ตอนที่แล้วจอมปราชญ์นิรันดร์ บทที่ 46 วานรวิญญาณปรากฏ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปจอมปราชญ์นิรันดร์ บทที่ 48 แปลงร่างวานรโลหิต

จอมปราชญ์นิรันดร์ บทที่ 47 ตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง


"เจ้าสารเลวคนไหนกล้าทำลายเรื่องสำคัญของนิกายฮวนสี่!"

ผู้อาวุโสเฉียนโกรธจัดในทันที หลังจากที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง มันก็กระโดดขึ้นไปบนกระบี่บินบนท้องนภาพร้อมกับนำทุกคนจากนิกายฮวนสี่ไล่ตาม

แสงวาบวับพาดผ่านท้องนภา

ใบหน้าของผู้อาวุโสเฉียนซีดอย่างน่าสยดสยองขณะที่สายตาจ้องมองไปที่ผู้อาวุโส กัดฟันพร้อมกับดุด่าว่า "ดูที่ปากพาฉิบหายของท่านสิ!"

ก่อนหน้านี้ ผู้อาวุโสเฉินเพิ่งกล่าวว่าเป็นไปไม่ได้ที่ซูสือโม่วจะหลบหนีเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามได้รับบาดเจ็บสาหัส

ในท้ายที่สุด มีวานรวิญญาณที่ไม่รู้จักโผล่ออกมาจากไหนก็ไม่รู้และสังหารศิษย์นิกายไปบางส่วน เจ้าตัวนี้ยังช่วยเหลือพาซูสือโม่วออกไปอีกด้วย

ผู้อาวุโสเฉินทำสีหน้าไร้เดียงสา

สำหรับการล่าสังหารซูสือโม่วนี้ ผู้อาวุโสเฉินถูกผู้อาวุโสเฉียนดุอย่างรุนแรงสองครั้งแล้ว มันยังต้องอดทนต่อความโกรธจนเต็มท้องและไม่มีที่ไหนให้ระบายความคับข้องใจ

ผู้อาวุโสเฉินมองไปที่วานรวิญญาณที่พุ่งไปข้างหน้าอย่างดุเดือด )ดวงตาเต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาทขุ่นเคือง มันกล่าวอย่างเย็นชาว่า "ความเร็วของเจ้าสารเลวนี้ไม่เร็ว มันวิ่งไปได้ไม่ไกล!"

คล้ายกับที่เกิดขึ้นเมื่อหกเดือนที่แล้วขณะที่ซูสือโม่วถูกฝูงสุนัขป่าล้อมรอบ ในเวลาที่มันเผชิญกับอันตรายร้ายแรง เป็นวานรวิญญาณที่ยืนหยัดพร้อมกับช่วยเหลือมันจากประตูนรก

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ครั้งนี้แตกต่างไปจากเมื่อหกปีที่แล้ว

วานรวิญญาณฉลาดกับการขึ้นเนินและเชี่ยวชาญการปีนผาศิลา มันสามารถกระโดดและแกว่งไกวในป่าได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม ความเร็วไม่ใช่ความถนัดของมัน

นอกจากนี้ วานรวิญญาณยังบรรทุกคนบนหลัง

ซูสือโม่วใช้สภาพแวดล้อม ภูมิประเทศและปัจจัยภายนอกเพื่อทำให้นิกายฮวนสี่ได้รับบาดเจ็บสาหัส อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเหล่านี้ยังทำให้ยากมากสำหรับวานรวิญญาณที่จะหลีกพ้นออกจากแนวสายตาของนิกายฮวนสี่

ปัจจัยภายนอกเหล่านี้คือดาบสองคม มีประโยชน์ทั้งต่อตนเองและศัตรู

ตอนนี้เป็นช่วงเริ่มต้นฤดูหนาวและมีหิมะตกหนัก แม้ว่าต้นไม้เหี่ยวเฉายังคงอยู่รอบๆ ต้นไม้เหล่านี้ก็แห้งแล้ง ปราศจากความเขียวขจีอุดมสมบูรณ์ของป่าและไม่มีความสามารถในการพรางตัวจากต้นไม้กิ่งก้านและใบไม้หนาทึบ เส้นทางที่ทิ้งไว้เบื้องหลังจากการหลบหนีของวานรวิญญาณก็มองเห็นได้ด้วยการชำเลืองมองเพียงครั้งเดียว

ซูสือโม่วรู้สึกกระสับกระส่าย มันพิงบนหลังของวานรวิญญาณพร้อมกับฟังเสียงวายุหวีดหวิวข้างหู หัวใจเต็มไปด้วยความโศกเศร้าขณะที่กล่าวด้วยเสียงแผ่วเบาว่า "วานรบัดซบ เราหนีไม่พ้น วางข้าพเจ้าลงแล้วจากไปเพียงลำพัง"

วานรวิญญาณไม่ส่งเสียง สายหมอกพุ่งออกมาจากรูจมูก มันพุ่งไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง หลั่งเหงื่อมากมาย แน่นอน มันใช้กำลังทั้งหมดแล้วทั้งยังใช้พลังงานไปมาก

เสียงเสื้อผ้าโบกสะบัดดังเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ

ความเร็วของกระบี่เหินของนักรบขอบเขตสกัดปราณเร็วกว่าความเร็วของวานรวิญญาณอย่างเห็นได้ชัด!

ซูสือโม่วถอนหายใจเบาๆ "วานร คนเหล่านี้ต้องการสังหารข้าพเจ้าเท่านั้น วางข้าพเจ้าลงแล้วเจ้ายังมีความหวังที่จะหลบหนี ไม่เช่นนั้น ถ้าเราทำแบบนี้ต่อ คนเหล่านี้จะตามทันเราในเวลาไม่ถึง15นาที เราทั้งคู่จะสิ้นชีวิตที่นี่"

วานรวิญญาณยังคงทำท่าหูหนวกต่อไป สีหน้ามันดื้อรั้นและสายตาเฉียบคม มันพุ่งไปข้างหน้าอย่างดื้อรั้น

ซูสือโม่วกัดฟันพร้อมกับต่อยไหล่ของวานรวิญญาณอย่างแรง กล่าวด้วยเสียงอันดังว่า "ปล่อยข้าพเจ้าไว้คนเดียวแล้วหนึ่งในพวกเราเท่านั้นที่จะสิ้นชีวิต ถ้าเจ้าพาข้าพเจ้าไปด้วย จะต้องสิ้นชีวิตทั้งคู่! นี่เป็นตรรกะที่ง่ายๆ เหตุใดเจ้าถึงไม่เข้าใจ? เหตุใดเจ้าถึงไม่เข้าใจ?"

"วานรบัดซบ ไม่ใช่ว่าเจ้าฉลาดและมีไหวพริบเร็วมากหรือ? เจ้ากลายเป็นคนโง่ไปแล้ว! รีบไสหัวไป!"

โฮก! โฮก!

ดวงตาของวานรวิญญาณแดงก่ำ มันพลันคำรามเสียงดัง เขย่าฟ้าดิน เมื่อปะทะ เกล็ดหิมะบนต้นไม้เก่าแก่โดยรอบก็ล้มลงตามลำดับ

กลุ่มนิกายฮวนสี่ที่ตามมาติดๆ ตกตะลึงกับเสียงคำรามอย่างกะทันหันของวานรวิญญาณ

กลัว? โกรธ? หรือสิ้นหวัง?

คนเหล่านี้ไม่รู้

อย่างไรก็ตาม ซูสือโม่วเข้าใจ

"เจ้าต้องการจะทำเช่นนั้นอย่างแท้จริง นี่ไม่ใช่เรื่องของเจ้า!"

นี่คือการตอบสนองของวานรวิญญาณต่อมัน

วานรวิญญาณไม่ได้โง่ ตั้งแต่วินาทีที่มันช่วยซูสือโม่ว มันก็รู้อยู่แล้วว่าพวกมันอาจจะสิ้นชีวิตที่นี่

อย่างไรก็ตาม วานรวิญญาณยังคงช่วยเหลือ

หกเดือนที่แล้ว วานรวิญญาณช่วยเหลือซูสือโม่วเนื่องจากมันเป็นศัตรูกับฝูงสุนัขป่า

หกเดือนต่อมา วานรวิญญาณช่วยเหลือซูสือโม่วเพราะมันเห็นอีกฝ่ายเช่นเดียวกับคู่หู คู่หูที่สามารถแบ่งปันความทุกข์ยากพร้อมกับความเป็นความตายร่วมกันได้

นี่คือความเข้ากันได้ระหว่างมนุษย์กับวานร มีกระแสจิตถึงกันโดยไม่จำเป็นต้องสื่อสารในถ้อยคำ

ซูสือโม่วเงียบไปชั่วขณะ จากนั้นมันก็หัวเราะ

"ฮ่าๆ ๆ ๆ !"

ซูสือโม่วหัวเราะอย่างเต็มที่

กลุ่มของนิกายฮวนสี่ดูงุนงง คนเหล่านี้ไม่เข้าใจว่าเหตุใดซูสือโม่วถึงยังหัวเราะได้ ทั้งยังเต็มใจและมีความสุขเช่นนี้

หัวใจของคนเหล่านี้ชาด้านไปหมดแล้วและไม่สามารถเข้าใจมิตรภาพระหว่างซูสือโม่วกับวานรวิญญาณได้

ในสายตาของทุกคน วานรวิญญาณโดยพื้นฐานแล้วคือสัตว์ร้ายที่ไม่ได้รับสติปัญญาทางจิตวิญญาณ และซูสือโม่วก็เป็นชายที่มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

อย่างไรก็ตาม ยิ่งซูสือโม่วหัวเราะอย่างมีความสุขมากขึ้น คนเหล่านี้ก็ยิ่งรู้สึกโกรธมากขึ้น

"จู่โจม!"

ผู้อาวุโสเฉียนออกคำสั่ง กระบี่บินหลายเล่มฉีกวายุและหิมะพุ่งเข้าหาพวกซูสือโม่วเต็มท้องฟ้า

ด้วยความพยายามเพียงเล็กน้อยอีกทั้งระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ลดลงมาก พวกมันตกอยู่ในขอบเขตการโจมตีของกลุ่มนิกายฮวนสี่แล้ว

วานรวิญญาณวิ่งไปทางซ้ายแล้วเหวี่ยงตัวไปทางขวา ดัดตัวไปทางหนึ่งแล้วระโจนไปอีกทางหนึ่ง มันหลบการโจมตีด้วยพลังทั้งหมด

ฉูด!

ประกายโลหิตปรากฏขึ้น

วานรวิญญาณสั่นไปชั่วขณะและซวนเซ หลังจากนั้น มันก็ยืดหลังพร้อมกับพุ่งตัวต่อไป ทำท่าเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ซูสือโม่วมองลงไปและเห็นว่าต้นขาของวานรวิญญาณถูกแทงทะลุโดยกระบี่บิน โลหิตหลั่งไหลอย่างหนักไม่หยุด มีรอยโลหิตแดงสดใสเหลืออยู่บนหิมะด้านหลัง

หัวใจของซูสือโม่วปวดร้าว มันรู้สึกได้ชัดเจนว่า ก่อนหน้านี้ กระบี่นี้มุ่งหน้ามาที่กลางหลังมัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อจวนตัว วานรวิญญาณพลันกระโดดขึ้น…

วานรวิญญาณสังเกตเห็นความกังวลของซูสือโม่ว มันเอียงคอแล้วยิ้ม ดูงี่เง่าเล็กน้อย ดูราวกับว่าต้องการจะทำให้ซูสือโม่วรู้สึกมั่นใจ

สายตาของซูสือโม่วค่อยๆ เบลอ

มันไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะพายุหิมะแรงเกินไปหรือเหตุผลอื่นๆ หรือไม่

ความเร็วของวานรวิญญาณลดลงอย่างเห็นได้ชัด การก้าวเท้าก็ไม่รวดเร็วว่องไวเช่นกัน มันเดินกะโผลกกะเผลก ดูกระเสือกกระสนน่าสมเพชเล็กน้อย

ต้นขามันถูกแทงทะลุและคงจะเจ็บปวดแทบสิ้นชีวิต มันจะไม่เป็นไรได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตาม วานรวิญญาณยังคงไม่ยอมแพ้

ฉับพลันนั้นเอง วานรวิญญาณก็ขว้างกระบองโลหะผสมในมือออกไป เหวี่ยงซูสือโม่วมาด้านหน้าอกและจับอีกฝ่ายเอาไว้

นี่เป็นเพียงการกระทำที่ง่ายๆ แต่ซูสือโม่วเข้าใจมากกว่านั้น

วานรวิญญาณกังวลเรื่องกระบี่บินที่มาจากด้านหลัง

มันกังวลว่ากระบี่บินจะโดนซูสือโม่วก่อนเป็นอันดับแรก ดังนั้น มันจึงอุ้มซูสือโม่วไว้ที่หน้าอกขณะเผยหลังของตนเองให้กับกระบี่บิน!

กลุ่มนิกายฮวนสี่กอย่างกระชั้นชิดและเข้ามาใกล้

ในทันที!

หางตาของซูสือโม่วก็กระตุกอย่างแรง หนังศีรษะพองขึ้นพร้อมกับขนลุก

เจ้าตัวนี้ตกอยู่ในอันตรายอย่างมาก!

โดยปราศจากดาบจันทร์ยะเยือกข้างกาย ซูสือโม่วนำธนูผลึกโลหิตออกมาทันที จากมุมหนึ่งของหางตา มันเห็นอาวุธวิญญาณรูปวงแหวนท่ามกลางกระบี่บินจำนวนมากที่อยู่ด้านหลังวานรวิญญาณ ลวดลายวิญญาณที่สว่างไสวจับตาสองดวงส่องแสงอยู่บนวัตถุนี้

วานรวิญญาณไม่รู้สึกถึงภัยคุกคามของอาวุธวิญญาณรูปวงแหวน มันยากที่จะหลบกระบี่บินมากมาย มีบาดแผลเพิ่มเติมปรากฏขึ้นบนร่างกาย และสามารถมองเห็นเลือดเนื้อได้ เป็นภาพที่น่าสยดสยอง

อาวุธวิญญาณรูปวงแหวนนี้พุ่งเข้าหากลางหลังของวานรวิญญาณ

พวกมันไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อีก!

ซูสือโม่วกัดปลายลิ้น ใช้ความแข็งแกร่งที่เหลือทั้งหมดในร่างกาย ยกธนูผลึกโลหิตขึ้นและทุบไปทางอาวุธวิญญาณรูปวงแหวน

เคล้ง!

ร่างกายทุกส่วนของซูสือโม่วสั่นสะท้าน ธนูผลึกโลหิตลุดออกจากมือ

หมอกโลหิตปะทุออกมาจากแขนขวาของซูสือโม่วทุกส่วน ผิวหนังระเบิดเปิดออก เส้นเอ็นขนาดใหญ่หัก กระดูกทั้งหมดในแขนมันหักและห้อยลงมา

นี่คืออาวุธวิญญาณระดับกลางโดยมีผู้ฝึกเทพยุทธ์ขอบเขตก่อตั้งรากฐานขั้นกลางทำการโจมตีด้วยพลังทั้งหมด

ซูสือโม่วไม่สามารถทนรับได้แม้แต่น้อย

อาวุธวิญญาณรูปวงแหวนหยุดชั่วคราวเมื่อกระทบกับธนูผลึกโลหิตแต่วัตถุนี้ก็ยังคงกระทบอย่างแรงที่หลังของวานรวิญญาณในที่สุด

ปัง!

หลังของวานรวิญญาณยุบลงไปลึก ได้ยินเสียงกระดูกหักน่าสยดสยอง ทั้งร่างกายของมันสั่นสะเทือน ขณะที่จับซูสือโม่วไว้ มันถูกเหวี่ยงขึ้นไปบนอากาศโดยตรงก่อนที่จะตกลงมาบนพื้นหิมะที่อยู่ใกล้เคียง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด