ตอนที่แล้ว175. เรียกคืน กู้คืนและชีวิตเจ้าสำราญ (1/3)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป177. เรียกคืน กู้คืนและชีวิตเจ้าสำราญ (3/3)

176. เรียกคืน กู้คืนและชีวิตเจ้าสำราญ (2/3) (ฟรี)


หนิงซีนึกได้ว่าตั้งแต่วันแรกที่เขามาถึงโลกแห่งโมเอน

เขาจะมุ่งไปที่การเพิ่มระดับ แสวงหาความแข็งแกร่ง

หรือทำภารกิจของเกมให้สำเร็จ อยู่ตลอดเวลา

เขาไม่เคยได้ผ่อนคลายและเพลิดเพลินไปกับประเพณีของโลกนี้เลย

ตอนนี้เขาไม่มีอะไรให้ทำ

หนิงซีจึงวางแผนที่จะสัมผัสกับชีวิตอันเรื่อยเปื่อยของชนชั้นสูง

หนิงซีไม่ได้ทำอะไรจต่อไปกับสัตว์อสูรเวทย์ระดับสูงขอบเขตผู้ปกครอง

ที่ยิ่งใหญ่ทั้งแปดบนภูเขาสุดศักดิ์สิทธิ์

เขาจะทิ้งสัตว์อสูรพวกนี้ให้ลีน่าไว้ใช้พัฒนา มันจะเป็นการฝึกให้เธอด้วย

เมื่อคิดได้แล้ว หนิงซีก็กลายร่างเป็นสายฟ้าบินไปยังทวีปโมเอน

อีกสี่ชั่วโมงต่อมา หนิงซีก็มาถึงเทือกเขาเทียนชิง บนทวีปโมเอน

จากนั้นเดินทางอีกหนึ่งชั่วโมง หนิงซีก็กลับมาถึงเมืองโต้วฮวาง

ผ่านแล้วกว่าสองเดือนของการพัฒนา เมืองโต้วฮวางในปัจจุบัน

ไม่ใช่ดินแดนแห่งความชั่วร้ายวุ่นวาย

เหมือนตอนที่หนิงซีมาถึงเป็นครั้งแรกอีกต่อไป

สภาพแวดล้อมที่มั่นคงดึงดูดให้พ่อค้าเดินทางมาทำการค้ามากขึ้น

นอกจากนี้ เนื่องจากหนิงซีใช้อำนาจควบคุมทรัพยากรนับไม่ถ้วน

ให้มารวมกันสร้างอาวุธแกนเวทย์ที่เมืองนี้ ทำให้เมืองอันเจริญรุ่งเรืองถูกสร้างขึ้น

กำแพงเมืองที่เคยสูงกว่าห้าเมตรได้ขยายจนตอนนี้สูง 30 เมตรแล้ว

เนื่องจากนโยบายความเท่าเทียมกันระหว่างเผ่าพันธุ์ในเมืองโต้วฮวาง

ทุกคนจะได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมกันตราบใดที่อาศัยอยู่ในเมือง

ดังนั้น เผ่าพันธุ์จำนวนมากจากที่ราบรกร้างทางเหนือจึงย้ายมาตั้งถิ่นฐานที่นี่

มีทั้งเผ่าพันธุ์มนุษย์สัตว์ทุกประเภท พวกโนมส์ คนเถื่อน ชนเผ่าเร่ร่อน

และอื่นๆ จำนวนมาก ทุกเผ่าพันธุ์ต่างภูมิใจที่ได้อาศัยอยู่ในเมืองโต้วฮวาง

ภายใต้ภาวะแบบนี้ จำนวนประชากรในเมืองก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว

ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ก็มีประชากรเกินห้าล้านคนแล้ว

เดิมทีเมืองนี้ได้รับการออกแบบให้รองรับผู้คนได้มากที่สุดสองล้านคน

และถึงอย่างนั้นก็ถือว่าหนาแน่นมากอยู่แล้ว

ดังนั้นบ้านใหม่และถนนใหม่จึงถูกสร้างขึ้นนอกกำแพงเมือง

พื้นที่ที่ล้อมรอบด้วยกำแพงเมืองกลายเป็นเมืองชั้นในที่เจริญรุ่งเรืองของโต้วฮวาง

เมืองชั้นนอกที่ขยายใหญ่ ก็เริ่มก่อตัวขึ้นนอกกำแพงเมือง

โชคดีที่มีที่ราบอยู่รอบโต้วฮวาง ทำให้การขยายไม่ยากนัก

โลกแห่งโมเอนไม่มีตึกระฟ้าใดๆ

การที่เมืองๆหนึ่งมีประชากรมากกว่าห้าล้านคน

ก็นับว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก

แต่เนื่องจากมีการดำรงอยู่ของหนิงซี ทำให้ปาฏิหาริย์นี้ยังคงดำเนินต่อไป

จำนวนประชากรของเมืองโต้วฮวางก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในอนาคตอันใกล้

เมืองโต้วฮวางจะกลายเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในทวีปโมเอน

เพื่อให้สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในโต้วฮวาง

หนิงซีจึงไม่ได้ใช้เทคนิคสายฟ้าเร้น แต่เลือกที่จะเดินเข้าไปในเมืองแทน

การค้าขายในโต้วฮวาง กำลังเฟื่องฟู

จังหวะของชีวิตในโลกแห่งโมเอนก็ค่อนข้างรวดเร็ว

ทุกคนต่างยุ่งกับการหาเงินโดยหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีขึ้น

มีผู้คนมากมายบนถนน และทุกคนดูเหมือนจะเร่งรีบ

แต่เมื่อพบหนิงซี ทุกคนก็ยังหยุดและโค้งคำนับให้เขา

ตามแผนยังของที่ว่าการเมืองกำนหดให้

สร้างจัตุรัสขนาดใหญ่ขึ้นในใจกลางเมืองและเรียกว่าจัตุรัสเสรีภาพ

ตรงกลางจัตุรัสมีรูปปั้นสูง 100 เมตร

ไม่ว่าใครจะอยู่ที่ไหนในเมือง ตราบใดที่พวกเขาเงยหน้าขึ้นมอง

พวกเขาก็จะสามารถเห็นรูปปั้นนั้นได้

รูปปั้นนี้เป็นของเจ้าเมืองหนิงซี

ดังนั้น ผู้คนในเมืองโต้วฮวาง จึงคุ้นเคยกับรูปลักษณ์ของหนิงซี

เมื่อพวกเขาเห็นเจ้าเมืองปรากฏตัวต่อหน้า

ไม่ว่าจะด้วยความเคารพต่อตำแหน่งของเขา

หรือด้วยความขอบคุณอย่างแท้จริงที่เขาสร้างเมืองขึ้น

พวกเขาต่างก็ให้ความเคารพอย่างสูงสุดแก่เขา

เมื่อเดินไปตามถนน หนิงซีก็เห็นว่าผู้คนส่วนใหญ่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ดูดี

พวกเขาดูเปล่งปลั่ง ใส่เสื้อผ้าสะอาด ทุกอย่างเรียบร้อยดี

และเจ้าหน้าที่เมืองก็ลาดตระเวนในพื้นที่เป็นครั้งคราว

ไม่มีใครกล้าต่อสู้บนท้องถนนอีกต่อไป

ผู้ที่ต้องต่อสู้จะต้องไปที่สนามประลอง

เขาสำรวจร้านค้าริมถนนและพบสินค้ามากมาย

มีอาหารพิเศษที่ส่งกลิ่นหอมเย้ายวน เช่นเดียวกับอุปกรณ์แกนเวทย์ทุกชนิด

ที่ครอบคลุมทุกด้านของเสื้อผ้า อาหาร ที่อยู่อาศัย และการขนส่ง

ที่สำคัญที่สุดคือมีโรงละครขนาดใหญ่อยู่บนถนนบางสาย

หลายคนจะซื้อตั๋วเข้าโรงละครเพื่อเพลิดเพลินกับการแสดงทุกประเภท

ผู้คนเริ่มมีวัฒนธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตทางวัตถุที่อุดมสมบูรณ์

เมื่อเห็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองเช่นนี้ หนิงซีก็รู้สึกถึงความสำเร็จ

เขาสร้างเมืองนี้ด้วยตัวเอง

เมืองโต้วฮวางเปลี่ยนจากเมืองแห่งบาปที่วุ่นวายไปเป็นไข่มุกแห่งการค้าบนทวีปโมเอน

ทั้งหมดสำเร็จได้ด้วยการชี้นำของหนิงซี

เมื่อเขากลับมาถึงคฤหาสน์ของเจ้าเมือง

ขณะที่หนิงซีนั่งลง สโนวมิสท์ก็รีบวิ่งเข้ามาทันที

เธอรายงานหนิงซีด้วยความตื่นเต้นว่า

“นายท่านท่าน เราได้สร้างอุปกรณ์รวบรวมแสงสตาร์ไลท์ระดับเริ่มต้นขึ้นมาได้หลายร้อยชิ้นแล้ว มันช่วยให้แกนดาวเติบโตของได้เร็วขึ้น!”

เธอกล่าวต่อว่า

“คณะทูตจากต่างโลกได้มาถึงเมืองหลวงของจักรวรรดิแบรดแล้ว โจเซบาได้พบกับพวกเขาแล้วด้วย มีข่าวลือว่าพวกเขาจะบรรลุข้อตกลงกันได้เร็วๆนี้ สหพันธรัฐมีเยลจะช่วยเราผลิตชิ้นส่วนจำนวนมากของอุปกรณ์รวบรวมแสงสตาร์ไลท์ เราแค่นำมันมาประกอบขึ้นในโต้วฮวางเท่านั้น!”

ถ้าเป็นในอดีต หนิงซีคงจะดีใจมากที่ได้ยินข่าวนี้

ยิ่งไปกว่านั้นเขาคงจะย้ายจิตสำนึกของเขาไปที่สตาร์ฟอลล์

เพื่อตรวจสอบความเร็วในการเติบโตของแกนดาว

แต่หลังจากที่เขาตัดสินใจที่จะผ่อนคลายในวันนี้

หนิงซีก็ไม่สนใจสิ่งเหล่านี้อีกต่อไป

เขามองดูสโนว์มิสท์ที่สวยงาม

ผมสีเงินของเธอนุ่มเป็นประกาย ดวงตาโตแวววาว

ผิวหน้าเธอบอบบางมากจนดูเหมือนว่ามันจะปริถ้าเป่ามัน

สายตาที่เธอมองเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก

หนิงซีลูบหัวของเธอแล้วพูดว่า

“ข้าอยากจะพักผ่อนอย่างเต็มที่ในตอนนี้ ะจะได้สัมผัสกับชีวิตสบายๆของจักรพรรดิ เจ้าอยากให้ข้านอนเป็นเพื่อนบนเตียงในคืนนี้ไหม”

หนิงซีแค่อยากหยอกล้อสโนว์มิสท์สักเล็กน้อย

แผนเดิมของเขาคือเริ่มจากอิลยาก่อน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด