ตอนที่แล้วตอนที่ 64 ทักษะการทำอาหาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 66 มิตรภาพพังทลาย

ตอนที่ 65 เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย รู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่า..


“พวกเธอสองคน...”

“เฮ้.. รู้จักมารยาทบนโต๊ะบ้าง แต่ดูทำท่าทางเข้า มันอร่อยขนาดนั้นเลย?”

เมื่อมองดูลูกตัวเองทั้งสองคนที่กินเข้าไปแค่คําเดียว ก็ทำสีหน้าราวกับเห็นท้องฟ้ามันจะถล่มลงมา

เซี่ยไห่ จึงอดไม่ได้ที่จะส่ายศีรษะ

คนหนุ่มสาวนี้ ช่างใจร้อน และช่างไม่มีความสงบเลยจริงๆ

อย่างไรก็ตาม หลังจากเขาหยิบตะเกียบขึ้นมา แล้วคลีบหัวสิงโตตุ๋นน้ำแดงขึ้นมากัดกินไปหนึ่งคำ

ลูกชายคนรองของตระกูลเซี่ย ที่เพิ่งจะตำหนิลูกตัวเองไป ..เมื่อกี้ ตอนนี้กลับมีสีหน้าตกตะลึงไปแล้ว

“นี่…”

มองไปที่หัวสิงโตตุ๋นในมือของเขา

ดวงตาของ เซี่ยไห่ เต็มไปด้วยความตกใจ และความไม่อยากจะเชื่อ..

หัวสิงโตตุ๋นนี้อร่อยมาก

และรสชาตินุ่มไม่เลี่ยนเลยแม้แต่น้อย

เรียกว่าสมบูรณ์แบบเลยก็ว่าได้

แค่ หัวสิงโตจานเดียวนี้ มันทําได้อร่อยถึงขนาดนี้เลย

มันเป็นอะไรที่เขา ..ไม่เคยได้ยิน ไม่เคยได้เห็นมาก่อนเลย

“กลิ่นมันหอมมาก!”

เซี่ยไห่ เบิกตากว้าง และเขาอดชมไม่ได้

เมื่อเห็นลูกชายคนรองของตระกูลเซี่ย พูดขนาดนี้

คนในครอบครัวจะยังนั่งนิ่งเฉยอยู่ได้อย่างไร?

พวกเขาพากันขยับตะเกียบทีละคน แล้วชิมลิ้มรสอาหารตรงหน้าทันที

เพียงแค่อึดใจเดียวเท่านั้น สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า ..ซึ่งไม่ต่างอะไรเลยกับ เซี่ยไห่

ตระกูลเซี่ย นับได้ว่าเป็นตระกูลใหญ่ในเมืองม่อ

เช่นนั้น คนเหล่านี้ที่ไหนจะไม่เคยได้ลิ้มลองอาหารอันโอชะ มาก่อน?

สำคัญคือ.. มันกลับไม่เคยมีครั้งใดเลยที่การรับประทานอาหารมื้อใหญ่จะมอบความประทับใจ และความรู้สึกที่มันน่าทึ่ง ..ได้ถึงขนาดนี้

ความรู้สึกนี้.. มันวิเศษมากจนผู้คนไม่สามารถหลุดพ้นไปได้เลย

แม้แต่ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ก็แสดงสีหน้าประหลาดใจมากออกมา หลังจากกินอาหารที่ ซูเหวิน ทําเข้าไป

ดวงตาคู่นั้นส่องประกายสดใสออกมา และเธอมองไปที่ ซูเหวิน ราวกับว่าเธอ.. จำคนที่อยู่ตรงหน้านี้ ไม่ได้

พระเจ้า!

จานนี้อร่อยเกินไปแล้ว?

เพื่อนร่วมชั้น ซู เขาทำได้อย่างไร?

เรื่องนี้.. มันไม่สำคัญว่าคุณมีเงินหรือไม่ การร้องเพลงคุณก็ทำได้ดี และร้องได้ไพเราะถึงขนาดนั้น ไหนจะเรื่องวิ่งระยะไกลนั้นอีก คุณถึงกลับทำลายสถิติโลกได้

ตอนนี้แม้แต่ฝีมือการทําอาหารคุณก็ยังทำได้ดีจนคนอื่น ..พูดไม่ออก

เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ที่เต็มไปด้วยความงดงาม ความสง่างาม และความมั่นใจมาโดยตลอด

นาทีนี้เธอกลับมีความรู้สึกว่าตัวเอง ..ด้อยกว่า

นี่คือคนเราจําเป็นต้องเก่งขนาดนี้เลยเหรอ แบบนี้มันก็รังแกคนอื่นเกินไปแล้ว..

ซูเหวิน ที่เห็นการแสดงออกที่เกินจริงออกจะไปทางตกตะลึงของทุกคน เขาจึงยิ้มแล้วพูดว่า : “ผมเองก็ไม่ได้เข้าครัวบ่อย ถ้าไม่อร่อย ขอทุกคนอย่าได้ถือสาเลยนะครับ”

ทันทีที่มีคำกล่าวนี้หลุดออกมา ทุกคนก็ไม่สงบอีกต่อไป

ให้ตาย..

    คุณพูดว่าอะไรนะ!

มันหมายความว่าไงที่บอกว่า ไม่ได้เข้าครัวบ่อย?

แล้วไหนอะไรที่เรียกว่า ไม่อร่อย?

รสชาตินี้, ฝีมือนี้, มันเกินคำว่าน่าทึ่งไปแล้ว!

ถ้านี่ไม่ถือว่า อร่อย แล้วมันจะไปมีอะไรอร่อยในโลกนี้ได้อีก?

“คุณชายซู คุณล้อเล่นได้เก่งจริงๆ ฝีมือของคุณแม้แต่พ่อครัวเก่งๆ ก็เทียบชั้นฝีมือคุณไม่ได้ แล้วทำไมมันจะไม่อร่อยล่ะ?”

“คือ.. ถ้านี่ยังถือว่าไม่อร่อย งั้นกลัวว่าต่อไปคนอื่นจะไม่มีอะไรกินแล้ว”

ทุกคนโต้แย้งทันที

พวกเขาประทับใจในฝีมือของ ซูเหวิน เป็นอย่างมาก

“ดีแล้วๆ, ทุกคนอย่าเพิ่งตกใจมากเกินไป”

“วันนี้ถือเป็นเรื่องยากที่จะได้เห็น เสี่ยวเหวิน ลงมือสักครั้ง ดังนั้นรีบกินกันเถอะ!”

“มามา มาดื่มๆ”

เซี่ย เฉิงตง ยกแก้วไวน์ขึ้นแล้วพูดด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า

เจ้าบ้านพูดแล้ว และเป็นธรรมดาที่ทุกคนจะไม่พูดอะไรอีก ดังนั้นทุกคนจึงยกแก้วไวน์ขึ้น...

หลังจากผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ

มื้อนี้ถึงจะถือว่ากินเสร็จแล้ว

เมื่อมองไปที่โต๊ะในขณะนี้ จานที่เดิมเต็มไปด้วยอาหารก็ถูกกินจนหมด ซึ่งมันดูสะอาดสะอ้านมาก

ที่เหลือก็เพียงแค่เศษกระดูกกองหนึ่งเท่านั้น

และซึ่งเรื่องนี้ ..มันกลับทําให้ครอบครัวเซี่ยรู้สึกเขินอายเล็กน้อยจริงๆ

อยู่ในสังคมชั้นสูง เคยชินกับการวางท่าทีสง่างาม แต่ในครั้งนี้พวกเขากลับทําตัวเหมือนไม่ได้กินอะไรมาแปดชั่วอายุคน

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างมื้ออาหาร

ซูเหวิน และตระกูลเซี่ย เริ่มคุ้นเคยกันแล้ว

“คุณชายซู ฉันดูไม่ออกจริงๆ ว่าคุณจะยังเด็กขนาดนี้ แต่มีทักษะฝีมือที่ดีขนาดนี้ไปได้ คุณทําได้ยังไง?”

ในที่สุด เซี่ยไห่ ก็เปิดปากถามคำถามที่ทุกคนสงสัย

“ผมเองไม่รู้ บางทีอาจเป็นพรสวรรค์ก็ได้ครับ!”

ซูเหวิน ไม่สามารถอธิบายได้ ดังนั้นเขาจึงเลือกพูดออกไปลอยๆ

ทุกคนตกตะลึง และพูดไม่ออกทันที

คุณชายซู อาจพูดถูก บางทีนี่ต้องใช้ พรสวรรค์ แน่ๆ…

เพียงแต่ว่า พรสวรรค์.. ที่ว่าของเขา น่าจะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่มีที่ไหนในโลกนี้นอกจากเขาแล้ว?

“ฮ่าฮ่า ! !”

“ดี ดี ดี คุณเป็นคนมีพรสวรรค์จริงๆ”

“เสี่ยวเหวิน คุณน่าทึ่งมาก ฉัน เซี่ย เฉิงตง ไม่เคยชื่นชมใครเลยมาก่อนในชีวิต คุณถือเป็นคนแรก”

เซี่ย เฉิงตง หัวเราะเสียงดัง และยกนิ้วให้กับ ซูเหวิน

ยิ่งเขามอง ซูเหวิน มากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกพอใจมากขึ้นเท่านั้น และเมื่อยิ่งมอง ..เขาก็ยิ่งมีความรู้สึกชอบมากขึ้นเรื่อยๆ

“เสี่ยวเหวิน ต่อไปที่มหาลัย คุณ และเสี่ยวเหยา น่าจะเข้ากันได้ดีมากขึ้น เสี่ยวเหยา อ่อนโยน และใจดีมาก แต่ในบางครั้งเธออาจจะโง่ไปบ้าง เอาเป็นว่าทนหน่อยนะ”

“ชีวิตคู่.. มันก็คือการดูแล และประคับประคองซึ่งกัน และกัน เหมือนฉัน กับแม่ของ เสี่ยวเหยา….”

เซี่ย เฉิงตง ยังคงพูดต่อไป

เขามองไปที่ ซูเหวิน น้ำเสียงของเขาดูจริงจัง และเต็มไปด้วยความจริงใจ และเขาดูเหมือนพ่อแม่ที่กำลังตั้งใจเล่าถึง ..เป้าหมายในการใช้ชีวิตคู่

“ฮะ?”

“โอ้…”

ในตอนแรก ซูเหวิน ก็รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย

แต่มาตอนนี้ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าคำพูดของ ลุงเซี่ย มันดูออกจะแปลกๆ ไปนะ?

แต่เขาก็ยังคง พยักหน้า ..รับ

“พ่อ..คุณพ่อพูดอะไรนะ?!”

เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ที่อยู่ข้างๆ ทั้งโกรธทั้งอับอายขึ้นมาบ้างแล้ว

“ลุงใหญ่พูดถูก อยู่ด้วยกันสองคนก็ควรจะดูแล สนับสนุนซึ่งกัน และกัน ใช่ไหม ซู สุดหล่อ คุณว่าจริงหรือเปล่า?”

เซี่ย ชิวเยี่ยน ยิ้มหน้าบาน โดยพูดออกไปอย่างตั้งใจ และเธอดูเหมือนจะตื่นเต้นมากด้วย

“เธอพูดถูก! คุณชายซู นับว่าเป็นผู้ชายที่หาได้ยากแล้ว พี่สาว คุณต้องรีบคว้าโอกาสนี้ไว้”

เซี่ย เคอหมิง ก็เห็นด้วยเช่นกัน

จะเป็นอย่างไรถ้า ลูกพี่ลูกน้อง กับคุณชายซู กลายเป็นคู่รัก และได้แต่งงานกัน?

งั้นทุกคนก็จะกลายมาเป็นครอบครัวเดียวกันนับจากนี้

ที่นี่พี่น้องอย่างพวกเขาก็ยังจะมาเยี่ยมเยือนอีกฝ่ายได้ มาทานข้าวที่บ้านลูกพี่ลูกน้องบ่อยๆ ได้ เพื่อเพลิดเพลินไปกับอาหารที่ พี่เขย.. ทำได้ ถูกต้องไหมล่ะ?

“พวกเธอนี่มัน…”

เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย โกรธมากจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันตัวเองอย่างทำอะไรไม่ถูก

สองคนนี้เข้ากันได้ดีแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

ฉันเริ่มหงุดหงิดแล้วนะ (??へ?? ╬)

นี่ถ้าไม่ใช่ว่าวันนี้คนเยอะ เธอคงได้แจกเกาลัด(บนหัว)ให้แก่สองคนนี้ไปแล้ว

แต่..จะว่าไปแล้ว ถ้าได้อยู่กับ เพื่อนร่วมชั้น ซู จริงๆ ก็ดูเหมือนจะไม่เลว ใช่ไหม?

และใช่ เพื่อนร่วมชั้น ซู ทำอาหารอร่อยมากจริงๆ

เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย แอบเอามือปิดหน้าตัวเองแล้ว...

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว..

พริบตาเดียว ซูเหวิน ก็อยู่ที่บ้านตระกูลเซี่ยมาจนเกือบจะทั้งวันแล้ว

ในระหว่างนี้ทุกคนคุยกันอย่างสนุกสนาน และค่อยๆ คุ้นเคยกัน

ตามคําแนะนําของ เซี่ย เฉิงตง ซูเหวิน ก็ได้ถูกดึงเข้าสู่กลุ่มครอบครัวของ ตระกูลเซี่ย ไปโดย เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย

“คุณชายซู ต่อไปถ้ามีอะไรที่ต้องการความช่วยเหลือก็แท็กหาผมได้โดยตรงเลย ตราบใดที่ผมสามารถช่วยได้ ผมจะพยายามช่วยอย่างเต็มที่”

เซี่ย เคอหมิง พูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า โดยเขาไม่ได้ปฏิบัติต่อ ซูเหวิน ในฐานะคนนอกเลย

“ฉันก็เหมือนกัน ฉันด้วย”

“ใช่ๆ ต่อไปพวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว กับคนในครอบครัวตัวเอง ไม่ต้องเกรงใจไปหรอกนะ”

เซี่ย ชิวเยี่ยน ก็แสดงออกอย่างแข็งขันเช่นกัน

“งั้นต้องขอบคุณทุกคนแล้ว…”

ซูเหวิน เหงื่อออกเล็กน้อยแล้ว และพลางพูดกล่าวด้วยรอยยิ้มออกไป

แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่เขามาเป็นแขกที่บ้านตระกูลเซี่ย แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงความกระตือรือร้นของทุกคน

หลังจากนั้น ทุกคนก็พูดคุยกันอีกครั้ง

ตอนนี้ ซูเหวิน จึงพร้อมที่จะออกจากตระกูลเซี่ยแล้ว ภายใต้คำยินดีของทุกคนในตระกูลเซี่ย

แต่.. เขาก็ไม่รู้ว่ามันเป็นความจงใจของตระกูลเซี่ยหรือไม่

เมื่อ ซูเหวิน ออกมา มีเพียง เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย เท่านั้น ที่ออกมาส่งเขาที่หน้าประตู

คนอื่นๆ ยืนส่งเขาที่หน้าประตูห้องโถง แต่กลับไม่ออกมา

ดูเหมือนว่าพวกเขาอยากจะเว้นที่ว่างให้กับคนหนุ่มสาวทั้ง สองคน…

“เพื่อนร่วมชั้น ซู ขอบคุณมากนะที่มาบ้านของเราวันนี้ และยังมาทำอาหารให้เราทานอีก”

ลานหน้าบ้านก่อนถึงประตู เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ได้มองไปที่ ซูเหวิน แล้วพูดขึ้นอย่างขอบคุณ

“แต่..คุณทำอาหารเก่งขนาดนี้ ทำไมถึงไม่บอกฉันก่อนหน้านี้?”

“ถ้ารู้ว่าฝีมือคุณดีขนาดนี้ ฉันคงให้คุณทําอาหารให้ฉันกินไปนานแล้ว”

ทันทีหลังจากนั้น เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ก็เม้มริมฝีปากของเธอ

เธอดูเหมือนจะเสียดายที่เพิ่งรู้ ..ตอนนี้

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด