ตอนที่แล้วตอนที่ 39 คิดจะกลืนวิญญาณข้ารึ? (อ่านฟรีวันที่ 20/04/2567)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 41 ได้ออกเดินทางกันสักที! (อ่านฟรี 25/04/2567)

ตอนที่ 40 หน่วยหิมะคราม (อ่านฟรีวันที่ 22/04/2567)


“เจ้านี่เอง พอดีข้าเจอปัญหานิดหน่อยเลยยังติดอยู่ตรงนี้” ชายหนุ่มตอบรับพร้อมยิ้มให้นิดหน่อย ถึงหญิงสาวตรงหน้าจะน่ารำคาญไปบ้าง แต่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนตอนที่เขาต้องคอยดูแลน้องสาวที่โลกเก่าไม่น้อย เป็นความรู้สึกที่อยากเดินเข้าไปลูบหัวและคอยปกป้องนาง

“...” หญิงสาวซึ่งเป็นหัวหน้าของหน่วยทหารเงียบไปเมื่อโดนขัดจังหวะ ผู้คนลอบข้างต่างตกใจกับการกระทำของหยางเสีย อดรู้สึกหวาดกลัวไม่ได้ว่านางจะโดนพวกทหารลงโทษอะไรไหม

“เอ่อ..ท่านหัวหน้าทหาร ข้าคือหานจุนหมิง เจ้าของโรงเตี๊ยมพลบค่ำ ถ้าท่านต้องการทราบสิ่งใดให้สอบถามข้าได้เลย อย่าไปใส่ใจเด็กน้อยนางนั้นเลยนะ” หานจุนหมิงที่กลัวสถานการณ์จะเลวร้ายเลยรีบออกตัวกล่าวออกมา จากท่าทีของเถ้าแก่และแม่นางคนนั้น คงจะพอรู้จักกันและสนิทอยู่บ้าง เขาเลยต้องออกตัวแทน

“ข้าไม่ได้ใส่ใจ.. เจ้าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นมาเถิด” หญิงสาวกล่าวออกมาด้วยเสียงเยือกเย็นดังเดิม สีหน้าของนางไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว

ด้วยความที่เย่ซีและหานจุนหมิงพูดคุยกันแล้วว่าพวกเขาจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดตามตรง เพื่อทำให้ทางราชวงศ์ส่งคนไปคอยจับตาตระกูลฉู่อีกที เพราะไม่ว่าตระกูลฉู่จะแก้ตัวยังไงก็คงต้องเดือดร้อนไม่น้อยที่เรื่องราวมันบานปลายขนาดนี้ ยังไม่นับเรื่องที่ว่ามีผู้ใช้ศาสตร์แห่งซากศพที่กลายร่างเป็นเหมือนคนจากแดนปีศาจอีก

ในโลกไวท์เรียมแห่งนี้แบ่งออกเป็น 8 ทวีป ซึ่งทวีปซีคเป็นหนึ่งในทวีปที่ต่อต้านแดนปีศาจอย่างเปิดเผย พวกเขาส่งผู้ฝึกตนระดับสูงเข้าร่วมสมรภูมิต่างแดนมาโดยตลอด คอยยับยั้งไม่ให้พวกปีศาจฝ่ามิติเข้ามายังโลกแห่งนี้ได้

ดังนั้นการที่มีสิ่งมีชีวิตที่เหมือนจะมาจากแดนปีศาจปรากฏตัวขึ้นนั้นว่าเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าถูกจับได้ว่าให้ความร่วมมือกับแดนปีศาจจะถูกทางราชวงศ์ฆ่าล้างตระกูลเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้การเล่าเรื่องไปตามจริงจะทำให้ตระกูลฉู่ไม่มีเวลาว่างมายุ่งวุ่นวายกับพวกเขาอีก ดีไม่ดีตระกูลฉู่อาจจะหายสาบสูญไปเลยก็เป็นได้

“อืม ถ้าสิ่งที่เจ้ากล่าวมาเป็นความจริง เรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องใหญ่ไม่น้อย” หลังจากได้รับฟังเรื่องทั้งหมดบนสีหน้าอันงดงามของหญิงสาวก็มีความเคร่งเครียดเพิ่มขึ้นไม่น้อย

“เป็นท่านใช่ไหมที่จัดการเจ้าปีศาจนั่นลงได้” หญิงสาวเดินเท้าเข้าไปหาเย่ซีที่กำลังคุยอยู่กับหยางเสียแล้วกล่าวออกมา

“ใช่ พอจะตึงมืออยู่บ้าง แต่ก็ไม่เท่าไหร่” ชายหนุ่มที่ได้ยินเสียงกล่าวถาม เลยตอบกลับไป สำหรับเขามันก็ยังไม่เท่าไหร่จริง ๆ นั่นแหละ

“เถ้าแก่ ท่านเก่งกาจขนาดนั้นเลยรึ? ข้าไม่เห็นจะดูออก..” หยางเสียเอียงคอทำท่าทางสงสัยแล้วกล่าวออกมา

“โอ๊ยยย โอ๊ยย ข้ายอมแล้ว เถ้าแก่ปล่อยข้าเถอะ” หญิงสาวร้องออกมาเสียงดัง นางพยายามเอามือเล็ก ๆ ของนางดึงมือทั้งสองข้างที่กำลังดึงแก้มของนางอยู่

“เห็นรึยังว่าข้าเก่งกาจขนาดไหน” ชายหนุ่มที่ได้ยินดังนั้นเลยยอมปล่อยมือออกมาจากแก้มอันนุ่มนิ่มของเด็กสาว

“...” ภาพที่เกิดขึ้นทำให้หัวหน้าทหารนิ่งเงียบไป และคิดในใจว่าเหมือนพวกเขาสองคนจะสนิทกันในระดับหนึ่งสินะ

“ข้าชื่อปิงกุ้ยหลิน เป็นหัวหน้าหน่วยหิมะคราม สังกัดกองทัพฝ่ายซ้าย ข้าขอขอบคุณท่านมากที่ช่วยเหลือเมืองแห่งนี้เอาไว้” หญิงสาวกล่าวแนะนำตัวออกมา ก่อนที่จะก้มโค้งแสดงความขอบคุณให้กับชายหนุ่ม

แม้นางจะเป็นผู้ฝึกตนระดับสี่ขั้นห้าซึ่งนับว่ามีน้อยคนมากในอาณาจักรนี้ แต่จากออร่าที่เหลืออยู่ของการต่อสู้นางสามารถบอกได้ว่ามีตัวตนที่อยู่ระดับสูงกว่านางในการต่อสู้ครั้งนี้เป็นแน่ ถ้ามันหลุดจากจุดนี้เข้าโจมตีเมืองจะต้องเกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก

“ไม่เป็นไร มันมาขวางทาง ข้าก็แค่จัดการ” ชายหนุ่มตอบกลับไปด้วยท่าทางไม่ใส่ใจ ทำให้หญิงสาวเกิดความรู้สึกนับถือไม่น้อย

“ท่าทางแบบนั้นมันอะไรกัน อย่าบอกนะว่าพี่กุ้ยหลินจะชอบเถ้าแก่..” มีเสียงหญิงสาวนางหนึ่งกล่าวขึ้นมา น้ำเสียงแฝงความหยอกล้อเอาไว้ไม่น้อย ทำให้ใบหน้าเย็นชาดุจน้ำแข็งของผู้ถูกกล่าวอ้าง มีสีแดงแต่งแต้มขึ้นมาบางเบา

“เจ้า พูดจาอะไรให้มันมีสาระเสียบ้าง ไม่อย่างนั้นเมื่ออาจารย์ของเจ้ากลับมาข้าจะบอกเรื่องที่เจ้าก่อปัญหาทั้งหมด” ปิงกุ้ยหลินปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วกล่าวออกมา ทำเอาอีกฝ่ายหน้าเหยเกไปเลย เพราะกลัวจะถูกอาจารย์ลงโทษ

“เอาน่า ๆ ข้าแค่หยอกท่านเล่นเอง อย่าจริงจังไปเลย” หยางเสียกล่าวขึ้นด้วยท่าทางร้อนรน

“ยังมีเรื่องอะไรอีกหรือไม่ ? ข้าอยากเดินทางไปดูที่ดินเต็มที” ชายหนุ่มกล่าวขึ้น เขายิ้มเล็กน้อยกับสิ่งที่ทั้งสาวสองหยอกล้อกัน

“ไม่มีอันใดแล้ว ว่าแต่ท่านจะไปที่ใด ต้องการให้กองทหารไปช่วยนำทางหรือไม่ ?” ปิงกุ้ยหลินกล่าวออกมา ถึงแม้กองทหารของนางจะระดับพลังต่ำกว่าชายหนุ่มมาก แต่อย่างน้อยก็คงช่วยนำทางและกำจัดสิ่งรบกวนให้ได้ การผูกมิตรกับผู้ฝึกตนระดับนี้ไว้ย่อมมีผลดีกับอาณาจักรมากกว่าผลเสีย

“ข้าจะไปที่เมืองหลวง มีเจ้าของโรงเตี๊ยมพลบค่ำพาไป ไม่จำเป็นต้องรบกวนพวกเจ้าหรอก” ชายหนุ่มก็ตอบไปตามตรง ยังไงเป้าหมายของเขาที่จะไปก็ไม่ได้มีอะไรต้องหลบซ่อนอยู่แล้ว

“ที่ดิน เมืองหลวง ท่านคงหมายถึงสามที่ดินทองคำซึ่งยังไม่มีใครได้ไปสินะ นับว่าเส้นสายของท่านกว้างขวางไม่น้อย หานจุนหมิง” ปิงกุ้ยหลินทำท่านึกถึงอะไรบางอย่างก่อนจะหันไปกล่าวกับเจ้าของโรงเตี๊ยมพลบค่ำ

“แค่เล็กน้อย ๆ เทียบไม่ได้กับท่านหัวหน้าหน่วยหิมะครามหรอก” ชายกลางคนโค้งตัวรับคำชมเล็กน้อยก่อนจะกล่าวตอบกลับไป

“ถ้าอย่างนั้น ท่านรับสิ่งนี้ไว้ ถึงมันจะไม่มีค่าอะไรมากนักแต่ก็อาจจะช่วยท่านได้ถ้าเจอเรื่องยุ่งยากหรือน่ารำคาญใจ” กล่าวจบหญิงสาวก็ส่งแผ่นป้ายสีขาวสะอาดที่มีตัวอักษรสีทองเขียนเอาไว้ว่า ปิงกุ้ยหลิน

“ไม่คิดว่าท่านหัวหน้าหน่วยถึงกับมอบสิ่งนี้ให้เท่าแก่เลยนะ” หานจุนหมิงกล่าวขึ้นด้วยท่าทางตกตะลึงไม่น้อย

“มันคืออะไร ?” ชายหนุ่มหันกลับไปถามทันที

“มันก็คือป้ายแทนตัวของหัวหน้าหน่วยหิมะคราม ถึงมันจะไม่สามารถแลกเป็นเงินหรือใช้แทนอาวุธวิเศษได้ แต่ของสิ่งนี้ก็ใช้เพื่อรับสิทธิพิเศษต่างๆในอาณาจักรแห่งนี้ได้ไม่ยาก มีผู้คนแทบนับนิ้วด้วยมือข้างเดียวได้ที่จะมีมัน เพราะหัวหน้าแต่ละหน่วยไม่ค่อยจะมอบให้ผู้ใดหรอก” เป็นหญิงสาวผู้ยื่นให้ที่ตอบคำถามนี้กลับมา

“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณ...” ชายหนุ่มรับมาแล้วกล่าวขอบคุณก่อนจะเงียบไป ทำให้ผู้คนโดนรอบได้แต่พากันสงสัยว่าชายหนุ่มไม่พอใจรึเปล่า ? เพราะในสายตาของผู้เยี่ยมยุทธสิทธิพิเศษเหล่านี้คงเป็นเพียงของไร้ค่าเท่านั้น

“เถ้าแก่ พี่สาวเขาไม่เคยมอบป้ายนี้ให้ใครเลยนะ มันมีประโยชน์มากเลย ขนาดข้ายังไม่มีเลยสักอัน” หยางเสียคือหนึ่งในคนที่คิดว่าชายหนุ่มไม่พอใจจึงพยายามอธิบายออกมา

“ไม่ว่าท่านจะกินข้าวแล้วชักดาบ ไปตบคนแก่ เตะเด็ก ต่อยสุนัข ขอแค่ท่านโชว์ป้ายนี้ออกมา..... แน่นอนอยู่แล้วว่าท่านจะต้องโดนทางหน่วยทหารจัดการอยู่ดี เพราะมันผิดกฎบ้านเมือง”

“แต่ถ้าท่านมีป้ายนี้ การจะทำธุรกรรมใด ๆ ท่านล้วนจะได้รับสิทธิก่อน อย่างการซื้อที่ดินนี้ขอแค่มีป้ายแผ่นนี้ท่านก็มีสิทธิเข้าร่วมโดยไม่ต้องหาช่องทางพิเศษ หรือถ้าท่านจะเปิดร้านท่านก็แค่ห้อยป้ายนี้ไว้หน้าร้าน แค่นั้นก็ไม่มีใครกล้ามารบกวนท่านแล้ว แถมท่านยังขอความช่วยเหลืองจากหน่วยหิมะครามได้ทุกเมื่ออีก” หญิงสาวกล่าวออกมายาวเหยียด ทำให้ชายหนุ่มอดพยักหน้าตามไม่ได้ แต่สีหน้าของเขาก็ยังคงเคร่งขรึมเหมือนเดิม

“เถ้าแก่...” เห็นดังนั้นหยางเสียก็เริ่มใจเสียเล็กน้อย

นางกับพี่สาวกุ้ยหลินสนิทกันไม่น้อย ไม่อย่างนั้นถ้ามีใครกล้าขัดจังหวะที่หัวหน้าหน่วยหิมะครามกำลังทำงานคงโดนจัดการไปแล้ว เห็นหญิงสาวผู้นั้นงดงามดุจดั่งเจ้าหญิงหิมะแต่ความจริงนางเด็ดขาดมากยามทำหน้าที่

“เจ้าไม่ต้องการแล้ว... เถ้าแก่ ถ้าท่านไม่พอใจในสิ่งนี้ข้าจะหาสิ่งตอบแทนที่ดีกว่านี้ให้ท่านเอง แต่ถ้าท่านต้องการสมบัติจากทางราชวงศ์ข้าอาจต้องยื่นเรื่องไปให้ท่านอีกที และไม่แน่ใจว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่” นางกล่าวออกมาด้วยท่าทางจริงจัง ไม่อยากให้น้องสาวแซนสนผู้นี้ต้องผิดใจกับยอดฝีมือท่านนี้เข้า

“ไม่ต้องหรอก” ชายหนุ่มกล่าวออกมา ทำให้รอบด้านพากันเงียบขรึมอีกครั้ง หรือเขาจะโกรธที่รางวัลเหล่านี้ยังไม่พอกัน ? แต่จะโทษชายหนุ่มก็ไม่ได้ เพราะการต่อสู้กับปีศาจสักตัวแถมระดับพลังสูงส่งเยี่ยงนั้น ต้องลำบากและสูญเสียไม่ใช่น้อย ถึงเจ้าตัวจะพูดว่าแค่เรื่องเล็กน้อยก็ตาม

“ข้าแค่จะบอกพวกเจ้าว่า...”

“สนใจซื้อสินค้าสักหน่อยไหม ?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด