ตอนที่แล้วChapter 697 ขอเพียงเข้ารอบสองได้ ก็ถือว่าประสบผลสำเร็จแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 699 สภาพแวดล้อมที่ต่างกัน ย่อมหล่อเลี้ยงไว้ซึ่งวัฒนธรรมที่ต่างกัน

Chapter 698 มาถึงจังหวังจงจุน ก็สร้างปัญหาเลย


การเข้าร่วมของนิกายจังหวัดซีเหนียนหยางในงานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกรนั้นแทบจะตกรอบแรกทุกครั้งไป ดังนั้นอี้เทียนเจียนที่หวังที่จะให้นิกายนิรันดรผ่านรอบแรกเข้าสู่รอบสองสักครั้งก็ยังดี.

“เจ้าสมาคมอี้.”

จุนซ่างเซียวถึงกับหมดคำพูด “ตั้งความหวังไว้ต่ำขนาดนั้นเลยรึ?”

ในเมื่อเข้านำศิษย์เข้าร่วมงานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกร ก็หวังในตำแหน่งชนะเลิศเท่านั้น การเข้ารอบสองนี่มัน ช่างเล็กน้อยเหลือเกิน!

“แน่นอน.”

อี้เทียนเจียนเอ่ย “หากเจ้านิกายจุนสามารถประสบความสำเร็จมากกว่านี้ ก็ยิ่งดี!”

ที่จริงเขานั้นคาดหวังไว้กับนิกายนิรันดรมาก ทว่านิกายใหญ่ในจังหวัดจงจุนนั้นมีมากจริง ๆ การจะผ่านรอบสองก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแม้แต่น้อย ทุกนิกายล้วนแต่เหนือกว่าเจ้านิกายจุนทั้งนั้น.

หากพบกับนิกายของจังหวัดจงจุน ก็แทบจะไม่มีความหวังอะไรเลย.

ดังนั้นอี้เทียนเจียน จึงคิดว่าหากว่าไม่พบกับนิกายของจังหวัดจงจุน ผ่านรอบแรกได้ก็ถือว่าดีแล้ว.

ซึ่งแน่นอนไม่ใช่แค่เขา ทว่านิกายของจังหวัดอื่น ๆ เองก็คิดเหมือน ๆ กัน.

ไม่มีใครยินดีที่จะพบกับนิกายของจังหวัดจงจุนในรอบแรกเลย ไม่เช่นนั้นจะต้องกลับบ้านก่อนกำหนดอย่างไม่ต้องสงสัย.

“นิกายนอกจังหวัดระดับสามสี ไม่เห็นมีอะไรน่าท้าทายเลย.”

ขณะเดินทาง จุนซ่างเซียวที่กวาดตามองอย่างระมัดระวัง กล่าวเสียงเบา “ต้องพบกับนิกายหลักจังหวัดจงจุนสิ ถึงจะน่าสนใจ!”

คนอื่น ๆ ต้องการหนีให้พ้น ทว่าจุนซ่างเซียวกับต้องการจะเจอนิกายเหล่านั้น.

แน่นอน.

สิ่งที่เจ้านิกายจุนคิด ไม่เพียงแค่นิกายจังหวัดจงจุน จะให้ดีควรเป็นนิกายระดับสองด้วย.

ไม่มีอะไรน่ากลัว.

ยิ่งพบกับนิกายที่มีระดับสูง ก็ยิ่งรู้สึกน่าสนใจ.

ระบบที่สาดน้ำใส “คู่ต่อสู้ของการประลองผู้นำพยัคฆ์มังกรนั้นเป็นการสุ่ม บางทีโฮสน์อาจโชคดี พบกับนิกายระดับหนึ่งก็ได้.”

“แล้วอย่างไร.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ในเมื่อหวังชนะเลิศ จะช้าจะเร็วก็ต้องเจออยู่ดี.”

“งั้นหวังว่า โฮสน์จะไม่ตกรอบแรกนะ.”ระบบเอ่ย.

“เงียบไปเลย.”

......

ระยะทางระหว่างจังหวัดซีเหนียนหนางและจังหวังจงจุนนั้นค่อนข้างไกล เพราะออกเดินทางก่อนเวลา จุนซ่างเซียวจึงไม่ได้รีบ คอยชมทิวทัศน์ข้างทางที่งดงามด้วย.

หลี่ชิงหยางและเซียวจุ้ยจื่อ ตลอดจนศิษย์คนอื่น ๆ ที่รู้สึกโลหิตพลุ้งพล่านเป็นอย่างมาก.

งานประลองใหญ่ระดับทวีปชิงหยุนนี้ ย่อมเต็มไปด้วยเหล่าพรสวรรค์มากมาย พวกเขาย่อมได้แสดงฝีมือเต็มที่อย่างแน่นอน.

เมื่อครั้งประลองที่นิกายไป่เหอเซิ่ง ถึงแม้นว่าอีกฝ่ายจะส่งศิษย์ระดับสูงออกมาแล้ว ทว่าพวกเขาก็ไม่ได้ใช้พลังสักเท่าไหร่ ดังนั้นจึงคาดหวังกับการประลองผู้นำพยัคฆ์มังกรนั่นเอง.

เย่ซิงเฉินที่กระหายในการต่อสู้ ตัวเขาเวลานี้ยังคาดหวังเช่นกัน.

เหออู๋ตี้ที่ยังคงสุขุม เพราะว่าเขามาจากพิภพเบื้องบน ไม่ได้สนใจงานประลองของพิภพด้านล่างแต่อย่างใด.

ครึ่งเดือนหลังจากนั้น.

พวกเขาก็เข้าเขตจังหวังจงจุน.

“ฟู่!”

บนเนินแห่งหนึ่ง ซูเซียวโม่ที่สูดหายใจลึก อุทานออกมาเสียงดัง “เจ้านิกาย พลังฟ้าดินที่นี่หนาแน่นเป็นอย่างมาก!”

“ดูเหมือนว่าจังหวัดแห่งนี้จะเป็นสถานที่วิญญาณฟื้นคืนจนหมดแล้ว จึงมีพลังวิญญาณหนาแน่นยิ่งกว่าต่างจังหวัดอื่น ๆ เป็นอย่างมาก.”หลี่ชิงหยางเอ่ย.

จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา ลอบคิดในใจ “หากว่านำนิกายมาตั้งที่จังหวัดจงจุน พลังวิญญาณจะหนาแน่นมากมายขึ้นขนาดใหน ศิษย์ของข้าจะเติบโตรวดเร็วเพียงใด.”

ระบบเอ่ย “โฮสน์วางแผนจะย้ายนิกายอย่างงั้นรึ?”

“ไม่.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

เทือกเขาไท่กู่ที่เพิ่งพลังวิญญาณฟื้นคืน อีกไม่นานก็มีระดับเทียบเท่ากับพื้นที่ในจังหวัดจงจุนอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการอพยพ.

ผู้คนมุ่งสู่ที่สูง น้ำไหลลงสู่ที่ต่ำ.

เจ้านิกายจุนที่หลงรักมนทลชิงหยางไปแล้ว และหวังที่จะพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวมาเป็นเวลานานแล้ว.

หนำซ้ำ.

เขาที่มีความทะเยอทะยานที่สูงมาก!

นิกายที่อยู่ในพื้นที่ใจกลาง ตั้งอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ จะมีอะไรท้าทายกัน.

ในอดีตเมื่อครั้งที่อยู่ในค่ายวายุทมิฬ จุนซ่างเซียวเอ่ย  ไม่ใช่ว่าเขาต้องปรับตัวให้เข้าคนอื่น แต่เป็นทวีปชิงหยุนต่างหากที่ต้องปรับตัวเข้ากับข้า.

ในวันข้างหน้าดินแดนจงจุนที่เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะถูกนิยามใหม่ ว่าเทือกเขาไท่กู่จังหวัดซีเหนียนหยางต่างหากที่จะเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริง!

......

ยิ่งเคลื่อนที่เข้าใจกลางจังหวัดจงจุน ความหนาแน่นพลังวิญญาณยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ทำให้หลี่ชิงหยางและศิษย์คนอื่น ๆ เปี่ยมล้นด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้.

กับดินแดนที่มีพลังวิญญาณหนาแน่นถึงเพียงนี้ จะต้องบ่มเพาะสร้างยอดฝีมือมากพรสวรรค์ขึ้นมามากมายแน่นอน!

หากได้ต่อสู้กับคนเก่งเช่นนั้น จะยอดเยี่ยมขนาดใหน.

จากนั้น ระหว่างทางพวกเขาเริ่มเห็นผู้คนเป็นหย่อม ๆ.

จากชุดแล้ว น่าจะเป็นคนพื้นที่ของจังหวัดจงจุน กลิ่นอายของพวกเขาที่ส่งออกมานั้น ทุกคนแทบจะมีระดับอาจารย์ยุทธ์กันทั้งนั้น!

“เอ๊ะ?”

ใครคนหนึ่งที่เห็นกลุ่มของจุนซ่างเซียวก็กล่าวเสียงเบา “คนเหล่านี้สวมชุดที่ดูฉูดฉาด ไม่น่าจะใช่คนในจังหวัดจงจุน.”

“งานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกรกำลังจะเริ่มแล้ว บางทีคงเป็นคนจากนิกายจังหวัดอื่นละมั้ง.”

“จากท่าทางแล้ว ก็คงเป็นพวกตัวประกอบสินะ.”

เหล่าชาวยุทธ์จังหวัดจงจุนย่อมรู้สึกตัวเองเหนือกว่าคนนอกจังหวัดเป็นธรรมดา หนำซ้ำงานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกรที่ผ่าน ๆ มา ก็มีเพียงแค่นิกายภายในจังหวัดที่ชิงชัยกันเอง เป็นเรื่องทั่วไปที่พวกเขารู้สึกเหนือกว่า.

จุนซ่างเซียวหาได้สนใจคนเหล่านี้ เขาที่นำแผนที่ออกมา กล่าวเสียงเบา “เดินทางอีกวันหนึ่ง น่าจะถึงเป้าหมาย.”

“กุบ กุบ กุบ!”

เสียงควบม้าที่ดังกึกก้อง.

“คนด้านหน้าหลบไปให้พ้น!”เสียงที่ดังกึกก้องดังผ่านเข้ามา.

คนกลุ่มใหญ่หลายสิบคนที่ขี่ม้าเป็นฝูง เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว ท่าทางที่แผ่ความอหังการยิ่งใหญ่ออกมา!

จุนซ่างเซียวที่ขมวดคิ้ว.

ถนนที่ใหญ่ขนาดนี้ ยังต้องให้หลีกทางด้วยรึ?

อีกอย่างคนกลุ่มนี้ยังไม่ควบม้าเป็นแถว มุ่งตรงดาหน้าเต็มถนนเป็นฝูงใหญ่.

กับการกระทำเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเพื่อที่จะแสดงความยิ่งใหญ่ของตัวเองออกมาหรือไม่?

หรือว่านี่เป็นการกระทำปรกติของพวกเขาอยู่แล้ว!

“จุ้ยจื่อ.”จุนซ่างเซียวทีเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา.

ระบบแทบทรุด “มาถึงจังหวังจงจุน ก็สร้างปัญหาเลยรึ?!”

“กึก!”

เซียวจุ้ยจื่อที่ก้าวออกไป พลังวิญญาณธาตุปฐพีที่ปะทุขึ้นมา ก่อนที่จะเหวี่ยงหมัดขวาออกไป!

ฟู่ ฟู่ ----

พลังธาตุปฐพีพวยพุ่งเป็นทาง กลายเป็นพลังที่ใหญ่ยักษ์เข้าขวางกั้นคนเหล่านั้น.

“แย่แล้ว!”

เหล่าชาวยุทธ์ที่ควบม้ามุ่งตรงมาใบหน้าเปลี่ยนสี!

โครม!

โครม!

คนหลายสิบคนที่ควบม้ามาด้วยความเร็ว เสียหลัก กระเด็นลอยละล่องล่วงหล่นไปกองบนพื้นทันที.

เหล่าชาวยุทธ์ที่เห็นเซียวจุ้ยจื่อใช้พลังออกมา กวาดกลุ่มของฝูงม้า ลอยกระเด็น ถึงกับดวงตาเบิกกว้างกลมโตทันที!

คน ๆ นี้อายุยังไม่เยอะ ความแข็งแกร่งไม่ธรรมดา!

“นั่นมันคนตระกูลเฉามนทลจิงหลิง!”

“ดูเหมือนจะมีการแสดงดี ๆ เกิดขึ้นแล้ว!”

เหล่าชาวยุทธ์ที่ผ่านไปมาพูดคุยกันเสียงดัง.

มนทลจิงหลิงเป็นหนึ่งในดินแดนของจังหวัดจงจิน ตระกูลเฉาเองถือว่าเป็นตระกูลใหญ่ที่สุดในมนทลนั้น ความแข็งแกร่งเทียบกับนิกายระดับสามหรือสี่ได้เลย.

คาดไม่ถึงเลยว่านิกายต่างจังหวัดจะกล้าล่วงเกินพวกเขา.

“บัดซบ!”

บุรุษคนหนึ่งที่คำรามลั่น แววตาที่เปี่ยมล้นด้วยความโกร “ไปกินดีหมีจากใหนมา กล้าขวางตระกูลเฉา!”

“ฟิ้ว!”

ซูเซียวโม่ที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา เท้าขวาของเขาที่ตะบันถีบไปยังใบหน้าของชายคนดังกล่าว ลอยกระเด้นออกไปสิบจั้ง.

หลังจากเตะชายคนดังกล่าวลอยออกไป เสี่ยวโม่เอ่ยออกมาว่า “ล้างปากของเจ้าด้วย.”

“แส่หาความตาย!”

เค้ง! เคร้ง!เคร้ง!

ผู้ฝึกยุทธ์หลายสิบคนของตระกูลเฉาที่ชักกระบี่ คำรามออกมาด้วยความโกรธ.

ทว่ายังไม่ได้ขยับอะไรเลยด้วยซ้ำ.

เพราว่า หลี่ชิงหยาง ลี่เฟยและคนอื่น ๆ นำกระบี่มาวางบนคอของพวกเขาแล้ว.

ไม่ต้องบอกเลยว่า.

เพียงขยับศีรษะต้องกระเด็นอย่างแน่นอน.

ชายคนที่อหังการที่ถูกซูเซียวโม่ถีบ ลุกขึ้นยืนด้วยความเจ็บ กุมใบหน้าด้วยความโกรธ “พวกเจ้า...เป็นใคร!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด