ตอนที่แล้วบทที่ 005 - นิวเกมที่เสียเปรียบ (4)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 007 - นิวเกมที่เสียเปรียบ (6)

บทที่ 006 - นิวเกมที่เสียเปรียบ (5)


บทที่ 006 - นิวเกมที่เสียเปรียบ (5)

ดีเลย แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

ผมให้คำแนะนำดีๆกับพวกเขา แม้ความระแวงจะยังไม่หมดไป แต่ค่าความชอบก็ค่อยๆเพิ่มขึ้น ถ้าผมยังคงทำตัวดีๆแบบนี้ต่อ เขาก็ไม่มีทางฟันหัวผมทิ้งโดยไม่มีเหตุผล

ริฟพูดขึ้น

“เจ้าเด็กใหม่! หิ้วท่านจอมมารขึ้นหลังเลย เราจะได้ไปได้เร็วกว่านี้”

“รับทราบครับ!”

เด็กใหม่ตอบรับอย่างแข็งขัน เขาแทนจะหิ้วผมขึ้นหลังในทันที

“ขะ ขอบใจมาก”

“คิดๆดูแล้ว ท่านตัวเบาจังไม่ค่อยได้กินอะไรเหรอครับ? แม้ข้างนอกจะดูปกติดีแต่เหมือนข้างในท่านดูโหวงๆพิกล”

“ฮ่าๆ คงเป็นเพราะเขาไม่ค่อยได้กินอะไรน่ะสิ”

เด็กใหม่เดาะลิ้น เขาบ่นเรื่องชีวิตทุกวันนี้ลำบากยากแค้นทั้งชาวนา ทั้งกับจอมมาร แล้วก็บ่นต่อว่าบ้านที่เขาอยู่นั้นทรุดโทรมและยากจนเพียงใด เขายังพูดถึงท่านลอร์ดผู้ปกครองดินแดนของเขานั้นเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์

ดูเหมือนร่างของผมมันจะเบาจริงๆ เขาถึงได้เดินต่ออย่างสบายๆ แม้ขาผมจะยังเจ็บอยู่แต่ก็ได้ผ่อนพักบ้าง หากเมื่อเทียบกับก่อนหน้าที่ต้องบังคับให้ตัวเองเดิน นี่มัน สวรรค์ชัดๆ ด้วยความสัตย์จริงนะ ผมไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันว่า เขาจะยอมให้ผมขี่หลัง

‘ฟู่ว’

ผมสามารถหนีจากสถานการณ์ที่จะพรากเอาชีวิตผมไปได้แล้ว

แต่ก็ยังคงมีปัญหาอยู่ ความจริงเรื่องที่ผมพูดโกหกไป ไม่ว่าที่นี่จะมีสมบัติหรือเปล่า และจะไปหาคลังสมบัติได้อย่างไรนั้น ผมไม่รู้เลยด้วยซ้ำ

สมมุติว่า ถ้าเราไปถึงห้องจอมมารแล้วแต่ไม่มีเงินแม้แต่ซิลเวอร์เดียว ค่าความชอบที่ผมทำไว้ก็คงร่วงกราว แล้วพวกเขาก็คงเชือดผมทิ้งด้วยความโกรธ

เพื่อป้องกันเหตุการณ์เลวร้ายอย่างนั้นมิให้เกิดขึ้น ผมจึงต้องหาทางไปต่อให้ได้ ผมขยับริมฝีปากเล็กน้อยและพูดขึ้น

‘ปราสาทจอมมาร’

ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

‘ไม่ใช่สินะ สเตตัสปราสาทจอมมาร? นี่ก็ไม่ใช่เหมือนกัน สถานการณ์ขอ งปราสาทจอมมาร……”

ทำไมอยู่ๆผมถึงได้มองเห็น สิ่งที่เหมือนหน้าต่างสเตตัสได้ล่ะ มันมีเหตุผลดีๆรองรับอยู่

ในเมื่อมันยังมีหน้าต่างแจ้งเตือนที่แสดงสเตตัสของดันท่าเลี่ยน มันก็ต้องมีหน้าต่างแสดงค่าอื่นๆด้วยเช่นกัน ถ้าโลกนี้เป็นโลกของเกม มันไม่มีทางที่สเตตัสของผู้เล่นจะเป็นสิ่งเดียวที่มองเห็นได้

อย่างที่ผมคิดจริงๆ ผมพบหน้าต่างหลากหลายบานมีทั้ง บันทึกภารกิจ(Quest log),แถบพรรคพวก(Alliance tab) และอื่นๆอีก

‘แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ผมกำลังหา’

พวกมันมีประโยชน์นะ แต่ไว้ก่อน ไม่ใช่ตอนนี้ ผมเขี่ยหน้าต่างพวกนั้นไว้ข้างๆแล้วกระซิบพูดกับตัวเองอย่างไม่ทน

‘แถบดันเจี้ยน’

(Dungeon tab)

เสียงเอฟเฟ็คดังชัดเจนก้องขึ้นมา ภาพโฮโลแกรมปรากฏต่อหน้าผม

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

[ดันเจี้ยน: ปราสาทจอมมารดันทาเลี่ยน]

แร๊ง: เก่าแก่เกินไป(F)

การวิจัยเทคโนโลยี: 0

วิจัยเวทย์มนตร์: 0

*สกิลพิเศษ: ไม่มี

*มอนสเตอร์: 0 ยูนิต

*การเงิน: 1000 โกลด์

※ปราสาทอยู่ในสภาพเลวร้าย เจ้าเด็กแถวนั้นชอบที่จะใช้ที่นี่เป็นสนามเด็กเล่น! สถานที่แห่งนี้เสี่ยงต่อการถูกพิชิตได้ทุกเมื่อ เปิด ‘แถบการซื้อมอนสเตอร์’ และเตรียมตัวซื้อมอนสเตอร์ด้วยตัวเอง

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

‘ไม่เป็นไร!’

ผมส่งเสียงเชียร์ตัวเองในใจ

เอาเข้าจริง ผมไม่พอใจนักหรอกกับเงื่อนไขของดันเจี้ยนตอนนี้ มันเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นดันเจี้ยนที่แสนจะโทรมและน่าสมเพชขนาดนี้ แต่ช่างมันปะไร

สิ่งสำคัญตอนนี้คือ การเงินต่างหาก! กับความจริงที่ตบหน้าว่า ผมมีเงินเพียงน้อยนิด

‘เงินทั้งหมดมีอยู่ 1000 โกลด์……’

เงินจำนวนนี้เราจะได้รับมาในช่วงที่ปราบบอสต้นถึงกลางเกม ก็ไม่ได้เยอะอะไรนัก แต่ก็ไม่น้อยด้วยเช่นกัน ถ้ามีเท่านี้ผมก็ยังพอวางแผนทำอะไรบางอย่างได้ ถือว่าเทพีแห่งโชคก็ยังไม่ทอดทิ้งผมเสียทีเดียว

ผมจดจ่อกับพื้นที่ตรงที่มีหน้าต่างแจ้งเตือนมาตรงคำว่า ‘การเงิน’ เขียนอยู่ คำว่า’กำไร’ และ ‘ค่าใช้จ่าย’ ต่างปรากฏขึ้นเป็นตัวอักษรสีแดงเข้ม บอกระบุด้วยว่า ถ้าหากผมไม่เพิ่มรายได้เข้ามา ผมจะล้มละลาย แต่ขอโทษทีนะ มันยังไม่ใช่สิ่งที่ผมจะต้องสนใจในตอนนี้

สิ่งที่ผมสนใจน่ะ คือ บรรทัดนี้ต่างหาก

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

การถอนเงินจากดันเจี้ยน

ถ้าหากคุณถอนเงินมากเกินไป คุณจะล้มละลาย

เงินที่ถอน : ____ โกลด์

เงินคงเหลือ: ____ โกลด์

※หลังจากตัดสินใจได้แล้วว่าจะถอนเท่าไหร่ กรุณาคิดถึงคำว่า ‘ยืนยัน’

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

‘ไชโย่!’

มันเป็นไปตามที่ผมคิดไว้จริงๆ

เกือบหนึ่งชั่วโมงแล้วที่ผมพบว่าตัวเองอยู่ในโลกที่ถูกทิ้งใบนี้ และตอนนี้ผมก็จับหลักได้แล้วว่า กฏกติของโลกใบนี้คือยังไง

นี่น่าจะเป็นเกมซิมมูเลเตอร์สายบริหารจัดการ เล่นโดยใช้มุมมองบุคคลที่หนึ่ง

อาจจะมีปัจจัยในแบบเกมRPG อื่นๆเกี่ยวข้อง ผู้เล่นจะสามารถบริหารจัดการดันเจี้ยนและไปสำรวจรอบๆได้ ให้นึกภาพถึงเวลาเล่น Jet Coaster Tycoon ในมุมมองบุคคลที่หนึ่ง ถ้าคิดอย่างนั้นจะเข้าใจได้ง่ายขึ้น

ในเกมจำพวกนี้ผู้เล่นสามารถแบ่งสรรปันเงินเป็นส่วนแล้วแยกใช้จ่ายได้ มันเป็นฟังชั่นที่ผมกำลังหาอยู่พอดี หน้าต่างที่ขึ้นมานี้มันทำให้ผมมีหวังขึ้นมาก

ตอนนี้ผมสามารถเอาเงินออกมาเมื่อไหร่ก็ได้

‘แทบจะไม่ต้องกังวลแล้วว่า ถ้าเจ้านักผจญภัยระยำพวกนั้นมันสั่งให้ผม

เอาเงินออกมาให้มัน’

ชีวิตของผมที่เคยแขวนอยู่บนเส้นด้าย

แม้จะพวกเขาจะเก็บผมไว้ในตอนนี้ไม่ได้แปลว่า เขาจะเมตตาผมแต่อย่างใด มันก็เป็นแค่เพราะเขาเชื่อว่า ถ้าเก็บผมไว้ผมจะช่วยเปิดประตูคลังสมบัติให้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า พวกเขาคงฆ่าผมทันทีที่ได้สิ่งที่ต้องการแล้ว

‘พวกเขาก็เห็นแก่ได้ในระดับหนึ่งนั่นแหละ หรือต่อให้เขาไม่ได้เป็นอย่างนั้น มันก็ปลอดภัยกว่าถ้าผมคิดแบบนั้นไว้ก่อน’

ผมนึกได้ถึงคำพูดหนึ่งของนิคโคโล มาเคียเวลลิ ที่ระบุว่า เจ้าผู้ครองนครนั้นสมควรที่จะมีความเห็นแก่ตัว

มันจะไม่มีปัญหาหรอกถ้าอีกฝ่ายไม่ได้คิดอย่างนั้นจริง ผมก็จะไม่เสียอะไรทั้งนั้น

แต่ถ้าหากว่า พวกเขาเป็นพวกเห็นแก่ได้ขึ้นมาจริงล่ะ? แล้วผมไม่เตรียมตัวเตรียมรับมืออะไร?

ผมก็แพ้ไปแล้ว ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ผมโดนฆ่า

ดังนั้นก็เลยต้องเหมารวมไปก่อนว่า พวกเขานั้นเป็นคนเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นอย่างนั้นหรือไม่ก็ตาม ยังไงกันไว้ก่อนก็ดีกว่าแก้ถูกไหม?

‘ค่าความชอบเล็กน้อยที่ขึ้นมานั่น พึ่งพาไม่ได้หรอก’

ตลกดีนะ ที่ผมยังจำคำพูดของนิคโคโล มาเคียเวลลิได้ ทั้งที่อ่านไปเมื่อตอนอยู่ปีหนึ่ง

ผมจำได้ว่า มีคนเคยบอกกันไว้ หากคนเรากำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายถึงแก่ชีวิต ก็จะย้อนระลึกถึงคำแนะนำที่ปกติแทบไม่เคยนึกถึงมาก่อนในชีวิตได้

ตอนที่ผมได้ยินคำกล่าวนั้น ผมคิดง่ายๆว่า มันฟังดูน่าสนใจดีนะ แต่ไม่คาดคิดมาก่อนว่า เหตุการณ์ที่ว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวผมเอง

‘สมองของผมอาจจะไม่ใช่ขยะโดยสิ้นเชิงก็ได้มั้ง’

ผมยิ้มกรุ้มกริ่มโดยนี่เด็กใหม่ไม่ทันสังเกตเห็น ดูเหมือนผมสงบพอที่จะทำอะไรตลกได้แล้ว

ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นจากการที่ผมไม่สามารถเอาเงินให้พวกเขาได้นั้นมลายหายไปแล้ว ปัญหาตอนนี้คือ ผมจะรอดไปได้อย่างไรเมื่อให้เงินพวกเขาแล้ว

‘เล่นกับอารมณ์ความรู้สึกพวกเขาต่ออีกหน่อยดีไหมนะ?’

ไร้สาระชะมัด ไม่ควรค่าต่อการเสียเซลล์สมองไปคิดด้วยซ้ำ

‘ถ้าบอกให้ ใช้ผมเป็นตัวประกันกับพวกมอนสเตอร์ล่ะ. ……ไม่ล่ะ ไม่น่าจะได้ผลเหมือนกัน’

ก่อนหน้านี้ผมเคยคร่ำครวญว่า ไม่มีมอนสเตอร์แม้แต่ตัวเดียวในดันเจี้ยน

อยู่ๆผมจะมากลับคำเลยไม่ได้ ถ้าผมทำแบบนั้นนักผจญภัยก็จะไม่เชื่อผมอีก

‘เดี๋ยวก่อนสิ’

ในตอนนั้นเอง ทางแก้ไขปัญหาก็สว่างวาบขึ้นมาในหัว

‘ผมก็แค่ใช้เงินเรียก มอนสเตอร์ออกมาสิ!’

ผมกดแถบดันเจี้ยนอีกครั้ง และมันก็มีเขียนไว้ตรงนั้น

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

※ปราสาทอยู่ในสภาพเลวร้าย เจ้าเด็กแถวนั้นชอบที่จะใช้ที่นี่เป็นสนามเด็กเล่น! สถานที่แห่งนี้เสี่ยงต่อการถูกพิชิตได้ทุกเมื่อ เปิด ‘แถบการซื้อมอนสเตอร์’ และเตรียมตัวซื้อมอนสเตอร์ด้วยตัวเอง

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

อยู่ตรงนี้ไง แถบการซื้อมอนสเตอร์

มันหมายถึงว่า ผมสามารถซื้อมอนสเตอร์มาได้เลยทันทีโดยไม่ลงไปวิ่งรอกทำเอง นี่ผมโง่อะไรอย่างนี้เนี่ย ดันไม่สนใจบรรทัดนั้นที่เตือนผมอยู่ต่อหน้าแท้ๆ

โทษตัวเองมาพอแล้ว เมื่อไม่กี่วินาทีก่อนผมยังกังวลอยู่เลยว่า พวกเขาจะจับได้ว่าผมโกหก และก็กลัวว่า จะทำร้ายผมถ้าหากรู้ว่าผมไม่มีเงินเลย

‘พอยืนยันจำนวนเงินตัวเองได้ ผมก็ควรจะคิดถึงเรื่องการซื้อมอนสเตอร์ได้แล้ว’

คำพูดของมาเคียเวลลิช่วยกระตุ้นความคิดที่มีประโยชน์ขึ้นมาแล้ว ผมนี่มันช่างโง่ซะจริง! คำพูดของใครบางคนที่ตายไปเป็นทศวรรษแล้วจะช่วยเหลืออะไรผมได้ในตอนนี้บ้าง?

นักผจญภัยนั้นเห็นแก่ตัวอย่างนั้นเหรอ? แน่นอนล่ะ ก็พวกเขาเลือกที่จะเอาตัวรอดโดยการทิ้งบ้านเกิดเมืองนอน เอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยงข้างนอก คนแบบนี้จะไม่เห็นแก่ตัวได้ยังไง?

คนแบบนี้ก็ย่อมต้องมีความแค้นเคียดพยาบาทอยู่เต็มหัวใจอยู่แล้ว ดังนั้นไม่มีเหตุผลแล้วที่ไปอ้างอิงคำพูดของมาเคียเวลลิที่พยายามอนุมานว่า นักผจญภัยกลุ่มนี้เห็นแก่ตัวหรือไม่

ผมมัวแต่ซุกซ่อนความจริงตรงหน้าเลยจมอยู่แต่กับคำพูดไร้สาระที่ฟังดูน่าเชื่อถือ

ทั้งที่อยู่ในสถานการณ์ความเป็นความตายแท้ๆยังจะเสียเวลาไปกับการเสริมอัตตาตัวเองอีก โธ่ เวลาอันมีค่า

ผมส่ายหัว

‘แม่งเอ้ย โลลิต้า! ตั้งสติได้แล้ว ตั้งสติ!’

ผมมองไปที่อาวุธทั้งหลายในมือที่พวกเขาถืออยู่

หอก,กระบอง,ธนูและมีด อาวุธพวกนี้นี่แหละที่จะคร่าชีวิตผม และแน่นอนถ้าผมประมาท หอกคมๆนั่นก็จะกระซวกหัวใจผม

ผมเพ่งความสนใจไปยังต้นขาที่ถูกลูกธนูแทง มันเจ็บ ผมต้องฝังความเจ็บปวดไว้ในร่างกายและจิตใจ ด้วยการทำแบบนี้ผมจะฟื้นฟูเจ้าสมองเน่าๆของตัวเองได้

“นี่”

เจ้าเด็กใหม่เรียกผมด้วยความห่วงใย

“ทำเสียงแบบนั้น เพราะปวดมาเลยเหรอ?”

“......ไม่ ผมไม่เป็นไร พอทนไหว”

“อืมม ถ้าเริ่มปวดหนักมากบอกได้นะ”

ผมผงกหัว เคยปวดหนักเหมือนกันแต่มันก็ผ่านมาแล้ว

ถึงอย่างนั้น ผมก็เจือเสียงหัวเราะลงไปในน้ำเสียงตัวเองอย่างช่ำชอง

“ขอบคุณมากเลยนะ นายนี่ใจดีจริงๆ”

ผมพ่นคำพวกนั้นออกมา

“ไม่หรอก ไม่ได้ขนาดนั้น”

เจ้าเด็กใหม่ทำท่าเขินอายขึ้นมา เขาใสซื่อไร้เดียงสา ช่างน่าขอบคุณที่เขาเป็นคนอย่างนั้น

ผมแน่ใจแล้วว่า นักผจญภัยพวกนี้มันมือใหม่มาก แม้ใบหน้าของพวกเขาจะดูดุดัน แต่มันก็แค่คนที่เหวี่ยงพลั่วไปมาที่บ้านเกิด ถ้าเทียบกับมาตรฐานเกมแล้ว เจ้าพวกนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับ NPCฝึกหัดในแบบฝึกสอน(Tutorial) ตราบใดที่ผมยังคงทำให้ใจยังสงบอยู่ได้ หัวผมก็ยังไม่หลุดจากบ่า

ผมจินตนาการถึงหน้าจอซื้อมอนสเตอร์

‘แถบการซื้อมอนเตอร์’

รายชื่อกึ่งโปร่งแสงโผล่ขึ้นมา

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

ชื่อมอนสเตอร์

HP

(Stamina)

พลังโจมตี

พลังป้องกัน

ราคา

สไลม์

2

2

2

70 โกลด์

แฟรี่ชั้นต่ำสุด

4

3

2

160 โกลด์

ก็อบลิน

4

4

4

250 โกลด์

โกเลมชั้นต่ำสุด

7

5

5

400 โกลด์

[เงินที่ใช้ได้: 1000 โกลด์]

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

“…….”

อ่อนแอชะมัด แถมยังแพงอีกต่างหาก

‘โอโหย จอมมารในเกมDungeon Attack ……จ่ายเงินซื้อพวกมอนเตอร์ระดับต่ำสุดพวกนี้แพงไปรึเปล่าวะเนี่ย?”

พวกมอนสเตอร์ขยะพวกนี้นี่ ตัวเอกของเกมตวัดดาบทีเดียวก็หายแล้ว

ผมตรวจสอบมอนสเตอร์แต่ละตัวอย่างระมัดระวัง แล้วก็พบว่า แต่ละตัวต่างมีรายละเอียดในเชิงลึก

ไม่ต้องสนใจเรื่องค่าสแตทมากนัก อย่างกรณีของสไลม์ มันมีสกิลง่ายๆที่ชื่อว่า ‘Regeneration’ ที่จะช่วยให้เลือดของพวกมันฟื้นฟูอัตโนมัติตามเวลา มันไม่แย่นักหรอก แต่ปัญหาคือ มันดันมีHPแค่ 3 น่ะสิ ดังนั้นมันก็เลยจะตายก่อนจะได้ใช้สกิลที่ว่าเสียอีก

‘บ้าเอ้ย นี่เป็นไปได้ไหมว่า เจ้านักผจญภัยพวกนี้ มีค่าสแตทที่น้อยเหมือนกัน?”

ถ้าทั้งนักผจญภัยและมอนสเตอร์อ่อนแอเหมือนกัน ก็พอเข้าใจได้ว่า ทำไมมอนสเตอร์พวกนี้ถึงได้อ่อนกากขนาดนี้

ผมมองไปที่หัวหน้านักผจญภัยที่ชื่อ ริฟ และพูดพึมพัมออกมาในหัว

‘สเตตัส’

「คุณมีค่าความชอบกับนักผจญภัยริฟไม่พอ」

「ดูได้แต่เพียงค่าสแตทคร่าวๆเท่านั้น」

ติ้ง, หน้าจอปรากฏขึ้นบนหัวของริฟ พร้อมกับเสียงเอฟเฟ็ค ต่างจากตอนที่ผมดูหน้าต่างสเตตัสของดันทาเลี่ยน

มันแสดงออกมาแค่สแตทง่ายๆ ดูเหมือนถ้าหากผมสามารถเพิ่มค่าความชอบที่เขามีต่อผม ก็จะสามารถดูอย่างละเอียดได้

ชื่อ

HP

พลังโจมตี

พลังป้องกัน

ริฟ

6

5

2

“หึ…”

ผมหลุดพ่นลมออกมาโดยไม่ตั้งใจ

สเตตัสของริฟนั้น แต้มโดยรวมคือ 13 ถ้าเทียบเขาเป็นมอนสเตอร์ก็แข็งแกร่งประมาณก็อบลิน ยอมรับกันตรงๆเลยว่า เขาอ่อนแอ

แต่ถ้าเทียบกับ……เลเวลของมอนเตอร์ที่จ้างได้ในตอนนี้ ริฟก็แกร่งพอนั่นแหละ ในงบ 1,000 โกลด์ ผมเรียกก็อบลินออกมาได้แค่ 4 ตัว

ในขณะที่ พวกเขามีกันอยู่ 15 คน

ผมไล่เช็คสแตทนักผจญภัยทุกคน โชคดีที่ว่า ริฟนั้นแข็งแกร่งที่สุด ในขณะที่แต้มสแตทรวมของนักผจญภัยคนอื่นอยู่ระหว่าง 5 ถึง 8 พวกเขาก็ยังคงแข็งแกร่งเกินกว่าก็อบลิน 4 ตัว จะจัดการได้

สัมผัสได้ถึงความผิดหวังที่ท่วมทับผมอยู่ตอนนี้ นี่กำลังจะบอกว่า ต่อให้ผมมีมอนสเตอร์พวกนี้ โอกาสชนะของผมก็ยังริบหรี่อยู่อย่างนั้นเหรอ?

“พวกเราเกือบถึงแล้ว”

นักผจญภัยคนหนึ่งตะโกนออกมา ดูเหมือนพวกเราจะมาถึง ห้องจอมมารจนได้

ทุกคนต่างเริ่มส่งเสียงพูดคุยกันวุ่นวาย

“ชิ ใหญ่โตเกินไปจริงๆ”

“ที่แกพูดแบบนั้นเพราะนี่เป็นดันเจี้ยนแรกที่เคยมาล่ะสิ เจ้าโง่ นี่น่ะปกติแล้ว แต่ปกติจะดูใหญ่กว่านี้เพราะเต็มไปด้วยมอนเตอร์และกับดัก ถ้าไม่อย่างนั้นเราไม่มีทางมาถึงห้องนี้ได้ไวขนาดนี้หรอก”

“ที่นี่มันเป็นดันเจี้ยนง่ายๆสินะ”

แย่ละ ผมไม่มีเวลาเหลือแล้ว

ผมเค้นสมอง เททุกอย่างในหัวออกมา พยายามคิดทั้งในและนอกกรอบของระบบเกม

‘ผมควรจะเรียกสไลม์จำนวนมากออกมาให้เกินจำนวนพวกเขาไหม ไม่สิ หรือควรจะเอาออกมาแต่โกเลมที่มีสแตทสูงสุดดีแล้ว ลอบโจมตีซะ เดี๋ยวก่อนสิ……’

ในที่สุดปาร์ตี้นักผจญภัยก็มาถึงจุดหมายปลายทาง

“พวกเรามาถึงแล้ว! นั่นไงห้องจอมมาร!”

ในเวลาเดียงกันนั้นเอง ทื่ผมได้คำตอบมาอย่างหวุดหวิด ผมกัดริมฝีปากแรงๆ เลือดไหลออกมาจากปาก แต่มันไม่สำคัญอีกแล้ว

‘เอาล่ะ เอาแบบนี้แหละ……!’

ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดเกิดขึ้นในถ้ำ มันยังคงกว้างใหญ่และเงียบงัน

ทรงกลมประหลาดส่องแสงออกมาเรียงรายไปแนวข้างของอุโมง มีเสียงฝีเท้านักผจญภัยและเสียงพูดคุยสะท้อนก้องกังวาล

ถึงอย่างนั้น มีเพียงผมคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่า เกิดความเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้น

‘ผมจะต้องมีชีวิตรอดออกไปให้ได้!’

ชั่วขณะนั้นเอง สัญชาติญาณแห่งการเอาชีวิตรอดเริ่มทำงานอย่างเงียบๆ

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

[Dungeon: Dantalian’s Demon Lord Castle]

Rank: Over the hill(F)

Technology Research: 0

Magic Research: 0

*Special Skill: None

*Monsters: 0 units

*Wealth: 1000 gold

※The castle is in ruins. Neighborhood kids refer to this place as a fun playground! This place is in danger of being conquered at any moment. Urgently open the ‘Monster Employment Tab’ and prepare yourself by hiring a unit of monsters.

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

Monster Name

Stamina

Attack

Defense

Price

Slime

2

2

2

70 Gold

Lowest-tier Fairy

4

3

2

160 Gold

Goblin

4

4

4

250 Gold

Lowest-tier Golem

7

5

5

400 Gold

[Useable Fund: 1000 Gold]

Name

Stamina

Attack

Defense

Riff

6

5

2

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด