ตอนที่แล้วบทที่ 046 – นักทำลายเควส(3)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่  048 – ปาร์ตี้นักผจญภัยแร๊ง E (2)

บทที่  047 – ปาร์ตี้นักผจญภัยแร๊ง E (1)


บทที่  047 – ปาร์ตี้นักผจญภัยแร๊ง E (1)

ผมจะกำลังใช้เวลาไปกับการคิดเรื่องนี้ทีหลัง

ผมขอพูดคุยดีๆกับลอร่าก่อน

ก่อนหน้านี้เราเคยคุยกันด้วยคำสบายๆเป็นกันเองตามที่ผมเคยบอกไว้ แต่เธอก็ยังคงดึงดันที่จะพูดสุภาพเป็นทางการกับผม ผมบอกได้เลยว่ามันรู้สึกแปลกๆที่จะพูดกับเธอแบบนั้น

ว่าการตามตรงแล้ว ถ้าเราลำดับขั้นตามอายุของเราแล้ว ลาพิสก็คงควรจะพูดแบบเป็นกันเองกับผมแต่…….

พอผมลองจินตนาการดู

‘ดันทาเลี่ยน? ทำไมแกทำงั้นอีกแล้วล่ะ? นี่แกคิดบ้างไหม? แกนี่มันป่วยจิตชะมัด นี่แกยังกล้าเรียกตัวเองเป็นจอมมารอยู่รึไง? แกนี่จงใจทำให้ฉันผิดหวังจริงๆใช่ไหม?’

……แค่คิดผมก็รู้สึกหวาดวิตกเหลือเกิน

ลอร่าส่ายหัว

“สิ่งนี้เป็นเป็นกฏเข้มงวดระหว่างนายเหนือหัวกับข้ารับใช้”

“เอาอย่างนี้ดีไหม เธอสามารถพูดแบบเป็นทางการกับข้าได้ถ้ามีคนอื่นอยู่ด้วย แต่หากอยู่กันแค่สองคน เราก็คุยแบบปกติเหมือนที่เป็นมา”

“แบบนั้นฉันโอเค”

มีแสงวูบวาบสะท้อนในดวงตาของเธอ

“การคลายความกังวลของนายเหนือหัวก็เป็นหนึ่งในหน้าที่ของผู้เป็นข้ารับใช้ แม้ร่างกายฉันจะยังขาดๆไปบ้าง แต่จะพยายามทั้งในเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวนะ ,ดันทาเลี่ยน”

“ดีแล้วที่เธอเปี่ยมไปด้วยความทะเยอทะยานแบบนั้น…….”

ตอนนั้นเองที่ มีการแจ้งเตือนว่า นักผจญภัยบุกรุกเข้ามาเด้งขึ้น ลอร่าก็รับรู้ได้เช่นกันเพราะเธอมีสร้อยคอที่จะเตือนอัตโนมัติหากมีใครบุกดันเจี้ยน

เธอลุกขึ้นมาอย่างช้าๆจากอ้อมแขนผม

“อื้ม ฉันจะไปเอง”

“แน่ใจนะว่า เธอไม่ได้เหนื่อยเกินไปหลังจากที่โดนถอดตราไปแล้วน่ะ? ข้าทำเองก็ได้นะ ถ้าเจ้าไม่ไหว”

“ไม่เลย ฉันรู้สึกขอบคุณในความห่วงใยของท่าน แต่นายเหนือหัวไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนั้นเลย ฉันจะหิ้วหัวศัตรูของเรากลับมาโดยเร็ว รออยู่ตรงนี้นะ ฉันจะกลับมาพร้อมกับความสำเร็จในการต่อสู้อันงดงามในฐานะข้ารับใช้ของนาย”

ดูเหมือนลอร่าจะสดชื่นมากขนาดที่เดินออกจากห้องจอมมารไปด้วยฝีเท้าที่เต็มไปด้วยความกระฉับกระเฉง

ดูเธอจะตื่นเต้นมาก

เป็นเรื่องน่ายินดี ที่ผมจะได้มีเวลาจัดการความคิด

มายืนยันสถานการณ์ตอนนี้กันดีกว่า

ผมบ่นกับตัวเองด้วยเสียงสั่น ผมต้องพูดกับเสียงในหัวตอนที่อยู่กับผู้คน แต่ไม่มีเหตุผลที่ต้องทำอย่างนั้นหากผมอยู่ตามลำพัง

“ส-สเตตัส.”

เสียง ‘ติ้ง!’ นั้นช่างไม่เหมาะกับสถานการณ์ตอนนี้ หากมีอะไรบางอย่างที่ผมอยากเปลี่ยนได้เพียงหนึ่งสิ่งบนโลกนี้ เจ้าเสียงเอฟเฟ็คนรกนี่แหละที่ผมจะเปลี่ยนก่อนเลย

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

นามแท้: ดันทาเลี่ยน

เผ่า: จอมมาร    ฝ่าย: กองกำลังจอมมารดันทาเลี่ยน

สถานะ: เป็นกลาง Neutral(-10)

เลเวล: 20    ชื่อเสีย: 1120

อาชีพ: ผู้จัดการดันเจี้ยน(F), จอมมาร(E)

ความเป็นผู้นำ: 25/30  อำนาจ: 7/10   ความฉลาด: 29/30

ไหวพริบ: 24/30  เสน่ห์: 15/20  เทคนิค: 4/10

*ฉายา: 1. จอมมารแห่งความหวาดกลัว

*อบิลิตี้: แทคติค(F), ความเชี่ยวชาญธนู(F), ขุดเหมือง(F)

*สกิล: การแสดง

[ความสำเร็จ: 2]

[ผู้ใต้บังคับบัญชา: 42/210 ยูนิต]

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

ค่าสแตทของผมเปลี่ยนไปเมื่อเทียบกับก่อนหน้า ขีดจำกัดของทุกค่าสแตทของผมได้เพิ่มขึ้นอย่างมากจากอาชีพจอมมารที่เพิ่มระดับขึ้น

ยิ่งเลเวลอาชีพของเพลเย่อเพิ่มขึ้นเท่าใด ขีดจำกัดของค่าสแตทพวกเขาก็เพิ่มตามเท่านั้น นอกจากนี้ผมยังรู้สึกเหมือนว่าขีดจำกัดค่าสแตทของผมสูงขึ้นมากเกินกว่าที่ควรจะเป็น นี่อาจจะหมายถึงว่า ไม่ใช่แค่เพียงเลเวลอาชีพอย่างเดียวเท่านั้นที่มีผล

ผมมองเร็วๆไปที่ฉายาตัวเอง

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

[ฉายา]

1. จอมมารแห่งความหวาดกลัว – บุคคลนี้เป็นต้นเหตุแห่งการที่ระเบียบของโลกจะพังทลายลง ผู้ครองฉายานี้จะได้รับความนับถือจากเหล่าปีศาจและความกลัวจากมนุษยชาติ: ขีดจำกัดความเป็นผู้นำ +10, ขีดจำกัดความฉลาด +10, ขีดจำกัดเสน่ห์ +10, ขีดจำกัดผู้ใต้บังคับบัญชา +100, ชื่อเสีย +500

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

“อย่างที่ผมคิดไว้เลย!”

ผมตะโกนออกมาโดยไม่ตั้งใจ นี่มันฉายาที่ยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่เลยนี่

ไม่สำคัญว่า เพลเย่อจะเลเวลผ่านการทำเควสสำเร็จหรือฟาร์มมอนสเตอร์หนักขนาดไหน มันก็ไม่มีทางที่จะเพิ่มค่าสแตทได้เกินขีดจำกัด

ตัวอย่างก็เช่น หากลิมิตของค่าความแข็งแกร่ง(Strength)อยู่ที่ 30 แม้จะมีเลเวลพื้นฐานอยู่ที่ 99 ค่าความแข็งแกร่งก็ไม่สามารถเกิน 30

เมื่อเป็นดังนั้น สิ่งสำคัญคือ การเพิ่มระดับอาชีพให้เหมาะสม

ระดับของอาชีพนั้น มี 9 ขั้น :  F, E, D, C, B, A, S, SS, และ SSS.

แต่ละครั้งที่ระดับอาชีพเพิ่มขึ้น ขีดจำกัดของค่าสแตทก็จะเพิ่มขึ้น 5 หน่วยด้วยเช่นกัน

เลเวลพื้นฐานจะเพิ่มค่าสเตตัสหลักและเลเวลอาชีพจะเพิ่มขีดจำกัดของค่าสแตท จึงไม่มีประโยชน์ที่จะวนฟาร์มอย่างไม่รู้จักใช้หัว ไม่ว่าจะเพิ่มเลเวลพื้นฐานจนสูงแค่ไหนหากค่าสแตทยังชนเพดานจำกัดอยู่  ก็ไม่มีอะไรที่เพิ่มขึ้นมาและค่าสแตทพิเศษก็จะชะงักไปจนกว่าจะเพิ่มขีดจำกัดพวกนั้น

เช่นเดียวกับที่ผู้เล่นนั้นจะต้องอัพเกรดทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์ไปด้วยกันนั่นแหละ พวกเขาจะต้องให้ความสนใจอย่างไม่รู้จบกับทั้งค่า เลเวลพื้นฐานและเลเวลอาชีพ

อย่างที่เห็นแล้วว่า ฉายาจะเพิ่มขีดจำกัดของค่าสแตทอย่างมาก เหมือนอย่าง<จอมมารแห่งความหวาดกลัว> มันคือสิ่งที่ปกติจะเพิ่มได้เฉพาะการอัพเลเวลอาชีพเท่านั้น นี่จึงเป็นอะไรที่สุดยอดมาก มันทำให้คุณเพิ่มความห่างในการเพิ่มเลเวลอาชีพขึ้นมาอีก

ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการจะเพิ่มอาชีพนักดาบ คุณก็ต้องล่ามอนสเตอร์ให้มากที่สุดและต้องการดวลกับผู้คนที่มาจากต่างสำนักกัน……. เฮ่อ แค่นึกย้อนกลับไปว่าก่อนหน้านี้ผมทำให้ตัวละครเก่งขึ้นยังไงก็ทำให้ความดันขึ้นแล้ว

ในขณะที่<จอมมารแห่งความหวาดกลัวนั้น>ได้รับการอัพเลเวลอาชีพ 2 ขั้นแบบฟรีๆ

“เอาล่ะ”

ผมที่แอบท้อใจ

มันก็น่าประหลาดดี แต่ผมไม่ได้ดีใจอะไรขนาดนั้น เลเวลพื้นฐานและเลเวลอาชีพเพิ่มขึ้นนับเป็นข่าวดี แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม มันถึงอัพขึ้นมาได้ ผมไม่โง่พอที่จะดีใจเพียงเพราะปาฏิหารย์ของใครบางคนหรอกนะ

ประมาณว่า อยู่ๆมีใครบางคนเอาเงินให้ผม 100ล้านวอน(2.6ล้านบาท) อีกฝ่ายไม่ตอบด้วยตอนที่ผมถามว่า ทำไมเขาถึงให้เงินกับผมมากมายขนาดนี้

ผมที่ไม่รู้จักอีกฝ่ายและไม่มีทางรู้เป้าหมายว่า ทำไมถึงได้มอบให้ผม 100ล้านวอน ถ้าอยู่ในสถานการณ์อย่างนั้น ใครมันจะไม่รู้เรื่องรู้ราวขนาดที่ดีใจแล้วเก็บเงินนั่นเข้ากระเป๋าล่ะ?

ปัญหาคือ ตอนนี้ผมได้เงิน 100ล้าน วอนนั่นแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตามผมก็ยังนึกไม่ออกว่า อีกฝ่ายต้องการอะไรกันแน่

━ฉากเหตุการณ์นี้ได้ทำลายชิ้นส่วนแห่งโชคชะตา!

━ สถานการณ์ระดับ A <ตุลาการหญิงเหล็ก> ได้ถูกทำลาย’โดยสมบูรณ์’!

━ สถานการณ์ระดับ B  <ศัตรูของศัตรู คือ พันธมิตร> ได้ถูกทำลาย ‘โดยสมบูรณ์’!」

━ สถานการณ์ระดับ S<ความแตกแยกของโลกมนุษย์>(ความแตกแยก) ถูกทำลายอย่าง ‘รุนแรง’!

“มันมีสาเหตุมาจากเจ้าพวกนี้แหละ…….”

ผมมองการแจ้งเตือนทั้ง 4 อย่างเงียบๆ

คิดไม่นานเท่าไหร่นัก เมื่อความประหลาดใจลดต่ำลง หัวผมกลับสู่สภาวะปกติ ผมจึงได้เข้าใจทันทีว่า ทั้ง4ประโยคนั้นหมายความว่าอย่างไร แทบไม่ต้องคิดนานด้วยซ้ำ

“มันคือ ฉากสถานการณ์ของเกม”

การแจ้งเตือนที่มาหลังจากการที่ลอร่ากลายเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของผม แล้วสิ่งพวกนั้นมันก็เป็นฉากเหตุการณ์ที่เชื่อมโยงกับลอร่า

ตุลาการหญิงเหล็กนั้นหมายถึง ตัวลอร่า ฉากเหตุการณ์<ศัตรูของศัตรู คือ พันธมิตร>ก็เกี่ยวข้องกับลอร่า

เป็นไปได้ว่า มันจะหมายถึงอีเว้นท์ที่พรรคพวกของลอร่าร่วมมือกับจอมมารเพื่อที่จะโจมตีกองกำลังของตัวเอง

<ความแตกแยกของโลกมนุษย์> น่าจะหมายถึงการที่ฝั่งมนุษย์แตกแยกระหว่างจักรวรรดิ ที่ซึ่งตัวเอกของเรื่องอยู่ และราชอาณาจักรที่นำโดยลอร่า

ระดับ A, B, และ S น่าจะเป็นตัวบอกว่า เหตุการณ์พวกนั้นมันใกล้กับเนื้อเรื่องหลักมากน้อยแค่ไหน

ดังนั้นการทำให้ลอร่ามาเป็นลูกน้องผม อีเว้นท์ที่ควรจะเกิดขึ้นในเกม ก็เลยไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป

“แล้วทำไมเจ้าสิ่งพวกนี้มันถึงช่วยเหลือผมล่ะ?”

คำถามที่ไม่รู้ที่มานั้น เพียงไม่นานผมก็เจอคำตอบของคำถาม ความจริงที่ว่า ผมสังเกตเห็นการแจ้งเตือนที่แตกต่างกันระหว่าง ตัวผมในเกม กับตัวผมในโลกนี้

ผลลัพธ์ คือ การสร้างคำประกาศชนิดใหม่นี้ขึ้นมา โดยการแจ้งเตือนที่ว่านั้นผู้กล้ามองไม่เห็น แต่จอมมารมองเห็นมัน

ผู้กล้าคืออะไร?

ผู้กล้าเป็นตัวตนที่จะขับเคลื่อนตัวเองผ่านเควส

ถ้าอย่างนั้นแล้วจอมมารล่ะ? ถ้าเอาให้ง่าย พวกเขาคือ ตัวตนที่มีไว้ขัดขวางเควส ถ้าภารกิจของผู้กล้าคือ การทำเควสให้สำเร็จ ดังนั้นภารกิจของจอมมารคือ การทำให้เควสพวกนั้นเป็นสิ่งที่ทำไม่สำเร็จ ยิ่งไปกว่านั้น หากผู้กล้าได้รับค่าประสบการณ์จากทำเควสสำเร็จ ในทางกลับกัน━.

“จอมมารก็จะได้รับค่าประสบการณ์จากการทำลายเควสพวกนั้น”

สถานการณ์ต่างๆชัดเจนแล้ว

ผมเข้าใจแล้วว่า ทำไมผมถึงไม่ได้เควสอะไรเลยในโลกนี้ ผิดกับที่เจอในเกม ในอดีตผมคิดว่ามันเป็นเพราะความต่างระหว่างชีวิตจริงกับในเกม แต่ไม่ใช่กรณีนั้นหรอก

เควสน่ะจะไม่โผล่มาให้จอมมารดูอยู่แล้ว ดังนั้นทั้งหมดที่ต้องทำคือ การตามหาและทำลายเควสที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลัก ซึ่งนั่นต่างหากที่เป็น ‘เควสลับ’ สำหรับจอมมาร!

การทำลายเควสนั้น คือ เควส(ภารกิจ)ที่แท้จริงของจอมมาร

แม้จะย้อนแย้งกัน แต่การกระทำที่ ‘เอาชนะ’ เควส ที่ทั้งเป็นการทำให้เควสสำเร็จด้วยและทำลายเควสไปด้วยกัน

เหมือนผมเข้าใจอะไรมากขึ้น

“……เดี๋ยวก่อน ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงไม่มีอะไรโผล่ขึ้นมาตอนอันโดรมาลิอุสล่ะ?”

อันโดรมาลิอุสเป็นเหตุผลให้ฮีโร่ตัดสินใจบุกกำจัดจอมมาร ถ้าผมได้รับประสบการณ์จากการทำลายเควส ถ้าอย่างนั้นแล้วทำไมผมถึงไม่ได้รับประสบการณ์มหาศาลจากการฆ่าอันโดรมาลิอุสล่ะ? อย่าบอกนะว่า อันโดรมาลิอุสนั้นแท้จริงไม่ได้มีอิทธิพลอะไรกับผู้กล้าเลย

ไม่มีทางเป็นไปได้น่า

“แม่งเอ้ย ไม่เข้าใจเลยแฮะ”

ผมนอนลงบนเตียง

ยอมแพ้! ผมคิดไม่ออก ผมยังมีข้อมูลไม่เพียงพอ แต่วันหนึ่งผมจะหามันเจอและจัดการกับอะไรทั้งหลายที่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลัก และทำให้พวกเขากลายเป็นลูกน้องตามคำสั่ง เพื่อจะตอบคำถามทั้งหลายทั้งแหล่ของผม

ลอร่ากลับมาที่ห้องจอมมารขณะที่ผมกำลังเกาหัวอย่างรุนแรง

“หือ? กลับมาไวกว่าที่คิดไว้แฮะ”

“ฉันกลับมาเร็วแบบนี้พร้อมข่าวดีน่ะ”

ผมขยับหัวแล้วมาคิดๆดู ผมไม่พบว่ามีการแจ้งเตือนว่า ปาร์ตี้นักผจญภัยถูกกวาดล้าง

“มีผู้คนกำลังรออยู่ที่ปากทางเข้าปราสาทจอมมาร”

“รออยู่? อ้าวพวกเขาไม่ได้บุกรุกเหรอ?”

“ใช่แล้วล่ะ พวกเขาไม่ใช่ผู้บุกรุกน่ะ ดันทาเลี่ยน”

หากพวกเขาไม่ใช่ผู้บุกรุกแล้วจะเป็นอะไร? ผมมองไปที่ลอร่าอย่างสนอกสนใจ เธอพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“พวกเขาเป็นทูต พวกเขามาในฐานะชาวหมู่บ้านรอบข้าง พวกเขาบอกว่า มีเรื่องสำคัญที่ต้องบอกนาย”

* * *

เหล่าคณะทูตนั้นโดยมากเป็นผู้เฒ่า หากไม่นับคนหนุ่มที่เป็นเหมือนผู้คุ้มกัน พวกทูตก็คงจะเป็นหัวหน้าหมู่บ้านที่มีตำแหน่งใกล้เคียงกัน

เมื่อผมปรากฏตัวออกไปพร้อมโกเลมสามสิบตนและแฟรี่สิบตัว คนแก่พวกนั้นก็โค้งให้ทันที ผมเรียกว่า โค้งก็จริงแต่พวกเขาก็แค่เอนร่างไปกับไม้เท้า

ผมไม่ใส่ใจเรื่องความถูกต้องเหมาะสมของมารยาทที่ผู้คนอายุขนาดนี้สมควรแสดงออกมา

“เงยหน้าขึ้น”

“พวกเรายินดียิ่งนัก โอ้ ท่านตัวตนผู้ยิ่งใหญ่”

ผู้เฒ่าตรงหน้าสุดของแถว เงยท่อนบนขึ้น เขานี่เอง เขาเป็นหัวหน้าหมู่บ้านหนึ่งในหมู่บ้านที่ผมไปบุกก่อนจะไปที่เนฟเฮม

“ข้าตั้งใจฟังคำพูดเจ้าอยู่ พวกเจ้ามีเหตุผลอะไรถึงมาหาข้าที่นี่?”

“โอ้ ตัวตนอันยิ่งใหญ่……!”

ชายชราคุกเข่าลงในทันที การที่จู่ๆทำแบบนั้นผมกลัวว่าเข่าของเขาจะพังเสียจริงๆ

โอ้แหม รีบขนาดนั้นเดี๋ยวก็ได้ถึงสถานีโลกหลังความตายก่อนรถไฟมาเทียบท่าเสียหรอก

ผมตอบรับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา ผมไม่ควรประมาทเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีเจตนาอย่างไรแน่

“ข้าพูดว่า ข้าฟังคำพูดของเจ้าอยู่”

“ขอประทานอภัย! จากใจจริงของพวกเรา! ตัวตนอันต้อยต่ำนี้ในฐานะหัวหน้าหมู่บ้านของเขา ลั้นช์(Mt. Lauch) และที่อยู่ที่นี่ด้วยกันต่างก็เป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ตามที่ท่านได้สั่งมา พวกเราได้กำจัดนักผจญภัยที่มายังหมู่บ้านเรา ถึงอย่างนั้น พวกเราก็ไม่สามารถจัดการกับปาร์ตี้นึงได้”

“……หืมมม”

เป็นปรกติแหละที่จะมีปาร์ตี้นักผจญภัยที่พวกชาวบ้านไม่สามารถจัดการได้ พวกเขาน่าจะเป็นนักผจญภัยแร๊ง E ผมตอบกลับไปแบบหน้าไม่อาย

“ทุกคนต่างทำผิดพลาดได้ แต่น้ำหนักของคำขอโทษที่แสดงต่อข้านั้นมันรุนแรงเกินกว่าความผิดพลาดของพวกเจ้า”

“ป-ปาร์ตี้นักผจญภัยพวกนั้นได้รวมตัวกันกับหมู่บ้านข้างๆเพื่อสร้างพันธมิตรขึ้น”

“มัน คืออะไร?”

ผมขมวดคิ้ว

ร่างของชายแก่ที่แทบจะหมอบลงจนเกือบถึงพื้น

“พวกเราขอประทานอภัยอย่างสุดซึ้ง……หมู่บ้านส่วนใหญ่รับฟังคำสั่งท่าน แต่ก็มีบางหมู่บ้านที่ต้องการที่จะปฏิวัติท่านตั้งแต่แรก พวกเขาหวังจะชนะด้วยการใช้นักผจญภัย…….”

“หวังเอาชนะ จะชนะไปเพื่อะไร?”

“พะ-พวกเขานั้นเล็งไปที่ของท่าน……สมบัติของท่าน, โอ้ ตัวตนอันยิ่งใหญ่…….”

“ฮ่าห์”

ผมถึงกับอึ้ง เป็นไปได้ว่า พวกนักผจญภัยพวกนั้นโม้เกินจริงกับพวกชาวบ้านพวกนั้น เป็นไปได้ว่า จะกุเรื่องว่า มีภูเขาทองอยู่ในดันเจี้ยนผมแล้วเจ้าพวกงั่งบ้านนอกนั้นก็หลงเชื่อตามด้วย

แต่ถึงอย่างนั้นอาจมีลูกบ้านบางคนและปาร์ตี้นักผจญภัยแร๊งEเท่านั้น มันให้ความรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย แต่ผมไม่คิดจะตำหนิชายแก่พวกนี้ที่ตั้งใจมาเพื่อบอกข่าวนี้กับผม

แต่ถึงอย่างนั้นก็อดประหลาดใจไม่ได้กับสิ่งที่พวกเขาบอกผมต่อไป

“พวกเขาบอกว่า ผู้นำกลุ่มคนทรยศคือ ชายชื่อ ริฟ จากหมู่บ้าน เจลเซ่น”

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

True Name: Dantalian

Race: Demon Lord    Faction: Dantalian’s Demon Lord Army

Attribute: Neutral(-10)

Level: 20    Infamy: 1120

Job: Dungeon Manager(F), Demon Lord(E)

Leadership: 25/30  Might: 7/10   Intelligence: 29/30

Politics: 24/30  Charm: 15/20  Technique: 4/10

*Titles: 1. Demon Lord of Fear

*Abilities: Tactics(F), Marksmanship(F), Mining(F)

*Skills: Acting

[Achievements: 2]

[Subordinates: 42 units/210 units]

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด