ตอนที่แล้วบทที่ 072 - การเตะถ่วงในสภาสูง(2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 074 - การเตะถ่วงในสภาสูง(4)

บทที่ 073 - การเตะถ่วงในสภาสูง(3)


บทที่ 073 - การเตะถ่วงในสภาสูง(3)

* * *

ที่พักของนายกเทศมนตรีแห่งเนฟเฮม

หัวข้อที่ร้อนระอุยังคงเป็นหัวข้อเดียวกับที่เคยได้ยินมาก่อนหน้านั้น

หากราตรีวัลเพอกิสนั้นเป็นมีขึ้นเพื่อการพบปะสังสรรค์ทางสังคม การประชุมในตอนนี้ก็เป็นอีเว้นท์ที่จอมมารเร่งหารือถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกมนุษย์

แต่ระดับมันต่างจากราตรีวัลเพอกิสที่มีจอมมารเข้าร่วมด้วยเพียง 32 ตน คราวนี้มีจอมมารไม่น้อยกว่า60ตน อยู่ตอนนี้ ว่าง่ายๆก็คือ จอมมารทุกคนต่างอยู่ที่นี่นั่นแหละ

“พวกเราต้องเผาจักรวรรดิแฟร้งค์ทิ้งเสีย(Frank Empire)! อย่าละเว้นแม้แต่เด็กและผู้หญิง”

“ถอยไปโว้ย! ถ้าเอ็งยังพ่นเรื่องนั้นมาอีก ก็ไสหัวไปเลยไป!”

“ออกไปซะ! ไม่มีเหตุผลที่จะต้องฟัง ฝ่ายที่ราบพูดเรื่องไร้สาระ⎯⎯”

“พวกเราควรจะควักเครื่องในมนุษย์ทุกคนบนผิวโลกออกมาแผ่!”

ในห้องประชุมที่โกลาหลวุ่นวาย ผู้คนมากมายต่างพูดคุยกัน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแยกออกว่าใครพูดอะไร ทั้งห้องประชุมต่างดูเหมือนปากจำนวนมากมายสำหรับผม แล้วปากพวกนั้นก็สร้างเสียงรบกวนที่ฟังไม่รู้เรื่องอย่างไม่จบไม่สิ้น

ผมกระซิบกับบาร์บาทอส

“ข้ามองไม่เห็นจุดจบเลย”

“อืม งานประชุมจริงจังของเหล่าจอมมารโดยมากก็ประมาณนี้แหละ”

บาร์บาทอสนั้นตอบพลางแสดงสีหน้าโกรธออกมา เธอไม่ได้โกรธผมหรอกแต่ตอนนี้พยายามทำทีเป็นโกรธอยู่ เธอนั้นได้รับเชิญมาในการประชุมในฐานะหัวหน้าของฝ่ายที่ราบดังนั้นเธอจึงต้องแสดงศักดิ์ศรีออกมา

ฝ่ายที่ราบนั้นเสียจอมมารไปหนึ่งคน ซึ่งนั่นก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้จอมมารตนอื่นเห็นว่า การสูญเสียของฝ่ายเราทำให้เธอโกรธเป็นอย่างมาก

ผมแอบกวาดสายตามองไปรอบห้อง ในห้องนั้นแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มใหญ่ที่มีจอมมารจำนวนมากยืนอยู่ฝั่งซ้ายของห้อง ฝ่ายภูเขานั่นเอง ท่ามกลางพวกเขา ไพมอนกำลังมองเหมือนกำลังครุ่นคิดเรื่องบางอย่าง

ฝ่ายที่ราบนั้นยึดพื้นที่ฝั่งขวาของห้อง โดยมีบาร์บาทอสเป็นศูนย์กลาง จอมมารฝ่ายที่ราบยืนเรียงสองฝั่งของเธอ และจอมมารฝ่ายเป็นกลาง 10 ตนเกาะกลุ่มอยู่แถวๆทางเข้าห้องประชุม ผมเห็นลำดับ 5 มาร์บาส คนที่เป็นคนกลางในการพิจารณาคดียืนอยู่ท่ามกลางพวกเขา

และฝ่ายสุดท้าย ตรงข้ามกับทางเข้า มีจอมมาร 5 คนนั่งบนเก้าอี้อันทรงเกียรติ พวกเขานั้นต่างเงียบ และดูเหมือนจะไม่เป็นมิตรแถมแสดงความเบื่อหน่าย ไม่มีใครสามารถเข้าใกล้ตัวตนสูงส่งทั้ง 5 ที่อยู่ในห้องประชุมได้

ลำดับ 2 อกาเรส (Rank 2 Agares)

ลำดับ 3 เวสซาโก้ (Rank 3 Vassago)

ลำดับ 4 กามิกิน (Rank 4 Gamigin)

ลำดับ 6 วาเลฟอร์(Rank 6 Valefor)

ลำดับ 7 อามอน (Rank 7 Amon)

ไม่มีใครสักคนเดียวที่พูดอะไรออกมาระหว่างที่การประชุมเริ่มขึ้น แม้คุณจะบอกได้เลยว่าทุกคนต่างตะโกนและกรีดร้องออกมาท่ามกลางจอมมารระดับสูงทั้ง 6 แต่ทั้ง 6 ต่างก็ยังคงเงียบ พวกเขานั้นปล่อยแรงกดดันที่มองไม่เห็น ทำเอาผมขนลุก ออร่าของพวกเขานั้นเข้มข้นมาก

ผมกระซิบกับบาร์บาทอส

“นี่ ทำไมพวกเขาทำตัวเป็นคนใบ้แบบนั้นล่ะ?”

“เพราะตาแก่บาอัลไม่อยู่ที่นี่”

ตาแก่บาอัลที่ว่านั้น หมายถึง จอมมารลำดับ 1

“ไม่ว่าพวกเขาจะพล่ามอะไรไป มันก็จะกลายเป็นเรื่องเหลวไหลทันทีที่ตาแก่บาอัลโผล่มา พวกเขาก็เลยไม่อยากทำอะไรแล้วโดนตาแก่นั่นปฏิเสธ แล้วหน้าแหกชิบหายภายหลัง”

“เธอกำลังจะบอกว่า ให้ข้าอดทนพวกตลาดแตกนี่ไปจนกว่าบาอัลจะโผล่มาอย่างนั้นเหรอ? เลวร้ายชะมัด”

“อืม ใช่ เลวร้ายมาก ข้าควรซัดพวกมันซักครั้ง”

บาร์บาทอสยืนขึ้น จอมมารฝั่งที่ราบต่างเงียบ บาร์บาทอสตะโกนเสียงดังในระดับที่ว่า แทบไม่เชื่อเลยว่านั่นจะมาจากร่างเล็กๆเช่นนั้น

“เงียบ!”

เสียงของเธอสะท้อนดังไปทั่วห้องประชุม ความวุ่นวายสงบลงทันที จอมมารที่โต้เถียงกันอยู่หันกลับมามองที่บาร์บาทอส และเธอก็มองกลับไปหาด้วย พวกเขาเงียบและหันหน้าออกเมื่อสบตากัน

บาร์บาทอสพูดด้วยน้ำเสียงที่สง่าอย่างลื่นไหลซึ่งนั่นตรงข้ามกับภาพลักษณ์ปกติของเธออย่างสุดๆ

“ลำดับ 49 โครเค่ลตายแล้ว ลำดับ 50 เฟอร์คาสสูญเสียปราสาทจอมมาร เผ่าอื่นที่เคยอ้างตัวว่าเป็นพันธมิตรกับเผ่าปีศาจในโลกมนุษย์ต่างทอดทิ้งพวกเราโดยไม่ลังเล”

เธอโบกมือขวา ภาพแผนที่โปร่งแสงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นกลางอากาศ แผนที่ทวีปของมนุษย์ที่วาดตำแหน่งปราสาทจอมมารทั้ง 72แห่ง มีการทำสัญลักษณ์ไว้ มีตัวกากบาทขีดทับลงไปบนตำแหน่งปราสาทสองแห่งที่มีชื่อ ‘โครเค่ล’ และ ‘เฟอร์คาส’

“จากข้อมูลที่พวกเราได้รับในตอนนี้ กองกำลังทหารของจักรวรรดิฮับบวร์กเริ่มเดินทางไปสู่ทางตอนเหนือแล้ว มีใครที่มีข้อมูลมากกว่านี้ไหม?”

“ข้อมูลของข้าเกี่ยวกับฮับบวร์กก็บอกเช่นนั้นเหมือนกัน”

จอมมารฝ่ายเป็นกลางตอบกลับมา

“เขาได้บอกข้าว่า กองทัพจักรวรรดินั้นแยกกองกำลังมุ่งไปสู่ภูมิภาควาเลนเซีย(Valencia province) ลำดับ 68 เบเลี่ยล และ ลำดับ 61 ซากัน อยู่ที่นั่น พวกเราต้องเตรียมรับมือกับการบุกมาจากทางเหนือของพวกฮับบวร์ก!”

“นี่มันไร้สาระชัดๆ!”

จอมมารฝ่ายภูเขาตะโกนขึ้น

“พวกทหารจักรวรรดิน่ะไม่ได้จะทำอะไรทั้งนั้น ทหารของพวกเรามีมากมายกว่าพวกนั้นด้วยซ้ำ พวกมนุษย์ไม่ได้รุกรานเข้ามาหรอก พวกเขาก็แค่พยายามจะเอาอกเอาใจเผ่าอื่นเฉยๆ!

พวกมันแค่จะใช้โอกาสนี้ในการสร้างกองกำลังพันธมิตร ตอนนี้พวกแฟรี่และคนแคระก็ประชุมกันกับพวกผู้ส่งข่าวของมนุษย์! พวกมันพยายามจะสร้างพันธมิตรต่อต้านจอมมาร มันมีโอกาสที่เราจะเสียการควบคุมเผ่าอื่นในโลกมนุษย์”

“ไร้สาระว่ะ!”

คราวนี้เป็นฝ่ายที่ราบบ้างที่ปฏิเสธ

“พวกแฟรี่และคนแคระจะไม่ละเมิดจุดยืนฝ่ายเป็นกลางหรอก! พวกเขารู้พลังอำนาจของพวกเราดี ข้ามั่นใจว่า มนุษย์จะสร้างพันธมิตรกับมนุษย์ด้วยกัน จักรวรรดิฮับบวร์กไม่ใช่กลุ่มเดียวหรอกที่เคลื่อนไหว!

ทั้ง 12 ชาติต่างเคลื่อนทัพแล้วทั้งนั้น พวกเขาตั้งใจจะรวมกำลังกันเพื่อเข้ามาทางทะเลทรายดำ”

ตุ่บ

ห้องประชุมสั่นสะเทือน การย่ำเท้าของบาร์บาทอสก่อให้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นเล็กๆครั้งหนึ่ง ทุกคนต่างมองไปยังเธอ เธอจึงพูดขึ้น

“เราจะรวบรวมข้อมูลที่เรามีก่อน เราไม่สามารถพูดคุยกันได้หากข้อมูลของพวกเรายังต่างกัน ไพมอน”

“……นี่เจ้ากำลังเรียกหาเลดี้ผู้นี้หรือ?”

ไพมอน,หัวหน้าฝ่ายภูเขา ตอบกลับ เธอมองบาร์บาทอสด้วยสายตาไม่เชื่อใจ บาร์บาทอสกับไพมอนเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็นศัตรูกัน บาร์บาทอสรังเกียจที่จะสนทนากับไพมอน แต่เธอไม่มีทางเลือกนอกจากวางอคติเรื่องนั้นไว้ก่อนเพราะนั่นเป็นคำขอจากใจจริงของผม

“ฝ่ายที่ราบนั้นได้รับข้อมูลมาว่า ทั้ง 12ชาติ ของโลกมนุษย์ได้เคลื่อนกองกำลังทหารของพวกมัน เราพอรู้คร่าวๆว่า กองทัพของพวกเขาจะไปไหนแล้วฝ่ายภูเขาล่ะ?”

“…….”

ไพมอนเท้าคางด้วยหลังมือ เหมือนเธอกำลังคิดพิจารณาว่าควรจะตอบอย่างไรดี ผมรู้อยู่ก่อนแล้วว่า เธอได้รับข้อมูลเดียวกันกับฝ่ายที่ราบ

ผมเป็นคนที่สั่งให้ข้อมูลรั่วไหลไปถึงเธอเองนั่นแหละ ยิ่งไปกว่านั้น บาร์บาทอสนั้นยังเลือกให้ผมเป็นที่ปรึกษาของเธอดังนั้นฝ่ายที่ราบก็เดินไปตามแผนของผมเช่นกัน

ไพมอนถอนใจออกมา

“พวกเราก็ได้รับข้อมูลเช่นเดียวกัน เลดี้ผู้นี้ได้ตระหนักแล้วเช่นกันว่า กองกำลังทั้ง 12 ชาตินั้นได้เคลื่อนตัวแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็รู้ดีใช่ไหม ว่ากองทัพของพวกมันมุ่งตรงไปที่ไหน”

“……ข้าไม่ปฏิเสธว่าข้ารู้”

บาร์บาทอสสะบัดข้อมือ พอเธอทำอย่างนั้น เส้นหนาๆก็ได้วาดขึ้นบนแผนที่ในอากาศ เส้นทั้ง 12 เส้นนั้นเป็นตัวแทนของกองกำลังฝ่ายมนุษย์ แต่ละเส้นเริ่มต้นที่เมืองหลวงของแต่ละประเทศที่อยู่ต่างที่กัน ในกลุ่มนั้นก็ได้ทำลายปราสาทของโครเค่ลและเฟอร์คาสไปแล้ว

จนในท้ายที่สุด ทุกเส้นต่างมารวมกัน ณ จุด จุดเดียว

“พื้นที่ทางตอนเหนือของทวีป นั่นเป็นสถานที่ที่ปราสาทจอมมารส่วนใหญ่ของพวกเราตั้งอยู่”

“…….”

ไพมอนไม่ได้ตอบอะไร ทุกคนต่างเข้าใจในความเงียบว่า หมายถึงเธอไม่ได้ปฏิเสธมัน ตอนนั้นเองที่ทั้งห้องต่างเอะอะตึงตังขึ้นมาอีกครั้ง จอมมารเริ่มโวยวายเสียงดัง เสียงตะโกนทะลักออกมาราวกับน้ำท่วม

“นี่มันจริงหรือ ท่านไพมอน!?”

“นี่มันไม่ใช่การบุกรุกธรรมดาแล้ว! พวกมนุษย์ระยำนั่นต้องการที่จะรวมพันธมิตร!”

“ไอ้พวกขยะนั่น! มันกล้าดียังไงที่จะมุ่งเป้ามาที่ดินแดนของพวกเราวะ!”

ผมแอบหัวเราะในใจ

5 เดือนที่ผ่านมา ผมได้กระตุกเส้นสายนับไม่ถ้วนเพื่อควบคุมความเคลื่อนไหวของกองกำลังมนุษย์ บริษัทเคียนคุสก้ารับหน้าที่ให้สินบนเพื่อเข้าถึงระดับสูงของพวกมนุษย์และจัดการแพร่กระจายข่าวสารไป

เส้นทางของทหารทั้ง 12 ประเทศ จึงมารวมกัน ณ จุดเดียว เป็นผลลัพธ์ที่ว่า

ทั้ง 12 กองกำลังต่างมุ่งไปสู่ทิศทางเดียวกัน มันคงไม่มีใครคนคิดหรอกว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ

พวกเขาจะเริ่มเป็นกังวลและคิดว่าพวกมนุษย์นั้นเตรียมการณ์ครั้งนี้สำหรับการบุกกวาดล้างครั้งใหญ่ เพื่อเป็นเชื้อกระตุ้นความวิตกนั่น จึงต้องมีปราสาทจอมมารสองแห่งที่อยู่บนเส้นทางของพวกเขานั้นถูกพิชิตไป จอมมารตนหนึ่งตายในการต่อสู้ การโจมตีของมนุษย์นั้นไม่ใช่สิ่งที่จะประมาทได้อีกต่อไป พอมันเกิดขึ้นอย่างนี้แล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเชื่ออีก…….

“ได้โปรดช่วยข้าเถิด! ปราสาทจอมมารของข้าตกอยู่ในอันตราย!”

จอมมารที่มีหนวดนั้นร้องขึ้นมา ผมได้กระซิบถามบาร์บาทอสว่า เขาคือใครกัน แต่ผมก็เดาได้แล้วว่า เขาน่าจะเป็น ลำดับ 68 เบเลี่ยล ด้วยหลายๆเหตุผล เขาเป็นคนที่มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับผมสักเท่าไหร่

ส่วนเหตุผลที่เบเลี่ยลร้อนใจนั้นเรียบง่าย เพราะตำแหน่งที่ตั้งปราสาทของเขานั้นตั้งอยู่บนเส้นทางของทหารจักรวรรดิฮับบวร์ก

กองกำลังทหารจักรวรรดิ์ฮับบวร์กนั้นมีถึง 2,000 นาย มันไม่ใช่จำนวนที่เบเลี่ยลจอมมารลำดับที่ 68 จะรับมือไหว เบเลี่ยลรู้สึกว่าภัยมาเยือนถึงหน้าบ้านแล้ว

“ได้โปรดช่วยข้าเถอะ!”

“…….”

“อุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ของเราจะต้องไม่พังทลายลงเพราะพวกมนุษย์! พวกเราเป็นนักล่าและมนุษย์เป็นเหยื่อ พวกเราที่เป็นผู้ล่าต้องไม่กลายเป็นผู้ถูกล่าเสียเอง ……. ได้โปรดเถอะ, ข้าขอร้องท่านล่ะ!”

จอมมารอื่นหันหน้าหนีเมื่อพบว่า เบเลี่ยลนั้นน่ารำคาญ ตราบใดที่ไฟสงครามยังไม่ได้ล้างผลาญพวกเขาในเร็ววัน  พวกเขาก็ยังยินดีกับการสูญเสียของคู่แข่งอื่น นั่นคือ สิ่งที่พวกเขาส่วนมากกำลังคิดอยู่

ผิวของเบเลี่ยลนั้นซีดเซียว เขาเดินเข้าหาไพมอนด้วยฝีเท้าที่อ่อนล้าเขาตั้งใจที่จะหวังพึ่งพาหัวหน้าฝ่ายที่เขาอยู่อย่างนั้นหรือ? เบเลี่ยลนั้นคุกเข่าลงและยกมือขอร้องไพมอน

“ท่านไพมอน ได้โปรดช่วยข้าด้วย พันหนึ่ง ไม่ๆ หากท่านส่งกำลังทหารให้ข้าอย่างน้อย 500 นาย! ผู้ต่ำต้อยผู้นี้จะไม่มีวันลืมความยิ่งใหญ่ของท่านเลย”

ไพมอนยังคงเงียบอยู่ อย่างที่คาดนั่นแหละ เธอน่ะฉลาดนะ ถ้าเธอตอบรับตรงนี้แล้วส่งกองกำลังสนับสนุนไปให้ มันจะกลายเป็นการสื่อความหมายได้ว่า ฝ่ายภูเขานั้นตั้งใจที่จะเข้าร่วมสงครามด้วยเช่นกัน

ความเสี่ยงนั้นมันสูงเกินไปที่เธอ ในฐานะหัวหน้าของฝ่ายภูเขาจะทำตัวขัดแย้งกับแนวคิดเดิมแล้วไปก่อสงครามกับพวกมนุษย์

เธอพูดออกมาอย่างแผ่วเบา

“ตอนนี้ ได้โปรดเงียบก่อน”

“ท่านไพมอน!”

หน้าซีดๆของเบเลี่ยลกลับกลายเป็นช็อคแทน ไพมอนพึ่งจะทอดทิ้งเบเลี่ยลเพื่อรักษาฝ่ายภูเขาทั้งหมดไว้ มันก็เป็นการตัดสินใจที่เป็นเหตุเป็นผลนั่นแหละสำหรับหัวหน้าฝ่าย แต่ในกรณีของเบเลี่ยลนั้นผู้ถูกโยนทิ้งไว้ข้างทาง มันเป็นสิ่งที่ทำร้ายทำลายกำลังใจเขามาก

เวลานี้แหละ

ผมมองไปที่บาร์บาทอส เธอรับรู้สายตาของผมแล้วผงกหัว บาร์บาทอสนั้นเปล่งเสียงก้องออกมาทั่วห้องประชุม

“เบเลี่ยลเอ๋ย ตัวข้า บาร์บาทอส จะช่วยเจ้า”

“จะ-จริงหรือครับ!?”

ดวงตาของจอมมารตนอื่นกลับเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ ฝ่ายที่ราบและฝ่ายภูเขาที่เป็นอริศัตรูกันมาตลอด ไม่มีทางที่จะไม่ตกใจเมื่อ ฝ่ายที่ราบอย่างบาร์บาทอสนั้นจะเสนอตัวช่วยเหลือสมาชิกฝ่ายภูเขา ไพมอนนั้นขมวดคิ้วขณะที่มองไปยังบาร์บาทอส

นอกจากนี้บาร์บาทอสยังพูดถึงสิ่งที่พวกเราได้ถกเถียงกันไปก่อนหน้าด้วย

“พวกเราเป็นเพื่อนร่วมชาติพันธุ์กัน แม้ปรกติพวกเราอาจเป็นศัตรูกัน แต่พวกเราต่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเป้าหมายเดียวกันคือ การพิชิตโลกมนุษย์ แล้วพวกเราปล่อยให้ตัวเรานั้นถูกผูกมัดด้วยความชอบความชังที่ผ่านมา หมางเมินพวกของเรายามที่ถูกมนุษย์พวกนั้นมันมาเพ่งเล็งดินแดนของพวกเราได้อย่างไรกัน!?

ตัวข้า บาร์บาทอส จะนำกำลัง เดธไน้ท์ 500 นายไปทันที!”

“อะ-โอ้ว……! ขอบคุณ ขอบคุณท่านมากขอรับ!”

เบเลี่ยลขยับตัว เดธไน้ท์ 500 นายเพียงลำพังนั้นมากเพียงพอที่จะกำจัด ทหารจักรวรรดิ 2,000 นาย เบเลี่ยลโค้งแล้วโค้งหัวอีกแทนคำขอบคุณบาร์บาทอส ไพมันแสดงสีหน้ารำคาญออกมาบนใบหน้าขณะที่มองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

ผมกลั้นขำเอาไว้แทบไม่ไหว

ไพมอนนั้นระวังมากจนเกินไป

จากเหตุการณ์นี้ จอมมารแห่งฝ่ายภูเขาก็จะเริ่มมีภาพจำในข้อสงสัย เรื่องความเป็นผู้นำของไพมอนแล้ว ไพมอนผู้ตัดสินใจที่จะอยู่นิ่งเฉยแล้วเฝ้าดูสมาชิกของฝ่ายตนตกลงสู่หายนะ

และขณะเดียวกัน บาร์บาทอสผู้ยินดีที่จะเสนอกองกำลังเข้าช่วยเหลือฝ่ายตรงข้าม มันชัดเจนชัดแจ้งยิ่งกว่าอะไรเลยล่ะว่า ฝ่ายไหนคู่ควรต่อความไว้เนื้อเชื่อใจ

ฝ่ายที่ราบได้คะแนนนำไปก่อนหนึ่งแต้มในยกแรก

สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นนั้นเป็นไปตามแผนที่บาร์บาทอสและผมได้ร่างไว้ก่อนหน้าด้วยความเยือกเย็นโดยเป็นไปตามลำดับ

“อะ-อันดับ 1 !”

คนเปิดประตูทางเข้าตะโกนขึ้นมา แม้แต่คนเปิดประตูก็ยังตื่นตระหนก

“อันดับหนึ่งแห่งชนชั้นนำ และยังเป็นแกรนดยุคแห่งโลกปีศาจ! ผู้นำแห่ง 66 กองกำลังและ ท่านลอร์ดแห่งดาบทั้งปวง! ฝ่าบาทบาอัลมาถึงแล้ว⎯⎯!”

ประตูที่หนักของห้องประชุมก็เปิดออกในทันที

จอมมารทุกตนต่างเร่งโค้งให้กับประตูทางเข้า โดยไม่มีข้อยกเว้นแม้แต่บาร์บาทอสหรือไพมอน แม้แต่ 6 ลำดับสูงสุดที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เกียรติยศก็ยังต้องแสดงความเคารพ ผู้ปกครองที่แท้จริงแห่งโลกปีศาจปรากฏกายแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด