการฝึกฝน มีแต่ต้องไปสร้างร่างใหม่ ชำระหมอกพิษออกจากกายให้หมดเสียก่อน ไม่เช่นนั้น ต่อให้หนทางเป็นเซียนวางอยู่ตรงหน้าเจ้า เจ้าก็มองเห็นได้แต่จับต้องไม่ได้"

โข่วหงยืนกรานด้วยความแน่วแน่เช่นนี้ติดต่อกันหลายคำถาม หลี่ฟานถึงกับดูเหมือนจะยอมแพ้ในที่สุด

"เซียนกับมนุษย์แยกจากกันชั่วนิรันดร์ เซียนกับมนุษย์แยกจากกันชั่วนิรันดร์..." หลี่ฟานร่ำพึงเหมือนเสียสติ "ถ้าอย่างนั้น จริงๆ แล้วไม่มีทางออกเลยใช่ไหม?"

"ไม่มีจริงๆ" โข่วหงเห็นหลี่ฟานท้อแท้หดหู่ถึงขีดสุด ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาก

"ไม่มีจริงๆ" เขาย้ำอีกครั้ง

"ดังที่ท่านเซียนกล่าว เซียนกับมนุษย์แยกจากกันชั่วนิรันดร์" หลี่ฟานถอนหายใจยาว

"อืม ใช่ๆ" โข่วหงพยักหน้ารัวๆ

"ในเมื่อเซียนกับมนุษย์เข้ากันไม่ได้..." หลี่ฟานหยุดชะงักเล็กน้อย กล่าวทีละคำช้าๆ "ถ้าอย่างนั้น ข้าผู้เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง จะกล้าเชื่อคำพูดของท่านเซียนไปทั้งหมดได้อย่างไร"

บุคลิกของเขาเปลี่ยนแปลงไปในพริบตา ความประจบสอพลอในดวงตาหายไป กลายเป็นสายตาอย่างนายพรานเมื่อเผชิญเหยื่อแทน

"หมายความว่ายังไง?" โข่วหงงุนงง มองชายชราธรรมดาๆ ตรงหน้า โข่วหงรู้สึกถึงกลิ่นอายอันตรายบางอย่างอย่างกะทันหัน

"ก็แค่หาทางเอาชีวิตรอดเท่านั้นเอง!" หลี่ฟานจ้องมองโข่วหง กล่าวอย่างเงียบเชียบ สีหน้าไร้อารมณ์

พื้นใต้เท้าของหลี่ฟานแยกออกอย่างฉับพลัน

กลไกปิดสนิทอีกครั้ง ชั่วพริบตาเดียว หลี่ฟานก็หายตัวไปในพริบตา

โข่วหงตาค้างปากหวอมองดูเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงนี้ หัวใจของเขากระตุกรัว รู้สึกถึงอันตรายร้ายแรงกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้

โดยที่เขายังไม่ทันได้ตอบสนองอะไร ก็เห็นหมอกหนาทึบที่อวลไปด้วยกลิ่นหมอกพิษเซียนมนุษย์ พุ่งทะลักออกมาจากทุกซอกทุกมุมในห้อง

"อา!"

โข่วหงส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาหนึ่งทีก่อนจะจมหายไปในหมอกหนา

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด