ตอนที่แล้วChapter 498 สถานะของหลิวหว่านซี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 500 สืบทอดมาจากยุคโบราณ.

Chapter 499 เปิ่นจั้วสังหารเขา เจ้ามีความเห็น?


การเดินทางในครั้งนี้ จุนซ่างเซียวนำหลิวหวานซีก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ เขาได้ผ่านเมืองหลายแห่งในโลกใบนี้ ซึ่งมีวัตนธรรมที่แตกต่างกันไป.

ทว่ายังไม่พบเห็นด้านดี มีเพียงแค่ด้านมืดเท่านั้น.

บางหมู่บ้านก็ดี ประชาชนที่เป็นกังเองและมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี.

บางหมู่บ้านก็ดูเป็นปฏิปักษ์กับผู้ฝึกยุทธ์ เพราะมีผู้ฝึกยุทธ์หลายคนที่ข่มเหงชาวบ้าน โดยเฉพาะการฉุดฆ่าและข่มเหงหญิงชาวบ้านแทบจะเป็นเรื่องปรกติ.

ราวกับว่ามันเป็นสันดานอย่างหนึ่งของตระกูลใหญ่.

ชาวบ้านและผู้ไร้พลังล้วนแต่โดนรังแก แม้แต่อยู่บนถนนกลางวันแสก ๆ ก็ตาม.

ในทวีปชิงหยุนที่ผู้มีพลังเป็นใหญ่ ประชาชนนั้นดูไร้ค่าเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตระกูลใหญ่ที่ทรงพลัง มักจะใช้อํานาจบาตรใหญ่ กระทำการตามอำเภอใจตัวเองเสมอ.

หลาย ๆ หมู่บ้าน หลาย ๆ เมือง จุนซ่างเซียวที่พบเห็น จนตระหนักได้ว่า มนทลชิงหยางแม้นว่าจะเล็ก ทว่าเจ้าเมืองทั้งแปดกับเปี่ยมด้วยความยุติธรรมทำให้บ้านเมืองสงบสุข จนทำให้เขาคิดว่าดินแดนภายนอกนั้นดูโหดเหี้ยมจริง ๆ.

......

ตูมมม!

ในเวลานั้นในเมืองแห่งหนึ่ง ผู้ฝึกยุทธ์ที่เลวทราม ได้เตะชายชราลอยออกไป “นายน้อยของข้านั้นชื่นชอบบุตรสาวของเจ้า เป็นโชควาสนาของเจ้าแล้ว อย่าพูดอะไรให้มันมากนัก!”

“ท่านพ่อ!”

หญิงสาวอายุสิบห้าสิบหกปีที่กำลังร้องไห้คร่ำครวญอยู่ ที่ห่างออกไปมีเหล่าคนชั่ว ที่กำลังหัวเราะเยาะอย่างมีความสุข.

คนเหล่านี้เป็นคนของตระกูลเจิ้น.

และชายคนหนึ่งที่สวมชุดที่หรูหราโอ่อ่า ก็คือนายน้อยเจ้าสำราญของตระกูลเจิ้นนั่นเอง.

ผู้คนบนถนนได้แต่ส่ายหน้าไปมา คิดว่าเด็กสาวผู้นี้ช่างโชคร้ายยิ่งนัก.

“สาวน้อย.”

นายน้อยเจิ้นที่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “มากับนายน้อยผู้นี้ ไม่มีทางที่ข้าจะปฏิบัติกับเจ้าไม่ดี.”

กล่าวจบ เขาที่ก้าวออกไป ด้วยแววตาที่หื่นกระหาย.

สาวน้อยที่กำลังสั่นกลัว เพราะว่ารอบ ๆ ตัวนางถูกห้อมล้อมด้วยกลุ่มคนพาล ไม่สามารถที่จะถอยหลังกลับได้.

“เจ้าสำนัก.”

ในเวลานั้น เสียงที่สดในดังขึ้น “กลางวันแสก ๆ ยังกล้าฉุดผู้หญิงอีกรึ?”

“คงงั้น.”

ในเวลานั้น นายน้อยเจิ้นที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.

เขาที่หันหน้าไปยังต้นเสียง เห็นบุรุษและสตรี ชายที่มีอายุราว ๆ 18-19 ปี ส่วนเด็กสาวที่มีอายุ 11-12 ปี.

“เอ๊ะ?”

เขาที่จ้องมองมายังเด็กสาวที่น่ารัก รูปร่างสวยงามดึงดูดมาก นายน้อยเจิ้นที่ดวงตาเป็นประกาย กล่าวออกมาอย่างกระหาย “เป็นสาวงามจริง ๆ.”

“เจ้าสำนัก.”

เด็กสาวที่น่ารักขมวดคิ้วเล็กน้อยเอ่ยออกมาว่า “เจ้าคนผู้นั้นค่อนข้างน่ารังเกียจจริง ๆ!”

“เปิ่นจั้วจะช่วยเจ้าทุบมันเอง.”ชายที่มาด้วยเอ่ย.

ทุบข้า?

นายน้อยเจิ้นเผยยิ้ม.

เหล่าคนพาลที่ห้อมล้อมเด็กหญิงต่างก็เผยยิ้ม.

ปัง!

เสียงหมัดกระแทกที่ดังขึ้นมาในทันที.

ในกลุ่มของนายน้อยเจิ้นรอยยิ้มที่ค้างไปในทันที.

เพราะว่านายน้อยที่ยืนอยู่ข้างพวกเขาเขา ถูกทุบเข้าไปที่หน้าอกนั่นเอง.

ความเร็วที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!

“เจ็บไหม?”

ชายหนุ่มที่ปล่อยหมัด ใบหน้าที่ไม่แยแสเอ่ยกล่าวออกมา.

แม้นว่านายน้อยเจิ้งจะยังคงยืนอยู่กับที่ ทว่าใบหน้าก็กลายเป็นบิดเบี้ยว “เจ็บ....”

“เจ็บยังไม่ลอยกระเด็นออกไปอีกรึ?”

“อ๊าก ------”

นายน้อยเจิ้นที่จู่ ๆ ก็ลอยกระเด็นออกไปกว่าสามสิบเมตร หน้าอกของเขาที่ถูกทุบเป็นรอย พร้อมกับส่งเสียงร้องโหยหวนเจ็บปวดราวกับหมูถูกน้ำร้อนลวก.

ประชาชนทั่วไปบนถนนที่กลายเป็นโง่งม.

หมัดเดียวลอยกระเด็น นี่มัน....หมายความว่าอย่างไร!

“ยอดเยี่ยม!”

ผู้ฝึกยุทธ์ที่ซ่อนตัวอยู่ในฝูงชนอุทานออกมาด้วยความตกใจ.

ในความเห็นของพวกเขาคนที่โจมตีจนนายน้อยเจิ้นลอยออกไปนั้น จะต้องมีความแข็งแกร่งอย่างแน่นอน.

แต่ว่า....

การทุบตีนายน้อยเจิ้น.

ในเมืองแห่งนี้ เกรงว่าคงจะหนีภัยพิบัติไม่พ้น!

ในเวลานั้น.

เหล่าสมุนของตระกูลเจิ้น ที่ได้สติโกรธเกรี้ยวขึ้นมา แต่ละคนที่เผยแววตาต้องการสังหารเขาออกมา.

“กล้าทุบตีนายน้อยตระกูลข้า ชีวิตเจ้า.....”

ผู้ฝึกยุทธ์คนนหนึ่งที่กล่าวยังไม่จบด้วยซ้ำ ฝ่ามือที่เย็นยะเยือบก็พุ่งออกมา.

เผลี๊ยะ-

ฝ่ามือที่ฟาดไปยังใบหน้าของเขา ลอยกระเด็นออกไป.

เผลี๊ยะ! เผลี๊ยะ! เผลี๊ยะ!

ในเวลาต่อมา สมุนตระกูลเจิ้น 6-7 คนที่ลอยกระเด็นออกไป.

ผู้คนบนถนนถึงกับหวาดผวาไปตาม ๆ กัน!

เห็นชัดเจนว่าเหล่าสมุนตระกูลเจิ้นลอยออกไปไกล ทว่าผู้เยาวคนนั้นกับยืนอยู่ไกล ๆ  เพียงสะบัดมือออกไป คนเหล่านั้นก็ล่องลอยออกไปแล้ว!

“นี่มันสุดยอดฝีมือชั้นสูง!”เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ไร้สังกัดต่างก็อุทานออกมาตาม ๆ กัน.

นายน้อยเจิ้นที่กุมหน้าอกพยุงกายลุกขึ้นอย่างอนาถ ดวงตาแดงซ่านด้วยความโกรธ “ไอ้คนน่ารังเกียจ รอนายน้อยผู้นี้ก่อนเถอะ!”

เขาที่หมุนกายกลับก่อนที่จะวิ่งหนีอย่างอนาถ.

เขาที่เร่งรีบกลับบ้าน เพื่อที่จะไปขอกำลังเสริม กลับมาสังหารชายผู้นี้นั่นเอง!

......

“ท่านพ่อ!”

ภายในตระกูลเจิ้น ห้องโถงใหญ่ ประมุขตระกูลเจิ้นที่กำลังรับแขกอยู่ ได้ยินเสียงของบุตรชายที่ร้องโหยหวน วิ่งหน้าตาตื่นกลับมาพร้อมกับลูกสมุน.

“ท่านพ่อ!”

นายน้อยเจิ้นที่วิ่งเข้ามาด้วยสภาพอเนจอนาถ ดวงตาที่มีน้ำตาไหล “ข้าถูกทุบตีด้านนอก!”

“ปัง!”

ประมุขเจิ้นที่ทุบโต๊ะเสียงดัง กล่าวออกมาด้วยความโกรธ “ใครมันใจกล้าขนาดนี้กัน!”

“ข้าเอง.”

เสียงที่ดังขึ้นจากด้านนอก.

นายน้อยเจิ้นถึงกับสะดุ้ง จ้องมองไปด้านนอก ก่อนที่จะเห็นผู้เยาวที่ทุบเขาปรากฏขึ้นอย่างคาดไม่ถึง เขาที่กัดฟันเอ่ยออกมาว่า “ท่านพ่อ เป็นมัน!”

ประมุขเจิ้นที่ลุกขึ้น แววตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร เอ่ยออกมาว่า “ไอ้หนู เจ้าเข้ามาได้อย่างไร!”

“เดินเข้ามา.”ผู้เยาว์คนดังกล่าวอย่างไม่แยกแส.

ประมุขเจิ้นที่ใบหน้ากลายเป็นอัปลักษณ์.

เจ้าคิดว่ายามด้านนอกเป็นคนโง่รึอย่างไร ที่จะปล่อยให้คนนอกเดินเข้ามาเช่นนี้.

ใช่พวกเขาจะโง่ได้อย่างไร.

เพราะว่าพวกเขาทุกคนที่เวลานี้นอนเกลื่อนอยู่บนพื้นร่างกายชักกระตุกอยู่.

“ไอ้หนู.”

แขกที่มาเยือนตระกูลเจิ้น ที่ลุกขึ้นเดินมือขัดหลังเดินออกมา เอ่ยออกมาอย่างนุ่มนวล “ทุบตีนายน้อยเจิ้น และบุกคฤหาสน์ตระกูลเจิ้น เจ้าใจกล้าจริง ๆ.”

“ประมุขเจิ้น.”

เขาเอ่ยออกมาว่า “ให้ซุนโหมวจัดการเอง ข้าจะเป็นคนสั่งสอนเจ้าหนูที่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำคนนี้เอง.”

ประมุขเจิ้น.“รบกวนแล้ว.”

บรรพชนยุทธ์ อาวุโสของนิกายระดับห้า การที่เขาลงมือด้วยตัวเอง แน่นอนว่าอีกฝ่ายย่อมให้เกียรติตัวเองเป็นอย่างมาก.

“ไอ้หนู.”

อาวุโสซุนที่แค่นเสียงเย็นชา “รีบคุกเขาซะ แล้วขอขมาประมุขเจิ้น แล้วข้าจะให้เจ้าได้หายใจ ไม่เช่นนั้น.....”

ในเวลานั้น เสียงของเขาที่ชะงักไปในทันที.

เพราะว่าสายตาของเขาที่กวาดไปมองเห็นป้ายที่แขวนที่เอว ที่สลักอักษรบางอย่างเอาไว้.

อาวุโสซุนที่สะดุ้งเอ่ยออกมาเสียงดัง “เจ้า...เจ้าเป็นศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งอย่างงั้นรึ?”

สำนักไท่กู่เจิ้ง?

ประมุขเจิ้นถึงกับสะดุ้งไปในทันที.

สำนักที่เป็นกระแสให้ทุกคนเอ่ยถึง เขาได้ยินมาบ้างเช่นกัน.

และเป็นเรื่องบังเอิญเช่นกัน ที่ก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งสองได้พูดคุยถึงสำนักไท่กู่เจิ้ง เอ่ยเกี่ยวกับเจ้าสำนักไท่กู่เจิ้งที่นำศิษย์บุกไปยังมนทลฮวยหยางทำลายล้างสี่สำนักปิศาจในวันเดียว!

ฟิ้ว!

ผู้เยาว์คนดังกล่าวที่พุ่งออกไปปรากฏที่ด้านหน้าอาวุโสซุน หมัดของเขาที่ต่อยออกไปทันที.

ตูมมมมมม!

หมัดที่กระแทกท้องของอาวุโสซุนจนใบหน้าเหยเก ก่อนที่ร่างกายจะอ่อนระทวยทรุดไปกองอยู่กับพื้น.

กึก!

ทันใดนั้นประมุขเจิ้นที่กลายเป็นโง่งมไปในทันที!

นี่เขา...มาปรากฏที่ตรงนี้ได้อย่างไร!

กึก!

ผู้เยาว์คนดังกล่าวที่ยื่นมือออกไป คว้าไปยังลำคอของประมุขเจิ้น จ้องมองไปยังอาวุโสซุนที่กองอยู่บนพื้น พร้อมกับเอ่ยออกมาว่า ”เปิ่นจั้วสังหารมัน เจ้ามีปัญหาอย่างงั้นรึ?

เปิ่นจั้ว??

หรือว่าเขา....คือจุนซ่างเซียว!

อาวุโสซุนที่ระงับความเจ็บปวด เร่งรีบเอ่ยออกมาว่า “ไม่มี ไม่มีปัญหาเลย!”

ผู้เยาว์คนดังกล่าวที่จ้องมองไปยังประมุขเจิ้น กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล “หากพ่อแม่ไม่รู้จักสังสอนบุตร ก็หมายความว่าเจ้ามันล้มเหลวในการมีชีวิต ไม่สมควรมีชีวิต.”

กึก แก๊ก!

นิ้วทั้งห้าที่บีบแน่น ไม่มีโอกาสให้ประมุขเจิ้นได้กล่าวอะไร ก่อนที่ร่างกายจะไม่สามารถขยับได้อีก.

“ท่านพ่อ!”

นายน้อยเจิ้นที่หวาดผวา.

ผู้เยาว์คนดังกล่าวที่เหวี่ยงศพออกไป ก่อนเดินเดินมายังด้านหน้า “หากมีชาติหน้าอย่าได้มีบิดาสถุลเช่นนี้อีก.”

ฟิ้ว!

ริ้วแสงกระบี่ ที่ส่องประกาย ศีรษะของเขาก็ลอยกระเด็น.

......

ภายในเมืองก็ปรากฏข่าวร้อนขึ้นมาในทันที.

เพราะว่าสองพ่อลูกตระกูลเจิ้นผู้ชั่วร้าย ถูกนำศีรษะไปห้อยที่ประตูเมือง พร้อมกับถูกทิ้งอักษรโลหิตว่าสำนักไท่กู่เจิ้งเอาไว้ด้วย!

“สำนักไท่กู่เจิ้งอย่างงั้นรึ?”

“สำนักไท่กู่เจิ้งมนทลชิงหยาง!”

“สำนักที่ทำลายสำนักปิศาจสี่แห่งของมนทลชิงหยางแน่นอน ถึงได้ทิ้งอักษรโลหิตเช่นนี้เอาไว้!”

ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น เนื้อหาดังกล่าวได้ดังกึกก้องก้องกังวานอยู่ในสตรีผู้หนึ่ง.

“ติ๊ง! ยินดีกับโฮสนที่สำเร็จภารกิจลับ【ทำลายล้างต้นเหตุความชั่วร้ายครั้งที่ห้า】ได้รับ 500 แต้ม.”

“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุนสำนัก: 4802 / 10000.”

“ติ๊ง! ยินดีกับโฮสนที่ทำภารกิจ【ลงโทษความชั่วร้าย】ภารกิจต่อเนื่องสำเร็จ ได้รับแต้มสนับสนุน 2000 แต้ม และได้รับฉายา【ผู้กล้าแห่งแสงสว่าง】

“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุนสำนัก: 6802 / 10000.”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด