ตอนที่แล้วChapter 613 ด่านทดสอบรับศิษย์.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 615 ราชันรัตติกาลผู้เกรี้ยวกราด.

Chapter 614 พวกเรามาท้าประลอง ไม่ได้มาหาเรื่อง!


คน 500-600 คน ถูกนำเข้ามาในนิกายนิรันดร นั่งอยู่บนลานยุทธ์ เริ่มทดสอบรอบสอง.

การทดสอบรอบนี้ง่ายมาก ทุกคนจะได้รับวิชาบ่มเพาะให้ไปศึกษา.

สำหรับคนที่มีพรสวรรค์และความตระหนักรู้ยอดเยี่ยม ก็จะสามารถจดจำสัจจะคาถาและโคจรพลังบ่มเพาะได้ในทันที.

วิชาบ่มเพาะที่นิกายนิรันดรมอบให้ทุกคนศึกษา แม้นว่าจะมีระดับไม่สูง ทว่าก็ยังแข็งแกร่งกว่าวิชาบ่มเพาะทั่วไปมาก!

“ควรค่าเป็นนิกายระดับสามA!”

ผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งที่คิดในใจ “นำวิชาบ่มเพาะมาให้ฝึกฝนเพื่อทดสอบการตระหนักรู้ น่าเกรงขามจริง ๆ!”

หากสามารถโชคดีได้เป็นศิษย์ก็นับว่าโชคดี หากแม้นพลาดโอกาสอย่างน้อยก็ได้เรียนรู้วิชาบ่มเพาะที่หาไม่ได้เหล่านี้.

หลายต่อหลายคนที่ต้องการเข้าร่วมนิกายนิรันดรมากยิ่งขึ้น พวกเขาที่ตั้งใจตระหนักรู้วิชาบ่มเพาะอย่างจริงจัง.

หลังจากผ่านไปสองชั่วยาม.

การทดสอบรอบที่สองก็จบลง คนที่ตระหนักรู้วิชาบ่มเพาะนั้นมีมากกว่า 200 คน.

ไม่ต้องสงสัย หลังจากผ่านการทดสอบสองรอบ ทั้งกายเนื้อและจิตใจ ตลอดจนพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม พวกเขาได้รับศิษย์ที่โดดเด่นเข้ามาแล้ว.

เจียงเซี่ยที่รับสมัครและตรวจสอบความสามารถพิเศษอีกครั้ง.

“ติ๊ง! ติ๊ง!”

จุนซ่างเซียวในห้องโถง ได้ยินเสียงแจ้งเตือน ท้ายที่สุดศิษย์ของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็น 10221 คะแนนสนับสนุน 3211.

คน 3,000-4,000 รับเพียง 220  ถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก.

จุนซ่างเซียวหาได้ใส่ใจ การทดสอบศิษย์ใหม่สองรอบนั้น คนที่ผ่านมาได้ถึงจะสามารถฝึกฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังลดทรัพยากรที่เขาต้องหล่อเลี้ยงศิษย์น้อยลงด้วย.

เช้าวันถัดมา.

นิกายนิรันดรที่ประกาศสู่สาธารณะ จะมีการรับศิษย์ทุก ๆ หนึ่งเดือน โดยต้องผ่านการทดสอบสองรอบ ถึงจะรับเข้าเป็นศิษย์.

ไม่เลว.

เหล่าศิษย์ที่เพิ่งรับเข้ามา.

เจ้านิกายจุนที่ออกมาตรวจสอบยืนยันด้วยตัวเอง.

ตอนนี้นิกายนิรันดรแบ่งศิษย์ออกเป็นสามประเภท ศิษย์ฝึกหัด ศิษย์สายนอกและศิษย์สายใน ซึ่งพวกเขาจะได้รับทรัพยากรแตกต่างกันไป.

แน่นอนนอกจากทรัพยากรที่พวกเขาได้รับเป็นประจำ ศิษย์ทุกคน ล้วนต้องการเติบโตเร็วขึ้น จะต้องทำภารกิจนิกาย ซึ่งจะได้รับคะแนนศิษย์เพื่อแลกเปลี่ยนทรัพยากร ยกตัวอย่างผงรวมวิญญาณและผงผสานวิญญาณเป็นต้น.

หลังจากข่าวนี้ได้ประกาศออกไป เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ทั่วจังหวัดซีเหนียนหยางที่พูดคุยกันไปมา.

การตรวจสอบศิษย์เข้าร่วมนิกายนั้น เป็นเรื่องปรกติของทุกที่ แต่ที่พวกเขาพูดไม่ออก คือนิกายนิรันดร ทำการรับศิษย์ทุกเดือน นี่มีเวลาว่างขนาดนั้นเลยรึ?

หากแต่ก็ไม่มีใครเอ่ยกล่าวอะไรมากนัก.

เจ้านิกายจุนต้องการรับศิษย์ระดับสูง ต้องการพัฒนานิกายให้แข็งแกร่งให้เร็วที่สุด หากมีคนรู้ว่าเป้าหมายเจ้านิกายจุนต้องการรับศิษย์ถึงแสนคน พวกเขาจะยิ่งตื่นตะลึงยิ่งกว่านี้.

......

ทรัพยากรและอุปกรณ์ที่เพรียบพร้อม ศิษย์ทุกคนที่ฝึกฝนอย่างจริงจัง หลายคนที่ออกไปทำภารกิจเป็นประจำ เพื่อที่จะรับคะแนนเพื่อแลกเปลี่ยนรางวัล.

เจียงเซี่ยและสองพี่น้องหนิงคอยชี้แนะและแก้ปัญหายุทธ์ให้กับศิษย์ทุกคน.

เหล่าเหว่ยที่รับสมาชิกหอสมุนไพรเพื่อปลูกสมุนไพร เหล่าเจิ้นเองก็สอนเรื่องค่ายกลให้กับคนที่มีพรสวรรค์.

บนหลังคาห้องโถง.

จุนซ่างเซียวที่แผ่จิตสัมผัสกระจายไปทั่วนิกาย ด้วยใบหน้าที่มีความสุข.

เขาที่ข้ามโลกมา สองปีแล้ว.

กับสำนักที่ใกล้จะล่มสลาย ตอนนี้มีศักยภาพสูง นับว่าเขาประสบความสำเร็จไม่น้อย.

“ชิงหยาง.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย ”ศิษย์นับวัน จะยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ พวกเราควรจะวางแผนขยายนิกายออกไป.

หลี่ชิงหยางที่เปลี่ยนแปลงนิกายหลายครั้งแล้ว ตอนนี้รับรองศิษย์ได้ 1-2 หมื่นคนอย่างไม่มีปัญหา ทว่ากับศิษย์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ก็ควรเตรียมพร้อมขยายออกไปอีก.

เทือกเขาที่นิกายนิรันดรตั้งอยู่นี้ มีขนาดใหญ่สามารถขยายออกไปได้อีกมาก.

“เจ้านิกาย.”

หลี่ชิงหยางเอ่ย “ศิษย์ได้ออกแบบ สร้างพิมพ์เขียวไว้หลายอัน ท่านเลือกได้เลย.”

“งั้นรึ?”

จุนซ่างเซียวที่กระโดดลงมาจากหลังคา “นำมันมาให้เปิ่นจั้วดู.”

หลี่ชิงหยางที่ก้าวเข้ามาในห้องโถง หลี่ชิงหยางที่โบกมือ นำพิมพ์เขียวออกมา ซึ่งมีมากกว่า 20 อัน.

พิมพ์เขียวที่หลายแบบแยกกัน.

หอพัก ห้องเก็บของ สวนและสระน้ำ ไปจนถึงห้องน้ำเลยทีเดียว.

“เลือกอันนี้.”

จุนซ่างเซียวที่ชี้ไปยังพิมพ์เขียวอันหนึ่ง.

ซึ่งเป็นพิมพ์เขียวที่ใหญ่และซับซ้อนที่สุด.

ในเมื่อกลายเป็นนิกายแล้ว จะต้องสร้างให้ใหญ่ หรูหรา ให้ดูน่าเกรงขามต่อทุกคนที่ได้มาเห็น.

อย่างไรก็ตาม.

ยิ่งหรูหราเท่าใดก็ยิ่งมีราคาสูงมากเท่านั้น.

“.”

จุนซ่างเซียวที่ส่งแหวนเก็บของออกไป “ด้านในนั้นมี 10 ล้านเหรียญ วัตถุดิบที่ใช้จะต้องดีและแพง!”

“ครับ!”

หลี่ชิงหยางที่เริ่มวางแผนการขยับขยายในทันที.

การขยายพื้นที่ไม่ต้องเรียกช่างไม้เข้ามา ทว่าเขานำเหล่าศิษย์น้องมาใช้ในการขยายนิกายในครั้งนี้.

ด้วยกลุ่มของบรรพชนยุทธ์และกษัตริย์ยุทธ์ มาสร้างบ้าน ความเร็วย่อมเหนือกว่าคนธรรมดาอยู่แล้ว.

ที่สลดที่สุดคงเป็นหมูป่าแคระ.

ด้วยต้องทำการขยายสวนสมุนไพรและบำรุงดิน ยากจะมีเวลาพักผ่อน เวลานี้มันยังถูกนำมาขยายปรับพื้นที่อีกด้วย.

อย่างไรก็ตาม.

เจ้าตัวน้อยก็เปลี่ยนไปมาก.

ไม่เพียงแค่ตัวใหญ่กว่าเดิม รูปร่างของมันยังดูแข็งแกร่ง ดูสมส่วนเปี่ยมด้วยกล้ามเนื้อที่งดงามเป็นอย่างมาก.

มันยกระดับขึ้นมาไม่น้อย.

มันไม่ได้วิวัฒนาการเหมือนกับเสี่ยวหลง ทว่ามันที่ต้องตะเกียกตะกาย พยายามที่จะอยู่รอดจนเปลี่ยนไปนั่นเอง.

“เจ้าตัวนี้มันพันธ์อะไร?”จุนซ่างเซียวที่กล่าวเสียงเบา.

ก่อนหน้านี้มันดูเหมือนหมู ตอนนี้กับไม่เหมือนแล้ว.

ระบบเอ่ย “สัตว์มายาธาตุปฐพีไม่ควรจะใช่สัตว์ธรรมดา ตอนนี้ส่วนที่ไร้ประโยชน์ของมันเริ่มสลายไปหมดแล้ว.”

“งั้นรึ?”

จุนซ่างเซียวที่คาดหวังเป็นอย่างมาก ว่าวันหนึ่งเจ้าตัวน้อยนี้จะเหนือล้ำไม่ธรรมดา.

“โฮกกกก!”

ในเวลานั้น เพียงแค่หันหลังให้ หมูป่าแคระที่ล้มลงนอนไปในทันที.

จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา ก่อนนำดาบมังกรเขียวออกมา “กล้าแกล้งตายอีกครั้ง ข้าจะสับเจ้า ในทันที!”

ฟิ้ว!

หมู่ป่าเคราะที่ดีดผึงขึ้นยืน เปี่ยมด้วยพลังไปทำงานต่อทันที.

......

กวี๊ก ๆ ---

บนท้องฟ้าสถาบันบัญชาสวรรค์ เสียงของเหยี่ยวที่ดังหวีดแหลม เหยี่ยวทมิฬสันเขาอสูรที่ร่อนลงพื้นช้า ๆ กระแสลมที่โบกพัดออกไปรอบ ๆ อย่างรุนแรง.

“จุนเหล่าซือ!”

นักเรียนทุกคนที่เอ่ยกล่าวด้วยความเคารพ.

จุนซ่างเซียวที่สวมแว่นกันแดดสีดำ ก้าวเข้าไปในห้องโถงสถาบัน.

การมาในครั้งนี้ มีเป้าหมายเดียว คือขอบคุณที่ช่วยส่งยอดฝีมือไปปกป้องเขาลับ ๆ.

“ผู้อำนวยการซือถู.”

หลังจากถูกเชิญนั่ง เขาก็นำเม็ดยากลั่นร่างกายสองขวดออกมา กล่าวออกไปว่า “ขอบคุณที่ได้ช่วยเหลือ จุนโหมวซาบซึ้งนัก นี่คือเม็ดยาบูรณะร่างกาย ขอมอบเพื่อแสดงความนับถือเล็กน้อย.”

“เม็ดยาบูรณะร่างกายที่ตระกูลอ้ายขายนะรึ?”ซือถูเห่าหยุนที่เผยท่าทางประหลาดใจออกมา.

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ไม่ผิด.”

“เจ้านิกายจุนเป็นอาจารย์ผู้ทรงเกียรติของสถานบันเรามีปัญหาย่อมต้องยื่นมือเข้าช่วยเป็นธรรมดา”ซือถูเห่าหยุนเอ่ยและรับขวดยามา ไม่ปฏิเสธเลยแม้แต่น้อย.

หลังจากพูดคุยกันพักหนึ่ง เขาก็เดินทางไปยังสถาบันรับรองสิทธิ์ต่อ พร้อมกับมอบเม็ดยาบูรณะร่างกายสองขวด จากนั้นก็เดินทางไปยังคฤหาสน์เจ้าเมืองเพื่อพบกับเจ้าเมืองมู่.

มู่ซ่างหงที่ต้อนรับอย่างดี.

แม้แต่เตรียมจัดงานเลี้ยงให้ ต้อนรับอย่างอบอุ่น เขาที่แม้แต่ไม่ต้องการเรียกเจ้านิกายจุนแล้ว ปรารถนาที่จะเรียก ลูกเขย ออกมาด้วยซ้ำ.

“เจ้าเมืองมู่.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ในนิกายมีงานเยอะ คงต้องขอตัวก่อน.”

เจ้าเมืองมู่ที่ออกมาส่งด้วยตัวเอง.

หลังจากกลับนิกายแล้ว จุนซ่างเซียวยังไม่ได้ก้าวเข้าไปยังห้องโถง เย่ซิงเฉินก็ก้าวออกมา “เจ้านิกาย ศิษย์ต้องการไปท้าประลอง ผู้เยาว์ในผังผู้กล้า.”

หลังจากที่ได้รับสิทธิ์ท้าประลอง เขาไม่ได้ออกไปประลองทันที ทว่ายังคงบ่มเพาะความแข็งแกร่งในนิกายอยู่นั่นเอง.

ตอนนี้เขาก้าวไปถึงกษัตริย์ยุทธ์แล้ว ถึงเวลาอันควรแล้ว.

“เจ้านิกาย ข้าเองก็ต้องการไปด้วย!”เซียวจุ้ยจื่อเอ่ย.

จุนซ่างเซียว“....”

ดังนั้น หลังจากเย่ซิงเฉินและเซียวจุ้ยจื่อกินอาหารเสร็จ ก็ออกจากนิกายนิรันดร.

ทั่วทั้งยุทธภพเกรงว่าจะไม่สงบเร็ว ๆ นี้.

เพราะว่าอดีตราชันย์รัตติกาลผู้นี้ ต้องการท้าทายยอดพรสวรรค์ผังมนุษย์ ไปเรื่อย ๆ เป้าหมายก็คืออันดับหนึ่งผังสวรรค์!

“ศิษย์น้อง.”

ระหว่างทาง เซียวจุ้ยจื่อเอ่ย “พวกเราจะไปที่ใหน?”

เย่ซิงเฉินเอ่ย “สถานที่แรกคงเป็นเมืองที่ใกล้ที่สุด ต้องไปตรวจสอบรายการผังผู้กล้าก่อน จากนั้นก็ค่อยไปเยือนทีละคน.”

......

จังหวัดซีเป่ยเหอ ตระกูลฉิน.

ตูมมมม ------

เสียงระเบิดดังกึกก้อง ประตูคฤหาสน์ที่มีอายุหลายร้อยปี ถูกทำลาย เหล่าผู้คุ้มกันที่นอนแผ่อยู่บนพื้นด้วยสภาพอนาถ.

เซียวจุ้ยจื่อที่งงงวยไปในทันที.

ศิษย์น้องเย่ พวกเรามาท้าประลอง เฮ้ย ไม่ได้มาหาเรื่อง!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด