ตอนที่แล้วบทที่ 40: จงรับบทลงโทษ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 42: สามปี

บทที่ 41: เกราะพลังวิญญาณ


บทที่ 41: เกราะพลังวิญญาณ

เมื่อการร่ายรำอันน่าหลงใหลสิ้นสุดลง หวังยู่หลุนก็ฟื้นคืนสติ และทุกสิ่งรอบตัวเขาก็กลับมาเป็นปกติ

หวังยู่หลุนเหลือบมองสิ่งประดิษฐ์บนพื้นและตระหนักได้ว่าเขาพ่ายแพ้ลงอีกครั้งแล้ว

“พี่ซู ท่านไม่แสดงความเมตตาใดๆ ต่อข้าเลยแม้แต่นิดเดียว” หวังยู่หลุนกล่าวอย่างหดหู่

เมื่อมาถึงจุดนี้ หวังยู่หลุนก็สังเกตเห็นมู่หรงเฉียนเอ๋อซึ่งยังคงประหลาดใจกับการร่ายรำอันน่าอัศจรรย์ของสามีเธอ เธอไม่สามารถเอามันออกไปจากใจของเธอได้

“เกิดอะไรขึ้น?” หวังยู่หลุนถามด้วยความสับสน

“ไม่มีอะไร”

“ถ้าพวกเจ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว พวกเจ้าก็กลับไปได้แล้ว ข้ายังต้องสอนลูกศิษย์ทั้งสองของข้าอีก” ซูฟ่านกล่าวพร้อมกลั้นหัวเราะ

“ข้าเข้าใจแล้ว”

แม้ว่าหวังยู่หลุนจะอยากพูดอะไรบางอย่างมากกว่านี้ แต่เขาก็ตัดสินใจหักห้ามมันหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

ที่ขอบยอดเขา ซูฟ่านกล่าวคำอำลากับสองคู่รัก

เมื่อมองไปที่แผ่นหลังของทั้งคู่ ซูฟ่านก็พึมพำกับตัวเองว่า “บางทีข้าอาจจะควรเรียนรู้วิชาป้องกันวิญญาณบางซะแล้ว”

“ท้ายที่สุดแล้ว จุดอ่อนและจุดตายของคนเราก็มักจะเกี่ยวข้องกับเรื่องวิญญาณ”

...

ซูฟ่านพาซูกังและซูเยว่เซียนไปยังที่ห้องที่มีลักษณะคล้ายห้องเรียน

ทั้งสามคนนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นสะอาด

“พวกเจ้าคงจะได้เรียนเรื่องการอ่านเขียนและเรื่องเส้นลมปราณกันมาบ้างแล้วสินะ ตอนนี้ข้าจะสอนความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโลกแห่งการฝึกตนให้แก่พวกเจ้า”

“ขอบเขตฝึกปราณ ขอบเขตก่อเกิดรากฐาน ขอบเขตแก่นแท้ทองคำ ขอบเขตตัวอ่อนวิญญาณ ขอบเขตวิญญาณสวรรค์ ขอบเขตกลั่นสูญ ขอบเขตบูรณาการ ขอบเขตเหนือความทุกข์ยาก และขอบเขตมหายาน ทั้งหมดเก้าขอบเขต”

“หลังจากไปถึงขอบเขตมหายานแล้ว คนผู้นั้นก็จะสามารถขึ้นสู่โลกเซียนได้ แต่เราจะยังไม่พูดถึงเรื่องนั้นกันในตอนนี้”

“เพื่อจะฝึกตนเป็นเซียน เราก็ต้องการรากวิญญาณและวิชาการฝึกตนที่เหมาะสม”

“ซูกัง รากวิญญาณของเจ้าคือไม้ ไฟ ดินและน้ำ”

“ซูเยว่เซียน รากวิญญาณของเจ้าคือไม้ น้ำและโลหะ”

สองพี่น้องหยิบหนังสือเล่มเล็กออกมาและบันทึกประเด็นสำคัญที่ซูฟ่านสอนโดยใช้ดินสออย่างรวดเร็ว

ดีมาก พวกเขารู้จักจดบันทึกในชั้นเรียน นี่เป็นสัญลักษณ์ของนักเรียนชั้นนำ

ขณะที่ซูฟ่านเจาะลึกลงไปในบทเรียน โลกแห่งการฝึกตนอันกว้างใหญ่ก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในจิตใจของสองพี่น้อง

...

สามเดือนต่อมา ที่ขอบเนินเขา ซูฟ่านและสองสามีภรรยากำลังนั่งดื่มชาขณะเฝ้าดูสองพี่น้องฝึกฝนวิชาของพวกเขาอยู่ในบริเวณใกล้เคียง

“พี่ซู ศิษย์ทั้งสองของท่านก้าวหน้าเร็วจนไม่น่าเชื่อเลย ในเวลาเพียงสามเดือน พวกเขาก็ได้มาถึงขอบเขตฝึกปราณขั้นหนึ่งแล้ว นี่ท่านยัดยากรอกปากพวกเขารึเปล่าเนี่ย?” หวังยู่หลุนกล่าว

“ ข้าทำแบบนั้นได้ที่ไหนเล่า สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับภรรยาของเจ้าซะมากกว่า”

“พวกเจ้าสองคนชอบมาชวนข้าทานอาหารเย็นเป็นครั้งคราว และพวกเขาก็พลอยได้รับประโยชน์ร่วมไปด้วย อาหารเหล่านี้ล้วนเป็นอาหารวิญญาณที่มีมูลค่าหลายร้อยหินวิญญาณ”

“และด้วยการบริโภคบ่อยครั้งเข้า ความก้าวหน้าในการฝึกตนของพวกเขาก็จะย่อมเร็วขึ้นโดยธรรมชาติ”

ซูฟ่านยื่นขวดยาให้กับหวังยู่หลุน

“นี่คือยาครรภ์วิญญาณซึ่งได้รับการปรับปรุงนิดหน่อยโดยข้า”

“ยานี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถทำให้การตั้งครรภ์มีเสถียรภาพและยกระดับพรสวรรค์ของเด็กทารกในครรภ์ได้” ซูฟ่านกล่าว เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการปรับปรุงสูตรยานี้

ดวงตาของหวังยู่หลุนและมู่หรงเฉียนเอ๋อสว่างขึ้น เนื่องจากยาที่สามารถทำให้การตั้งครรภ์คงที่ได้นั้นหายากมากในโลกแห่งการฝึกตน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้คาดหวังว่าซูฟ่านจะสามารถสร้างมันขึ้นมาได้

“สำหรับยาครรภ์วิญญาณของนิกาย พวกเจ้าก็ไม่ต้องไปแลกมันอีกต่อไปแล้ว สิ่งนี้ขัดกับสามัญสำนึก ถ้าพวกเจ้าใช้มันมากๆ เข้า มันก็อาจส่งผลเสียต่อเด็กในครรภ์ได้” ซูฟ่านเตือนหวังยู่หลุนอย่างจริงจัง

ในฐานะปรมาจารย์นักปรุงยา ซูฟ่านก็สามารถเข้าใจผลข้างเคียงจากยาครรภ์วิญญาณได้อย่างไม่ยากเย็น ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงตัดสินใจลงมือปรับปรุงสูตรยาเพื่อแก้ปัญหานั้น

“จริงหรอ?”

ใบหน้าของคู่รักเปลี่ยนไปเล็กน้อย และพวกเขาก็รู้สึกโชคดีที่ได้บอกซูฟ่านเกี่ยวกับเรื่องนี้

“อย่างน้อยความรู้ของข้ามันก็บอกข้าอย่างนั้น”

“ขอบพระคุณสำหรับความเมตตาของท่าน พี่ซู”

มู่หรงเฉียนเอ๋อพยายามดึงหวังยู่หลุนเข้ามาเพื่อโค้งคำนับ แต่กระนั้นเธอก็ถูกซูฟ่านหยุดเอาไว้ซะก่อน”

“พี่ซู ท่านเคยไปงานชุมนุมแลกเปลี่ยนของนิกายไหม? ข้าต้องบอกเลยว่ามันเป็นการเปิดหูเปิดตาอย่างแท้จริง”

“วิชาการฝึกตนของนิกายต่างๆ ได้ขยายโลกทัศน์ของพวกเราในฐานะผู้ฝึกตนให้กว้างมากขึ้น” หวังยู่หลุนพูดอย่างตื่นเต้น

“ข้าเคยไปมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรน่าสนใจ ดังนั้นข้าจึงกลับมา”

ซูฟ่านเคยไปงานชุมนุมแลกเปลี่ยนของนิกายมาแล้ว แต่เขาก็พบว่ามันน่าเบื่อและจึงกลับมา

“ข้าได้ต่อสู้กับศิษย์จากนิกายฝึกอสูรบนเวทีประลองด้วย โชคดีที่ข้ามีกระบี่พันคมของพี่ซู ไม่อย่างนั้นข้าก็คงจะพ่ายแพ้ลงไปแล้ว”

“สิ่งที่น่าทึ่งยิ่งไปกว่านั้นคือวิชาของนิกายประตูเพลิง วิชาธาตุไฟของพวกเขาทรงพลังจนเกือบจะเทียบได้กับวิชาขอบเขตก่อเกิดรากฐาน”

“นั่นฟังดูน่าสนใจ” ซูฟ่านพยักหน้า วิชาการต่อสู้เหล่านี้ไม่ได้อยู่เหนือจินตนาการของเขาไปสักเท่าไหร่

“ข้าสามารถบอกได้เลยว่าท่านไม่ได้สนใจสิ่งที่เรากำลังพูดถึงด้วยซ้ำเมื่อดูจากสีหน้าของท่าน” มู่หรงเฉียนเอ๋อหัวเราะ

“แท้จริงแล้ว สำหรับพี่ซู วิชาเหล่านี้ก็เป็นเพียงของเด็กเล่น” หวังยู่หลุนพูดอย่างค่อนข้างผิดหวัง

“อย่าผิดหวังไปเลย เจ้าคิดว่าวันนี้เจ้าได้รับเชิญมาที่นี่เพื่อดื่มชาและรับยาเท่านั้นหรอ?”

ทันใดนั้นชุดเกราะสองชุดก็ปรากฏขึ้นบนโต๊ะในศาลา “นี่คือผลงานชิ้นล่าสุดของข้า เกราะพลังวิญญาณ!”

“ในอนาคต แม้ว่าศัตรูของพวกเจ้าจะอยู่ในขอบเขตแก่นแท้ทองคำ แต่มันก็จะไม่เป็นปัญหาใดๆ ทั้งนั้น” ซูฟ่านกล่าวในขณะที่ดูผลงานชิ้นเอกของเขาอย่างตั้งใจ

“เกราะพลังวิญญาณ สมบัติชิ้นนี้สามารถป้องกันวิญญาณได้ไหม?” หวังยู่หลุนถามอย่างสงสัย โดยจ้องมองไปที่ชุดเกราะบนโต๊ะ เมื่อมันปรากฏขึ้น สายตาของเขาก็ถูกดึงดูดไปที่มันโดยทันที

“บางครั้งข้าก็ไม่รู้จริงๆ ว่าเจ้าโง่หรืออะไร ชื่อมันก็บอกอยู่ แน่นอน มันมีคุณสมบัติในการป้องกัน เกราะพลังวิญญาณประกอบด้วยสิ่งประดิษฐ์พิเศษ 16 ชิ้น มันมาพร้อมกับวงเวทย์ภายในที่จะช่วยขยายพลังวิญญาณของเจ้า”

“เมื่อเจ้าปล่อยพลังวิญญาณออกมา ชุดเกราะนี้ก็จะช่วยขยายพลังวิญญาณของเจ้าให้สูงขึ้นสองถึงสามเท่าได้”

“แน่นอนว่าพลังป้องกันกายภาพและพลังป้องกันวิญญาณเองก็เป็นสิ่งที่อยู่ในอันดับต้นๆ”

“นอกจากนี้ยังมีอีกหลาย...”

ตามที่ซูฟ่านอธิบาย หวังยู่หลุนและมู่หรงเฉียนเอ๋อก็รู้สึกประหลาดใจมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเกราะพลังวิญญาณนี้ พวกเขาก็จะสามารถสังหารสัตว์อสูรขอบเขตก่อเกิดรากฐานลงได้อย่างง่ายดายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว

“พี่ซู ท่านไม่ต้องอธิบายอะไรอีกต่อไปแล้ว ข้าขอลองดูได้ไหม?” หวังยู่หลุนกล่าวอย่างโหยหา

“ทำไมจะไม่ล่ะ?” ซูฟ่านยิ้ม นี่เป็นเพียงรุ่นทดลองเท่านั้น และเมื่อมีเหล็กวิญญาณมากกว่านี้เท่านั้น ซูฟ่านถึงจะคิดสร้างของจริง

ส่วนที่ท้าทายที่สุดของเกราะพลังวิญญาณคือการรวมชิ้นส่วนสิ่งประดิษฐ์ทั้ง 16 ชิ้นเข้าด้วยกัน และเพื่อจะทำสิ่งนี้ให้สำเร็จ เหล็กวิญญาณก็เป็นสิ่งที่เขาขาดไม่ได้

หวังยู่หลุนสวมชุดเกราะพลังวิญญาณ เขารู้สึกราวกับว่าได้เปิดประตูสู่โลกใหม่ มันเป็นประสบการณ์ที่น่าเหลือเชื่อ พลังวิญญาณของเขาได้รับการขยายเพิ่มขึ้นสามเท่าโดยทันที

เมื่อกระบี่พันคมถูกเปิดใช้งาน มันก็จะทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าโดยทันทีด้วยความเร็วเหนือเสียง

วิชาที่หวังยู่หลุนเคยใช้ด้วยความระมัดระวังก่อนหน้านี้ ตอนนี้เขาสามารถใช้มันได้อย่างง่ายดาย

กระบี่ขนาดยักษ์ที่ประกอบด้วยชิ้นส่วน 360 ชิ้นพุ่งบินโฉบไปมากลางอากาศ มันโดดเด่นสะดุดตาจนดึงดูดความสนใจของสองพี่น้องที่กำลังฝึกฝนอยู่ใกล้ๆ ...

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด