ตอนที่แล้วบทที่ 12: เพื่อนบ้านใหม่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 14: นักปรุงยาสัญญาพิเศษ

บทที่ 13: ผู้อาวุโสชุดเขียวลึกลับ


บทที่ 13: ผู้อาวุโสชุดเขียวลึกลับ

หลังจากมาถึงเนินเขาของจางเว่ยหยุนแล้ว ซูฟ่านก็มองไปรอบๆ

ผู้อาวุโสได้ออกไปแล้วหลังจากการก่อสร้างเสร็จสิ้น และลานขนาดเล็กตามมาตรฐานก็ได้ถูกสร้างขึ้น

“ถ้าความเร็วในการก่อสร้างนี้อยู่ในชาติที่แล้วของข้า พวกเขาก็คงจะกลายเป็นคนรวยได้ในไม่กี่นาที” ซูฟ่านอุทาน

การก่อสร้างลานเล็กๆ นี้ใช้เวลาเพียงสามชั่วโมง ซึ่งเป็นระยะเวลาเดียวกับที่จางเว่ยหยุนร้องไห้

“สามี ท่านรังแกข้า!”

ร่างหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาหาซูฟ่านอย่างรวดเร็ว และในขณะที่มันกำลังจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ ซูฟ่านก็ยื่นมือออกมาและสร้างเกราะป้องกันอันอ่อนนุ่มขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้เธอชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่

ความผิดหวังปรากฏอยู่ในดวงตาของจางเว่ยหยุน

เขาไม่แม้แต่จะจับข้าด้วยซ้ำ!

'ปัง!'

เธอชนเข้ากับโล่ป้องกันและทำให้ความเร็วของเธอลดลงในที่สุด

ซูฟ่านมองไปรอบๆ และเห็นว่าพื้นที่รอบตัวพวกเขาดูใหญ่กว่าเนินเขาของเขาเองมาก

“เว่ยหยุน ด้วยที่ดินอันกว้างใหญ่เช่นนี้ เจ้าอยากปลูกอะไรล่ะ?”

“แน่นอนว่าต้องเป็นดอกไม้! เอาที่ทั้งสวยงามและมีกลิ่นหอม” จางเว่ยหยุนกล่าวอย่างมีความสุข

“ถ้าอย่างนั้นเรามาปลูกดอกไม้เมฆาม่วงกันเถอะ มันมีฤดูออกดอกที่ยาวนาน และในช่วงเจริญเติบโต มันก็สามารถเก็บน้ำค้างเมฆาม่วงได้ เมื่อมันโตแล้ว เจ้าก็สามารถเก็บเกี่ยวน้ำหวานของมันเพื่อขายแลกเป็นหินวิญญาณได้” ซูฟ่านแนะนำโดยนึกถึงสิ่งที่เขาเคยอยากจะปลูกในอดีต แต่ในตอนนั้นเขาก็ไม่ได้ปลูกมันเพราะคิดว่าภูเขาที่เต็มไปด้วยดอกไม้สีม่วงคงจะไม่เหมาะกับบุคลิกของเขาสักเท่าไหร่..

ลูกผู้ชายและสีม่วง.. แค่คิดถึงมันก็น่าอึดอัดใจแล้ว

“นั่นฟังดูดีจัง!” จางเว่ยหยุนหรี่ตาและยิ้มด้วยความยินดี

“เอาล่ะ งั้นเจ้าก็ไปเตรียมเมล็ดพันธุ์ดอกไม้มาให้พร้อม แล้วข้าจะมาช่วยเจ้าปลูกมันเอง”

“อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเจ้ามาที่นี่แล้ว พ่อของเจ้าได้ให้หินวิญญาณติดตัวมาด้วยบ้างรึเปล่า?” ซูฟ่านถาม

ท้ายที่สุดแล้ว ตอนนี้เขาก็ไม่ได้มีหินวิญญาณมากมาย

“แน่นอน เขาให้หินวิญญาณ 100 ก้อนมาแก่ข้า พรุ่งนี้ข้าจะไปซื้อเมล็ดพันธุ์ดอกไม้เลย”

หลังจากนั้น ซูฟ่านก็พาจางเว่ยหยุนไปเดินเล่นรอบๆ บริเวณเนินเขาและกลับไปที่เนินเขาของเขาเองด้วยจิตใจที่หนักอึ้ง

ซูฟ่านนั่งอยู่ในลานเล็กๆ ของเขา จ้องมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวด้วยความงุนงง เขาไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไงดี

ทันใดนั้น แสงสีเขียวลึกลับก็ระเบิดไปทั่วท้องฟ้า

นกศักดิ์สิทธิ์ปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้า โดยมีผู้หญิงสวมกระโปรงยาวสีฟ้ายืนอยู่บนหลังของมัน ผมสีดำยาวของเธอปลิวไสวและทำให้เธอดูน่าทึ่งอย่างหาที่เปรียบมิได้

ซูฟ่านเฝ้าดูทิศทางที่นกศักดิ์สิทธิ์กำลังบินไปและค่อยๆ ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

“บ้าเอ้ย มันกำลังบินมาหาข้าหรอ!”

ซูฟ่านซึ่งเดิมนอนเหยียดกายอยู่บนเก้าอี้เริ่มตื่นตัวขึ้นมาโดยทันที เมื่อดูนกศักดิ์สิทธิ์ที่บินเข้ามา เขาก็เริ่มรู้สึกกังวล สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสับสน

“ข้าถูกลิขิตให้เป็นคนพิเศษเพราะระบบนี้งั้นหรอ?”

ตามความคิดของซูฟ่าน อีกฝ่ายก็อาจจะเห็นศักยภาพของเขาและต้องการจะรับเขาเป็นลูกศิษย์

อาจารย์สาวผู้งดงาม.. แค่คิดถึงเรื่องนี้ก็น่าตื่นเต้นแล้ว

จิตใจของซูฟ่านเต็มไปด้วยความคิดว่าเขาจะทำยังไงดีหากเขาถูกบังคับให้ต้องรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้

และในขณะนั้นเอง เสียงอันบริสุทธิ์ก็ดังก้องไปทั่วเทือกเขาส่วนนอก

“ยินดีต้อนรับท่านผู้อาวุโสสู่นิกายเทียนฉัว ข้าขอทราบได้ไหมว่าเหตุอันใดท่านผู้อาวุโสจึงมายังสถานที่แห่งนี้?”

ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซูฟ่านก็สัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวจากเสียงอันทรงพลังนั้น

“ข้ามาที่นี่เพื่อตามหาลูกศิษย์ของข้า” เสียงเย็นชาตอบ

“โอ้ ศิษย์ของท่านอยู่ในนิกายเทียนฉัวของเราหรอ?”

“ใช่”

ขณะที่ซูฟ่านกำลังคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องปรากฏตัว เขาก็เห็นแสงสีฟ้ากำลังอุ้มจางเว่ยหยุนซึ่งกำลังกินแตงโมอยู่เข้ามาใกล้ เธอกำลังบินไปทางผู้อาวุโสชุดเขียว

“กายาชะตาสวรรค์ สาวน้อย เจ้าสนใจอยากจะมาเป็นศิษย์ของข้าหรือไม่?” ผู้อาวุโสชุดเขียวกล่าวต่อจางเว่ยหยุนด้วยความอ่อนโยน

“ข้า…ข้า…ข้าไม่รู้เหมือนกัน” จางเว่ยหยุนพูดอย่างว่างเปล่า

ซูฟานที่กำลังยืนดูละครอยู่รู้สึกปวดใจและอยากจะกระอักเลือดออกมาให้ไกลสักแปดเมตร

“ให้ตายเถอะ นี่เป็นโอกาสอันดีของเจ้าแล้ว! เจ้าต้องตอบตกลงไปสิ!” ซูฟ่านเริ่มรู้สึกกังวลแทนจางเว่ยหยุน

ในขณะนี้ ชายวัยกลางคนที่ดูสูงส่งและสวมชุดอาภรณ์สีขาวก็ปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้า ใบหน้าของเขาดูทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อยในขณะที่เขามองไปที่ผู้อาวุโสชุดเขียวลึกลับ

“ท่านผู้มีเกียรติ ข้าเดาว่าท่านคงจะมาที่นี่เพื่อแย่งชิงศิษย์นิกายเทียนฉัวของเราใช่ไหม?”

“แม้ว่ากายาชะตาสวรรค์จะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ครอบครองได้รับโชคลาภมหาศาล แต่ข้าเกรงว่าเรื่องแค่นั้นคงจะยังไม่เพียงพอที่จะดึงดูดความสนใจจากท่านหรอกจริงไหม?” ชายวัยกลางคนกล่าว

“นางถูกกำหนดให้มาอยู่กับข้า”

“เจ้าจะพิจารณาว่ามันเป็นความโปรดปรานจากข้าที่มีต่อนิกายเทียนฉัวของเจ้าก็ได้” ผู้อาวุโสชุดเขียวลึกลับกล่าวอย่างไม่แยแส

ชายวัยกลางคนมองไปที่พื้นที่ชั้นนอกของนิกายและสัมผัสได้ถึงสัมผัสศักดิ์สิทธิ์มากมายที่กำลังสอดแนมพวกเขาจากในนิกายชั้นใน เขากัดฟันและกล่าวว่า “ถึงแม้ท่านจะอยู่ขอบเขตมหายานแล้ว แต่ท่านก็ไม่ควรบังคับศิษย์ของเราให้ติดตามท่านไป”

“ความโปรดปรานของข้าไร้ค่างั้นหรอ?” ผู้อาวุโสชุดเขียวลึกลับขมวดคิ้ว ความไม่พอใจแฝงอยู่ในน้ำเสียงของเธอ

ทันใดนั้นชายวัยกลางคนก็รู้สึกราวกับว่าเขาถูกภูเขาทั้งลูกกดทับ เขาเกือบจะสูญเสียการทรงตัวไปโดยทันที

“ไม่เลย มันนับเป็นเกียรติสำหรับเราแล้วที่ท่านให้ความสนใจลูกศิษย์จากนิกายเทียนฉัวของเรา”

“ถึงอย่างนั้น หากลูกศิษย์หญิงของเราไม่เห็นด้วย ข้าก็ขอท่านผู้มีเกียรติโปรดอย่าบังคับใครให้ลำบากใจเลย”

“ย่อมได้”

ผู้อาวุโสชุดเขียวลึกลับมองไปที่จางเว่ยหยุน

“เจ้าอยากเป็นศิษย์อาวุโสของข้าไหม? ข้าบังเอิญมีวิชาการฝึกตนที่เหมาะกับกายาชะตาสวรรค์ของเจ้า ด้วยสิ่งนี้ การขึ้นสู่โลกเซียนนั้นก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น”

หลังจากได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสชุดเขียวลึกลับ จางเว่ยหยุนก็คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตะโกนไปทางยอดเขาของซูฟ่าน

“สามี ท่านคิดว่าข้าควรทำอย่างไรดี?”

ทันใดนั้น ซูฟ่านก็กลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจ

ภายใต้การจ้องมองของมหาอำนาจทั้งสอง ซูฟ่านก็กล่าวอย่างใจเย็นว่า “มันเป็นโอกาสของเจ้าแล้ว และข้าคิดว่าเจ้าควรยอมรับมัน”

ในใจของเขา ซูฟ่านก็ยังคงย้ำกับตัวเองว่า “ข้ามีระบบ และข้าจะแข็งแกร่งกว่าพวกเขาทุกคนในอนาคต เพราะงั้นแล้ว ตอนนี้ข้าต้องเอาตัวรอดไปก่อน”

หลังจากได้ยินคำพูดของซูฟ่านแล้ว จางเว่ยหยุนก็ถามว่า “ข้าจะยังสามารถกลับมาพบสามีของข้าในอนาคตได้หรือไม่?”

“แน่นอน” ผู้อาวุโสชุดเขียวลึกลับพยักหน้า เธอไม่ได้ฝึกตนสายวิชาต้องห้าม ดังนั้นเธอจึงจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอนาคตของลูกศิษย์ของเธอ นอกจากนี้ กายาชะตาสวรรค์ก็ยังเกิดมาเพื่อนำพาโชคลาภอันยิ่งใหญ่ ดังนั้นสามีของเธอจึงจะกลายเป็นคนพิเศษอย่างแน่นอนในอนาคต”

“งั้นข้าก็ยินดีที่จะเป็นศิษย์ของท่าน” จางเว่ยหยุนกล่าวและคำนับโดยทันที

“ขอแสดงความยินดีกับท่านผู้มีเกียรติสำหรับการได้ลูกศิษย์ที่ดี”

ชายวัยกลางคนมองตรงไปที่ซูฟ่านชั่วครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหายไปอย่างช้าๆ

“ตอนนี้เจ้ากลายเป็นศิษย์ของข้าแล้ว ตามข้ามา”

ผู้อาวุโสชุดเขียวลึกลับนำจางเว่ยหยุนขึ้นไปบนหลังนกศักดิ์สิทธิ์โดยทันที เธอไม่อนุญาตให้จางเว่ยหยุนพูดคำลาใดๆ ก่อนที่ร่างของพวกเธอจะหายไปในท้องฟ้า

ทุกอย่างกลับมาเงียบสงบลงอีกครั้ง

“ภรรยาที่ข้าเพิ่งได้มาจากไปซะอย่างนั้นเลยหรอ?”

“เอาเถอะ ยังไงมันก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว อย่างน้อยข้าก็จะไม่ต้องมาคอยอึดอัดใจที่จะต้องปฏิเสธเธอในอนาคต”

ซูฟ่านทรุดตัวลงบนเก้าอี้อีกครั้ง

“ขีดจำกัดสูงสุดของโลกใบนี้นั้นสูงเกินไป พลังของข้าในตอนนี้ยังไม่เพียงพอ ข้ายังคงต้องนอนรออีกนานกว่าจะถึงเวลาได้โอ้อวดพลัง”

ด้วยความคิดดังกล่าว ซูฟ่านจึงหยิบแผ่นหยกที่มีข้อมูลวิชาบัญญัติห้าธาตุขึ้นมาอ่าน

ในมุมมองของซูฟ่าน คุณภาพของวิชาการฝึกตนก็ขึ้นอยู่กับหลายแง่มุม

การเพิ่มความสามารถของจุดตันเถียนในการกักเก็บพลังวิญญาณ การดูดซับคุณภาพของพลังวิญญาณ การเสริมสร้างขีดจำกัดของจิตใจและอื่นๆ

“วิชาบัญญัติห้าธาตุนี้ไม่ได้โดดเด่นเลย และมันก็ไม่ได้มีลักษณะเฉพาะตัวด้วย มันไม่ได้เปิดโอกาสให้ข้าปรับปรุงมันให้แข็งแกร่งขึ้นด้วยซ้ำ!”

ซูฟ่านต้องการหาวิธีปรับปรุงวิชาบัญญัติห้าธาตุนี้ให้มีระดับสูงขึ้นอยู่เสมอ นี่เป็นเพราะสิ่งที่เขากำลังฝึกอยู่ตอนนี้นั้นดูอ่อนแอเกินไปในสายตาของเขา...

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด