ตอนที่แล้วChapter 420 ในยุคนี้ ไม่มีใครเทียบได้.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 422 ความเสียใจชาติที่แล้วของราชันรัตติกาล

Chapter 421 บุรุษพรสวรรค์และสตรีที่งดงาม.


จุนซ่างเซียวที่ชี้แนะข้อบกพร่องของฝ่ามือได้ เหล่าเจ้านิกายคนอื่น ๆ ต่างก็เชื่อว่าเพียงแค่โชคดี อาจเป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น.

จนกระทั่งอีกฝ่ายสามารถสร้างกระบวนท่าส่วนต่อได้ ทุกคนที่ตระหนักได้ว่าอีกฝ่ายนั้นมีความสามารถจริง ๆ!

ในเวลานี้ ไม่มีใครกล้าดูแคลนเขาอีกแล้ว.

เจ้านิกายหลินที่กล่าวชื่นชมเป็นอย่างสูง ทำให้ทุกคนเข้าใจได้ว่า อีกฝ่ายนั้นไม่ธรรมดา!

“เจ้านิกายหลินกล่าวชื่นชมไปแล้ว.”จุนซ่างเซียวที่กล่าวถ่อมตัวในทันที.

ใช่แล้ว.

ในเวลานี้ เขาไม่จำเป็นต้องแสดงความโอหัง ไม่ต้องทำให้คนอื่นโกรธเกรี้ยวแล้ว เขาก็สามารถที่จะทำให้ทุกคนเข้ามาพูดคุยได้แล้ว.

เป็นความจริง.

เหล่าเจ้านิกายคนอื่น ๆ ที่เงียบไปเช่นกัน จากนั้นก็มีคนหนึ่งที่ก้าวออกมา “เหล่าฟู่มีวิชาบ่มเพาะอย่างหนึ่ง เพราะว่าไม่สามารถยกระดับให้ลึกซึ้งไปมากกว่านี้แล้ว หวังว่าเจ้าสำนักจุนจะช่วยชี้แนะได้.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ทุกท่านเป็นคนของยุทธ์ภพ นี่คือการแลกเปลี่ยนวิถียุทธ์เทือกเขาหัวซาน แน่นอนว่าทุกคนสามารถปรึกษาพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองกันและกันได้.”

“......”

เจียงเซี่ย หลี่ชิงหยางและศิษย์คนอื่น ๆ ที่มุมปากกระตุก.

ก่อนหน้านี้ ไม่ได้บอกว่ามาชมวิวทิวทัศน์เท่านั้นหรอกรึ?

ตอนนี้กลับออกมาชี้แนะคนอื่น ๆ ไม่เท่ากับว่าได้เข้าร่วมการชี้แนะนิกายต่าง ๆ ไปแล้วหรอกรึ?

เหลวไหล.

หากไม่เข้าร่วมปรึกษาวิถียุทธ์ หากไม่มีใครคุยด้วย แล้วจะสำเร็จภารกิจสนับสนุนได้อย่างไรกัน!

เจ้านิกายคนดังกล่าวมีระดับบ่มเพาะบรรพชนยุทธ์ขั้นปลาย ด้วยความสงสัยที่รุมเร้ามาหลายปีแล้ว จึงได้เอ่ยถามกับจุนซ่างเซียว.

วิ้ง วิ้ง.

นี่คือทักษะบ่มเพาะระดับสูงขั้นสูง!

หากไม่เพราะว่าสำนักของเขามีวิชาบ่มเพาะเปลี่ยนเส้นเอ็นที่เป็นระดับเทวะขั้นต้นแล้ว จุนซ่างเซียวต้องฝึกฝนวิชานี้แน่นอน อย่างไรก็ตาม เขาก็สามารถนำมันไปวางที่หอตำรา เพื่อให้ศิษย์ที่สนใจฝึกฝนได้เช่นกัน.

หลังจากตรวจสอบแล้ว เจ้าสำนักจุนก็เริ่มอธิบาย เจ้านิกายคนดังกล่าวที่ได้ยินก็ตระหนักและเข้าใจในทันที!

“เฮ้อ!”

จากนั้น เขาที่เผยท่าทางละอายใจออกมา “เป็นเพียงปัญหาง่าย ๆ เหล่าฟู่ฝึกฝนมากว่าสิบปี กับมองไม่เห็น!”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เพราะปัญหามันใกล้เกินไป คนนอกจึงมองเห็นได้ชัดกว่า.”

เจ้านิกายคนดังกล่าวยกมือประสาน ”เจ้าสำนักจุนช่วยขจัดข้อสงสัย ทำให้เหล่าฟู่ได้รับประโยชน์มากมายนัก.

“เจ้าสำนักจุน.”

ในเวลานั้นเจ้านิกายซ่างกานที่กลับมาอีก ยกมือประสานเอ่ยออกมาว่า “หลินโหมวมีทักษะยุทธ์ที่ยากจะแก้ไขอีก ได้โปรดอธิบายได้หรือไม่?”

“ไม่มีปัญหา.”

ด้วยประสิทธิผลของยันต์รู้แจ้งยังอยู่ เขาก็หวังให้เจ้านิกายคนอื่น ๆเรียงหน้าเข้ามาให้เขาแก้ปัญหาเช่นกัน เพราะอย่างไรเขาต้องการ ทำให้ภารกิจสนับสนุนสำเร็จเร็ว ๆ!

......

ยันต์รู้แจ้งระดับกลางมีผล 60 นาที จุนซ่างเซียวที่ยืนอยู่บนแท่นศิลา ชี้แนะเจ้านิกายคนอื่น ๆ ไปทั้งหกสิบนาทีโดยไม่บ่น ยินดีต้อนรับทุกคน.

ในเวลานี้มีเจ้านิกายและศิษย์มากมายที่เข้ามาสอบถาม หลังจากได้รับการอธิบายก็กลายเป็นเงียบงัน พวกเขาถูกความเข้าใจที่ลึกล้ำของเจ้าสำนักจุนกำราบอย่างราบคาบ.

เพราะว่ามีคนมากมาย ปัญหามีนับไม่ถ้วน ยันต์รู้แจ้งแผ่นหนึ่งไม่พอที่จะจัดการปัญหานี้ได้.

จุนซ่างเซียวจึงบดยันต์อีกแผ่น และเริ่มชี้แนะคนอื่น ๆต่อไป.

หากแต่เป็นเรื่องน่าแปลก.

จวบจนฤทธิ์ของยันต์รู้แจ้งแผ่นที่สองจะหมดฤทธิ์แล้ว ภารกิจสนับสนุนก็ยังไม่สมบูรณ์.

“เฮ้ย ๆ ไม่ใช่ว่าต้องแก้ปัญหาจนครบทุกคนเลยรึ?ถึงจะสำเร็จ.”

จุนซ่างเซียวที่โอดครวญในใจ.

“เจ้าสำนักจุน.”

ในเวลานั้น ซีจิงเสวียนที่ยืนอยู่เอ่ยออกมาว่า ”ข้าเองก็มีทักษะยุทธ์ที่ยากจะแก้ไข ต้องการปรึกษาเช่นกัน.

เหล่าเจ้าสำนักมากมายที่เข้ามารุมล้อม ทำให้นางไม่มีโอกาสได้เอ่ยปากเลย.

จุนซ่างเซียวที่เผยยิ้ม “ลำพังเปิ่นจั้วและเจ้าวังซีมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน ไม่ว่าจะปรึกษาหรือสอบถามสักสิบยี่สิบคำถามก็หาได้มีปัญหาอันใด.”

“อ๋า....”

ใบหน้าที่เรียวเล็กของนางที่กลายเป็นสีแดงทันที.

เห็นชัดเจนคำว่ามีมิตรภาพที่ดีต่อกัน มันช่างชวนให้เข้าใจผิดจริง ๆ.

เหล่าเจ้านิกายคนอื่น ๆ ที่สังเกตเห็นว่าเจ้าวังซีที่ใบหน้าแดงระเรื่อ ก็เข้าใจว่าจุนซ่างเซียวที่พยุงนางขึ้นมาจนถึงยอดเขา สามาถคาดเดาได้ว่า ทั้งสองมีสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาหรือไม่?

บุรุษที่หล่อเหล่ามีความรู้ที่ไม่ธรรมดา.

สตรีก็งดงามราวกับเทพธิดา.

ทั้งสองที่เป็นประมุขสำนัก บุรุษมากพรสวรรค์ย่อมคู่กับสาวงาม ช่างเหมาะสมกันยิ่งนัก.

วิชาที่ซีจิงเสวียนสงสัยยากจะแก้ไขนั้น เป็นวิชาลับที่มีชื่อว่า วิชาลับเนตรสกัดฝุ่น.

สตรีผู้นี้ดวงตาบอดตั้งแต่เกิด แต่กลับมาฝึกฝนวิชาดวงตา ช่างเป็นอะไรที่เหลวไหลอยู่เล็กน้อย!

อย่างไรก็ตาม.

ขณะที่จุนซ่างเซียวกำลังพิจารณาวิชาดังกล่าว ทันใดนั้นก็ตระหนักได้.

วิชานี้พิเศษโดยแท้จริง ความจริงแล้วเป็นวิชาสำหรับใช้มองในที่มืดได้อย่างแจ่มแจ้งได้เมื่อสำเร็จขั้นสุดแล้ว.

ถึงจุนซ่างเซียวจะใช้ยันต์รู้แจ้ง ง่ายที่จะเข้าใจ ทว่าหากจะให้ฝึกฝน แน่นอนว่ายากจะสมบูรณ์ได้.

วิชานี้เหมาะกับคนตาบอดหรืออยู่ในพื้นที่มืดมิด.

นี่คือวิชาที่ต้องอยู่ในความมืด จึงจะสามารถเข้าใจและสำเร็จได้.

การจะฝึกฝนวิชานี้ แน่นอนว่าจะต้องหาสถานที่พิเศษในการฝึก.

ซีจิงเสวียนที่ตาบอดมาตั้งแต่เกิด วิชาดวงตาสกัดฝุ่นนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหมาะสมเป็นอย่างมาก.

“เจ้าวังซี.”

จุนซ่างเซียวเงียบและเอ่ยออกมาว่า “วิชานี้ แม้นว่าจะลึกล้ำ ทว่าการบ่มเพาะไม่สามารถที่จะเร่งรีบได้ ไม่เช่นนั้นจากง่ายจะกลายเป็นยากเกินประมาณ.”

“ส่วนเรื่องที่ท่านสับสน ต้องการก้าวไปถึงระดับต่อไป หากว่าสงบใจลงสักนิดท่านคงพอจะคาดเดาได้แล้ว.

ซีจิงเสวียนกล่าว “ข้าพอจะคาดเดาได้อย่างงั้นรึ?”

จุนซ่างเซียวเอ่ยเสียงเบา “วิชานี้เพียงแค่บ่มเพาะเหมือนปรกติทั่วไปดั่งเช่นที่ทำอยู่ อีกอย่างก็ต้องฝึกฝนจิตใจควบคุมไปด้วย เพียงแค่ระวังกระทำตามสองอย่างนี้อย่างเคร่งครัด ไม่ช้าก็เร็วจะสามารถก้าวไปถึงขั้นสุดยอดได้อย่างแน่นอน.”

“เข้าใจแล้ว.”

ซีจิงเสวียนที่เผยยิ้ม กล่าวออกมาว่า “ขอบคุณเจ้าสำนักจุนที่ขจัดข้อสงสัย.”

เข้าใจแล้วอย่างงั้นรึ?

กล่าวตามตรง นางหาได้เข้าใจแต่อย่างใด.

ทว่าในเมื่อเจ้าสำนักจุน เอ่ยว่าจำเป็นต้องอดทน ฝึกฝนกายและจิตใจอย่างระมัดระวังต่อไปก็ไม่มีอะไรต้องลังเลสงสัยอีกต่อไปแล้ว.

“ติ๊ง! ภารกิจสนับสนุนสำเร็จแล้วลได้รับคะแนนสนับสนุน 1000 แต้ม.”

“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุน : 6461 / 5000.”

“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุนล้น....”

ไม่สงสัยเลยว่าไม่สำเร็จสักที แท้จริงเพราะว่ายังไม่พูดคุยกับซีจิงเสวียนนี่เอง.

“ทุกท่าน.”

จุนซ่างเซียวยกมือประสาน ”เปิ่นจั้วได้ชี้แนะทุกท่านครบแล้ว ขอนำศิษย์ไปชมวิวทิวทัศน์ก่อนก็แล้วกัน.

ตั้งแต่แรกเขาก็ไม่ได้ต้องการมาเข้าร่วมงานพูดคุยวิถียุทธ์เขาหัวซานแต่อย่างใด ตอนนี้ภารกิจสำเร็จแล้ว ไม่มีความหมายใดที่จะอยู่ ต้องไม่ลืมว่านอกจากการแสดงความเท่ออกมา ก็ไม่มีประโยชน์อันใดเลย.

เจ้านิกายซ่างกานที่เอ่ยออกมาว่า “ความรู้ของเจ้าสำนักจุนนั้นลึกซึ้งกว้างขวาง ศิษย์ของท่านคงจะได้รับประโยชน์มากมาย หลินโหมวหวังว่าจะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์.”

“แลกเปลี่ยนประสบการณ์อย่างไรรึ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

เจ้านิกายหลินที่ยกมือประสานเอ่ยออกมาว่า “ศิษย์ของข้าและศิษย์ของท่านมาประลองเชื่อมสัมพันธ์กันดีหรือไม่?”

ไม่ใช่การหาเรื่อง หากแต่เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เขาต้องการรับรู้พลังของศิษย์ที่เจ้าสำนักจุนปั้นมากับมือเป็นเช่นไร!

“เรื่องนี้....”

จุนซ่างเซียวแน่นอนไม่หวังที่จะประลองแม้แต่น้อย เสียเวลาชะมัด ดังนั้นขณะที่จะกล่าวปฏิเสธ ทว่ายังไม่เอ่ยปากด้วยซ้ำ เสียงของระบบก็ดังขึ้น.

“ติ๊ง! กระตุ้นภารกิจสนับสนุน!”

อีกแล้วรึ?

เขาที่เปิดคอนโซนระบบขึ้น ภารกิจนำศิษย์เข้าร่วมพูดคุยวิธียุทธ์ ส่งออกไปแลกเปลี่ยนฝีมือกับศิษย์นิกายอื่น [ยังไม่สำเร็จ]

โอ้ย! บิดาไม่ต้องการประลอง ภารกิจกับบังคับไม่ให้ทางเลือกเลย นี่จงใจใช่หรือไม่?

ระบบเอ่ย “โฮสน์สามารถนำศิษย์จากไปได้เลย ก็แค่ภารกิจล้มเหลว.”

“ไปให้พ้น.”

จุนซ่างเซียวที่โต้เถียงในใจ ก่อนที่จะยกมือประสานเอ่ยออกมาว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็มาแลกเปลี่ยนฝีมือกันเถอะ.”

หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อและศิษย์คนอื่น ๆ ที่ดวงตาลุกโชนขึ้นมาทันที.

การเข้าร่วมพูดคุยปรึกษาวิถียุทธ์ที่เทือกเขาหัวซานนั้นมีนิกายระดับสี่และห้ามากมาย พวกเขาต่างก็นำศิษย์ที่แข็งแกร่งมาด้วย หลี่ชิงหยางและพวกต่างก็หวังที่จะได้เปรียบความสามารถของพวกเขากับอีกฝ่ายเช่นกัน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด