ตอนที่แล้วบทที่ 610: การระเบิดและการตื่นขึ้น!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 612: คำสัญญาและการฆ่า!

บทที่ 611: ความเศร้าโศกของยักษ์!


จู่ ๆ ยักษ์ตนนี้ก็พูดขึ้นมาเฉยเลย เหล่านักรบต่างก็วิตกกังวลกันขึ้นมาในทันที เส้นประสาทตึงเครียดเตรียมตัวพร้อมรบอย่างฉับพลัน!

ตอนนี้หัวของยักษ์สองในสามถูกระเบิดขาดไปแล้ว และหัวที่เหลือก็มีแผลฉกรรจ์ด้วยซึ่งเกรงว่าคงจะอยู่ได้อีกไม่นาน

ตราบใดที่ร่วมมือกันโจมตีล่ะก็เชื่อว่ามันต้องตกตายลงเดี๋ยวนี้เลยแน่ ๆ!

ส่วนสิ่งที่มันพูดนั้นทุกคนต่างก็งงเพราะฟังไม่ออก

จะมีก็แค่ถังเจิ้นคนเดียวที่เปิดแอปพลิเคชันฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ ไว้มากมายซึ่งรวมไปถึง [ตัวแปลภาษาสากล] กลด้วยเท่านั้นที่ฟังออก

เหมือนเขาจะนึกอะไรขึ้นมาได้ก็เลยกระโจนออกจากฝูงชนบินตรงไปยังหน้ายักษ์ที่ตอนนี้ชุ่มโชกไปด้วยเลือด

ยักษ์ที่ใหญ่โตยิ่งกว่าภูเขาในตอนนี้มีแววตาที่เศร้าสร้อย มันเหมือนจะเพิกเฉยต่อถังเจิ้นและเหม่อมองท้องฟ้าอันไกลโพ้นอย่างว่าเปล่าเหมือนกำลังจมจ่อมอยู่กับความคิดอะไรซักอย่าง

“ชาวโหลวเฉิงทั้งหมดของที่นี่ตายไปแล้วก็จริง และตายด้วยฝีมือของไอ้ตัวที่อยู่ในร่างกายท่าน แล้วท่านไม่คิดแก้แค้นบ้างเลยเหรอ!”

ภาษาที่เหมือนกับที่ยักษ์พึมพำเมื่อกี๊ได้ออกมาจากปากของถังเจิ้นภายใต้สายตาตกตะลึงของนักรบทั้งหมด

เขาใช้แอปขยายเสียงเพื่อเร่งเสียงให้ดังจนตอนนี้ทุกคนได้ยินหมด

ยักษ์ซึ่งแต่เดิมมีสีหน้าซังกะตายค่อย ๆ หันมากมองถังเจิ้น ใบหน้าอันใหญ่โตราวกับขุนเขานั้นแสดงสีหน้าประหลาดใจให้เห็น

“เจ้าพูดภาษาบ้านเกิดของข้าได้... เก่งยิ่งนัก... ข้าอยากแก้แค้น... แต่ทำไม่ได้!”

วิธีพูดของยักษ์นั้นแปลก ๆ แต่ก็ไม่กระทบต่อการสื่อสาร หลังจากที่ได้ยินแบบนั้นถังเจิ้นก็ถามไปว่า “ตกลงมันเป็นใครกันแน่ แล้วมันทำบ้าอะไรกับร่างกายท่าน”

เมื่อยักษ์ได้ยินก็มีสีหน้าเจ็บปวดและค่อย ๆ ตอบว่า “บ้านเกิดของข้า... ลูก ๆ ไปรุกราน วิญญาณอาฆาตเข้าสิงลูก... ควบคุมร่างกายข้า... แก้แค้นข้า และใช้ร่างข้า... เพาะเลี้ยงเผ่าเดียวกัน!”

ถังเจิ้นได้ยินก็หน้าตึง หลังจากที่เอาแต่ละประโยคมาเรียงต่อกันก็พอจะเข้าใจสถานการณ์โดยย่อของเรื่องนี้แล้ว

นั่นก็คือไอ้คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เป็นชนเผ่าเดียวกันกับยักษ์ตนนี้ซึ่งอยู่ในโลกเดิมที่ยักษ์ตนนี้เคยอยู่ก่อนที่จะตายและกลายมาเป็นเย่โหลวในโลกโหลวเฉิง!

หลังจากที่โหลวเฉิงคนยักษ์รุกรานเข้าไปทำลายล้างโลกนั้น คนที่อยู่เบื้องหลังก็ได้กลายเป็นวิญญาณอาฆาตและเฝ้ารอที่จะเข้าสิงร่างของชาวโหลวเฉิงแห่งนี้ มันคงจะใช้วิชาลับอะไรบางอย่างเล็ดลอดเข้ามายังโลกโหลวเฉิงโดยที่ไม่โดนกฎของโลกโหลวเฉิงทำลายทิ้ง! (คล้าย ๆ กับหลิงซูจื่อและราชาซากศพหลิงเหน่า)

แล้วไอ้วิญญาณอาฆาตนี้ที่ต้องเผชิญกับการทำลายล้างโลกเมื่อสร้างร่างวิญญาณขึ้นมาก็ตกอยู่ในสภาพที่วิปริตบิดเบี้ยวตามจิตสุดท้ายที่อาฆาตแค้น

ความเกลียดชังอย่างรุนแรงที่มีต่อนักรบโหลวเฉิงเหมือนจะเป็นแรงผลักดังให้มันมุ่งมั่นที่จะทำลายล้างทั้งโลกโหลวเฉิงทิ้งซะ!

จึงเป็นสาเหตุที่มันคุ้มคลั่งทันทีที่เห็นโหลวเฉิงและลงมือทำลายล้างโหลวเฉิงทุกแห่งที่มันเห็นอย่างเหี้ยมโหมดไม่มีคำว่าปรานี!

หลังจากมาถึงโลกโหลวเฉิงและแอบเข้าไปในโหลวเฉิงคนยักษ์ได้แล้วไอ้วิญญาณอาฆาตตนนี้ที่มีต้นกำเนิดจากที่เดียวกันกับยักษ์ก็คงจะใช้วิชาลับเฉพาะตนเข้าควบคุมร่างของยักษ์ได้อย่างง่ายดาย

จากนั้นมันก็เปลี่ยนแปลงร่างของยักษ์จากภายใน ดึงเอาพลังชีวิตของยักษ์มาใช้อย่างต่อเนื่อง จนถึงขั้นสังหารพลเมืองนับล้านเพื่อเปลี่ยนให้กลายเป็นสารอาหารหล่อเลี้ยง โดยใช้ร่างของยักษ์เป็นแหล่งเพาะพันธุ์มอนสเตอร์ 2 เศียร 4 กร!

หากไอ้วิญญาณอาฆาตตนนี้ที่มีความมุ่งมั่นที่จะทำลายล้างโลกโหลวเฉิงทำตามแผนของมันสำเร็จล่ะก็ นี่จะกลายเป็นหายนะของโหลวเฉิงในบริเวณแถบนี้อย่างแน่นอน!

ก็เหมือน ๆ กับชาวโหลวเฉิงที่ราชาซากศพหลิงเหน่าเพาะพันธุ์ขึ้นมานั่นแหละ แม้ว่าพวกนั้นจะไม่มีลูกปัดสมองอยู่ในหัวและดูเหมือนชนพื้นเมืองของโหลวเฉิงโหลวเฉิงซักแค่ไหนก็ตาม แต่โดยพื้นฐานแล้วมันก็คือมอนสเตอร์ชนิดหนึ่งอยู่ดี!

ทว่าถ้าเปรียบเทียบกับที่ราชาซากศพหลิงเหน่าทำแล้ววิธีของไอ้วิญญาณอาฆาตนี่ดูจะเจ๋งกว่า เพราะมันสามารถเพาะพันธุ์มอนสเตอร์ระดับราชาขึ้นมาเป็นฝูงได้เลยทีเดียว!

แน่นอนว่าสาเหตุหลัก ๆ นั้นมาจากการที่มันดึงเอาพลังของยักษ์ที่เป็นโหลวเฉิงระดับประเทศประกอบกับแก่นโลหิตของชาวโหลวเฉิงนับล้านมาใช้เป็นสารอาหารให้แก่มอนสเตอร์ที่บ้าคลั่งเหล่านั้น!

สิ่งเดียวที่ทำให้ถังเจิ้นประหลาดใจคือยักษ์ตรงหน้านี้มีความรักอย่างลึกซึ้งต่อชาวโหลวเฉิง เพราะการตายคนเหล่านั้นถึงขั้นทำให้เจ้าตัวอยากตายตามไปด้วยเลย!

กระนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้าใจ เพราะเมื่อยักษ์ตนนี้ได้มาปรากฏตัวที่โลกโหลวเฉิงหลังจากที่ตายแล้วนั้นก็เท่ากับว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับโลกบ้านเกิดอีกต่อไปแล้ว

แม้ว่าจะกลายเป็นโหลวเฉิงแล้วก็ตามแต่ก็ถือว่าเป็นชาติภพใหม่ ยักษ์เริ่มอยู่ร่วมกับชาวโหลวเฉิงของตนทั้งกลางวันและกลางคืน!

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้เห็นการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ของชาวโหลวเฉิงมาตลอดหลายชั่วอายุคนและได้ค่อย ๆ อัปเกรดตัวเองจนจากขนาดเท่าคนธรรมดากลายเป็นยักษ์ปักหลั่นใหญ่ยิ่งกว่าขุนเขาทั้งลูกอย่างทุกวันนี้

เมื่อโหลวเฉิงอัปเกรดไปได้ในระดับหนึ่งมันจะก่อเกิดสติสัมปชัญญะขึ้นมาซึ่งแทบจะเหมือนกับคนปกติทั้วไปที่มีความรู้สึกนึกคิดความสุขความทุกข์

ยักษ์ได้มองชาวโหลวเฉิงเป็นดั่งลูก ๆ ของตนไปโดยไม่ทันได้รู้ตัว เป็นสมาชิกคราอบครัว ญาติสนิทมิตรสหายที่เลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกัน

ดังนั้นเมื่อเห็นลูก ๆ ของตัวเองไปรุกรานโลกบ้านเกิด ยักษ์ตนนี้ย่อมต้องทนแบกรับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ และคงจะยิ่งสิ้นหวังยิ่งกว่าเมื่อรู้ว่าเหล่าลูก ๆ ถูกฆ่าล้างบางทั้งเมืองไม่มีเหลือรอด

บางทีคนที่เจ็บปวดที่สุดในภัยพิบัติครั้งนี้คงเป็นยักษ์ตนนี้ที่กำลังจะตายลงตรงหน้าเขา!

ถังเจิ้นแสดงแววตาเข้าใจและพูดกลับไปว่า “ผมช่วยท่านฆ่ามันได้ แต่ท่านต้องมอบศิลาเสาเอกของท่านให้ผม!”

ยักษ์ส่ายหน้า ใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดเนื้อจองตัวเองนั้นฉายแววมุ่งมั่น

“ไม่เอาโหลวเฉิงแล้ว ไม่อยากเจ็บปวดอีก...”

ถังเจิ้นได้ยินดังนั้นก็มองดูอีกฝ่ายอย่างลึกซึ้งก่อนจะแอบถอนหายใจในใจ

แน่นอนว่ายักษ์ตนนี้ที่คุ้นเคยกับความเป็นความตายมาแล้วกำลังรู้สึกว่าการที่ตนเองยังต้องดำรงอยู่ต่อนั้นไม่มีความหมาย ดังนั้นจึงปฏิเสธที่จะเกิดใหม่กลายเป็นโหลวเฉิงอีกรอบ!

“งั้นแบบนี้เป็นยังไง ผมมีวิธีที่จะลบเมล็ดพันธุ์แห่งสติสัมปชัญญะของท่านที่ฝังรากอยู่ในศิลาเสาเอกทิ้งโดยสมบูรณ์อยู่ ท่านจะได้หลับใหลไปตลอดกาลตามที่หวัง และผลยังยืนยันคำเดิมว่าสามารถช่วยท่านฆ่าไอ้วิญญาณอาฆาตเพื่อแก้แค้นให้ท่านได้

ถึงขนาดนี้แล้วถ้ายังไม่ตกลงผมคงต้องใช้วิธีอื่น ซึ่งถึงแม้มันจะลำบากกว่าแต่สุดท้ายแล้วผมจะหาศิลาเสาเอกของท่านเจออยู่ดี!”

คราวนี้ยักษ์เงียบไปหลายนาทีจากนั้นก็ยกแขนขึ้นมาอย่างยากลำบากและค่อย ๆ เอามือเข้ามาใกล้ดวงตาข้างหนึ่ง

ฉัวะ!

นิ้วของยักษ์ออกแรงจกเข้าไปในดวงตาและกระชากออกจนตาเหลือแค่หลุมขนาดใหญ่ที่เปรอะไปด้วยเลือด

และบนฝ่ามือก็มีลูกตาสีแดงเลือดที่ดูดุร้ายวางอยู่!

ยักษ์ส่ายหัวใหญ่ ๆ พลางมองดูถังเจิ้นด้วยตาข้างเดียวที่เหลืออยู่ และทันใดนั้นก็บี้ลูกตาให้แตกและเผยให้เห็นศิลาเสาเอกที่อยู่ภายใน

เหล่านักรบทั้งหลายที่เฝ้าดูอยู่ต่างพากันหายใจติดขัด โดยเฉพาะนักเวทหัวหน้าทีมที่ตอนนี้อยากจะเคลื่อนไหวใจจะขาด

แต่ในขณะนี้พวกซือถูหยวนจื่อทั้ง 4 ก็ได้กระโดดออกมาขวางปกป้องอยู่โดยรอบของถังเจิ้นและใช้สายตามุ่งร้ายจับจ้องไปที่ระดับราชาฝั่งตรงข้ามทั้ง 3

ทั้ง 4 ต่างระเบิดจิตสังหารอันไม่มีที่สิ้งสุดออกมา!

ฝ่ายนักเวทต่างก็ต้องสะดุดกึกเมื่อเจอแบบนี้ เห็นท่าทางมุ่งร้ายของทั้ง 4 แล้วในใจก็อดกลัวไม่ได้ จนสุดท้ายก็ต้องแค่นเสียงไม่พอใจก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปมองทางอื่น

ถังเจิ้นเองก็เผยจิตสังหารด้วยเช่นกัน เขาเอาศิลาเสาเอกเก็บลงในแหวนมิติก่อนจะหันมาโค้งคำนับให้พวกซือถูกหยวนจื่อ

“ขอบคุณสหายทั้งสี่ที่ช่วย ในอนาคตถังจะตอบแทนน้ำใจในครั้งนี้อย่างแน่นอน!”

หงตุ้นที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบตอบกลับทันทีว่า “เจ้าเมืองถังเกรงใจกันเกินไปแล้ว หากใครหน้าไหนมันอยากมีเรื่องกับคุณล่ะก็ต้องถามพวกเราทั้งสี่ก่อนว่าอนุญาตมั้ย!”

แม้ว่าอีก 3 คนที่เหลือจะไม่พูด แต่ก็ใช้การกระทำแทนคำพูดไปหมดแล้ว

อันที่จริงตอนที่ยักษ์เอาศิลาเสาเอกออกมาก็กะจะลงมือเหมือนกัน แต่เมื่อเห็นท่าทีของทีมนักเวทที่เหมือนกับตนก็เกิดตกใจและเปลี่ยนใจมาเป็นปกป้องถังเจิ้นแทนโดยไม่ลังเล

แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าศิลาเสาเอกของโหลวเฉิงคนยักษ์นั้นประเมินค่าไม่ได้ก็ตาม แต่ก็ยังห่างไกลจากประโยชน์โภชผลที่จะได้มาจากการผูกมิตรกับถังเจิ้น ที่สำคัญคือการจะสร้างโหลวเฉิงให้ออกมาเป็นยักษ์ตัวโหดเหมือนอย่างยักษ์ตนนี้มันก็ต้องอาศัยทรัพยากร กำลัง และเวลาอีกไม่รู้เท่าไหร่

เมื่อการฝึกฝนมาถึงระดับราชาแล้วสิ่งที่ราชาทุกคนต่างไล่ตามล้วนเป็นระดับชั้นที่สูงกว่าเดิม และการสร้างโหลวเฉิงและบริหารมันนั้นจะหลายเป็นอุปสรรคขวากหนามในการฝึกฝนทำให้ไม่สามารถโฟกัสที่การเพิ่มพูรระดับการฝึกฝนของตนเองได้

นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมเมื่อนักรบไปถึงระดับราชาแล้วพวกเขากว่า 99% จะนั่งตำแหน่งผู้อาวุโสของโหลวเฉิงแทนที่จะเป็นเจ้าเมือง นั่นก็เพราะว่าพวกเขาไม่อยากที่จะเอาทั้งเวลาและพลังงานไปเสียให้กับการบริหารเมืองในฐานะเจ้าเมืองนั่นเอง!

ส่วนการผูกมิตรกับถังเจิ้นที่ทั้งทรงพลังและมีภูมิหลังอันยิ่งใหญ่นั้นไม่เพียงแต่จะสามารถใช้ความสามารถต่าง ๆ ที่เขาเชี่ยวชาญให้เป็นประโยชน์แก่ตนเองได้เท่านั้น แต่ยังสามารถซื้อสิ่งของที่มีประโยชน์ในการฝึกฝนต่อจากเขาเพื่อปูเส้นทางแห่งการฝึกฝนของตนเองให้ราบรื่นขึ้นได้อีกด้วย

ดังนั้นเรื่องนี้จะเลือกตัวเลือกไหนนั้นพวกหงตุ้นต่างแสดงคำตอบให้เห็นกันอย่างชัดเจนแล้ว!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด