ตอนที่แล้วบทที่ 26: ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 28: งานแต่งของเพื่อนสนิท

บทที่ 27: น้ำผึ้งกลืนวิญญาณ


บทที่ 27: น้ำผึ้งกลืนวิญญาณ

ในขณะนี้ หวังยู่หลุนกำลังตกอยู่ในความสิ้นหวัง ขณะที่ซูฟ่านผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ที่ช่วยเขาไว้สองครั้งกำลังกินอาหารอย่างสบายใจ

“พี่ซู ข้าไม่ได้นำหินวิญญาณติดตัวมาด้วยมากนัก ดังนั้นเราเอาแค่นี้ก่อนดีไหม?” หวังยู่หลุนกระซิบกับซูฟ่าน

ซูฟ่านเหลือบมองหวังยู่หลุนแล้วหัวเราะ “เจ้าล้อข้าเล่นรึเปล่า? เราเพิ่งจะเริ่มต้นกันเอง”

ภายใต้ผลของวิชาอิ่มเอม อาหารวิญญาณทั้งหมดก็กลายเป็นพลังปราณวิญญาณอันบริสุทธิ์ และค่อยๆ เสริมสร้างร่างกายของซูฟ่าน

ความรู้สึกพึงพอใจและความสุขบังเกิดขึ้นภายในใจของเขา

วิชานี้อาจส่งผลต่ออารมณ์ของผู้ร่ายด้วยหรือเปล่า?

ในขณะนี้ ในที่สุดซูฟ่านก็ทานอาหารจานสุดท้ายเสร็จและหยุดสั่งเพิ่ม

“เจ้าได้น้ำผึ้งมากี่ปอนด์ มันเพียงพอที่จะทำให้แม่ยายของเจ้าพอใจไหม?” ซูฟ่านถามขณะขัดจังหวะการสนทนา

“ประมาณ 10 ปอนด์ ข้าคิดว่ามันน่าจะเพียงพอแล้ว” หวังยู่หลุนตอบ จริงๆ แล้ว เขาก็ไม่แน่ใจเช่นกัน เนื่องจากน้ำผึ้งของผึ้งกลืนวิญญาณนั้นเป็นของหายาก แต่มันเพียงอย่างเดียวก็ยังไม่เพียงพอที่จะสามารถรักษาอาการบาดเจ็บภายในได้

“เอาล่ะ บอกข้ามาละกันหากเจ้าต้องการให้ข้าช่วยอะไร เผื่อว่าข้าจะสามารถช่วยเจ้าได้”

หลังจากกล่าวคำอำลาทั้งสองแล้ว ซูฟ่านก็มุ่งหน้าไปที่หอการค้าที่รับหน้าที่ในการรับซื้อสมบัติและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ

ทันทีที่เขาเข้ามา ซูฟ่านก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น

“นายท่านโปรดตามข้าไปที่ห้องวีไอพีก่อน หลังจากนั้น ผู้ประเมินสมบัติของหอการค้าจะมาให้บริการท่านต่อเอง” ผู้ฝึกตนที่ดูเหมือนผู้บริหารระดับสูงของอาคารว่านเป่ากล่าว

“อืม”

ซูฟ่านมองไปรอบๆ อาคารที่มีผู้คนพลุกพล่าน เขาเคยได้ยินมาก่อนว่าหอการค้ามักจะยุ่งเหยิงเสมอหลังจากที่ดินแดนลับเปิดขึ้น เนื่องจากผู้คนมากมายมักพบสมบัติจากที่นั่นและนำมาขายที่นี่

หลังจากแต่ละดินแดนลับเปิดขึ้น มันก็มักจะมีข่าวลือว่ามีคนได้รับโอกาสดีๆ หรือได้รับสมบัติวิเศษที่น่าอัศจรรย์

ในห้องวีไอพี หญิงสาวหุ่นเพรียวสวยเดินเข้ามาหาซูฟ่านหลังจากที่เขาเพิ่งดื่มชาเสร็จ

“สวัสดี ข้ามีนามว่าว่านหลิงเอ๋อ ผู้ประเมินสมบัติจากอาคารว่านเป่า”

“สหาย ถ้าท่านต้องการขายสมบัติใดๆ อาคารของเราก็จะให้ราคาที่สมเหตุสมผลแก่ท่านอย่างแน่นอน” หญิงสาวพูดเบาๆ ดวงตาของเธอเป็นประกายขณะที่เธอมองไปที่ซูฟ่านและสงสัยว่าเธอจะดึงดูดลูกค้ารายใหญ่ในครั้งนี้ได้หรือไม่

เขาวางขวดสิ่งประดิษฐ์ที่ออกแบบมาสำหรับเก็บของเหลวโดยเฉพาะไว้บนโต๊ะ ภายในนั้นบรรจุน้ำผึ้งของผึ้งกลืนวิญญาณไว้มากถึง 100 ปอนด์

ซูฟ่านยื่นมันให้กับอีกฝ่าย

ว่านหลิงเอ๋อหยิบขวดสิ่งประดิษฐ์ขึ้นมาโดยตรง เธอเปิดฝาและสูดจมูกเล็กๆ ของเธอเบาๆ

พลังวิญญาณที่น่าอัศจรรย์ผสมผสานกับความหวานของน้ำผึ้งพุ่งเข้ามาในจิตใจของเธอ เพียงแค่ดมกลิ่นก็รู้สึกเหมือนกำลังกินยาที่น่าอัศจรรย์แล้ว

“ท่านเพิ่งออกมาจากดินแดนลับหรอ?” ว่านหลิงเอ๋อกล่าวขณะที่เธอเริ่มตรวจนับปริมาณน้ำผึ้งในขวดสิ่งประดิษฐ์

“ใช่แล้ว เพราะงั้นข้าจึงต้องการจะจัดการกับของที่อยู่ในมือของข้า” ซูฟานกล่าว เขายังได้รับส่วนผสมและแร่วิญญาณมามากมายในดินแดนลับ แต่เนื่องจากเขาสามารถปรุงยาและหลอมสิ่งประดิษฐ์ด้วยตัวเองได้  ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องขายพวกมัน

ว่านหลิงเอ๋อหยิบน้ำผึ้งจำนวนเล็กน้อยออกมาแล้วชิมมันอย่างระมัดระวัง

“สหาย คุณภาพของน้ำผึ้งชุดนี้ค่อนข้างดีเลย ข้าจะให้ท่าน 2,500 หินวิญญาณต่อปอนด์ ท่านคิดว่ายังไง?” ว่านหลิงเอ๋อเสนอราคาต่ำกว่าที่ ซูฟ่านคาดไว้เล็กน้อย

“คุณหนู เจ้าอาจจะต้องเรียกผู้ประเมินสมบัติที่มีประสบการณ์มากกว่านี้มาดูนะ ข้าเชื่อว่าเขาจะให้ตัวเลขที่แม่นยำแก่ข้าได้” ซูฟ่านพูดอย่างเฉยเมยโดยไม่เชื่อว่าน้ำผึ้งชุดนี้จะมีราคาแค่นี้

คิ้วของว่านหลิงเอ๋อขมวดเข้าหากัน เขาพูดราวกับจะกล่าวหาว่าเธอไม่มีทักษะและตาไม่ถึง

“สหาย กรุณารอสักครู่”

ว่านหลิงเอ๋อออกไปจากห้องวีไอพี เธอรู้สึกท้อแท้เล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอทำงานเป็นผู้ประเมินสมบัติ และเธอก็เริ่มต้นได้ไม่ดี เธอไม่รู้ว่าคนอื่นๆ จะเยาะเย้ยเธอหรือไม่เมื่อพวกเขาได้ยินข่าวนี้

ซูฟ่านยังคงจิบชาต่อไป โดยสงสัยว่าเขาควรปลูกต้นชาสักสองสามต้นดีหรือไม่หลังจากกลับไปคราวนี้ เนื่องจากวันเวลาในอนาคตของเขายังอีกยาวไกล

ในขณะนี้ ผู้อาวุโสผมหงอกก็เดินเข้ามาในห้องวีไอพีของซูฟ่าน

“ผู้อาวุโส” ซูฟ่านลุกขึ้นยืนและพูดทันที

“ท่านเป็นแขก ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องสุภาพนักก็ได้” ผู้อาวุโสพูดด้วยรอยยิ้ม เขาชี้ให้ซูฟานนั่งลงก่อนจะหยิบขวดสิ่งประดิษฐ์เล็กๆ ขึ้นมาจากโต๊ะ

“อืม.. น้ำผึ้งนี้มีราคาประมาณ 3,200 หินวิญญาณต่อปอนด์ ท่านคิดว่ายังไง?” ชายชราพูดด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เนื่องจากหอการค้าของเขาไม่ได้รับน้ำผึ้งกลืนวิญญาณมาเป็นเวลานานแล้ว

“เอาตามที่ผู้อาวุโสว่าเลย” ซูฟ่านพยักหน้าและตอบตกลง ราคานี้สูงกว่าการประมาณการของเขาเองถึง 200 หินวิญญาณ

เมื่อซูฟ่านได้รับหินวิญญาณมา หัวใจของเขาก็เต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย เขารู้สึกราวกับถูกลอตเตอรี

...

ในอาคารว่านเปา

“ข้าไม่ได้คาดคิดเลยว่างานแรกของข้าจะล้มเหลว ข้าจะต้องถูกหัวเราะเยาะแน่เมื่อข้ากลับไป” ว่านหลิงเอ๋อกล่าวด้วยความรู้สึกท้อแท้ เธอไม่พอใจซูฟ่านเล็กน้อยที่หักหน้าเธอ

“เรียนรู้จากความผิดพลาดและเติบโตอย่างชาญฉลาด การเดินทางของเจ้ายังอีกยาวไกล”

“การเป็นผู้ประเมินสมบัติเป็นเพียงงานเสริมสำหรับเจ้า การฝึกตนที่เหมาะสมต่างหากถึงจะเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกอย่างแท้จริง” ผู้อาวุโสผมหงอกกล่าวกับว่านหลิงเอ๋อ ทำไมลูกสาวของเจ้าของอาคารว่านเป่าถึงจะต้องเป็นผู้ประเมินสมบัติตลอดไป?

“ใช่แล้ว” ว่านหลิงเอ๋อพยักหน้าอย่างนอบน้อม

...

ในอีกด้านหนึ่ง ซูฟ่านผู้ซึ่งได้รับหินวิญญาณมาก็ไม่ได้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่เขากลับไปที่ยอดเขาอย่างเงียบๆ และเริ่มนับผลกำไรของเขา

“สมุนไพรวิญญาณเหล่านี้สามารถผลิตยาวิญญาณได้หลายชุดโดยไม่มีปัญหาใดๆ”

“แร่วิญญาณเหล่านี้เองก็สามารถใช้เพื่อปรับแต่งสิ่งประดิษฐ์บางอย่างได้”

หลังจากที่ซูฟ่านนับกำไรทั้งหมดเสร็จแล้ว เขาก็ต้องการย่อยสูตรยาและวิชาจากแผ่นหยกที่ได้รับมาจากดินแดนลับ

ช่วงเวลาแห่งการใคร่ครวญไตร่ตรอง จู่ๆ นิ้วของซูฟ่านก็ค่อยๆ ชี้ไปที่กลางอากาศ และนกกระเรียนกระดาษที่มีแสงสีฟ้าก็ปรากฏขึ้น มันกางปีกและบินไปยังฐานที่มั่นของกลุ่มพันธมิตร

ในเวลาไม่นาน ผางฟู่ก็หยิบหินวิญญาณและรายชื่อมาก่อนจะบินออกไปจากเนินเขาเล็กๆ ของซูฟาน

...

วันรุ่งขึ้น ซูฟ่านมองไปที่ถุงเก็บของระดับสูงสุดห้าใบที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยรอยยิ้มอันขมขื่นและพูดว่า “ดูเหมือนว่าหินวิญญาณ 300,000 ก้อนจะยังไม่เพียงพอสินะ”

ด้วยหินวิญญาณในตอนนี้ ซูฟ่านก็ยังต้องใช้มันเพื่อศึกษารูนและการสร้างสิ่งประดิษฐ์เพิ่ม

จากนั้น เขาก็ไปช้อปปิ้งครั้งใหญ่เพื่อซื้อสมุนไพรวิญญาณและแร่วิญญาณที่ต้องการ

ในคราวนี้ ซูฟ่านได้เริ่มต้นแผนการปรุงยาและสร้างสิ่งประดิษฐ์ของเขาแล้ว โดยมีเป้าหมายที่จะกลายเป็นปรมาจารย์ทั้งในด้านการปรุงยาและการสร้างสิ่งประดิษฐ์ สำหรับขอบเขตการฝึกตนของเขา เขาจะปล่อยให้โชคชะตาเป็นตัวตัดสิน ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ยังสามารถทะลวงผ่านได้ในวันสุดท้ายอยู่ดี

...

ฤดูใบไม้ผลิผ่านไป ฤดูใบไม้ร่วงมาถึง และสามปีก็ผ่านไปในพริบตา

ในห้องหลอมสิ่งประดิษฐ์ระดับกลางของจัตุรัสดวงใจปฐพี ซูฟ่านมองไปที่สิ่งประดิษฐ์ที่รวมกันอยู่ตรงหน้าเขาและจมอยู่กับความคิด

“รูนควบคุมวิญญาณและรูนผู้ปกครองดูเหมือนจะเข้ากันไม่ได้ มันไม่มีรูนที่สามารถเชื่อมพวกมันเข้าไว้ด้วยกันได้เลยหรอ?” ซูฟ่านกล่าวขณะลูบคางของเขา

กลางอากาศ กระบี่บินที่ดูเหมือนจะหักกำลังอยู่ระหว่างการหลอมรวมขั้นสุดท้าย รูนที่ได้รับการจับคู่มาเป็นอย่างดีในช่วงเริ่มต้นเริ่มแสดงการปฏิเสธกันในระหว่างขั้นตอนการหลอมรวมขั้นสุดท้าย

สิ่งประดิษฐ์ที่ยังไม่ได้ขึ้นรูปถูกควบคุมแยกออกจากกันโดยทันทีด้วยพลังวิญญาณอันแข็งแกร่งของซูฟ่านราวกับว่ามันถูกแช่แข็งก่อนที่จะทันได้หลอมรวม

“ใช่แล้ว ในเมื่อเข้ากันไม่ได้ ข้าก็แค่ต้องปรับปรุงมันเพื่อให้มันเข้ากันได้ โดยการแทนที่รูนควบคุมวิญญาณด้วยรูนใยแมงมุม”

ขณะที่เขาพูด ดวงตาของซูฟ่านก็สว่างขึ้น เขาดึงแปรงรูนออกมาทันทีและเริ่มวาดมันขึ้นในอากาศ ทันใดนั้น รูน 99 ตัวก็ปรากฏขึ้นในอากาศ มันเริ่มหลอมรวมเข้ากับสิ่งประดิษฐ์ที่อยู่กลางอากาศ

เมื่อมองดูสิ่งประดิษฐ์ที่ประสบความสำเร็จ ซูฟ่านก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุด ‘กระบี่พันคม’ สิ่งประดิษฐ์ที่เขาสร้างขึ้นเองก็ประสบความสำเร็จหลังจากพยายามสร้างมาหกครั้ง....

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด