ตอนที่แล้วตอนที่ 20 การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ทำให้คุณโกรธได้ (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 22 ความสงสัยของพ่อแม่ของ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย

ตอนที่ 21 ช็อก! ข่าวใหญ่ที่สร้างความประหลาดใจให้กับคนในครอบครัว


เชี้ยย!

มันหมายความยังไง แค่ 4 ล้านเท่านั้นเอง, นี่เป็นคำที่คุณควรพูดออกมาเหรอ?

เพราะแม้แต่เขาที่ซึ่งเป็นนายน้อยคนโตของ ไห่ซื่อ กรุ๊ป มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะควักเงินมากกว่า 4 ล้านออกมาในคราวเดียว แล้วมันนับประสาอะไรกับชายหนุ่มที่ดูธรรมดาๆ คนนี้?

เซี่ย เคอหมิง ลูกพี่ลูกน้องของ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ต่างก็รู้สึกว่า ซูเหวิน มั่นใจเกินไป

“ไม่ทราบว่า คุณชายซู อาศัยอยู่ที่ไหน คุณถึงได้ซื้อเฟอร์นิเจอร์ไปเยอะมากขนาดนี้ คือแบบคุณจะวางพวกมันเอาไว้ในบ้านได้หรือ?”

คุณชายอู๋ ที่อยู่ข้างๆ อดเยาะเย้ยไม่ได้

“ผมเองก็เพิ่งซื้อบ้านเหมือนกัน อยู่ที่ อ่าว ไห่หยุน วันนี้มาซื้อเฟอร์นิเจอร์ และอีกไม่กี่วันก็จะย้ายเข้าไปอยู่แล้ว”

ซูเหวิน พูดไปตามความจริง

“ไห่... อ่าว ไห่หยุน หนึ่งในย่านวิลล่าของคนรวยที่มีชื่อเสียงในเมืองม่อ?”

คุณชายอู๋ และคุณชายเซวีย ตกตะลึงไปแล้ว

“พี่สาว สิ่งที่ คุณชายซู คนนี้พูดจริงหรือเปล่า?”

ใบหน้าของ เซี่ย เคอหมิง ก็มีเครื่องหมายคําถาม

อันที่จริง.. ตอนแรกที่เห็น ซูเหวิน เขาก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะร่ำรวย

ท้ายที่สุดแล้ว อย่างไรในฐานะชายหนุ่มจากตระกูลที่ร่ำรวย เขาก็ยังสามารถดูออกได้จากการแต่งตัวของอีกฝ่าย

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เมื่อกี้ที่ ซูเหวิน ซื้อเฟอร์นิเจอร์มากกว่า 1 ล้านหยวนในคราวเดียว จากนั้นใช้เงินมากกว่า 3 ล้านเพื่อซื้อโต๊ะไม้จินสื่อหนาน เขาก็ไม่เข้าใจภูมิหลังของอีกฝ่ายแล้ว

ตอนนี้เมื่อพอได้ยินอีกฝ่าย ซื้อวิลล่าในเขตอ่าว ไห่หยุน อีกครั้ง เซี่ย เคอหมิง ก็รู้สึกสันสนไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว

ผู้ชายคนนี้ เป็นใครกันแน่?

“ฮ่าฮ่าๆ คุณชายทุกท่าน อย่าได้สงสัย.. สิ่งที่ คุณชายซู พูดนั้นเป็นความจริงทั้งหมดคะ เขาซื้อวิลล่าในเขตอ่าว ไห่หยุนจริงๆ และยังเป็นโซน A ด้วย”

“บังเอิญที่ว่า สามีของฉันเป็นผู้จัดการฝ่ายขายของ วิลล่า ในเขตอ่าว ไห่หยุนค่ะ ซึ่งก็เป็นคําแนะนําของเขา คุณชายซู ถึงได้มาที่นี่เพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์…”

คุณหลิว ที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดขึ้น เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ของ ซูเหวิน

ท้ายที่สุดแล้ว คุณชายซู ก็ถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ของ เหม่ยซือ เฟอร์นิเจอร์ ซิตี้ ของพวกเขา และซึ่งแน่นอนว่า ..เธอย่อมต้องปฏิบัติต่อเขาอย่างดี

เซี่ย เคอหมิง เซวีย ชิงเสวีย และคนอื่นๆ ตกตะลึงไปแล้ว พวกเขายังสงสัยอยู่ว่า เมื่อกี้ ..พวกเขาหูแว่วไปใช่หรือไม่

แน่นอน.. พวกเขาย่อมรู้เกี่ยวกับ วิลล่า ในเขตอ่าว ไห่หยุน และราคาบ้านของที่นั่นก็แพงมากจนน่าขัน และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะซื้อมันมาได้โดยง่ายๆ

เดิมทีพวกเขาคิดว่า คุณชายซู คนนี้แค่คุยโม้ แต่ตอนนี้กลับมีคนบอกว่านี่ ..เป็นเรื่องจริง?

“เพื่อนร่วมชั้น ซู ไม่ได้โกหก เขาซื้อวิลล่าที่ อ่าว ไห่หยุน จริงๆ”

ในที่สุดแม้แต่เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ก็พูดแล้ว

แม้ว่าเธอจะไม่ได้เห็น วิลล่า ของ เพื่อนร่วมชั้น ซู แต่เธอเองก็รู้ดีว่า เพื่อนร่วมชั้น ซู ไม่มีเหตุผลอันใดที่จะโกหกเธอในเรื่องนี้

ทุกคนเงียบแล้ว

ด้วยหลักฐานจากพนักงานขาย กอปรกับ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย เปิดปากพูด.. คราวนี้พวกเขาไม่เชื่อก็ไม่ได้

โดยเฉพาะ.. เซี่ย เคอหมิง

แม้ว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาจะค่อนข้างห่างเหิน และเย็นชา แต่ก็ไม่เคยโกหก แม้แต่เธอเองก็ยินดีที่จะช่วยเป็นพยานให้ ซูเหวิน และเรื่องนี้มันสามารถสรุปได้แล้ว

เมื่อกี้ เขายังรู้สึกว่าคําพูดของ ซูเหวิน ดูหยิ่งเกินไป ตอนนี้พอมาคิดเกี่ยวกับมันดูแล้ว ..ก็ค่อนข้างไร้สาระ

คนอื่นสามารถซื้อ วิลล่า ในเขตอ่าว ไห่หยุน ได้ แล้วเงิน 4 ล้าน มันจะนับเป็นอะไรได้?

แน่นอนว่าคนที่ตกใจที่สุดย่อมเป็น คุณชายเซวีย และคุณชายอู๋ ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่า ซูเหวิน เป็นเพียงคนธรรมดา แต่พวกเขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าคนอื่นจะเก็บงำชื่อเสียงเอาไว้

คุณชายเซวีย รู้สึกเสียใจมาก..

ถ้ารู้ก่อนหน้านี้ว่าอีกฝ่ายซื้อ วิลล่า ในเขตอ่าว ไห่หยุน ..เขาจะเปรียบเทียบกับคนอื่นได้อย่างไร?

คฤหาสน์ที่ตระกูลเซวียของเขาซื้อให้ที่ เฉิงชื่อห่าวถิง มีราคามากว่า 20 ล้านเท่านั้น และนี่เป็นผลมาจากการหารือร่วมกันมาอย่างยาวนานในครอบครัว แล้ว.. จะเอาที่ไหนไปเทียบคนอื่นได้?

“อะแฮ่ม!! เอาล่ะ ในเมื่อซื้อของเสร็จแล้ว ไปกันเถอะ เดี๋ยวไปกินข้าวเที่ยงกัน”

คุณชายเซวีย รู้สึกว่าตัวเองไม่มีหน้าอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว

หลังจากเขาได้แจ้งบอกที่อยู่เฉพาะของคฤหาสน์ที่เขาเพิ่งซื้อใหม่ให้กับ คุณหลิว แล้ว เขาก็พร้อมที่จะจ่ายเงิน และจากไป

“อ่า.. ใช่ จริงสิ ที่บ้านฉันมีธุระ เดี๋ยวพอกินเสร็จฉันคงต้องขอตัวกลับเลย!” คุณชายอู๋ ก็กล่าวขึ้นเช่นกัน

ก่อนหน้า พวกเขายังอยากเข้าไปพูดคุยกับ คุณเซี่ย ให้มากขึ้น แต่ตอนนี้พวกเขาแทบรอไม่ไหวแล้วที่จะอยากจากไปทันทีโดยเร็ว

“โอเค!” เซี่ย เคอหมิง ก็พยักหน้า

เดิมทีเขายังอยากจะถาม ลูกพี่ลูกน้อง ถึงตัวตนที่แท้จริงของ ซูเหวิน ว่า เขา.. เป็นใครกันแน่ แต่เมื่อเห็นว่าเพื่อนทั้งสองคนพูดแบบนี้แล้ว เขาก็เลยได้ต้องเก็บไปถามในครั้งต่อไปเท่านั้น

จากนั้นทุกคนก็มาที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ และหลังจากคํานวณราคา และจ่ายเงินแล้ว เซี่ย เคอหมิง และพรรคพวกก็จากไป

“เท่าไรครับ?”

หลังจากหลายคนจากไปแล้ว ซูเหวิน ก็มองไปที่ คุณหลิว เขาเองก็พร้อมที่จะจ่ายเงิน แล้วจากไปเช่นกัน

“ของ คุณชายซู มีเฟอร์นิเจอร์รวมแล้ว 20 กว่าชิ้น รวมทั้งหมดแล้วกว่า 8.4 ล้านหยวนค่ะ”

“แต่คุณซื้อเฟอร์นิเจอร์มากขนาดนี้ คุณเองจะถือได้ว่าเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของเรา เหม่ยซือ เฟอร์นิเจอร์ ซิตี้ และเราสามารถให้ส่วนลดมากมายกับคุณ…”

คุณหลิว กล่าวด้วยความเคารพ

“อืม.. รูดบัตรเถอะ!”

ซูเหวิน ควักกระเป๋าเงินออกมาหยิบบัตรธนาคาร พลางยกยิ้มขึ้นอย่างสงบ

เมื่อกี้ระบบเพิ่งให้เงินรางวัลแก่เขาไปเป็นเงินจำนวน 30 ล้านหยวน รวมกับเงินเดิมที่มีอยู่ 9.6 ล้าน ตอนนี้เขามีเงินสดเกือบ 40 ล้านแล้ว

จ่ายกว่า 8 ล้านในครั้งเดียวนี่ มันแค่เรื่องจิ๊บๆ!

ในเวลานี้ ระบบได้ส่งเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นในใจ(หัว)ของเขาอีกครั้ง และซูเหวิน ก็รู้ว่ามันถึงเวลาให้รางวัลแก่เขาแล้ว…

ด้านนอก เหม่ยซือ เฟอร์นิเจอร์ ซิตี้

ทันทีที่ คุณชายเซวีย และพวกมาถึงที่ลานจอดรถ เซี่ย เคอหมิง ก็มีบางอย่างเปล่งประกายขึ้นในดวงตาของเขา และดูเหมือนเขาจะนึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญขึ้นมาได้

ความสัมพันธ์ระหว่างลูกพี่ลูกน้องของเขาคนนี้กับ ซูเหวิน ดูไม่ง่ายเลย.. เขารู้สึกว่าควรบอก คุณลุง คุณป้า เกี่ยวกับเรื่องนี้ และมันคงทําให้พวกเขาประหลาดใจได้ ..อย่างแน่นอน

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดแอพ VX และแท็กลุงของเขาที่อยู่ในกลุ่มครอบครัวเซี่ย และพิมพ์ไปว่า

เซี่ย เคอหมิง : “ลุงใหญ่ ผมพบความลับอันใหญ่มาอย่างหนึ่ง ลูกสาวของคุณดูเหมือนจะมีความรักแล้ว และวันนี้ยังมาซื้อเฟอร์นิเจอร์กับชายหนุ่มคนหนึ่งด้วย แถมยังซื้อเตียงด้วยนะ คาดว่าพวกเขาคงพร้อมที่จะนอนด้วยกันแล้ว”

เซี่ย เคอหมิง พิมพ์อธิบายลงไปในสิ่งที่เขาเห็นอย่างคลุมเครือมาก

ไม่ถึงนาทีข่าวนี้ก็ได้ถูกแพร่กระจายไปทั่วในกลุ่มครอบครัว ในแอพ VX ก็ดูเหมือนจะระเบิดหม้อ(1)ทันที พร้อมกับมีข้อความเด้งขึ้นมาเรื่อยๆ

อาสาว : “หา.. มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย? เสี่ยวเหยา กำลังมีความรัก?”

แม่ : “พวกเขายังพร้อมที่จะนอนด้วยกัน โอ๊ยย.. ตายฉันจะเป็นลม อุกอาจอะไรเช่นนี้ แต่ด้วยนิสัยของ เสี่ยวเหยา ที่ไหนเธอมองหาผู้ชายล่ะ?”

น้าสาม : “เสี่ยวหมิง อย่ามาโกหก แกกินอึได้ แต่จะมาพูดเรื่องไร้สาระไม่ได้!” (2)

อาสาว : “เป็นไปไม่ได้ ฉันรู้จักนิสัยของ เสี่ยวเหยา ดี และฉันเชื่อมากว่าถ้าเธอบอกว่ามีผู้หญิงคนใหม่ที่ชอบ มากกว่าที่เธอจะมาบอกว่า เสี่ยวเหยา กำลังมีความรัก และก็ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าอยู่ด้วยกันด้วย!”

เซี่ย เคอหมิง : “บ้าเอ๊ย หมายความว่ายังไง เชื่อว่าผมมีผู้หญิงชอบมากกว่าจะเชื่อว่า พี่สาวเหยา มีความรัก เดี๋ยวนะนี่ผมแย่ขนาดนี้เลย? ผมออกจะหล่อเหลาขนาดนี้ ให้ตาย.. ผู้หญิงคนไหนเห็นก็ชอบ หลงรักผมอยู่แล้ว โอเคนะ?”

น้องสาว : “ถุย! จะบอกว่าหน้าตา และรูปร่างของตัวเองเทียบได้กับ พี่สาวเหยา? ขอโทษนะ มันคือสองขั้วที่แตกต่างกันอย่างสุดๆ ต่างหากล่ะ! ถ้าการหล่อเป็นบาป พี่ก็ควรถูกตัดสินประหารชีวิตแล้ว” (เจ็บแบบ…)

เซี่ย เคอหมิง : “......”

เซี่ย เคอหมิง : “ยังไงก็ตาม สิ่งที่ผมพูดก็เป็นความจริง เขาชื่อ ซูเหวิน  ถ้าไม่เชื่อพวกคุณก็ไปตรวจสอบดูเอาเองแล้วกัน”

อาสาว : “......”

แม่ : “......”

พ่อ : “ถ้าเป็นเรื่องจริง.. ฉันเองก็ไม่รู้ว่า พี่ชาย และพี่สะใภ้จะคิดอย่างไรถ้าพวกเขารู้...”

น้องสาว : “ฮ่าฮ่า ก็แบบมีฟ้าผ่าตอนกลางวันแสกๆ อย่างแน่นอน”(3)

........

สามวันต่อมา ถนนจงหลิน

ถนนจงหลิน เป็นถนนที่มีชื่อเสียงอย่างมากในเมืองม่อ

อาคารหลายแห่งเหล่านี้ก็เป็นที่สะดุดตาเป็นพิเศษ และที่นั่นก็มีสํานักงานใหญ่ของ ฮั่วซิน กรุ๊ป ที่มีชื่อเสียงตั้งอยู่

“เหลาเซี่ย ทำไมคุณถึงโทรตามให้ฉันรีบมาขนาดนี้ และดูฉันกับ เสี่ยวเยี่ยน กําลังช็อปปิ้งกันอยู่!”

“ก็คือ ลุงใหญ่ หากมีเรื่องอะไรกลับบ้านก่อนแล้วค่อยว่ากันไม่ได้หรือ?”

ในห้องทํางานของประธาน ในสํานักงานใหญ่ของกลุ่ม มีผู้หญิงสองคนนั่งอยู่ในขณะนี้

ผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณ 40 ปี

น่าแปลกใจที่แม้อายุจะเข้าวัยกลางคนแล้ว แต่กลับยังมีใบหน้าที่งดงามอยู่ ทั้งยังให้อารมณ์ที่นุ่มนวล และเงียบสงบ ดูราวกับอายุเพิ่งจะ 30 ปีต้นๆ เท่านั้น

และเธอก็คือ สวี่หยุน แม่ของ เซี่ย ซินเหยา

อีกคนเป็นเด็กสาววัยรุ่น มีชื่อว่า เซี่ย ชิวเยี่ยน ซึ่งก็คือ น้องสาวของ เซี่ย เคอหมิง

(1)[ระเบิดหม้อ (炸开了锅)] - ใช้เพื่ออธิบายปฏิกิริยาตอบสนองที่รุนแรงอย่างกะทันหันเป็นกลุ่ม หรือถือกระตุ้นด้านอารมณ์ด้วยบางสิ่งอย่าง…

(2)[กินอึได้ แต่จะมาพูดเรื่องไร้สาระไม่ได้ (屎可以乱吃,话不能乱说)] - เป็นการเตือนคนๆ หนึ่งให้ระวังคำพูด คำพูดบางคำอาจทำร้ายคนได้ บางคนพูดออกมาไม่คิด อย่าง.. คำพูดที่ออกจากปากเอากลับคืนมาไม่ได้ และบางที ..มันอาจส่งผลร้ายแรงตามมา

(3)[ฟ้าผ่าตอนกลางวันแสกๆ (晴天霹雳)] - คำอุปมาถึงเหตุการณ์ที่น่าตกใจ หรือภัยพิบัติที่เกิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด