ตอนที่แล้วบทที่ 11 : วิกฤติกำลังมา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 13 : ความ​น่ากลัว​ของอดีต​นักบุญ​

บทที่ 12 : สามตระกูลใหญ่ปรากฏตัว, เย่ว์รู่ชวงเคลื่อนไหว


บทที่ 12 : สามตระกูลใหญ่ปรากฏตัว, เย่ว์รู่ชวงเคลื่อนไหว

เสียงคำรามกึกก้องอย่างไม่หยุดหย่อน

เเละทุกคนก็จดจำเสียงนี้ได้ในทันที

นั่นไม่ใช่เสียงของผู้อาวุโสของตระกูลเย่หรอกเหรอ….เเถมในตอนนี้เข้าดูเหมือน​กำลังพูดกับผู้นำตระกูลชู?

เป็นไปได้ไหมว่าสามตระกูลหลักที่นำโดยตระกูลชู กำลังจะเริ่มการกวาดล้างตระกูลเย่?

เมื่อคิดเช่นนี้, ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างก็รู้สึกตกใจ…..เเละในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าทำไมด้านนอกถึงได้ร้างนักในวันนี้!

…….

ณ คฤหาสน์​ของตระกูลเย่ในยามนี้

เหล่าผู้อาวุโสทั้งห้าที่นำโดยผู้อาวุโส สูงสุด​ได้มองไปที่ประตูคฤหาสน์​ที่พังทลายลง….และจ้องมองไปที่สมาชิกผู้มีอำนาจของสามตระกูลหลักที่กระโดดเข้ามา

อีกด้าน, เมื่อได้ยินคำพูด​ของผู้อาวุโส​ตระกูล​เย่….ชูเหรินซินก็เลือกที่จะเพิกเฉยมัน

สายตาไม่แยแสของเขากวาดไปทั่วตระกูลเย่ และกลับไปหาผู้อาวุโสสูงสุด​

“เย่เหว่ยหวู่ ตั้งแต่วันนี้จะไม่มีตระกูลเย่ในมณฆลเมฆาอัศนีอีกต่อไป!”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ คนของตระกูลเย่ต่างก็โกรธแค้น

ความตั้งใจของอีกฝ่ายชัดเจนอย่างมาก….นั่นคือพวกเขาต้องการทำลายตระกูลเย่!

เเละเมื่อได้ยิน​เช่นนี้, ผู้อาวุโสสูงสุด​ก็หัวเราะด้วยความโกรธ

“นั่นคือความเห็นของเจ้าคนเดียวงั้นสิ?”

ชูเหรินซินยิ้มอย่างเย็นชา "มันคือความเห็นของพวกเรา!"

สายตาอันอันเยือกเย็นของผู้อาวุโสสูงสุด​กวาดไปทั่วใบหน้าของผู้นำสามตระกูลหลัก…..เเละมันฉายชัดไปด้วยความเย็นชา

อย่างไรก็ตามในใจของเขาตอนนี้….เขารู้สึกกดดันอย่างมหาศาล

เขารู้ว่าตระกูลเย่กำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤติ และหากพวกเขาไม่สามารถก้าวผ่านอุปสรรคนี้ได้….คราวนี้ตระกูลเย่ก็อาจจะถึงจุดจบที่แท้จริง

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่ยินยอม

เพราะเมื่อนึกถึงเย่จื้อซิน และเย่จือหลาน….ลูกหลานทั้งสองผู้มีพรสวรรค์อันน่าสะพรึงกลัวที่ไม่มีใครเทียบได้

ถ้ามีเวลาก็อยากจะให้พวกเขาได้มีโอกาสเติบโต

ในอนาคตไม่ต้องพูดถึงมณฆลเมฆาอัศนีเลย…..แม้แต่ราชวงศ์ต้าเซี่ยทั้งดินแดนก็อาจจะไม่สามารถหยุดยั้งตระกูลเย่ของเขาได้

เเต่น่าเสียดายที่ความเป็นจริงอันโหดร้ายไม่ได้ให้โอกาสพวกเขาเลย!

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้, เขาก็อดไม่ได้ที่จะมองผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไว้วางใจอย่างมีความหมาย….ส่งสัญญาณ​ให้เขาแจ้งให้เย่หวู่ชางหาทางพาเด็กๆหนีออกไป

แต่น่าเสียดาย ในขณะที่ผู้ใต้บังคับบัญชาที่กำลังจะเคลื่อนไหว หัวหน้าตระกูลหวัง, หวังหวางซินก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมเอาดาบจ่อคอผู้ใต้บังคับบัญชา​คนนั้น

“เย่เหว่ยหวู่ อย่ามากเล่ห์นัก….ทั้งสามตระกูลหลักได้วางกับดักในมณฆลเมฆาอัศนีไว้หมดแล้ว ไม่มีทางที่สมาชิกตระกูลเย่คนใดสามารถหลบหนีไปได้!”

หลังจากพูดจบ หัวหน้าตระกูลทั้งสามก็โบกมือและตะโกนพร้อมกัน

"ฆ่า!"

สิ้นเสียงตะโกนนี้ สมาชิกที่แข็งแกร่งของสามตระกูลหลักก็เริ่มโจมตีทันที​

เเละสมาชิกผู้แข็งแกร่งของตระกูลเย่ก็ต่อสู้กลับโดยไม่ลังเลใจ

ในชั่วพริบตา, เหล่าคลื่นพลังทั้งดาบเเละกระบี่บินว่อน

ไม่กี่นาทีก็เริ่มมีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน

เเต่น่าประหลาดที่ผู้เสียชีวิตมากกว่านั้นคือฝั่งสมาชิกผู้มากฝีมือของสามตระกูลหลัก

ฉากนี้ทำให้ทั้งสามตระกูลเริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้น​

แน่นอนว่าที่เป็นเเบบนี้ต้องขอบคุณทักษะระดับปฐพีที่เย่หวู่ชางคอยสนับสนุน, เช่นเดียวกับทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์เช่นกัน

ความแตกต่างระหว่างทักษะระดับกลางและระดับสูงย่อมสร้างความเเตกต่างได้อย่างมาก…ไม่ต้องพูดถึงความแตกต่างระหว่างทักษะระดับลึกล้ำและระดับปฐพีเลย

……

ณ ขณะนี้​

หัวหน้าตระกูลทั้งสามเริ่มมองหน้ากัน

เเละร่องรอยของความไม่สบายใจก็เกิดขึ้นในใจของพวกเขา

“ไม่เลวนี่ เย่เหว่ยหวู่, เเต่น่าเสียดายที่ตระกูลเย่ของเจ้าขาดผู้ฝึกตนอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์!”

หลังจากพูดจบ, ด้านหลังของทั้งสามคน ก็มีผู้ฝึกตนกว่าสามสิบคนโผล่​ขึ้น​มา…..เเถมแต่ละคนยังเปล่งรัศมีของอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย

ในหมู่พวกเขา, กลิ่นอายของผู้นำทั้งสามตระกูลนั้นน่ากลัวที่สุด….พวกเขาทั้งหมดอยู่ที่จุดสูงสุดระดับที่เก้าของอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์แล้ว

การระเบิดของออร่าในคราวนี้สร้างความประหลาดใจให้กับกองกำลังที่ซ่อนตัวและเฝ้ามองอยู่ใกล้ๆ (ไทยมุง)​

“มีปรมาจารย์มากมายเผยตัวออกมา, ดูเหมือนว่าตระกูลเย่จะลำบาก​เเล้ว!”

“เเละนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีบางส่วนที่ซ่อนอยู่ตามทางออกต่างๆใน​​มณฆลเมฆาอัศนี เพื่อป้องกันไม่ให้สมาชิกตระกูลเย่หลบหนีได้!”

"ดูเหมือนว่าวันนี้ตระกูลเย่จะถึงคราวจบสิ้นแล้วแล้ว!"

“ตระกูลเย่มีผู้ฝึกตนอาณาจักร​ทะเลศักดิ์​สิทธ์​เพียงห้าคนเท่านั้น, มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะรอดจากผู้ฝึกตนอาณาจักร​ทะเลศักดิ์​สิทธ์​มากมายขนาดนี้ได้!”

“เว้นแต่จะมีบุคคลที่แข็งแกร่งจากตระกูลเย่ว์มาช่วย!”

“ลืเรื่อง​นี้ไปได้เลย, ตอนนี้ตระกูลเย่ว์กำลังมุ่งความช่วยเหลือ​ไปที่องค์ชาย…..พวกเขาไม่มีทางสนใจความเป็นความตายของตระกูลเย่อย่างเเน่นอน!”

"ถูกต้อง, ดูเหมือนว่าตระกูลเย่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเเล้ว!"

“ไม่อยากเชื่อว่าตระะกูลที่ครั้งหนึ่งที่เคยยิ่งใหญ่ในมณฆลเมฆาอัศนี จะต้องถึงคราวสูญสิ้นแล้ว!”

เมื่อเห็นสถานการณ์ปัจจุบันของตระกูลเย่, ผู้คนรอบๆก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

……

ณ ขณะนี้​ในลานบ้าน

หลังจากเห็นผู้ฝึกตนอาณาจักร​ทะเลศักดิ์​สิทธ์​ของอีกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม….ผู้อาวุโสสูงสุด​ของตระกูล​เย่ก็รีบดำเนินการ​ทันที​

“ตระกูลเย่ไม่สามารถถูกโค่นได้ พวกเจ้าจงลุกขึ้นมา!”

สิ้นเสียงคำรามจากผู้อาวุโสสูงสุด, ทันใดนั้สมาชิกหลายคนของตระกูลเย่ก็รวมตัวกันเป็นกลุ่ม กลุ่มละหกคน….จากนั้นก็รวบรวมพลังวิญญาณของพวกเขาไว้ในที่เดียว เเละก่อตัวเป็นค่ายกลเล็กๆได้

คนเหล่านี้ทั้งหมดเป็นผู้ฝึกตนขั้นปลายของอาณาจักรควบแน่นแกนกลาง

เมื่ออาศัยค่ายกลนี้, พวกเขาก็พอที่จะสามารถ​เผชิญหน้า​โดยตรงกับเหล่าผู้ฝึกตนอาณาจักร​ทะเลศักดิ์​สิทธ์​ได้

ผู้ฝึกตนระดับอาณาจักร​ทะเลศักดิ์​สิทธ์​ไม่สามารถจัดการกับพวกเขาได้ในระยะเวลา​หนึ่ง​

เเละฉากนี้ก็ทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ

"สมกับตระกูลเย่, มรดกที่ตกทอดของพวกเขาไม่ธรรมดาจริงๆ!"

"ด้วยการอาศัยค่ายกลลึกลับนี้ พวกเขาสามารถต่อต้านผู้ฝึกตนระดับอาณาจักร​ทะเลศักดิ์​สิทธ์​ได้เกือบยี่สิบคน….นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน!"

"เเต่น่าเสียดาย, ที่ค่ายกลนี้มีผลเฉพาะกับผู้ฝึก​ตนอาณาจักรควบแน่นแกนกลางเท่านั้น….ไม่งั้นแล้วหากผู้ฝึกตนอาณาจักร​ทะเลศักดิ์​สิทธ์​ทั้งห้าร่วมมือกัน, พวกเขาก็จะมีพลังที่จะสามารถ​ปลดปล่อยความแข็งแกร่งของผู้ฝึกตนขั้นอาณาจักรปราการสวรรค์ได้”

“เเละสถานการณ์ทั้งหมดนี้ก็จะถึงคราวพลิกกลับได้อย่างสมบูรณ์!”

“ใช่ ตอนนี้พวกเขาทำได้เเค่ยืดเวลาออกไปได้เพียงครึ่งก้านธูปเท่านั้น…..เมื่อเวลาหมดลง ค่ายกลก็จะพังทลายลงโดยอัตโนมัติเนื่องจากการหมดลงของพลังวิญญาณ!”

ในขณะนี้, ทุกคนต่างตระหนักถึงข้อดีและข้อเสียของค่ายกลนี้เช่นกัน

สำหรับผู้อาวุโสทั้งห้าที่เหลือ, พวกเขาแต่ละคนใช้พลังของตนเองเพื่อดึงผู้ฝึกตนอาณาจักร​ทะเลศักดิ์​สิทธ์​หนึ่งหรือสองคน

เเละต้องขอบคุณทักษะจากการฝึกปรือของพวกเขา…..ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงจะสามารถต้านทานคนในระดับเดียวกัน​ได้มากที่สุดเพียงคนเดียวเท่านั้น

ผู้อาวุโสเย่เหว่ยหวู่ก็ไม่ธรรมดา, ด้วยการฝึกฝนของเขาที่อยู่บนจุดสูงสุดของอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์ระดับที่เจ็ด

แต่เขากลับสามารถต้านทานผู้นำตระกูล​ทั้งสามคนที่อยู่ในขั้นที่เก้าของอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์ได้

อย่างไรก็ตามในขณะนี้….เขาก็เริ่มต้องถอยทีละนิดและไม่สามารถยืนหยัดได้อีกต่อไป

“เย่เหว่ยหวู่….ตระกูลเย่ของเจ้าไม่ธรรมดาจริงๆ, เเต่พวกเราก็อยากรู้นักว่าเจ้าจะอดทนได้นานแค่ไหน”

หลังจากพูดจบ, หัวหน้าตระกูลทั้งสามก็รวมพลังกันและเริ่มการโจมตี จนผู้อาวุโส​สูงสุด​ของตระกูล​เย่กระอักเลือดและลอยออกไป

ในเวลาเดียวกัน ผู้อาวุโสอีกสี่คนก็ทนไม่ไหวถูกผลักจนตัวลอยออกไปเช่นกัน​

เมื่อเห็นสิ่งนี้, ทุกคนก็รู้ว่าตระกูลเย่จบสิ้นแล้ว

ปากของชูเหรินซินขดเป็นรอยยิ้ม เผยให้เห็นความสำราญ….ตราบใดที่ตระกูลเย่ถูกสังหาร ทุกสิ่งทุกอย่าง​ที่เป็นของตระกูล​เย่ก็จะเป็นของเขา

"ตาย!" ด้วยเสียชูเหรินซิน​

การโจมตีด้วยทักษะ​การต่อสู้ระดับล้ำลึกขั้นสูงสุด, ฝ่ามือสลายวายุ ก็พุ่งไปที่ใบหน้าของผู้อาวุโสสูงสุด​โดยตรง

ในขณะนี้ผู้อาวุโสสูงสุด​ของตระกูล​เย่กำลังมองดูฝ่ามือที่กำลังวาดผ่านอากาศ​ด้วยความไม่เต็มใจ

เขายังไม่ทันได้เห็นความรุ่งโรจน์​ของตระกูลเย่เลย…..เเล้วเขาจะต้องมาตายแบบนี้จริงๆหรือ!

…….

ณ เวลานี้เองที่ทุกคนต่างเบือนหน้าออกไป

ตระกูลเย่จบสิ้นแล้ว!

ทุกคนคิดเเบบเดียวกัน​ว่าผู้อาวุโสสูงสุด​ของตระกูล​เย่จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

เเต่ทันใดนั้นเอง, ปราณดาบอันทรงพลัง​ก็ปรากฏขึ้นจากอากาศ​อย่างรวดเร็ว​

ฉัวะ!

ความคมที่น่าสะพรึงทำให้ฝ่ามือสลายวายุของชูเหรินซินแตกสลาย …..ทั้งยังทำให้เขาต้องล่าถอยกลับไป

"นั่นใคร?"

ชูเหรินซินคำรามด้วยความโกรธ, เขาไม่เคยคาดหวังเลยว่าจะมีคนกล้าเข้ามาแทรกแซงในยามนี้

เเละในเวลานี้เอง

จู่ๆร่างที่สง่างามก็ก้าวออกมาจากอากาศ, ร่อนลงสู่ใจกลางสมรภูมิ

………………

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด