ตอนที่แล้วตอนที่ 15 ทำป้ายแสดงตน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 17 ชายขายเนื้อ (เปิดให้อ่านฟรีวันที่ 23/02/2567)

ตอนที่ 16 ใครหาเรื่องตระกูลฉู่ ต้องตาย! (เปิดให้อ่านฟรีวันที่ 21/02/2567)


ในสวนแห่งหนึ่งที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาน มีดอกไม้กำลังบานสะพรั่ง น้ำตกสายน้อยมองแล้วรู้สึกสบายตา มีชายแก่สองคนกำลังเล่นหมากกันอยู่ แม้จะดูเหมือนเป็นการละเล่นธรรมดา แต่ถ้ามีผู้ฝึกตนด้านหมากล้อมมาเห็นเข้า ก็จะสัมผัสได้ถึงวิถีแห่งหมากล้อมอันสูงส่งที่แสดงออกมา

“ฝีมือของของท่านพัฒนาขึ้นอีกแล้ว เกรงว่าอีกไม่นานก็คงเหนือล้ำกว่าข้า” ชายชราผมสีดอกเลาบางเบาสวมชุดคลุมสีน้ำเงินกล่าวออกมา ก่อนจะวางหมากตัวหนึ่งลงไป แค่การวางเบาๆก็ทำให้บรรยากาศเกิดการสั่นไหวขึ้นมา ดีที่สวนแห่งนี้มีอาคมปิดกั้นเอาไว้เลยไม่ทำลายสิ่งของต่างๆ

“ท่านก็ว่าไป ข้าแค่มีเวลาว่างและชื่นชอบการเดินหมากก็เท่านั้น” ชายชราอีกคนที่สวมชุดคลุมสีน้ำตาลมีลายเมฆขลิบทองกล่าวรับ

“ได้ยินมาว่าลูกชายท่านได้รับการคัดเลือดให้เข้าเป็นศิษย์ฝ่ายในของเรือนมรกต ข้าขอแสดงความยินดีด้วย ท่านได้ลูกชายที่เป็นยอดอัจฉริยะจริงๆ” ชายที่สวมชุดคลุมสีน้ำตาลกล่าวด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความชื่นชม

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก เด็กคนนั้นนับว่ายังอ่อนด้อยนักเมื่อเทียบกับองค์ชายสอง ข้า...”

ตึง ตึง ตึง! ฟึบ

“นายท่าน! แย่แล้วขอรับ แย่แล้ว” เสียงข้ารับใช้ตะโกนขัดจังหวะด้วยความรีบร้อนทำให้คิ้วของชายชุดคลุมสีน้ำตาลกระตุกขึ้นด้วยความโมโห

“มีอะไร! ไม่เห็นรึว่าข้ากำลังเล่นหมากกับแขกคนสำคัญอยู่” ชายชราปล่อยพลังออกไป ทำให้ข้ารับใช้ที่รีบวิ่งมา กองไปอยู่กับพื้นที่หน้าประตูทันที เขาทำท่าทรมานอย่างมาก เหมือนกำลังจะขาดอากาศตาย

“ท่านก็ใจเย็นหน่อยเถิด ให้เขาได้รายงาน” ชายชายชุดคลุมน้ำเงินรีบห้ามปราม

“มีอะไรก็พูดออกมา! ถ้าเป็นเรื่องไร้สาระแกคงรู้ผลที่จะตามมา” หลังได้ยินที่ชายชราชุดคลุมน้ำเงินกล่าว พลังที่กดข้ารับใช้ก็หายไป เขาจึงรีบกล่าวรายงานทันที

“คุณชายเล็ก หายไปแล้วขอรับ! ตะเกียงวิญญาณเขายังอยู่แต่เกือบมอบดับเต็มทน”

“ตอนนี้ท่านรองผู้นำและผู้อาวุโสทุกคนกำลังปรึกษากันอยู่ที่ห้องโถงขอรับ”

“บัดซบ! เกิดอะไรขึ้นกัน ท่านเสนา ข้าขอตัวก่อน เชิญท่านพักผ่อนในตระกูลได้ตามสบาย” ชายชุดคลุมน้ำตาลกล่าวกับท่านเสนาพลางก้มหัวให้เบาๆในเชิงขออภัย

“ไม่มีปัญหาอันใด ข้าว่าข้าไปกับท่านด้วยจะดีกว่า”

หลังจากที่ชายชราทั้งสองมาถึงห้องโถงกลางก็พบว่าสถานการณ์กำลังตึงเครียด ไม่มีใครทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“ใครพอจะอธิบายให้ข้าฟังได้บ้าง” หลังชายชราชุดคลุมน้ำเงินมาถึงก็รีบกล่าวออกมาทันที

“ก่อนหน้านี้ข้าให้ฉู่หมิงไปจัดการเรื่องที่ดินของตระกูลเรา แล้วหลังจากนั้นเขาก็กลับมาพร้อมขอผู้ฝึกตนของเราออกไปกลุ่มหนึ่ง เห็นว่าจะไปทำอะไรสักอย่าง ข้าก็ไม่ได้ห้ามปราม” ฉู่หยุน พ่อของฉู่หมิงกล่าวออกมา เขาเป็นรองผู้นำตระกูล และยังเป็นน้องชายแท้ๆของฉู่ซี ชายชราชุดคลุมน้ำเงินที่เป็นผู้นำตระกูลฉู่อีกด้วย

“แล้วเกิดอะไรขึ้น?” ฉู่ซีถามต่อ

“เมื่อครู่ข้าได้รับแจ้งจากคนที่เฝ้าตะเกียงชีวิตในสำนักว่า ตะเกียงชีวิตของผู้ฝึกตนที่ตามฉู่หมิงออกไปได้ดับลงทั้งหมด แต่ของฉู่หมิงยังไม่มอดดับไป แค่ริบหรี่เต็มทน” ฉู่หยุนกล่าวรายงานต่อ

“แปลก ไม่เคยมีสถานการณ์ที่ตะเกียงวิญญาณแสดงผลแบบนี้มาก่อน แต่ตราบใดที่ตะเกียงยังไม่ดับก็หมายถึงยังไม่ตาย” ผู้นำตระกูลฉู่กล่าวออกมา

“ไม่ต้องรอแล้ว ส่งคนออกไปสืบข่าว ปิดล้อมเขตนี้ไว้ มดสักตัวก็อย่าให้รอดไปได้” ฉู่ซีสั่งการทันที

“ถ้าเราปิดเขตแบบนี้อาจจะมีปัญหาได้นะท่านผู้นำ” ผู้อาวุโสคนหนึ่งกล่าวออกมา

“ไม่ต้องสนใจ เราต้องหาตัวคนลงมือให้ได้ ปัญหาอื่นๆค่อยเคลียทีหลัง หลานของข้าจะต้องรอดกลับมา!” ฉู่ซีกล่าวออกมาเสียงดัง

ในเขตนี้เขาไม่กลัวใครทั้งนั้น แถมแค่การปิดเมืองก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมากนัก พวกเขายังมีของวิเศษในการตามรอยอีกด้วย แต่อาจจะต้องใช้เวลาในการเตรียมการราวๆสามวัน การปิดเมืองสามวันพวกเขาตระกูลฉู่จ่ายไหว!

ใครที่มันกล้ามามีเรื่องกับตระกูลฉู่ ต้องตาย!

ตระกูลซู ก็ไม่เว้น!!

ราวครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ ภายในตรอกมืดแห่งหนึ่ง

“อย่า.. อย่าเข้ามานะ ไอ้ปีศาจ ไอ้ปลา! ไอ้ฆาตกร!!” ฉู่หมิงร้องออกมาเสียงหลง ในตอนนี้เขาหวาดกลัวถึงขีดสุด ยอดฝีมือที่เขาพามาต่างพากันตายไปหมดแล้ว แถมไอ้ปลาประหลาดที่ยืนเก็กท่าก่อนหน้านี้ หลังมันลงมือฆ่าทุกคนเสร็จมันก็ขยายร่างกินศพทุกคนเข้าไปจนหมด

“อะไรกันไอ้หนุ่ม ข้าอุส่าเก็บเจ้าไว้นะเนี่ย ควรจะขอบคุณสิ มาต่อว่ากันทำไม” ฟิชที่คลานเตาะแตะเข้าไปหากล่าวออกมา แล้วยิ้มยิงฟันให้ ฟันอันแหลมคม เลือดที่ท่วมไปทั้งปาก ใครจะไปรู้สึกดียามได้เห็นกัน!

ตึง! ตึง!

“ไม่ ไม่ ปล่อยข้าออกไป” ฉู่หมิงคลานหนีด้วยขาอันไร้เรี่ยวแรง ที่เป้าของเขามีกลิ่นฉุนโชยออกมา แต่เมื่อกำลังจะถึงหน้าทางเข้าซอยเปลี่ยว เขาก็ชนเขากับอะไรบางอย่าง เป็นกำแพงที่มองไม่เห็น

“ข้าก็บอกเจ้าแล้วไง ว่ามาแล้วก็ไม่ต้องกลับไปหรอก” เย่ซีพูดออกมา เขาบอกฟิชแต่แรกแล้วว่าพอล่อฝูงแมลงวันเข้ามาในซอยเปลี่ยนคนแล้วให้กางเขตแดนคำสาปปลาสวรรค์ได้เลย

เขตแดนคำสาปปลาสวรรค์คือหนึ่งในสามความสามารถประจำเผ่าที่ฟิชได้รับมาเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากให้อาหารปลามันกินทุกวันเป็นเวลากว่าสัปดาห์ สายเลือดของมันก็พัฒนาขึ้นไปอีกจนได้รับความสามารถพิเศษมา

ความสามารถแรก ปลาตะกละ

ทำให้มันสามารถกลืนกินได้ทุกอย่าง แล้วนำมาเพิ่มการบ่มเพาะ ความแข็งแกร่งให้กับตนเอง รวมถึงกลืนกินพลังจากเคล็ดวิชาต่างๆที่ระดับไม่สูงกว่าตัวของมันได้ด้วย

ความสามารถที่สอง เขตแดนคำสาปปลาสวรรค์

สร้างเขตแดนในการกักขังทุกสิ่งด้านในไม่ให้ออกไปด้านนอก ลดพลังทุกด้านของผู้ที่อยู่ด้านในหนึ่งส่วนสิบ และปิดกั้นการมองเห็นจากด้านนอกไม่ให้ส่องเข้ามาได้(แต่ต้องระดับไม่สูงกว่าตัวผู้ใช้)

ความสามารถที่สาม ผู้บัญชาปลา

สามารถควบคุม ออกคำสั่ง กับปลา เผ่าพันธุ์ปลา เผ่าพันธุ์ที่มีเชื้อสายปลา ได้ทั้งหมด ต่อให้เป้าหมายจะระดับสูงกว่าก็ยังได้รับผลกระทบในบางส่วน

“เจ้า เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ ข้าเป็นลูกชายของรองผู้นำตระกูลฉู่ ถ้าเจ้าทำอะไรข้า เจ้าจะต้องตาย ตายทั้งตระกูล! ใครก็ปกป้องพวกเจ้าไม่ได้” ฉู่หมิงข่มขู่ออกมาเสียงดัง

แต่แทนที่ชายหนุ่มกับปลาหนึ่งตัวจะเกรงกลัว พวกเขาดันหัวเราะออกมาซะอย่างนั้น ฟิชหัวเราะเพราะมันไม่คิดว่าจะมีใครในทวีปนี้ที่ทำร้ายนายท่านของมันได้ ส่วนเย่ซีหัวเราะเพราะเขาไม่คิดว่าจะมีใครมาตามตัวเขาเจอหรอกมั้ง กล้องวงจรปิดก็ไม่มี ศพก็ถูกทำลายไปหมดแล้ว ถ้าไอ้แมลงวันตรงหน้าหายไปอีกตัวก็ไม่มีใครรู้เรื่องของเขาแล้ว

“ให้ข้ากินมันเลยไหมนายท่าน” ฟิชหันมาถามชายหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ

“อืม ข้าคิดว่า ข้าทดลองอะไรหน่อยดีกว่า” ชายหนุ่มกล่าวจบก็ยิ้มออกมา

“อย่า ไปให้พ้น ไม่ ไม่” ฉู่หมิงยังคงส่งเสียงออกมาด้วยความหวาดกลัว

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด