ตอนที่แล้วบทที่ 21: การผสานรูน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 23: เพื่อนใหม่

บทที่ 22: เย่เสี่ยวเหยา


บทที่ 22: เย่เสี่ยวเหยา

ภายในห้องหลอม ซูฟ่านมองไปที่กระบี่บินที่หลอมรวมเข้ากับอักษรรูนอย่างสมบูรณ์ มีร่องรอยแห่งความตื่นเต้นฉายเป็นประกายอยู่ในดวงตาของเขา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสร้างสิ่งประดิษฐ์ได้สำเร็จ

เมื่อมองดูกระบี่บินอันมืดมิดตรงหน้าเขา ซูฟ่านก็นึกถึงความฝันในวัยเด็กของเขาจากชาติที่แล้ว ซึ่งในเวลานั้น เมื่อเขามีกระบี่ยาวเล่มนี้ เขาก็จะสามารถสานฝันในวัยเด็กของเขาได้แล้ว

“ในเมื่อมันมีสีมืดมนแบบนี้ งั้นข้าจะเรียกมันว่าถงหยูก็แล้วกัน”

“กระบี่บินถงหยู ช่างเป็นชื่อที่ยอดเยี่ยมจริงๆ” ซูฟ่านยกย่องตนเอง

ในขณะนั้นเอง พลังวิญญาณของซูฟ่านก็ปะทุขึ้นภายในตัวเขา และเขาก็ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตฝึกปราณขั้นห้าโดยทันที

ซูฟ่านพูดไม่ออกไปพักหนึ่ง

“ข้าทะลวงผ่านโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่มันก็ถูกต้องแล้ว ตอนนี้ข้าสามารถควบคุมสิ่งประดิษฐ์ได้แล้ว”

หลังจากชื่นชมผลงานชิ้นเอกชิ้นแรกของเขาเสร็จ ซูฟ่านก็เริ่มสร้างสิ่งประดิษฐ์ชิ้นต่อไปโดยทันที

สามวันต่อมา ซูฟ่านมองไปที่สิ่งประดิษฐ์ทั้งสามที่อยู่ตรงหน้าเขาและหัวเราะดังสนั่น

ชิ้นแรกคือกระบี่บินถงหยู ซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์ชิ้นแรกที่ซูฟ่านได้ทำการหลอมได้สำเร็จ

ชิ้นที่สองเป็นชุดสิ่งประดิษฐ์ที่ประกอบด้วยเข็มปักบางเฉียบสามสิบหกเล่ม มันปรากฏขึ้นและหายลับไปอย่างต่อเนื่อง เข็มแต่ละเล่มเปล่งแสงอันเยือกเย็นซึ่งทำให้จิตใจของผู้คนสั่นสะท้านออกมา

ชิ้นที่สามเป็นโล่ขนาดยักษ์ที่มีลักษณะคล้ายกระดองเต่า ซึ่งประกอบด้วยแร่วิญญาณที่มีความแข็งต่างกันสามชั้น ชื่อของมันคือกระดองยักษ์

เสียงระฆังแจ้งเตือนดังขึ้น จากนั้นหวังยู่หลุนก็เดินเข้ามาพร้อมกับมู่หรงเฉียนเอ๋อ

ด้วยการโบกมือของเขา สิ่งประดิษฐ์ทั้งสามก็หดตัวลงจนมีขนาดเล็กและห้อยอยู่รอบเอวของเขา

“พี่ซู ถึงเวลามุ่งหน้าไปยังยอดเขาเทียนหมี่แล้ว” หวังยู่หลุนตะโกนเสียงดัง

ซูฟ่านกลอกตา “ทำไมพวกเขาต้องมากันเป็นคู่ด้วย?”

“ข้าพร้อมแล้ว เอาล่ะ ไปกันได้เลย” ซูฟ่านพูดอย่างสบายๆ

“ได้เลย!”

เมื่อพวกเขาจากไป ซูฟ่านที่เดินตามหลังก็กลอกตาอีกครั้ง “ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกเขาทั้งคู่จะแม้แต่ขี่นกกระเรียนตัวเดียวกัน ไร้ยางอาย!”

“พี่ซู มาแข่งกันเถอะว่าใครจะไปถึงยอดเขาเทียนหมี่ก่อนกัน!” หวังยู่หลุนตะโกนเสียงดัง

ทันทีที่หวังยู่หลุนพูดจบ มันก็เกิดเสียง 'อืม' และมีเงาสีดำแวบผ่านไป ซูฟ่านหายลับไปบนขอบฟ้าพร้อมกับกระบี่บินของเขาแล้ว!

ถ้ารู้ว่าข้าหายตัวไป เจ้าก็ได้แพ้ข้าแล้ว!

ซูฟ่านกำลังขี่กระบี่บินถงหยูบินผ่านท้องฟ้าด้วยความเร็วที่รวดเร็ว เมื่อมองดูกระแสลมที่พัดผ่าน ซูฟ่านก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาโดยทันที

นี่คือการบินที่แท้จริง นี่คือความเร็วที่แท้จริง!

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

ซูฟ่านมาถึงยอดเขาเทียนหมี่ก่อนที่พลังวิญญาณของเขาจะหมดลง

ในเวลานี้ ยอดเขาเทียนหมี่เต็มไปด้วยผู้ฝึกตนขอบเขตฝึกปราณ ซูฟ่านทำได้เพียงหาจุดยืนรอบริเวณขอบเท่านั้น

ครึ่งนาทีต่อมา ในที่สุดหวังยู่หลุนก็ลงจอดบนยอดเขาเทียนหมี่โดยจับมือเดินลงมาพร้อมกับมู่หรงเฉียนเอ๋อ และเริ่มมองหาซูฟ่านอย่างตื่นเต้น

หวังยู่หลุนมองดูฝูงชนและพบซูฟ่านที่อยู่ตรงขอบ

“พี่ซู ทำไมเมื่อกี้ท่านถึงเร็วได้ขนาดนั้นกัน?”

“กระบี่บินนั่นเป็นสิ่งที่ท่านสร้างขึ้นมาเองหรอ?”

มู่หรงเฉียนเอ๋อเองก็มองซูฟ่านด้วยความประหลาดใจ เนื่องจากความเร็วของเขาตอนนี้เทียบได้กับความเร็วของผู้ฝึกตนขอบเขตก่อเกิดรากฐาน

“ทำไมพวกเจ้าถึงมีคำถามมากมายกันจัง? พวกเจ้าไม่รู้รึไงว่าตอนนี้ข้าเป็นนักสร้างสิ่งประดิษฐ์แล้ว?” ซูฟ่านกล่าวโดยไม่สนใจ

ในขณะนั้นเอง ชายชราผมขาวที่มีใบหน้าอ่อนเยาว์ก็ปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้า และพลังลึกลับก็ปรากฏขึ้น จากนั้นก็ตามมาด้วยประตูมิติขนาดยักษ์กลางอากาศ

“ดินแดนลับขอบเขตฝึกปราณจะต้องไม่มีการฆ่ากันภายในนั้น พวกเจ้าทั้งหมดจะถูกส่งกลับมาโดยอัตโนมัติหลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน”

“ในตอนนี้ ศิษย์ทุกคนที่เข้าร่วมดินแดนลับจะต้องนำหินวิญญาณออกมา 1,000 ก้อน แล้วข้าจะรวบรวมพวกมันไว้”

“เอาล่ะ ดินแดนลับได้เปิดขึ้นแล้ว”

เสียงอันบริสุทธิ์ของเขาทำให้ศิษย์ทุกคนที่อยู่ที่นี่รู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังฟังเสียงของเต๋าอันยิ่งใหญ่

มีเพียงดวงตาของซูฟ่านเท่านั้นที่กะพริบด้วยสีสันที่ต่างออกไป “นี่เป็นวิชาเสียงอะไรรึเปล่านะ? น่าสนใจ”

เขาหยิบหินวิญญาณ 1,000 ก้อนที่เตรียมไว้ออกมา และค่อยๆ โยนมันขึ้นไปในอากาศ ถุงหินวิญญาณลอยขึ้นไปอย่างช้าๆ

มีถุงหินวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนลอยอยู่กลางอากาศ

หลังจากรวบรวมหินวิญญาณเสร็จ เงาบนท้องฟ้าก็หายตัวไป และทุกคนก็กลับมาได้สติอีกครั้ง พวกเขาบินไปยังประตูมิติยักษ์บนอากาศโดยใช้สิ่งประดิษฐ์ของพวกเขา

“พี่ซู ท่านต้องการจะเข้าร่วมกับเราไหม?” หวังยู่หลุนพูดกับซูฟ่าน

“ไม่ แต่พวกเจ้าเอาสิ่งนี้ไปด้วยได้ พวกเจ้าเพียงแค่ใส่พลังวิญญาณลงไปในกรณีฉุกเฉินเท่านั้นพอ”

ซูฟ่านมอบหินวิญญาณที่เขาดัดแปลงแล้วให้กับหวังยู่หลุน ตราบใดที่พลังวิญญาณถูกป้อนเข้าไป มันก็จะปล่อยแรงสั่นสะเทือนความถี่สูงออกมา

“ขอบคุณพี่ซู” ทั้งสองคนยิ้มแล้วขี่นกกระเรียนบินหายเข้าไปด้วยกันอย่างแนบชิด

แม้แต่ซูฟ่านก็ยังรู้สึกอิจฉาเล็กน้อยเมื่อเห็นสิ่งนี้ แต่กระนั้นเขาก็ส่ายหัวหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“การรีบมีคู่มันจะไปมีประโยชน์อะไร? มันจะทำให้อายุยืนยาวรึไง!”

ซูฟ่านเรียกกระบี่บินของเขาออกมาและบินไปยังประตูมิติยักษ์เพื่อเข้าสู่ดินแดนลับ

ทันทีที่เขาเข้าไปในประตู ท้องฟ้าและผืนดินก็มีการเปลี่ยนแปลง ปราณวิญญาณอันบริสุทธิ์เกือบจะทำให้เขาสำลักออกมา

“ให้ตายเถอะ ปราณวิญญาณนี่บริสุทธิ์มาก”

ซูฟ่านมองไปรอบๆ และพบว่าตัวเองอยู่ในป่า

“นี่คือป่าต้นหลิงเฟิง และพวกมันก็ล้วนโตเต็มที่แล้ว”

ทันใดนั้น ความคิดหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในใจของซูฟ่าน

“ในเมื่อต้องอยู่ที่นี่เป็นเวลาหนึ่งเดือน งั้นข้าก็จะสร้างฐานที่มั่นไว้ชั่วคราว”

ซูฟ่านมีถุงเก็บของสองใบ และทั้งสองใบก็มีพื้นที่สิบตารางฟุต

ในป่าต้นหลิงเฟิง ซูฟ่านควบคุมกระบี่บินถงหยูและตัดต้นไม้ สร้างกระท่อมแบบเรียบง่าย พร้อมด้วยจัดวางเตียงและชุดโต๊ะเก้าอี้

ทันใดนั้น เสียงคำรามต่ำหลายเสียงก็ดังขึ้นใกล้กับซูฟ่าน

กลุ่มอสูณหมาป่ามากกว่าสิบตัวล้อมรอบซูฟ่าน ดวงตาของพวกมันกะพริบด้วยความตื่นเต้นและความกระหายเลือด

“สัตว์อสูรขอบเขตฝึกปราณขั้นสี่! พวกมันช่างกล้า!”

'*สแน็ป*'

ซูฟ่านดีดนิ้วของเขา และอสูรหมาป่าก็พลิกนอนคว่ำอยู่บนพื้นและยอมจำนนต่อเขา แม้แต่หมาป่าตัวเมียบางตัวก็ยังถึงกับยื่นหน้าท้องมาให้กับเขาด้วย

“...ข้าอาจจะทำเกินไปรึเปล่า?”

หลังจากออกคำสั่งให้พวกมันออกไปตามหาสมบัติในบริเวณโดยรอบแล้ว พวกมันก็ออกเดินหน้าวิ่งลึกเข้าไปในป่าโดยทันที

“พวกมันจะสามารถมองหามรดกรูนของนักสร้างสิ่งประดิษฐ์ได้บ้างไหมนะ?”

...

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

ซูฟ่านมองไปที่กองสมุนไพรวิญญาณที่อยู่ตรงหน้าเขา เขารู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ซื้อถุงเก็บของเพิ่ม

“เห็ดมู่หลิง, หญ้าเทียนหยิน, ไผ่สหายดารา, ต้นชาหัวใจบริสุทธิ์, ป่านฟ้าดำ, โสมไม้……”

กองสมุนไพรวิญญาณกองนี้อาจมีมูลค่ามากกว่า 100 หินวิญญาณ และซูฟ่านก็สามารถใช้พวกมันเพื่อปรุงยาได้

“สมแล้วที่เป็นดินแดนลับ ที่นี่มีสมุนไพรวิญญาณอยู่ทุกหนทุกแห่งเลย” ซูฟ่านกล่าวอย่างตื่นเต้น

ค่าใช้จ่ายของเขาในช่วงที่ผ่านมานับได้ว่าค่อนข้างสูง ดังนั้นการหาหินวิญญาณมาเติมเงินคงคลังของเขาจึงเป็นความคิดที่ดี

ซูฟ่านมาถึงริมทะเลสาบเล็กๆ

“ตามบทละคร มันก็น่าจะมีอะไรบางอย่างอยู่ในทะเลสาบ” ซูฟ่านพูดอย่างครุ่นคิดขณะที่เขามองไปที่พื้นผิวของทะเลสาบ

'บู้มมมม!'

ทันใดนั้นทั้งทะเลสาบก็ระเบิดขึ้น และแสงกระบี่สีน้ำเงินก็ทะลุผ่านน่านน้ำในขณะที่ศิษย์ชั้นนอกที่หล่อเหลาก็บินออกไปพร้อมกับแสงกระบี่

ในขณะนี้ ซูฟ่านก็ได้ถอยห่างจากทะเลสาบไปหนึ่งร้อยเมตรแล้ว โดยซ่อนตัวอยู่ใต้เกราะป้องกันสามชั้นและโล่ยักษ์

“ศิษย์น้องไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก ตอนนี้ข้าแค่พยายามจะทำให้สิ่งประดิษฐ์นี้เชื่อง ดังนั้นทุกอย่างจึงน่าจะเรียบร้อยดี”

เสียงแผ่วเบาและสงบกล่าว

ศิษย์นิกายชั้นนอกที่หล่อเหลากวักมือเรียกและกระบี่บินสีน้ำเงินก็บินเข้ามาในมือของเขา

เขารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้รับกระบี่บินมา เขาไม่คาดคิดว่าจะมีสมบัติเช่นนี้ซ่อนอยู่ในดินแดนลับ โชคของเขาพิเศษจริงๆ

“ขอแสดงความยินดีกับท่านด้วยที่ได้รับกระบี่บินมา” ซูฟ่านพูดเหมือนกับ NPC ในเกม โดยไม่มีเนื้อหาอื่นใดในคำพูดของเขา

“ข้ามีนามว่าเย่เสี่ยวเหยา ศิษย์น้อง เจ้าล่ะชื่ออะไร?”

เมื่อได้ยินชื่อเย่เสี่ยวเหยา ซูฟ่านก็ตระหนักรู้ได้โดยทันที

เป็นไปได้ไหมว่าเขาจะได้พบกับตัวเอกแล้ว?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด