ตอนที่แล้วChapter 145 : บททดสอบแรก – สะพานสายลม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 147 : บททดสอบที่สาม – ธารน้ำแข็งล่องลอย

Chapter 146 : ผ่านสะพานสายลม - บททดสอบที่สอง


หลินเซวียนเดินต่อไปอีกหลายก้าวแล้วก็พลันได้ยินเสียงกรีดร้องดังมาจากทางด้านหลัง

นักสู้ผู้หนึ่งเลือดออกมากเกินควรและลื่นตกลงไปที่ขอบสะพาน

กระแสลมโหมกระหน่ำอย่างรุนแรงจนเกือบจะทำให้นักสู้ผู้นี้พลัดตกจากสะพานไป

เนื่องจากเขาเสียเลือดมากเกินควรทำให้เหนื่อยล้าทั้งกายและไม่อาจคว้าสิ่งใดเอาไว้ได้

“จับฉันเอาไว้!”

หนึ่งในนักสู้ที่อยู่ข้างๆเขาตะโกนบอกและฝืนคว้าตัวของเขาเอาไว้

ผลลัพธ์นั้นเห็นได้ชัดเจน

คนทั้งสองเหนื่อยล้าจนแทบจะคว้าจับอะไรไม่ได้แล้วทั้งคู่ คนอื่นๆทำได้เพียงมองดูพวกเขาพลัดตกลงไปจากสะพานเท่านั้น

คนทั้งสองถูกพัดปลิวตกจากสะพานและล่วงลงสู่ธารน้ำที่ดูสงบเบื้องล่าง

พริบตาต่อมาผิวน้ำที่ดูสงบก็พลันเดือดพล่านราวกับน้ำร้อน

“อ๊า!”

เสียงกรีดร้องน่าสังเวชดังขึ้นมาอีกครั้ง หลินเซวียนมองลงไปยังธารน้ำอย่างไม่ได้ตั้งใจและก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นปลาปิรันย่าที่มาพร้อมกับฟันคมกริบกำลังกัดกินนักสู้ทั้งสองคนอย่างบ้าคลั่ง

ฟันอันแหลมคมของปิรันย่านั้นคมราวกับใบมีดโกน แม้ว่าพวกมันจะกัดได้ทีละน้อยหากแต่จำนวนของพวกมันนั้นมีเป็นจำนวนมากและพริบตาเดียวก็กินนักสู้ทั้งสองคนจนเกลี้ยงไม่มีเหลือ

เลือดอาบย้อมธารน้ำ!

ทั้งสองคนนี้คือสองคนแรกที่เสียชีวิตลงในบททดสอบสะพานสายลม!

นักสู้ทุกคนต่างได้เป็นประจักษ์พยานเห็นภาพนี้กันทุกคน

ดูแล้วถ้าหากไม่มีความสามารถมากพอก็อย่าได้คิดจะช่วยคนอื่นจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นแล้วคนผู้นั้นก็อาจจะเสียชีวิตด้วยเช่นกัน

หลินเซวียนส่ายหัวเล็กน้อย

นักสู้ที่ยื่นมือไปช่วยคนที่กำลังจะล่วงลงไปนั้นเห็นได้ชัดว่าปรารถนาดี โชคไม่ดีนักที่เขาประเมินความสามารถของตัวเองสูงไป

บนสะพานที่สาม

เซี่ยงเทียนซิววิ่งเอื่อยๆมาจนถึงกลางสะพาน

หลังจากนั้นก็เป็นระเบิดเพลิงและโคลด์โดเมนที่ตามมาติดๆ

และถัดจากทั้งคู่ก็คือหมาป่าเงินกับคนอื่นๆ

“ไม่มีทางน่า สะพานสายลมมันง่ายขนาดนี้เลยหรอ? ไม่ใช่ว่านี่หมายความว่าใครก็ตามที่มีขาก็สามารถข้ามไปได้ง่ายๆรึไง?”

เซี่ยงเทียนซิวส่ายหัวซ้ำไปซ้ำมา

ก่อนจะเข้ามานั้นเขาคิดว่าบททดสอบทั้งเก้าของวัดมังกรสวรรค์นิกายเซนจะยากเย็นแสนเข็ญเสียอีก

อาจารย์หลี่เหว่ยกั๋วเองก็บอกกับเขาว่าอย่าได้ประมาทบททดสอบเหล่านี้

เขาไม่คิดเลยว่ามันจะง่ายดายจนน่าประหลาดใจเช่นนี้

ในเวลานี้เองเซี่ยงเทียนซิวพลันสังเกตเห็นปิรันย่าที่พยายามกระโดดขึ้นมาจากธารน้ำเบื้องล่าง

“หยุดกระโดดกันซักที ไม่ว่าพวกแกจะโดดยังไงก็โดดขึ้นมาไม่ถึงหรอก” เซี่ยงเทียนซิวแค่นเสียงเยาะ

ในเวลานั้นเองปิรันย่าก็เริ่มกระโดดสูงขึ้นและสูงขึ้นเรื่อยๆจนสุดท้ายก็กระโดดขึ้นมาบนสะพานได้ในที่สุด!

“ไอ้เวร” เซี่ยงเทียนซิวรวดเร็วยิ่งและสามารถหลบได้อย่างไม่ยากเย็น

ปิรันย่าตกลงบนสะพานและแกว่งหางไปมาอย่างอ่อนแรง

ไม่นานนักมันก็ตายเพราะขาดน้ำ

ระเบิดเพลิงและโคลด์โดเมนต่างพากันจ้องมองซากของปิรันย่าตัวนั้น

เป็นดังคาด ในเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งนาทีศพของปิรันย่าก็ระเหยและสลายหายไป

“ถ้าปิรันย่าพวกนี้ทำได้แค่ทำให้ผู้คนหวาดกลัวถ้างั้นก็คงน่าเบื่อเกินไปหน่อย”เซี่ยงเทียนซิวยักไหล่และมองกลับไปที่ระเบิดเพลิงกับโคลด์โดเมน “สุภาพบุรุษทั้งหลายพวกนายไม่คิดอย่างนั้นรึ?”

ทันทีที่เซี่ยงเทียนซิวกล่าวจบ

ปิรันย่าจำนวนมหาศาลก็เริ่มกระโดดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันยังกระโดดสูงขึ้นและสูงขึ้นเรื่อยๆ

ท้ายที่สุดก็มีบางตัวที่สามารถกระโดดสูงขึ้นมาได้กว่าห้าเมตรและกระโดดขึ้นมาบนสะพานได้สำเร็จ!

“อ๊า!”

บนสะพานที่สอง นักสู้คนหนึ่งถูกฝุ่นทรายเกาะเต็มร่างจนทำให้ร่างกายของเขาบวมป่องและความเร็วลดลงอย่างมหาศาล

เขาพยายามทำลายฝุ่นทรายและเศษหินบนร่างออกหากแต่กลับไม่ได้รู้เลยว่ามีปิรันย่ากระโดดขึ้นมาอยู่บนหัวแล้ว

พร้อมกับเสียง ‘แกร๊ก’

หนังศีรษะและเส้นผมส่วนใหญ่ของนักสู้ผู้นี้พลันถูกขากรรไกรฉีกกระชากหลุดทั้งยวงและเลือดเองก็เริ่มไหลออกมาไม่หยุด

นักสู้ผู้นี้กรีดร้องลั่นและเหยียบปิรันย่าตนนั้นจนตาย

หากแต่กว่าเขาจะรู้ตัวเขาก็มาอยู่ที่ขอบสะพานแล้ว

นอกจากนี้เบื้องหน้ายังมีฝุ่นทรายที่กำลังพัดมาทางเข้าอีกด้วย

ร่างกายของเขาเสียสมดุลและล่วงลงไปในธารน้ำ

ปิรันย่าพากันว่ายเข้ามาและกลุ้มรุมเขาจนกลายเป็นโครงกระดูกสีขาวในชั่วพริบตา

บนสะพานที่สี่เสียงกรีดร้องยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นักสู้หลายคนถูกฝูงปิรันย่าจู่โจม เลือดและเนื้อจำนวนมากถูกกัดกระชากออกจากร่างของพวกเขา

การลอบโจมตีของปิรันย่าพวกนี้เข้ากันได้ดียิ่งกับกระแสลมต่างขั้วของสะพานสายลมสะพานที่สี่ส่งผลให้มีนักสู้คนแล้วคนเล่าล่วงตกจากสะพาน

ทุกครานั้นก็จะทำให้ธารน้ำถูกย้อมด้วยสีแดง!

เหล่านักสู้ทุกคนต่างตกอยู่ในอันตรายและไม่กล้าดูถูกบททดสอบนี้อีกต่อไป

สีหน้าของหลินเซวียนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

ระดับความยากของสะพานสายลมเพิ่มขึ้น200%จริงๆด้วย

เซี่ยงเทียนซิวในเวลานี้เองก็ระมัดระวังตัวมากขึ้นแล้วเช่นกัน ขณะที่เขาเดินไปต่อนั้นเขาก็มักจะคอยเฝ้าระวังปิรันย่าเหนือหัวบ้าง ซ้ายบ้างและขวาบ้าง

ยิ่งไปกว่านั้นเขายังพบอีกด้วยว่ายิ่งเขาเดินไปได้ไกลมากเท่าไหร่ กระแสลมรุนแรงก็ยิ่งกรัดกร่อนจิตใจของเขาและทะลวงเข้ามาในเส้นประสาทของเขาทีละน้อย

ในสถานการณ์นี้เขายังต้องแบ่งความคิดอีกด้วย เขาต้องคอยระวังการลอบโจมตีของพวกปิรันย่าอีกทอดหนึ่ง

แน่นอนว่าการแบ่งความคิดเช่นนี้นั้นเป็นเรื่องธรรมดาของหลินเซวียน

“นอกจากทดสอบค่าสถานะว่าสูงพอรึเปล่าแล้ว บททดสอบนี้ยังทดสอบความสามารถในการแบ่งความคิดอีกด้วย บททดสอบนี้นับว่าไม่ยากสำหรับเราจริงๆ”

หลินเซวียนหัวเราะ

การแบ่งความคิดนั้นเป็นเรื่องปกติสำหรับเขา

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า

นักสู้กลุ่มแรกของสะพานทั้งสี่ได้ไปถึงอีกฝากหนึ่งกันหมดแล้ว

หลินเซซียนจงใจไปให้ถึงอีกฝั่งล่าช้าไปหลายนาทีทำให้เขามาถึงอีกฝั่งล่าช้ากว่าเย่อู่ชิว

อีกด้านหนึ่งของสะพานนั้นเป็นพื้นหินปูนแบนราบ นอกจากนี้ตรงกึ่งกลางยังมีม่านแสงตั้งอยู่อีกด้วย ม่านแสงนั้นชัดเจนเลยว่าจะส่งพวกเขาออกไปจากวัดมังกรสวรรค์นิกายเซน

ในเวลานี้เองจู่ๆหลินเซวียนพลันพบว่าคนอื่นๆรอบตัวของเขาหายไปและตัวเขาเองก็ถูกหมอกล้อมรอบจนมิด

หลินเซวียนไม่ได้ประหลาดใจแต่อย่างใด

ทั้งนี้ก็เพราะเขาอ่านบันทึกของวัดมังกรสวรรค์นิกายเซนเมื่อห้าปีก่อนมาแล้ว

ทุกครั้งที่ผ่านบททดสอบได้เขาจะถูกหมอกโอบล้อมรอบกายเอาไว้ จากนั้นสมบัติก็จะสุ่มปรากฏออกมา

หมอกเบื้องหน้าของเขาสลายหายไปดังคาดจนเผยให้เห็นหีบสมบัติที่เปล่งประกายแสงสีทอง

หลินเซวียนเดินตรงเข้าไปและเคาะหีบสมบัติเบาๆ หีบสมบัตินั้นเปิดออกพร้อมกับแสงสีทองนวลตาที่สาดส่องออกมา

สิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าของเขาคือลูกบอลประหลาดสีเขียวซึ่งมีขนาดราวกำปั้น

รอบๆตัวลูกบอลนั้นมีเสียงกระแสลมพัดอยู่ตลอดเวลาราวกับว่ามีสายลมลอยวนเวียนอยู่รอบๆมัน

หลินเซวียนใช้สกิลตรวจสอบขั้นสูงเพื่อตรวจสอบแล้วก็รู้ทันทีว่ามันคืออะไร

แกนวายุ! ไอเทมเกรดสีทอง! เมื่อใช้สร้างอุปกรณ์สวมใส่จะเพิ่มความเร็วให้ถึง10% อย่างไรก็ตามไอเทมนี้จะสามารถใช้สร้างได้เพียงไอเทมประเภทรองเท้าเท่านั้น

เขามองไปร่างแยกและพบว่าสิ่งของที่พวกเขาได้นั้นค่อนข้างประหลาดมาก

มีตั้งแต่หนังสือสกิลที่เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ มีดสั้นที่มีความสามารถเลือดออกรุนแรงจนน่าตะลึงและรูนที่เพิ่มความเร็วในการโจมตี

“ดูเหมือนจะสุ่มจริงๆแฮะ”

หลินเซวียนคิดหนัก

ในเวลานี้เองหมอกรอบกายของเขาก็ได้จางหายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว เขาพบว่าตัวเขายังคงยืนอยู่ที่เดิมโดยที่ข้างกายของเขานั้นมีเซี่ยงเทียนซิว เย่อู่ชิวและร่างแยกร่างอื่น

“พวกนายได้อะไรมาบ้าง? ฉันได้แกนอัสนีมานับว่าโชคดีจริงๆ!” เซี่ยงเทียนซิวหัวเราะ “ถ้าใช้เจ้านี่สร้างคทาขึ้นมาจะเพิ่มความเสียหายธาตุสายฟ้าได้ถึง10% หลังจากออกไปจากที่นี่ฉันวางแผนว่าจะสร้างคทาด้ามใหม่ในทันทีเลยแหละ”

“ยังไงก็เถอะ ของรางวัลของวัดมังกรสวรรค์นิกายเซนนี่ดีมากจริงๆ!”

เย่อู่ชิวเอ่ย “ฉันได้แหวนซึ่งเพิ่มค่าความแข็งแกร่งได้5แต้ม ถือว่าไม่ดีแต่ก็ไม่เลว”

ขณะที่พวกเขาคุยกันอยู่นั้นก็มีนักสู้บางคนผ่านมาถึงจุดพักได้แล้ว

นักสู้บางคนทั่วร่างเกลื่อนไปด้วยบาดแผล หลังจากตัดสินใจดูดีๆแล้วพวกเขาจึงตัดสินใจออกจากวัดมังกรสวรรค์ผ่านทางม่านแสง

ยังไงซะพวกเขาที่ผ่านบททดสอบแรกมาได้ก็นับว่ากำไรแล้ว พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะหยุดเพียงแค่นี้

ยังไงก็ตาม นักสู้จำนวนมากยิ่งกว่ากลับเลือกที่จะไปต่อยังบททดสอบที่สอง

ถ้าไม่พยายามสุดตัวมนุษย์เราจะต่างอะไรจากปลาเค็มกันล่ะ!

ในเวลานี้เอง หมอกได้สลายหายไปด้วยตัวมันเองจนเผยให้เห็นภูเขาสูงโปร่งสองลูกและทางเดินแคบๆทอดยาวออกไปเบื้องหน้าของพวกเขา

เมื่อผ่านไปซักพักหนึ่งก้อนหินจำนวนมากจะกลิ้งลงมาจากภูเขาสูง บางก่อนก็ใหญ่และบางก้อนก็เล็กแต่ทุกก้อนนั้นจะบังเกิดเสียงดังในทันทีที่ตกกระทบพื้น

นี่คือบททดสอบที่สอง – นภาหนึ่งบรรทัด

ไม่ว่านักสู้จะใช้วิธีใดก็ตามหากผ่านนภาหนึ่งบรรทัดไปได้ก็คือจบ

จากบันทึกของเมื่อห้าปีก่อน เส้นทางนี้ไม่ได้ยากนัก

เขาสามารถใช้สุดยอดความเร็วในการเคลื่อนไหวและปฏิกริยาตอบสนองวิ่งผ่านไปได้เลย วิธีนี้จัดได้ว่าเร็วที่สุดอีกด้วย

หรือจะระเบิดภูเขาเผากระท่อมโดยการระเบิดหินทุกลูกที่ตกลงมาก็ย่อมได้

แน่นอนว่าจะบุกฝ่าไปตรงๆก็ได้เช่นกัน

ตราบใดที่ค่าความอดทนสูงพอการถูกหินไม่กี่ก้อนกระแทกใส่ก็ไม่นับว่าเป็นอะไร พวกเขาสามารถใช้โล่ต้านทานก็ย่อมได้

“ลุย!”

เซี่ยงเทียนซิวดูกระตือรือร้นยิ่งนัก

เขามุ่งหน้าขึ้นสู่ท้องนภาซึ่งทันทีที่เขาเหยียบย่างเข้าไปก็พลันบังเกิดหินขนาดเท่าศีรษะกลิ้งลงมาใส่เขา

เซี่ยงเทียนซิวยกมือขึ้นมาและปาบอลสายฟ้าออกไป

ตูม!

หินก้อนนั้นระเบิดเป็นจุล

“ไม่เท่าไหร่เลย ง่ายมาก!”

เซี่ยงเทียนซิวเดินหน้าต่อ

หลินเซวียนและคนอื่นๆเองก็ตามมาติดๆ

ทุกคนล้วนแสดงความสามารถของตนเองออกมา

เย่อู่ชิวใช้ลำแสงดาบของเธอตัดผ่าก้อนหินออกเป็นชิ้นๆ

ระเบิดเพลิงและโคลด์โดเมนเองก็ใช้เวทย์ของพวกเขาทำลายพวกมัน

หลินเซวียนหยิบหอกยักษ์อัสนีออกมาและเหวี่ยงมันออกไป เงามายาหอกอัสนีแต่ละด้ามนั้นทำให้ก้อนหินระเบิดกลายเป็นจุล

ดาบพิษหลบก้อนหินด้วยความเร็วสูง

ส่วนพี่นมนั้น ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคนเขากลับเลือกที่จะหยิบโล่ออกมา

ดาบพิษเอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ “นายใช้โล่ได้ด้วยหรอ?”

พี่นมเอ่ยด้วยท่าทีเขินดาย “ฉันเป็นฮีลเลอร์เลยไม่มีความสามารถในการป้องกันตัวเองซักเท่าไหร่ ดังนั้นการที่ฉันมาถือโล่แบบนี้คงเดาได้ไม่ยากหรอกมั้งว่าเพราะอะไร?”

คนอื่นๆคิดตามและก็ดูเหมือนเหตุผลนี้มันจะฟังขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงพยักหน้ารับ

บททดสอบนั้นดูเหมือนจะเรียบง่ายมาก

ถ้าเป็นแบบนี้ก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้วที่พวกเขาจะผ่านนภาหนึ่งบรรทัดไปได้

หากแต่หลินเซวียนรู้ดีว่ามันไม่มีทางเรียบง่ายเช่นนั้น

ยังไงซะระดับความยากของมันก็เพิ่มขึ้นมาถึง200% พวกเขาคิดจริงๆหรอว่ามันจะเรียบง่ายปานนี้?

แล้วก็เป็นดังคาด

พวกเขามาได้เพียงหนึ่งในสามเท่านั้นก็ต้องพบว่าจำนวนของหินที่ล่วงลงมานั้นจู่ๆก็เพิ่มมากขึ้น

ตูม! ตูม! ตูม!

ก้อนหินล่วงลงมาอย่างบ้าคลั่ง

เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาให้ได้ยินจากทางด้านหลัง

เจ้าของเสียงคือเหล่านักสู้ที่พึ่งจะเข้ามายังนภาหนึ่งบรรทัด พวกเขาถูกหินกระแทกใส่เรียบร้อยแล้ว

หลินเซวียนและคนอื่นๆมาถึงครึ่งทางของนภาหนึ่งบรรทัดแล้ว

ก้อนหินที่อยู่ด้านบนเกิดความเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

หินจำนวนมากนั้นกลับมีหินเหล็กปะปนมาด้วยไม่น้อย!

เมื่อเห็นว่าบอลสายฟ้าไม่อาจทำลายมันได้อีกต่อไป เซี่ยงเทียนซิวก็กรีดร้องออกมาและรีบหลบในทันที

ตูม!

หินเหล็กกระแทกลงบนพื้นจนเกิดเป็นหลุมลึก

ถ้าไม่ใช่เพราะเขาหลบได้ทันเวลาคงจะกลายเป็นเนื้อบดไปแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากแรงกระแทกจากการตกของหินเหล็กนั้นรุนแรงมาก พื้นดินจึงกลายเป็นหลุมเป็นบ่อ

ด้วยเหตุนี้ทำให้ความเร็วของทุกคนลดลงอย่างมหาศาล

ความเร็วของคนที่อยู่หน้าสุดลดลงเช่นเดียวกับคนด้านหลัง

หลินเซวียนกระทั่งได้ยินเสียงก่นด่าของหมาป่าเงินดังมาจากทางด้านหลัง

“เชี่ยเอ๊ยแล้วฉันจะผ่านไปได้ยังไงวะเนี่ย?!”

หลินเซวียนและคนอื่นๆยังคงมุ่งหน้าต่อและไม่นานนักก็ผ่านมาได้สองในสามของเส้นทาง

ถึงจุดนี้หินที่ล่วงลงมาก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

หินธรรมดาไม่มีอีกต่อไปและถูกแทนที่ด้วยหินเหล็กทั้งหมด

นอกจากนี้ยังมีหินธาตุปะปนมากับหินเหล็กด้วย

หินอัสนี หินพิษ หินเพลิง หินน้ำแข็ง

หินที่ล่วงลงมาเหล่านี้จะส่งผลให้พื้นที่วงกว้างบนพื้นดินเกิดการเปลี่ยนแปลง

ถ้าหากนักสู้พยายามจะฝ่าไปตรงๆให้ได้ยังไงก็ต้องได้รับบาดเจ็บ

ถ้าพวกเขาอ้อมหินไปก็จะเสียเวลาเพิ่มและอาจจะถูกหินจำนวนมากกว่านี้กระแทกใส่

เป็นอีกครั้งที่ระดับความยากในการผ่านบททดสอบเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด