ตอนที่แล้วChapter 659 ปฏิเสธที่จะยอมรับ ผู้พิทักษ์มนทล.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 661 สินค้าสูงสุด

Chapter 660 ต่อสู้ยกระดับผังผู้กล้า.


หลังจากที่ดื่มสุราเสร็จ จุนซ่างเซียวก็กลายเป็นรองผู้พิทักษ์มนทลไปแล้ว.

หลังจากเสร็จสิ้นงานเลี้ยง เขาที่นั่งอยู่ในห้องโถง กำลังกุมศีรษะอยู่ “นี่ข้าเมาอย่างงั้นรึ?”

ไม่ได้เมา.

หากแต่มึนงงกับอวิ๋นเหอ.

นับเป็นความโชคร้ายที่ได้มาพบกับอีกฝ่าย.

“เจ้านิกาย.”

ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “การบริหารดินแดน ไม่เหมือนกับดูแลนิกาย ท่านควรจะเตรียมตัวเตรียมใจ.”

จุนซ่างเซียวแทบล้มทั้งยืน เอ่ยออกมาว่า “ที่มีก็เหนื่อยพอแล้ว ยังหางานมาเพิ่มให้กับข้า!”

“รองผู้พิทักษ์.”

เซี่ยกวนคุนก้าวเข้ามา “ท่านจะทำงานในนิกาย หรือว่าทำงานในเมือง?”

“แตกต่างกันอย่างไร?”

“ไม่มีอะไรแตกต่าง พวกเราสามารถมาส่งรายงานที่นี่ได้.”

นี่ข้าเป็นผู้พิทักษ์ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

เจ้าดื่มสุราให้คำมั่นไปแล้ว หากไม่ใช่เจ้า แล้วใครเล่าจะเป็นเป็น?

จุนซ่างเซียวหมดคำจะพูด “อยู่ในนิกาย ทว่าหากเพียงเรื่องเล็กเรื่องน้อยก็ไม่จำเป็นต้องส่งมา.”

“รับทราบ!”

เซี่ยกวนคุนที่ถอยกลับไป.

สองสามวันมานี้ เจ้าเมืองทั้งแปดที่แวะเวียนมายังนิกายนิรันดร เพื่อส่งต่อข้อมูลต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น จำนวนประชากร ตลอดจนกลุ่มผู้มีอิทธิพลต่าง ๆ.

สำหรับผู้ปกครอง แน่นอนว่าต้องมองภาพรวมทั้งหมดเป็นหลัก.

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เจ้านิกายจุนที่มอบหน้าที่นี่ให้กับหลี่ชิงหยางทั้งหมด.

ที่จริงสำหรับผู้พิทักษ์มนทลชิงหยางปรกติก็ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการบริหารมาหลายปีแล้ว เจ้าเมืองทั้งแปดที่จัดการเป็นปรกติ ดังนั้นจึงไม่ได้ส่งผลกับเขามากมายนัก.

อย่างไรก็ตาม.

สิ่งที่เจ้านิกายจุนเป็นกังวลที่สุดนั้น.

ทำอย่างไรที่จะยกระดับดินแดนระดับเก้าให้เป็นดินแดนระดับแปด?

เจตนาที่แท้จริงของอวิ๋นเหอให้เขาเป็นรองผู้พิทักษ์ และคำพูดที่ต้องทำให้เขาต้องตกปากรับคำ ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องกระทำตามคำพูดนั่นเอง.

“เอาล่ะ.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ค่อยเป็นค่อยไปก็แล้วกัน.”

เขาที่ยังไม่คิดที่จะยกระดับดินแดนชั่วคราว ตอนนี้จำเป็นต้องจัดการนิกายให้ดีก่อน.

“ถางจู่ลี่.”

จุนซ่างเซียวที่เรียกลี่ลั่วฉิวมา “ให้สมาชิกหอฝนพรำ ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับนิกายมาร ประวัติทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็อย่าให้หลุดรอดสายตา.”

การปรากฏตัวของคนสวมหน้ากาก เขาเข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องลงมืออีกแน่ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเตรียมตัวรับมือให้ดีที่สุด.

......

ไม่กี่วันหลังจากนั้น.

เกี่ยวกับประวัติทั้งหมดก็ได้รับมา.

จุนซ่างเซียวที่ตรวจสอบอย่างระมัดระวัง เกี่ยวกับสมาชิกที่รอดชีวิตของนิกายมารที่แบ่งแยกออกไป ไม่มีข้อมูลใด ๆ เลย.

“เป็นปัญหาแล้ว.”

ไม่มีข้อมูลอะไรเลย ทำให้เขาเศร้าใจไม่น้อย.

“เจ้านิกาย.”

ในเวลานั้น เย่ซิงเฉินก้าวเข้ามา “ข้าต้องการท้าประลองเลื่อนลำดับผังผู้กลางระดับปฐพี.”

จุนซ่างเซียวเห็นด้วย.

อย่างไรก็ตามเขาก็กล่าวย้ำเตือนอีกฝ่าย “ระวังนิกายทมิฬ พวกสวมหน้ากากให้ดี.”

“อืม.”

เย่ซิงเฉินที่ไม่กังวลอะไร.

เพราะว่าด้วยวิชาพระสูตรไท่ฉวนเก็บซ่อนกลิ่นอายได้ ขอเพียงเขาซ่อนตัว ถึงจะเป็นปราชญ์ยุทธ์ก็ไม่สามารถหาพบ.

เซียวจุ้ยจื่อที่ไม่ได้ตามไปในครั้งนี้ ทว่าเขาที่บ่มเพาะฝึกฝนในนิกาย.

เหล่าศิษย์คนอื่น ๆ เริ่มบ่มเพาะอย่างหนักเหมือนเดิม เพื่อที่จะตัดผ่านระดับให้สูงยิ่งขึ้นกว่าเดิม.

......

เช้าวันถัดมา.

มู่ซ่างหงที่ไม่เพียงมาเยี่ยม ยังมอบศิลาวิญญาณ 100,000 ให้กับเขาด้วย.

เขาที่ไม่คาดหวังนิกายนิรันดรท้าประลองนิกายไป่เหอเซิ่ง ท้ายที่สุดไม่เพียงชนะ ยังเอาชนะเหล่าสำนักนิกายต่าง ๆของจังหวัดตงเห่าอย่างราบคาบ ถือว่าสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดซีเหนียนหยางเป็นอย่างมาก!

จุนซ่างเซียวที่เผยยิ้มหวาน “คนกันเอง ไม่เห็นต้องกล่าวเหมือนกับคนนอกเลย.”

คนกันเองอย่างงั้นรึ?

ใบหน้าของมู่ซ่างหงที่พึงพอใจเป็นอย่างมาก.

เห็นชัดเจนว่าเข้าใจความหมายของเจ้านิกายจุนผิด.

“เจ้านิกายจุน.”

เขาที่เผยยิ้ม “ชนะนิกายไป่เหอเซิ่ง นิกายของท่านมีชื่อเสียงไปทั่วทวีปชิงหยุนแล้ว.”

จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา “เดิมทีจุนโหมวตั้งใจนำศิษย์เซียวจุ้ยจื่อไปทวงความยุติธรรมเท่านั้น เรื่องอื่นไม่ได้คิดเลย.”

เพ่ย!เพ่ย!เพ่ย!

มู่ซ่างหงเอ่ย “ต้นไม้ยิ่งสูงย่อมง่ายที่จะหักโคน การที่เจ้านิกายจุนถ่อมตนก็ถือว่าดีแล้ว.”

“อืม.”

จุนซ่างเซียวเองก็เชื่อเช่นนั้น.

หากแต่เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น จนทำให้กลายเป็นที่กล่าวขวัญนั้น หากไม่เพราะว่ามันคือภารกิจมหากาย์เขาก็คงไม่กระทำเช่นนี้.

ตลกน่า นอกเสียจากว่าศิษย์ของเขาโดนข่มเหง เจ้านิกายจุนจะทำเรื่องให้ใหญ่โตรึ? เขามีเพียงแต่ต้องการพัฒนานิกายอย่างเงียบ ๆ และมั่นคงเท่านั้น.

น่าเสียดาย.

หลากหลายภารกิจ ที่บีบบังคับให้เขาต้องเผยความสามารถ.

ยกตัวอย่างภารกิจมหากาพย์ที่หก คือเอาชนะศิษย์จังหวัดตงเห่ายิ่งจำนวนมากก็ยิ่งดี.

เพื่อรางวัลและการตัดผ่านระดับ มีแต่ต้องทำตัวให้โดดเด่น.

ถึงแม้นว่าข้าไม่อยากโดดเด่น แต่ระบบก็บังคับให้กลายเป็นคนมีชื่อเสียง!

“นี่กำลังโทษข้ารึ?”ระบบเอ่ย.

“แน่นอน.”

มู่ซ่างหงเอ่ย “อีกหกเดือนก็จะถึงงานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกร หากว่านิกายนิรันดรทำผลงานได้ดี ข้าเองก็จะมอบรางวัลเป็นศิลาวิญญาณ 200,000 อีกครั้ง!”

200,000 ศิลาวิญญาณ?

ดวงตาของจุนซ่างเซียวเป็นประกาย เอ่ยกล่าวด้วยจิตวิญญาณที่สูงล้ำ “เจ้าเมืองมู่โปรดวางใจ ในเมื่อนิกายนิรันดรเข้าร่วมแล้ว จะต้องได้รับชัยชนะแน่นอน!”

ก็ดูสิ!

ข้าจะถ่อมตนได้อย่างไร!

......

มู่ซ่างหงที่ไปพบกับบุตรสาว ก่อนที่จะเอ่ยลากลับ.

จากนั้นตระกูลฉู่เมืองหลวง ตระกูลเห่าและตระกูลใหญ่อีกหลายตระกูล ต่างก็มอบของขวัญให้กับเขา.

ผลงานของนิกายนิรันดรนั้นไม่ธรรมดา การที่บุตรของพวกเขาได้เข้าร่วม ทำให้พวกเขาภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก.

“บุตรชาย!”

ประมุขฉู่ก่อนที่จะจากไป เขาที่ตบไปที่ไหล่ของฉู่ซิวหนาน กล่าวด้วยน้ำเสียงภูมิใจ “ฝึกฝนในนิกายนิรันดรให้ดี เพื่อตระกูลของพวกเรา อย่าทำให้เจ้านิกายจุนขายหน้า.”

“อืม!”

ฉู่ซิวหนานที่เอ่ยรับด้วยแววตาหนักแน่น.

ตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว เขามายังนิกายนิรันดรอย่างฝืนใจ เศร้าใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้มันกลับพลิกกลับไปจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย.

เห่าหลิงและนักเรียนคนอื่น ๆ พวกเขาที่ชื่นชอบนิกายนิรันดรเป็นอย่างมาก ตอนนี้ต้องการฝึกฝนที่นี่ชั่วชีวิตเลยก็ว่าได้.

นิกายนิรันดรนั้นช่างมีเสน่ห์ที่เหนือล้ำ หากใครไม่ยินดีเข้าร่วม เกรงว่าจะเสียใจไปชั่วชีวิต.

แน่นอน ว่าแทบทุกคนที่เปลี่ยนไปกันหมด.

ยกตัวอย่างไท่จางเหล่าวังจื่อหาน.

แม้นว่าเขาจะทำหน้าที่กวาดพื้นลานยุทธ์ ทว่าเมื่อสัมผัสกับเหล่าผู้เยาว์เป็นเวลานาน ก็ทำให้จิตใจของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย.

“เอาล่ะ.”

หลังจากประมุขตระกูลใหญ่จากไป จุนซ่างเซียวที่เอ่ยกล่าวเสียงดัง “ฝึกฝนให้หนัก เตรียมตัวเข้าร่วมการประลองผู้นำพยัคฆ์มังกร!”

เจ้าเมืองมู่ให้ความสำคัญกับนิกายนิรันดรมาก เขาย่อมไม่ทำให้อีกฝ่ายผิดหวัง!

ระบบเอ่ยล้อ “ไม่ใช่เพราะว่า 200,000ศิลาวิญญาณหรอกรึ?”

......

ครึ่งเดือนถัดมา.

มีการประกาศผังผู้กล้า.

เย่ซิงเฉินอันดับหนึ่งระดับมนุษย์ ตอนนี้เลื่อนมาเป็นอันดับที่ 49 ชั้นปฐพีแล้ว เป็นข่าวที่สั่นสะเทือนไปทุกหย่อมหญ้า!

“ศิษย์น้องเย่ร้ายกาจมาก.”

“เห็นทีข้าต้องหาเวลาไปสร้างระดับผังผู้กล้าสักหน่อยแล้ว!”

ซูเซียวโม่และลี่เฟยตลอดจนคนอื่น ๆ ที่รู้สึกฮึกเหิมขึ้นเช่นกัน.

อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดถึงงานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกรกำลังจะเริ่ม พวกเขาก็ได้แต่ถอนใจ.

“เจ้านิกาย!”

ลี่ลั่วฉิวที่ก้าวเข้ามา เอยออกมาว่า ”อันดับกองกำลังผู้มีอำนาจ ตอนนี้ได้ประกาศมาแล้ว นิกายนิรันดรของพวกเราติดอันดับที่ 100 ด้วย.

“อันดับเท่าไหร่นะ?”จุนซ่างเซียวสอบถาม.

“100.”

“......”

จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุก “เพียงแค่ติดอันดับ 100 กองกำลังผู้มีอำนาจนี่คือยอดเยี่ยมแล้วรึ?”

“นี่ก็ยอดเยี่ยมแล้ว!”

ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “นิกายที่ติดอันดับนั้นมีระดับอย่างต่ำคือนิกายระดับสาม นิกายนิรันดรของพวกเiาอยู่ในอันดับที่ 100 เป็นเพียงแค่นิกายระดับห้า ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมที่สุด!”

จุนซ่างเซียวเผยยิ้ม “เช่นนั้น เปิ่นจั้วก็ประสบความสำเร็จเล็กน้อยแล้วสินะ.”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด