ตอนที่แล้วตอนที่ 51 ผู้ยิ่งใหญ่ปรากฎตัว?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 53 เรื่องล้อเล่นของน้าหง

ตอนที่ 52 คนขับรถประจําตัวของเย่เฉิน


"เขาอยากที่จะไปนั่งตรงนั้นงั้นเหรอ"

หยางหยุนตัวแข็งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วส่ายหัวอย่างขบขันกับความคิดของตัวเอง

ข้ากําลังคิดบ้าอะไรอยู่กันล่ะเนี่ย เขาก้เป็นแค่นักเรียนเองนะ

ถ้ามองดูทั้งสามคนแบบนี้แล้ว อาจารย์ของโรงเรียนหรือผู้ปกครองของเขาควรที่จะพาไปพวกเขาไปเที่ยวใช่ไหมนะ?

แต่ในขณะนี้ ฉากที่ทําให้หยางหยุนตกใจมากก็ได้ปรากฏขึ้น

เย่เฉินหรือว่าทั้งสามคนนั้นได้เดินตรงเข้าไปในเครื่องบินรบคุน 20

และไม่มีใครหยุดในกระบวนการนี้เลยสักคน!

หยางหยุนตกตะลึงอย่างสมบูรณ์

เมื่อหยางหยุนคิดว่าทั้งสามคนจะต้องถูกเชิญตัวให้ลงมานั้น เครื่องบินรบก็มีเสียงดังของเครื่องยนต์ครั้งใหญ่

จากนั้นเปลวไฟจากหางสีฟ้าอ่อนสองดวงก็พุ่งขึ้นไปในอากาศ

"เครื่องบินรบ Kun 20 คันนี้มารับพวกเขาจริงๆงั้นเหรอเนี่ย?"

หยางหยุนตกตะลึงกับความตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก

เธอในตอนนี้ดูเหมือนว่าจะตกใจอย่างมาก และจิตใจของเธอก็ว่างเปล่า

ไม่น่าแปลกใจเลย ที่ผู้ชายคนนั้นถึงได้ที่จะไม่สนใจที่จะเป็นดาราเลย!

ที่ตลกคือข้ายังคิดว่าเขาโง่เวลาในเวลาเรียนอีกด้วย?

คนที่โง่จริงๆ แล้วคือตัวข้าเองเหรอเนี่ย!

เขาจะแนะนําอะไรกับชายหนุ่มเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?

มีกระทั่งเครื่องบินส่วนตัวมารับ?

ผู้คนสามารถขี่ Kun 20 ได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสถานะของพวกเขานั้นสูงส่งอย่างมาก

คนแบบนี้จะตกหลุมรักการเป็นดารา? คงจะเป็นคนที่เรียนได้อย่างโง่เขลาหรือเปล่าล่ะ?

ครู่หนึ่ง หยางหยุนนั้นก็รู้สึกว่าตัวเธอเองนั้นกลายเป็นตัวตลกไปแล้ว

ตัวตลกโดยสมบูรณ์.

จนกระทั่งเครื่องบินรบคุน 20 ได้ลอบขึ้นไปท่ามกลางเสียงอุทานของฝูงชนในตอนนั้นหยางหยุนก็เริ่มตระหนักได้

"พวกเขากําลังจากไปแล้ว..."

เมื่อฟังเสียงที่อยู่ไกลออกไปจากสนามบิน จู่ๆ หยางหยุนก็ตกอยู่ในช่วงเวลาแห่งความเสียใจและความสงสัยในทันที

เขาหน้าตาดีมาก ถ้าข้าได้ข้อมูลติดต่อกับเด็กคนนั้นได้ในตอนนี้ แต่ข้าคงไม่มีโอกาสแล้วสินะ!

โอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับบุคคลระดับสูงที่เพิ่งพลาดไป?

โอกาสที่เปลี่ยนแปลงชีวิต - พลาดไปโดยตัวตนที่ตามืดบอดของข้า?

...

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง

"เย่เฉิน เรามาถึงหยางเฉิงกันแล้วล่ะ"

บนเครื่องบินรบ หลิงเหว่ยมองไปที่ช่องหน้าต่างมองภาพและพูดด้วยรอยยิ้ม

เย่เฉินมองไปยังทิวทัศน์ของหยางเฉิง: "ระยะเวลาสองเดือนช่างผ่านไปรวดเร็วมากเลยล่ะ"

"ไม่ใช่ล่ะมั้ง คงเป็นเพราะพวกเจ้าสองคนนั้นกําลังมีความรักอยู่กันล่ะสิ"

หลิงเหว่ยพูดติดตลก

ไม่นานก่อนที่เธอจะรู้เรื่องนี้ และเธอก็พบว่ามันน่าสนใจมาก

แก้มของโจวไคเอ๋อแดงก่ำและเธอรู้สึกเขิลอายเล็กน้อย

"ว่าแต่ยังไงก็ตาม พวกเจ้าจะกลับไปที่โรงเรียนกันก่อนไหมล่ะ"

หลิงเหว่ยด้วยความสงสัยออกมา

"อาจารย์หลิง ข้าจะกลับไปที่บ้านก่อนน่ะและค่อยกลับไปที่โรงเรียน" เย่เฉินกล่าว

การกลับไปที่โรงเรียนนั้นยังจำเป็นอยู่จริงๆ เพราะการสอบเข้าวิทยาลัยนั้นคือช่วงสัปดาห์หน้านี้แล้ว

และด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเย่เฉินแล้ว หลักสูตรการเรียนการสอนที่เหลือจึงไม่จําเป็นอีกเลย

เหตุผลที่เขาต้องการกลับไปโรงเรียนคือเพื่อสมัครรับตราของมหาวิญญาจารย์ของเขาเองเป็นหลัก

นับตั้งแต่การปลุกพลังให้ตื่นขึ้นของวิญญาณยุทธ์ปล้ว เย่เฉินยังไม่ได้ไปสมัครรับตราของวิญญาจารย์เลย

ในตอนนี้ยังไม่มีการออกตราวิญวิญญาจารย์ให้เขาเลย เป็นไปได้ที่จะสมัครเป็นมหาวิญญาจารย์โดยตรงเลย

และคาดว่าอีกไม่นานก็จะสามารถที่จะออกเป็นตราอัคราจารย์วิญญาณได้

"เอาล่ะ ข้าเองก็คงไม่ต้องกังวลอะไรแล้วเพราะมีคนคนนั้นที่คอยอยู่รอบๆ แล้วสินะ"

หลิงเหว่ยพูดด้วยรอยยิ้ม

เธอรู้ถึงการมีอยู่ของเสี่ยวหงหยู่แล้ว แม้ว่าเธอจะไม่เห็นเสี่ยวหงหยู่บนเครื่องบินรบในครั้งนี้ แต่บุคคลผู้ทรงอำนาจในระดับของเธอเช่นนั้นไม่จําเป็นต้องขึ้นเครื่องบินเลย

แม้ว่าวิญญาณยุทธ์ของเสี่ยวหงหยู่จะไม่ใช่ประเภทการบิน ตราบใดที่มันถึงระดับปรมาจารย์วิญญาณ วิญญาจารย์ทุกคนก็จะสามารถที่บินได้ในอากาศ

และเสี่ยวหงหยู่ซึ่งเป็นถึงจักรพรรดิวิญญาณนั้นย่อมเร็วกว่า Kun 20 ของเขาอย่างแน่นอน

"แต่เจ้าต้องส่งข้อความหาข้าเมื่อเจ้ากลับถึงบ้านแล้วด้วยล่ะ ข้าจะไปที่โรงเรียนและเตรียมตัวรอเจ้าที่นั่น"

หลิงเหว่ยกล่าว

ในไม่ช้ากลุ่มของทั้งคนสามคนก็ลงจากเครื่องบินขับไล่ Kun-20

"ขอบคุณมาก ร้อยโทหลิว"

เย่เฉินบอกแก่ทหารคุ้มกัน

ร้อยโทหลิวหัวเราะและพูดออกมาว่า "ด้วยความยินดี เป็นเกียรติของเราที่ได้รู้จักอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้อย่างเช่นเจ้านะ"

หลังจากหยุดชั่วคราว จู่ๆ ร้อยโทหลิวก็ถามด้วยความตั้งใจ: "เย่เฉิน ด้วยกําลังของเจ้าแล้ว เจ้าจะเข้ามหาวิทยาลัยทหารได้อย่างแน่นอน เจ้ามีแผนจะเข้าร่วมกองทัพบ้างไหมล่ะ"

เหลียนชางเจิ้งนั้นเคยได้พูดเอาไว้กับเขาเอาไว้สั้น ๆ ในตอนที่เมื่อพวกเขานั้นได้พบกับกันมาก่อน

ตอนนี้ร้อยโทหลิวอดไม่ได้ที่จะอยากลองถามเขาอีกครั้ง

ไม่มีทางที่ร้อยโทหลิวจะปล่อยโอกาสนี้ไปง่ายๆ กองกําลังหลักกำลังขาดแคลนคนเมื่อเร็วๆ นี้ และกองทัพก็ขาดคนที่มีความสามารถเป็นพิเศษอย่างเย่เฉิน

"ข้าจะลองคิดเกี่ยวกับมันน่ะ"

เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย

หลังจากบอกลาพวกเขาก็ออกจากที่สนามบินโดยตรง

เนื่องจากโจวไคเอ๋อและหลิงเหว่ยบังเอิญอยู่บนถนนสายเดียวกันหลิงเหว่ยจึงออกไปด้วยรถคันเดียวกันกับโจวไคเอ๋อโดยตรง

หลังจากเห็นทั้งสองคนออกไปแล้ว เย่เฉินก็มองไปรอบ ๆ และพบรถพิเศษคันสีดํายาวที่จอดอยู่ข้างถนนในระยะไกลออกไป

"Nan B·00001? นี่มันรถระดับสูงมากเลยไม่ใช่หรอเนี่ย"

หลังจากเห็นป้ายทะเบียนแล้วเย่เฉินก็ได้รับเส้นสีดํา

ก่อนหน้านั้นที่เสี่ยวหงหยู่ได้บอกกับเขาว่าจะมีรถคอยรับ หลังจากมาถึงที่สนามบิน เย่เฉินก็คิดว่ามันคงจะเป็นรถธรรมดาเพียงเท่านั้น

ปรากฎว่าทั้งรุ่นและป้ายทะเบียนนั้นเป็นระดับสูงมาก

"ท่านเย่"

คนขับที่ดูมีอารมณ์ดีพิเศษในวัยห้าสิบต้นๆ ก้าวออกไปช่วยในเรื่องของกระเป๋าเดินทาง

"ไม่เป็นไร ข้าจะทํามันเอง"

เย่เฉินเก็บกระเป๋าเดินทางของเขาและนั่งที่เบาะหลังของรถ

"ท่านเย่ เราจะไปชางจูหยวนเลยไหมครับ"

คนขับหันกลับมาและถามเขาด้วยความเคารพ

ชางจูหยวนนั้นเป็นชื่อย่านที่ที่เย่เฉินอาศัยอยู่

"ใช่แล้วล่ะครับ"

หลังจากที่เย่เฉินพูดจบ คนขับก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจในใจ ชายหนุ่มคนนี้ช่างสุภาพจริงๆ...

แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ แต่เขาก็ยังสุภาพกับตัวเองเป็นอย่างมาก

ชั่วขณะหนึ่ง ทัศนคติของคนขับที่มีต่อเย่เฉินก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก

...

50 นาทีต่อมา

รถรุ่นพิเศษสีดําได้จอดอยู่บนถนนถัดจากย่านชางจูหยวน

"ท่านครับ เรามาถึงที่นี่กันแล้วครับ"

คนขับที่นั่งด้านหน้าหันกลับมาและพูดด้วยความเคารพ

"ตกลงครับ คุณเฉินขอโทษนะครับจอดตรงนี้ได้เลยครับ" เย่เฉินวางโทรศัพท์ลงและยิ้มออกมา

"ด้วยความยินดีครับ ท่านเย่ครับเรายังอยู่ห่างจากประตูของชุมชนอยู่เลย ทําไมไม่ให้ข้าขับรถเข้าไปที่นั่นเลยล่ะครับ"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด